บทที่ 5.2 - เป็นแฟนกันนะ (ความในใจของพี่อชิ) (จบตอน)

1015 Words
เรื่องกรี๊ดเสียงดังนี่ไม่เท่าไหร่ เรื่องนี้สิหนักกว่า “ไหนบอกไม่ถึงขนาดนั้นไง แล้ว…” สายตามองมาที่หัวไหล่ข้างขวา ที่ตอนนี้มีใบหน้าของฉันซบลงไปเต็มๆ “ขอโทษค่ะพี่” ฉันเอ่ยเสียงแผ่ว ให้ตายเถอะยัยเปียโน หล่อนเสียสติไปแล้วหรือยะ “ไม่เป็นไร ถ้ากลัวก็ชิดๆ พี่หน่อยก็ได้ เอางี้” พี่อชิดึงมือของฉันไปกุมไว้แน่น “พะ พี่” “จับมือพี่ไว้ รับรองผีมันไม่กล้าหลอกเราหรอก” คนพูดยักคิ้ว “…” เสียงกรี๊ดมีมาเป็นระยะๆ แต่น่าแปลกที่คราวนี้กลับไม่มีเสียงของฉันเข้าไปปะปน เพราะว่าฉันไม่ได้สนใจผีในหนังอีกต่อไป นอกเสียจากมือของเขาและฉันที่กุมกันไว้แน่น เวลาผ่านไปจนกระทั่งหนังผี (สุดสยอง) ดำเนินมาจนถึงจุดจบ ผู้คนต่างลุกจากที่นั่งสุดหรูแล้วพากันเดินออกไปจากโรงหนัง ฉันกับพี่อชิเองก็เช่นกัน มือหนายังคงจับมือฉันอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปไหน “ไปกินติมไหม” ร่างสูงหันหน้ามาถามฉัน “พี่คะ” ฉันเบนสายตามองไปยังมือของเราทั้งสองคน “โทษที” พี่อชิปล่อยมือฉันออกทันที แต่ฉันแอบสังเกตนะ ว่าเขาแอบยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก “วันนี้คงต้องรีบกลับบ้านน่ะค่ะ พอดีหนูมีการบ้านที่ต้องรีบทำ” การบ้านมหาโหดของเด็กมอปลาย แถมเป็นเด็กมอหกที่ใกล้จบด้วยแล้วนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย แต่ละวันเหมือนเอาชีวิตไปวิ่งเล่นอยู่ในสนามรบ “งั้นพี่ไปส่งเราที่บ้าน” “ไม่เป็นไรค่ะพี่” ฉันรีบโบกมือห้ามเสียงดัง “ทำไม?” คนร่างสูงขมวดคิ้วถาม “คือว่าวันนี้ วันนี้…” จะบอกยังไงดีนะ “วันนี้ทำไม?” “วันนี้พ่อหนูอยู่บ้านน่ะค่ะ ถ้าท่านเห็น…” “ถ้าพ่อเห็นมีผู้ชายไปส่งบ้านแล้วเราจะโดนดุใช่ไหม” คนถามอมยิ้ม มีอะไรที่น่าขำนักหนานะ “พี่ไปส่งนั่นแหละ” “พ่อหนูอยู่บ้านนะ เอาไว้วันหลังเถอะ” ฉันแทบจะยกมือไหว้คนตรงหน้า เขากำลังจะฆ่าฉันทางอ้อมเลยนะเนี่ย “ไปส่งแค่หน้าหมู่บ้านก็ได้ โอเคไหม” พี่อชิพยายามต่อรอง “ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบเสียงอ่อน หน้าหมู่บ้านก็ยังดี “ไป พี่มีเรื่องจะคุยกับเราเยอะเลย” พี่อชิพูดทิ้งท้ายก่อนที่ร่างสูงจะเดินนำลิ่วไปเบื้องหน้า ทิ้งให้ฉันจมอยู่กับความคิดเพียงลำพัง พี่เขามีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันนะ ตอนนี้เราทั้งคู่ได้เดินทางมาถึงหน้าหมู่บ้านของฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นเวลากว่าหกโมงเย็นพอดี ป่านนี้ที่บ้านคงกำลังเตรียมตั้งสำหรับทานข้าวเย็นกันแล้ว “ขอบคุณนะคะพี่สำหรับหนังผีอันน่าสยดสยอง” ฉันพูดแนวประชดคนข้างกาย “สนุกไหม” พี่อชิถาม “สาบานเลยค่ะ ว่าหนูจะไม่มีวันลืมวันนี้เลย” ใครจะลืมลง ทั้งหน้าไอ้ผีตัวนั้นที่โผล่เข้ามาเต็มจอจนต้องร้องกรี๊ด แล้วไหนจะความรู้สึกแปลกๆ ในตอนที่เราทั้งสองนั่งจับมือกันอีก ความอุ่นของฝ่ามือใหญ่ทำเอาฉันไม่สนใจกลัวผีอีกเลยจนจบเรื่อง “พี่เองก็ไม่อยากให้เราลืมวันนี้เหมือนกัน” เบนสายตาจับจ้องใบหน้าฉัน “ไม่อยากให้ลืม อยากให้จำไปตลอด” “คือ” ฉันเริ่มอึกอัก “แล้วตกลงว่าไง ตอบพี่ได้ยัง” อยู่ดีๆ ก็ถามเสียดื้อๆ “เห ตอบอะไรคะ” ฉันทำหน้างง คนถูกย้อนถามลอบถอนหายใจ ใบหน้าหล่อใสอมยิ้มที่มุมปาก “ลืมว่างั้น?” เขาพูดเสียงเย้า “ช่างมัน งั้นพี่ถามใหม่ก็ได้” จะถามอะไรฉันกันนะ หรือว่า… “ตกลงเราคิดเหมือนพี่หรือเปล่า” น้ำเสียงเข้มกระซิบแผ่วเบา นั่นไง ถามเรื่องนั้นจริงๆ ด้วย หื้อ ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้างนะ “พี่อชิ” “ต้องตอบแล้วนะ เพราะพี่ให้เวลาเรามากพอแล้ว” นี่เขาให้เวลาฉันแล้วเหรอ ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนไม่มีเวลาให้ได้คิดหรือทันได้หายใจเลย “ว่ายังไง” คนร่างสูงเร่งเร้าที่จะเอาคำตอบ “เปียโน” เขาเรียกชื่อฉันอีกครั้ง “…” “พี่” “พี่อชิคะ” ยังไม่ทันที่พี่อชิจะพูดจนจบประโยคฉันก็โผงผางขึ้นมาเสียก่อน ทำเอาผู้ชายตรงหน้าทำหน้าแตกตื่นเล็กน้อย “ว่า?” “พี่จะอยากรู้ความรู้สึกหนูไปทำไมคะ หนูไม่เข้าใจพี่เลยค่ะว่าทำไมต้องคอยถาม คอยพูด หรือว่าคอยแสดงเหมือนกับสนใจหนูอยู่คนเดียว ทำเหมือนกับว่าจ้องจะเคลมหนูอยู่ทุกเวลายังงั้นแหละ แต่หนูก็ไม่เข้าใจอ่ะ ว่าพี่จะมาแคร์อะไรหนูนัก เพราะหนูมันก็แค่เด็กมอปลายคนหนึ่งไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสต่างจากคนอื่น หนูอยากรู้ว่าพี่จะมา…” “พี่ชอบเรา!” “…” ประโยคเดียวหยุดทุกคำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของฉัน “…” “ที่พี่ทำตัวเป็นตาแก่คอยเทียวไล้เทียวขื่อเราก็เพราะว่าพี่ชอบเรา ชอบตั้งแต่วันแรก” พี่อชิสารภาพทุกอย่าง “…” พีคสุด! เชื่อไหม ว่าคำพูดของคนตรงหน้าทำเอาขากรรไกรของฉันไม่ทำงานอีกเลย ฉันได้แต่ทำหน้าเอ๋อหรา ไม่รู้ว่าจะเอื้อนเอ่ยอะไรออกไป ทุกสิ่งอย่างรอบๆ กายมันดูตื้อตันไปหมด แม้แต่หัวใจตอนนี้มันยังเต้นอยู่หรือเปล่านะ “เปียโน” พี่อชิเรียกชื่อฉันอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มสองคู่นั้นดูจริงจังเป็นพิเศษ “คะ?” เสียงขานรับสั่นจนแม้แต่ตัวฉันเองยังจับสังเกตุได้ “เรา” “…” “เป็นแฟนกับพี่นะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD