‘เป็นแฟนกับพี่นะ’
หลังจากวันนั้นที่พี่อชิเขาสารภาพความในใจกับฉัน (จนหมดเปลือก) มาวันนี้เราทั้งคู่ก็เลย
“เปียโน พี่บอกแล้วไงว่าอย่าไปคุยกับไอ้พวกผู้ชายในเฟซ พี่หึง พี่หวงนะ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง”
เสียงของผู้ชายตัวโตนั่งโหยหวนอยู่ข้างๆ ฉัน
“แค่เพื่อนออนไลน์ทั่วไปค่ะพี่ หนูไม่ได้จริงจังอะไรสักหน่อย”
ตั้งแต่ที่ฉันตกลงเป็นแฟนกับพี่อชิ ผู้ชายคนนี้ก็ทำตัวราวกับเป็นพ่อของฉันอีกคน แต่ฉันโอเคนะ เพราะทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน พี่เขาดูแลฉันดีมาก ดีซะจนฉันแอบเกรงใจในอะไรหลายๆ อย่าง
“ไอ้พวกเพื่อนในออนไลน์นี่แหละ ตัวดีเลย”
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วค่า” ฉันว่าแล้วยิ้ม ก่อนจะยื่นกีตาร์ให้กับเขา “ไหนบอกจะสอนหนูขึ้นเพลงใหม่ยังไงล่ะคะ”
มือหนารับเอากีตาร์ไปถืออย่างเสียไม่ได้ ร่างสูงนั่งลงซ้อนแผ่นหลังบอบบางของฉัน
“รู้แล้วครับ” ใบหน้ายังคงบึ้งตึงไม่หาย
“อย่างอนสิ พี่เองก็อายุเยอะแล้วนะ มานั่งง้องอนเป็นเด็กๆ ไปได้” ฉันหันหลังไปพูดกับคนขี้งอน
“นี่เราหาว่าพี่แก่เหรอ” ถามเสียงสูง
“เปล๊า” ฉันเอาก็ตอบเสียงสูงเช่นกัน
“เราว่าพี่แก่” สายตาจับผิด
“หนูไม่ได้ว่าสักหน่อย พี่อชิคิดไปเอง” ฉันเถียง
ก็ฉันไม่ได้ว่าจริงๆ นี่น่า พี่เขาพูดออกมาเองไอ้คำว่า แก่
“แต่เราคิด” คนตัวสูงชี้หน้าฉัน
“หนูไม่อยากเถียงกับคนแก่ อุ๊บ” ฉันหลุดออกมาอย่างไม่น่าให้อภัย “หนู…”
“นั่นไงๆ เราหาว่าพี่แก่จริงๆ ด้วย” พี่อชิกัดกรามแน่น
“ไม่คุยด้วยแล้ว ไปดีกว่า” ฉันหาทางหนี
“จะไปไหน” มือหนารั้งเอวบางของฉันให้นั่งลงบนตักของเขา “พี่จะทำโทษเรา ที่เราว่าพี่แก่” เสียงเข้มกระซิบเบาๆ
“พี่อชิปล่อยหนูเลยนะ หนูโกรธจริงๆ ด้วย” ฉันขู่ ขนในร่างกายฉันลุกซู่เมื่อร่างกายของเราทั้งสองแนบชิดกันแบบนี้
“พี่เองก็โกรธเราเหมือนกัน มาว่าพี่แก่” คนพูดทำเสียงเล็กเสียงน้อย
เชอะ นึกว่าน่ารักเหรอยะ
“พี่อชิปล่อยหนูเลย หนูอึดอัด” ฉันดิ้นขลุกขลักไปมา เพราะพี่อชิกอดรัดฉันแน่น แถมยังเริ่มเกเรด้วยการเอาจมูกโด่งๆ มาคลอเคลียกับแก้มใสของฉันอีกต่างหาก หนอยแน่ ผู้ชายคนนี้
“พี่อชิ อย่าเล่นแบบนี้สิ หนูไม่ชอบนะ” ฉันพยายามทำเสียงดุใส่ แม้ว่ามันจะไม่ได้ใกล้เคียงเลยก็ตาม
“เราตัวหอมจัง” คนตัวโตเปลี่ยนประเด็น
“…”
ฉันแข็งทื่อไปโดยปริยาย
“พี่ชอบนะ ชอบทุกสิ่งอย่างที่มาจากตัวเรา” คนปากหวานยังพร่ำไปเรื่อย
“ชอบอะไรคะ”
“เราไม่แต่งหน้า เวลาอยู่ใกล้พี่ก็ได้กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ หอมดี” พี่อชิยิ้มละมุน
“แล้วพี่ไม่ชอบผู้หญิงที่แต่งหน้าหรือคะ”
เพราะผู้ชายส่วนใหญ่เขามักจะชอบผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ ผิดกับฉัน ฉันนี่แทบไม่แตะเครื่องสำอางค์เลยสักชิ้น แถมส้นสูงก็ไม่เคยสัมผัส สไตล์การแต่งตัวของฉันจะมาแนวเสื้อยืดเกงยีนส์กับรองเท้าผ้าใบเสียมากกว่า
ไม่รู้ว่าพี่อชิหลงเข้ามาชอบฉันได้ยังไงก็ไม่รู้
“ไม่อะ” คนพูดส่ายหน้า
“พี่ไม่ชอบกลิ่นเครื่องสำอางค์ มันเลี่ยน”
“พูดเหมือนกับว่าเคยไปได้กลิ่นเครื่องสำอางค์จากสาวๆ ที่ไหน” ว่าแล้วก็มีประเด็นให้ฉันจับผิด
“ว่ายังไงคะ” ฉันหันไปถามด้วยรอยยิ้ม
แต่คนตรงหน้ากลับเริ่มยิ้มไม่ออก
“อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนั้นสิ พี่เองก็อายุปูนนี้แหละ มันก็ต้องมีบ้าง” ประโยคหลังพี่อชิตอบเสียงอ่อย
“ปล่อยได้แล้ว หนูอึดอัด จะสอนไหมเนี่ย กีตาร์อ่ะ”
ฉันย้อนถามเสียงเขียว ไม่รู้เป็นอะไร แค่ได้ยินคำพูดคล้ายสารภาพกรายๆ ของพี่อชิแล้วฉันกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาซะงั้น ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่อดีต และมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา
นี่ฉันกำลังเข้าสู่ระบบผู้หญิงงี่เง่าแล้วใช่ไหม
“เสียงแข็งเชียว ทำไม หึงพี่เหรอ”
“เปล่าค่ะ” ตอบโดยไม่ต้องคิด
“ไม่จริงอ่ะ เราหึงพี่” คนขี้ตู่เข้าข้างตัวเอง
“คิดไงก็ช่าง แต่ปล่อยหนูได้แล้ว พี่จะกอดหนูไว้แบบนี้ตลอดเลยหรือคะ” นี่มันนานเกินไปแล้วนะ หาเรื่องแต๊ะอั๊งกันชัดๆ
“ถ้าเรายอมให้กอดพี่ก็อยากกอดเราตลอดไป” เสียงเข้มเอ่ย ทำเอาใบหน้าของฉันร้อนผ่าว
“จริงๆ นะ พี่อยากให้เราอยู่ตรงนี้ อยู่กับพี่ไปนานๆ”
“หนูก็อยู่ตรงนี้แล้วไงคะ”
“แล้วสัญญาได้ไหมว่าจะอยู่ตลอดไป” เขาถามกลับ
“ปล่อยได้แล้ว” ฉันทำหน้ามุ่ย
“สัญญาก่อนสิ ไม่งั้นก็ไม่ปล่อยหรอก จะกอดแบบนี้แหละ”
พี่อชิเริ่มงอแง ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายที่ดูขรึมในวันแรกจะทำตัวปวกเปียกต่อหน้าแฟนได้ขนาดนี้ อ้อนซะไม่มี
“ค่ะๆ หนูสัญญาว่าจะอยู่กับพี่ตลอดไป พอใจไหมคะ” ฉันหันไปจิกฟันยิ้ม
ฟอด คนตัวโตขโมยหอมแก้มไปหน้าด้านๆ
“พี่อชิ!” ฉันยกมือขึ้นจับแก้มนวลข้างขวาอย่างโกรธจัด คนทำผิดไม่มีท่าทีรู้สึกผิด เขากลับทำหน้าตาร่าเริงมีความสุข
“ห้อมหอม”
“หนูโกรธจริงๆ นะ โกรธจริงๆ ด้วย” ฉันค้อนตาเขียว
ผู้ชายบ้า มีโอกาสเป็นไม่ได้เลยนะ จ้องแต่จะคอยหาเศษหาเลือยกับฉันตลอด ตั้งแต่เป็นแฟนกันมามากสุดก็แค่จับมือ กอด แต่ดูวันนี้สิ เล่นจับฉันนั่งบนตักแถมยังฉกแก้มฉันอีกต่างหาก
แฟนนะยะ ไม่ใช่เด็กนั่งดริ้ง
“โอ๋ๆ อย่าโกรธน้า” พูดแล้วทำท่าจะปรี่เข้ามากอดฉันอีกครา
“ไม่ต้องเลย” ฉันรีบขยับกายหนี
“ก็จะกอดปลอบใจไง โกรธไม่ใช่เหรอ” ถามพลางยักคิ้ว
“ไม่โกรธแล้ว” ฉันตวัดเสียงใส่ เสียรู้เขาตลอด
“หายโกรธง๊ายง่าย แฟนใครเนี่ยน่ารักจัง” นิ้วชี้จิ้มเข้าที่แก้มนุ่มนิ่มของคนตัวเล็ก
“ตกลงจะสอนหนูขึ้นเพลงใหม่หรือเปล่าคะ? ถ้าไม่สอนหนูจะได้กลับ เสียเวลา” นี่ฉันมาเรียนหรือมาเพื่อให้คุณแฟนตัวดีลวนลามกันแน่เนี่ย เริ่มไม่แน่ใจแหละ
“สอนครับสอน”
ร่างสูงจับฉันให้นั่งลงดั่งเดิม โดยมีเขาไปนั่งซ้อนแผ่นหลังบอบบางเช่นเคย แต่ครั้งนี้ฉันเริ่มระแวงหน้าระแวงหลัง
“ไม่ต้องกลัวพี่ขนาดนั้นก็ได้ พี่ไม่หอมแก้มเรารอบสองหรอก” คนพูดทำเหมือนคุยเรื่องปกติทั่วไป จะย้ำทำไมนะ แค่นี้ฉันก็อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว
“เพราะพี่จะเปลี่ยนเป้าหมายเป็น…”
“…”
ฉันก็พลอยลุ้นไปด้วยว่าเขาจะเอ่ยอะไรออกมา
“เปลี่ยนเป็น…”
“…”
เป็นอะไรกันนะ
“…”
“เป็นจูบหวานๆ ที่ปากของเราแทน”
ฉันตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ แล้วดูสิ ตัวแข็งเชียว ฮ่าๆ”
จะ จูบงั้นเหรอ
ในหัวของฉันยังคงคิดวนไปมากับคำพูดของเขา
“เขินเหรอคะ” เสียงเข้มเอ่ยกระซิบข้างๆ ใบหูขาวสะอาด
ยิ่งได้ยินน้ำเสียงของพี่เขาใกล้ๆ ฉันก็ยิ่งขนลุกซู่ไปทั้งกาย
“เราเป็นแฟนพี่เราต้องทำใจหน่อยนะ เพราะว่าพี่น่ะ”
“…”
“ค่อนข้างจะหื่น” พี่อชิพูดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
แต่ฉันว่าระดับพี่เขาน่ะ ไม่ใช่แค่ค่อนข้างหื่นนะ อย่างผู้ชายคนนี้มันเข้าข่ายหื่นมากเลยต่างหาก! ดูจากสิ่งที่เขาทำกับฉันสิ แฟนดีๆ ที่ไหนเขาทำกัน เชอะ
ฉันนั่งเข่นเคี้ยวเขี้ยวฟันอยู่ในใจ