บทที่ 2.1 - ทำความรู้จักอย่างเป็นทางการ (พี่อชิชวนน้องเปียโนกินข้าว)

1250 Words
“เปียโน เลิกเรียนแล้วไปกินติมกัน” ฉันหันไปตามเสียงเรียกของพลอยใสเพื่อนสนิท ขณะที่กำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋านักเรียนเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน ไม่สิ ไม่ได้กลับบ้านหรอก แต่ฉันกำลังจะไปหาพี่อชิที่ร้านต่างหากล่ะ ก็ในเมื่อวันนี้เป็นวันแรกที่พี่เขานัดฉันให้ไปเรียนกีตาร์ต่อจากที่เคยเรียนกับพี่ซันค้างเอาไว้ จะว่าไปฉันเองก็แอบเกร็งๆ เหมือนกันนะ เพราะปกติมักจะเรียนอยู่แต่กับพี่ซันเพียงคนเดียว พอรู้ว่าจะต้องเปลี่ยนคนสอนมันเลยแอบกลัวๆ เกรงๆ เกิดพี่อชิเขาไม่ได้ใจดีเหมือนพี่ซันล่ะ เกิดฉันทำอะไรผิดพลาดบ่อยๆ แล้วเขาไม่พอใจจนเลิกสอนขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ? ฉันยิ่งไม่อยากไปหาที่เรียนใหม่อยู่ด้วย สมัยนี้อะไรๆ ก็แพง ตอนเรียนกับพี่ซันนี่ก็เรียนฟรี ถือว่าพี่เขาใจดีมากๆ เลยนะที่สอนให้ฉันฟรี แถมกีตาร์ที่ซื้อจากร้านพี่เขาฉันก็ยังได้ส่วนลดอีกต่างหาก “วันนี้ไม่ว่างอะพลอย มีนัดเรียนกีตาร์” ฉันตอบเพื่อน พลอยใสทำหน้างุนงง “เอ้า ไหนบอกว่าพี่เจ้าของร้านไม่อยู่ไทยตั้งสามเดือนไม่ใช่เหรอ แล้วแกจะไปเรียนกับใครอ่ะ” พลอยใสถาม “พอดีว่าเพื่อนของพี่เขาอาสาช่วยสอนแทนให้น่ะ” ฉันตอบพลางกับเก็บกระเป๋าดินสอใส่กระเป๋า “ว้าวๆ มีหนุ่มมาอาสาช่วยสอนกีตาร์ให้ น่ารักอะ” พลอยใสทำท่าฝันหวาน “หยุดเลยนะ” ฉันรีบดับฝันเพื่อน “พี่เขาก็แค่เห็นใจฉันที่ไม่มีคนสอนให้ก็เท่านั้นเอง” “ไม่แน่น้า ที่เขาอาสาสอนให้อาจจะชอบแกก็ได้ ใครจะไปรู้” พลอยใสยังไม่หยุด “พอๆ เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” ฉันรีบโบกมือบอก “เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ เรียนเสร็จแล้วเดี๋ยวจะโทรหา” “อืมๆ ตั้งใจเรียนล่ะ” ฉันยิ้มให้พลอยใสก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องที่เพิ่งเรียนพิเศษเสร็จ เห็นทีคงต้องไปรถแท็กซี่แล้วล่ะ รถเมล์คงทันการสายซะขนาดนี้ กว่าอาจารย์จะปล่อยก็นานใช่เล่น แต่ก็อย่างว่านะ ใกล้ถึงเวลาสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ทางสถาบันกวดวิชาที่ฉันเรียนอยู่ก็เลยรีบอัดความรู้ต่างๆ ให้กับเด็กนักเรียน เพื่อที่จะได้ให้ทุกคนทำข้อสอบเอ็นทรานส์ได้ แต่ฉันไม่ค่อยแคร์กับการสอบเอ็นทรานส์สักเท่าไหร่หรอกนะ ฉันคิดว่าชีวิตคนเรามันไม่ได้จบอยู่ที่เพียงแค่สอบเลือกมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว หากเราสอบเข้ามอรัฐไม่ได้ เราก็ไปสมัครเรียนที่มอเอกชนได้ ขอเพียงแค่เราตั้งใจที่จะเรียน ต้องการเรียนในสิ่งที่อยากจะเป็นในอนาคต แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน แต่ฉันไม่ได้ชี้นำให้ทุกคนคิดแบบฉันนะ ฉันเพียงแต่บอกเล่าให้ฟังเฉยๆ “เท่าไหร่คะลุง” ฉันถามลุงคนขับแท็กซี่ หลังจากที่เขาพาฉันมาถึงยังจุดหมาย “150 หนู” ลุงคนขับตอบ “จ้ะ” ฉันหยิบเงินในกระเป๋าส่งให้ลุงแกไปพอดีจำนวน แอบแพงแฮะ ถ้าไม่ติดว่าสายแล้วฉันไม่นั่งหรอกนะแท็กซี่อ่ะ แพงกว่านั่งรถเมล์เป็นล้านเท่า ลงจากรถแท็กซี่ได้ฉันก็รีบสาวเท้าฝ่าฝูงชนเดินไปยังร้านพี่ซันทันที ฉันผลักประตูเข้าไปภายในร้านที่ดูเงียบเชียบผิดปกติ เอ้… หรือว่าพี่อชิยังมาไม่ถึง แต่เขานัดฉันตอนห้าโมงนี่น่า นี่ก็จะหกโมงเข้าไปแล้วทำไมยังไม่มาอีก คิดว่าฉันจะสายที่สุดแล้ว กลับกลายเป็นว่าพี่เขาสายกว่าฉันอีกเหรอเนี่ย ว่าแล้วก็แอบเสียดายค่าแท็กซี่เหมือนกันนะ รู้แบบนี้นั่งรถเมล์มาดีกว่า ประหยัดกว่ากันตั้งเยอะ “มาแล้วเหรอ” เสียงทักทายดังมาจากด้านหลัง ฉันหันหน้าไปมองบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่ สองมือหนาถือถุงพลาสติกมากมายเต็มไปหมด “สวัสดีค่ะพี่อชิ” ฉันยกมือไหว้ผู้ชายตรงหน้า “มานานยัง” พี่อชิถามต่อ “เพิ่งมาถึงค่ะ” ฉันตอบพลางกับเหลือบมองไปยังมือของเขาทั้งสองข้าง “แล้วพี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะจัง ยังไม่ได้ทานข้าวหรือคะ” ฉันชี้ไปที่ถุงกับข้าว ถ้าพี่เขายังไม่ได้ทานข้าวฉันจะได้ให้พี่เขาทานข้าวก่อนแล้วค่อยเริ่มสอนฉัน “ประมาณนั้น แล้วเราล่ะ กินอะไรมาหรือยัง” คนตรงหน้าถามอีก “หนูเหรอคะ” ฉันชี้ที่ตัวเอง “ยังเลยค่ะ พอดีว่าเพิ่งเลิกเรียนหนูเลยรีบมาที่นี่เลย เห็นว่าเลยเวลานัดมามากแล้ว” ฉันว่าแล้วยิ้มแก้เขิน “มากินด้วยกันสิ ที่ซื้อมาพี่ก็กินไม่หมดหรอก” อชิว่า “จะดีเหรอคะ เกิดพี่หิว…” “พี่กินไม่หมดหรอก เห็นไหมเยอะแยะ นั่งรอตรงนี้นะเดี๋ยวไปหยิบจานมาให้” ร่างสูงพูดจบก็เดินหายเข้าไปหลังร้าน เยอะจริงๆ ด้วย พี่เขากะซื้อมากินไปถึงวันพรุ่งนี้เลยหรือไง “พี่กินเผ็ดนะ ไม่รู้ว่าของที่ซื้อมาเราจะกินได้หรือเปล่า” พี่อชินั่งลงบนเก้าอี้ จัดการเทกับข้าวใส่จานชาม “สบายมากค่ะพี่ หนูชอบกินเผ็ดมาก” มองในถุงว่าน่ากินแล้ว พอแกะเทใส่จานแล้วยิ่งน่ากินใหญ่ โดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้าสีจัดจ้านด้วยแล้ว น่ากินชะมัดยาด “ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าพี่อชิทานเผ็ดได้ด้วย” ฉันพูดกับเขา “ชอบน่ะ ไม่เผ็ดไม่อร่อย” ตอบเสียงเรียบ “แต่แน่ใจนะว่าเรากินเผ็ดได้ ร้านนี้เขาทำเผ็ดมากเลยนะ” “ได้ค่ะ” ฉันพยักหน้า “อ่ะ ลองกินดู หมูน้ำตกรสเด็ด” พี่อชิตักน้ำตกสีสดใส่ในจานข้าวของฉัน ฉันตักเข้าปากทันทีไม่รอช้า “อื้ม อร่อยอะ” ฉันยิ้มกว้าง “ไก่ย่างก็อร่อยนะ กรอบนอกนุ่มใน” พี่อชิไม่พูดเปล่า แต่กลับตักเนื้อไก่ชิ้นโตส่งให้กับฉัน “ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มๆ แอบเขินเหมือนกันแฮะมีคนคอยตักอาหารให้ “พี่อชิดูจะชอบอาหารอีสานมากเลยนะคะ” ทุกอย่างที่พี่เขาซื้อมาล้วนแล้วแต่เป็นอาหารอีสานทั้งสิ้น ส้มตำเอย น้ำตกเอย ลาบเอย ไก่ยางเอย ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวร้อนๆ นิ่มๆ ทุกอย่างเข้ากันดี๊ดี “อร่อยดี กินได้เรื่อยๆ” ตอบเสียงเรียบ “ว่าแต่เราเถอะ ทำไมถึงชอบเรียนกีตาร์” ถามพลางกับเทน้ำเปล่าส่งให้กับฉัน “ขอบคุณค่ะ” ฉันเอ่ย “หนูชอบดนตรีน่ะ แล้วชอบที่สุดก็คือกีตาร์ค่ะ” ฉันยิ้ม เรียกว่าหลงรักเลยล่ะ ไม่ใช่แค่ชอบธรรมดา “แล้วทำไมถึงชอบกีตาร์ล่ะ” “มันสวยดีนะคะพี่ ดูมีเสน่ห์แบบบอกไม่ถูก ยิ่งมีหลายสีสันก็ยิ่งสวยค่ะ” “งั้นเหรอ” คนพูดพยักหน้า “แล้วนอกจากกีตาร์เราเล่นเครื่องดนตรีอื่นได้อีกไหม” “ก็มีกลองนะคะ แต่ว่าไม่ค่อยชอบเล่นเท่าไหร่” “เล่นกลองด้วยเหรอ” พี่อชิเลิกคิ้วถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD