“ทำไมพี่ทำหน้าแบบนั้นอ่ะคะ” ฉันถามแล้วยิ้มแหยๆ
“ไม่น่าเชื่อน่ะ เห็นตัวเล็กๆ บางๆ แบบนี้ไม่น่าจะตีกลองไหว” คนพูดยิ้มๆ
ยิ้มเหรอ จะว่าไปพี่อชินี่ก็หล่อไม่เบาเลยนะ ใบหน้าเรียวยาวรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมดุจเหยี่ยวปิดท้ายด้วยริมฝีปากหยักหนา คิ้วเข้มหนานั่นยิ่งทำให้ใบหน้าคมคายของพี่เขาบาดใจคนมองเข้าไปอีก
โดยรวมรูปลักษณ์หน้าตาของพี่เขา ถ้าไม่ยิ้มไม่แย้มนี่ก็ดูดุพอสมควร แต่พอพี่เขายิ้มแล้วน่ารักเป็นบ้า
“ทำไม” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น
“คะ?” ฉันทำหน้างง
“มองหน้าพี่ตั้งนาน มีอะไรหรือเปล่า” พี่อชิถามพลางกับจ้องหน้าฉันนิ่งอย่างต้องการคำตอบ
ตายละ นี่ฉันเผลอมองหน้าพี่เขานานไปงั้นเหรอ
“อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันพูดเบาๆ
“เดี๋ยวถ้าอิ่มแล้วเราเริ่มเรียนกันเลยนะ วันนี้พี่ก็จะยังไม่สอนอะไรมาก ว่าจะขอดูเบสิกของเราก่อนว่าอยู่ในขั้นไหน จะได้สานต่อถูก” เสียงเข้มร่ายยาว
“ค่ะพี่” ฉันพยักหน้ารับ หลังจากนั้นเราทั้งสองคนก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย เรื่องนั้นเรื่องนี้ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นถกถามกันมากมาย พอทานข้าวเสร็จฉันก็อาสาเป็นคนล้างถ้วยล้างชามให้พี่เขา ก่อนจะเตรียมตัวเริ่มเรียนกีตาร์กับครูคนใหม่อย่างพี่อชิ
“อืม พื้นฐานใช้ได้นี่เรา” เสียงเข้มเอ่ยชม
“ขอบคุณค่ะพี่” ฉันยิ้มรับกับคำชมที่ได้รับ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้พี่ซันเขาเลย พี่เขาสอนฉันแบบทุ่มสุดตัวเลยทำให้ฉันพอจะมีพื้นฐานที่ดีๆ กับเขาบ้าง
“เอาเป็นว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ เพราะนี่ก็หกโมงครึ่งแหละ เดี๋ยวเราจะกลับบ้านดึก แล้ววันพรุ่งนี้พี่จะสอนเล่นเพลงที่เราอยากจะเล่น โอเคไหม” พี่อชิถามฉัน
“ค่ะพี่ ขอบคุณพี่มากนะคะที่อุตสาห์เสียเวลามาสอนหนู” ฉันยกมือไหว้คนร่างสูง
“ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากหรอก พี่ว่างๆ อยู่เลยมาสอนให้ได้” พี่อชิพูดเสียงราบเรียบ ก่อนจะก้มหน้ามองดูนาฬกาเรือนหรูที่ข้อมือ “แล้วใครมารับเนี่ย ให้พี่ไปส่งที่บ้านไหม”
“เดี๋ยวพ่อมารับค่ะพี่ ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันบอกยิ้มๆ
“แล้วให้พ่อมารับที่ไหนล่ะ” ถามต่ออีก
“เอ่อ” ฉันยิ้มอายๆ ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้ม “เดี๋ยวหนูนั่งรถกลับไปที่เรียนพิเศษค่ะพี่”
“อย่าบอกนะว่า…” คนตรงหน้าแอบรู้ทัน
“ค่ะพี่” ทำไงได้ล่ะ ในเมื่ออยากเรียนดนตรีฉันก็ต้องทุ่มเทแบบนี้แหละ
“งั้นให้พี่ขับรถไปส่งที่เรียนพิเศษเอาไหม จะได้ไวๆ”
พี่อชิแสดงความมีน้ำใจ ฉันมองดูเวลาที่ข้อมือก่อนจะตอบตกลง เพราะเวลามันก็เกินมาพอสมควร ถ้าเกิดให้นั่งรถกลับไปเองก็เลทแน่นอน
“ขอบคุณพี่มากเลยนะคะที่อุตสาห์ไปส่ง” เมื่อขึ้นมานั่งบนรถคันหรูของพี่อชิฉันก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณคนข้างกาย
“ไม่เป็นไร” ตอบเสียงเรียบตามสไตล์ของเขา
พ่อจ๋า
“ค่ะพ่อ” ฉันกดรับสาย
(เลิกเรียนหรือยังลูก)
“ใกล้เลิกแล้วค่ะ” ฉันโกหกคำโต อย่างน้อยๆ ก็ดึงเวลาให้ฉันนั่งรถพี่อชิกลับไปยังสถาบันสอนพิเศษล่ะนะ
(วันนี้หนูกลับบ้านเองได้ไหมลูก พอดีว่าพ่อติดประชุมงานกับเจ้านายน่ะลูก คงไปรับหนูไม่ทัน) เสียงของพ่อดูกังวลใจ
“ได้ค่ะพ่อ เดี๋ยวหนูนั่งรถกลับเองนะคะ”
(ขอโทษด้วยจริงๆ นะลูก ถ้าถึงบ้านแล้วอย่าลืมโทรหาพ่อด้วยนะ พ่อเป็นห่วง)
“ค่ะพ่อ ตั้งใจประชุมงานนะคะ”
(คร้าบ คุณลูก) พ่อลากเสียงยาวตลกตามประสา
“งั้นแค่นี้นะคะพ่อ บ้ายบายค่ะ”
ฉันยิ้มให้กับมือถือ ก่อนจะกดวางสาย พ่อฉันเป็นคนใจดีนะ ถ้าไม่นับเรื่องที่บังคับไม่ให้ฉันเรียนดนตรีถือว่าท่านเป็นคนใจเย็นมากเลยคนหนึ่ง แต่ถ้าพ่อรู้ว่าฉันขัดคำสั่งเข้าสักวันล่ะก็…
“พ่อทิ้งเหรอ” พี่อชิพูดหน้านิ่ง
“พี่ก็ พ่อเขาติดประชุมน่ะค่ะ เลยจะให้หนูกลับเอง” ฉันอมยิ้มกับมุขตลกของเขา
“งั้นไปกินไอติมกับพี่ไหม”
“เห?” ฉันหันหน้ามองคนพูด ชวนฉันไปกินไอติมเนี่ยนะ
“ทำไม ไม่อยากไปเหรอ” ถามพลางกับเลี้ยวรถยูเทรินกลับไปทางเดิม “ไม่อยากก็ต้องไปแล้วแหละ เพราะพี่กำลังจะพาเราไป” แล้วจะถามฉันทำไมเนี่ย
“เกรงใจน่ะค่ะพี่ ทั้งสอนกีตาร์ฟรีแถมยังเลี้ยงข้าวอีกต่างหาก” ฉันพูดไปตามใจคิด รู้สึกว่าตัวเองจะรบกวนพี่เขามากเกินไปน่ะ
“พี่ชื่ออชิ ชื่อจริง อชิตะ เซ็นกิ อายุ 23 ปี เรียนป.ตรี ปี 3 พี่เป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่ ครอบครัวพี่อยู่ญี่ปุ่นกันหมด มีพี่คนเดียวที่มาอยู่เมืองไทย นอกจากเพื่อนๆ ที่สนิทแล้ว พี่ก็ไปไหนมาไหนตัวคนเดียว เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว นอนคนเดียว”
“…”
ฉันทำหน้าไม่ถูกเมื่ออยู่ดีๆ พี่อชิก็เล่นสาธยายประวัติส่วนตัวของเขาให้ฉันฟังแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
“พี่เลยกลายเป็นพวกขี้เหงา ขี้เบื่อ ไม่ค่อยชอบเวลาที่ต้องนั่งกินข้าวคนเดียว แต่ก็ต้องทน เพราะอยู่ตัวคนเดียว แต่วันนี้”
คนที่จับจ้องไปยังท้องถนนตลอดเวลา หันหน้ามามองฉัน
“ไปนั่งชิวเป็นเพื่อนพี่หน่อยไม่ได้เหรอ ถือซะว่าตอบแทนที่พี่ช่วยสอนกีตาร์ให้ก็แล้วกัน ถ้าเราไม่สบายใจ”
“…”
ฉันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ นะ เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอผู้ชายแบบพี่เขา บางเวลาก็ดูขรึมซะจนน่ากลัว แต่บทจะพูดก็เล่นพูดซะจนลิงหลับ! แถมยังเป็นการพูดในเชิงขอร้องที่พิศดาลสุดๆ ไปเลย
“ว่าไง” เร่งรัดเอาคำตอบ
“ค่ะพี่ ก็เล่นพูดมาซะขนาดนี้แล้วใครจะกล้าปฎิเสธลงล่ะคะ” ฉันว่าแล้วหัวเราะเบาๆ
“หึๆ” พี่อชิหัวเราะในลำคอ เป็นอีกครั้งที่ฉันได้เห็นรอยยิ้มสุดแสนจะน่ารักจากเขา