“เธอนอนห้องรับแขกตรงนี้นะ แล้วห้ามเข้าไปในห้องฉันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันไล่นายไปนอนที่อื่นแน่” ริต้าขู่พร้อมกับหอบหมอนและผ้าห่มผืนใหญ่มาให้ บอสใหญ่จองห้องสวีทให้กับเธอ ภายในห้องแบ่งเป็นห้องนอนใหญ่ ห้องน้ำในตัว แล้วโซนห้องพักผ่อนหรือห้องรับแขกจะมีห้องน้ำด้านนอก โซนครัวขนาดเล็กพร้อมโต๊ะทานอาหาร และโซฟาขนาดใหญ่ ซึ่งภาวินทร์ได้รับเกียรติให้นอนตรงนี้
“ครับผม แต่ถ้าพี่เปลี่ยนใจ บอกผมได้นะ^^”
“เดี๋ยวเถอะ อย่าทะลึ่ง” ริต้าพูดพร้อมเดินหันหลังกลับเข้าห้อง แต่โชคไม่ดีตรงนี้ห้องนอนเธอล็อกไม่ได้ จึงทำได้แค่ปิดไว้เท่านั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น
ภาวินทร์ชวนบอสสาวคนสวยออกไปล่องเรือ ดำน้ำดูปะการัง ตลอดทั้งวัน ทั้งคู่ยิ้ม หัวเราะมีความสุขเหมือนกับเป็นคู่รักกันจริงๆ หญิงสาวยอมให้เด็กหนุ่มจับมือเดินไปทางนั้น ทางนี้โดยไม่ห้ามหรือขัดขืน ยกเว้นเวลาที่เขาจะเนียนเข้ามาหอมหรือกอดเธอ
จนกระทั่งคืนที่สองที่เด็กหนุ่มมานอนด้วย เขายังคงรักษาสัญญาไม่เข้าหาเธอตอนกลางคืน หากเธอไม่ยินยอม ซึ่งนั่นก็ทำให้ริต้าไม่สร้างกำแพงกับเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พี่ริต้า นอนรึยังครับ” ภาวินทร์ยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง
แกร๊ก เสียงเปิดประตู
“มีอะไร?”
“ผมอยากจะชวนพี่ไปนั่งดูดาว คืนนี้ท้องฟ้าเปิด ดาวเต็มท้องฟ้าเลยนะพี่” ภาวินทร์พูดอย่างตื่นเต้น ด้วยใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแสนหวาน ทำเอาริต้าถึงกับใจเต้นรัว
“อืม...ฉันใส่เสื้อกันหนาวก่อน เดี๋ยวตามออกไป” พูดจบเธอก็หันหลังกลับเข้าไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวในตู้เสื้อผ้า ส่วนภาวินทร์ยังคงยืนรอที่หน้าประตู
ทั้งคู่ปูผ้านั่งที่ริมหาดหลังห้องพัก มองไปด้านหน้าถึงจะมืดมิด แต่ก็มองเห็นคลื่นทะเลที่ยังคงซัดเข้าฝั่งไม่หยุด ส่วนบนท้องฟ้าสว่างไสวเต็มไปดวงดาวนับร้อยนับพันดวง จริงอย่างที่เด็กหนุ่มบอก บรรยากาศตอนนี้ช่างโรแมนติกมากๆ
“พี่ริต้า! ผมขอถามได้มั้ย” เด็กหนุ่มหันไปด้านข้าง ที่หญิงสาวนั่งมองท้องฟ้าอยู่เงียบๆ
“จะถามอะไร”
“กฎที่พี่ตั้งไว้ ตอนนี้พี่ยกเลิกกฎนั่นรึยัง”
“กฎ! กฎอะไร” ริต้าถามด้วยความสงสัย
“ก็ที่พี่เคยบอกว่าไม่ชอบเด็ก ตอนนี้พี่เริ่มจะชอบเด็กอย่างผมบ้างรึยัง” เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อฟังคำตอบ
“......”
“ที่พี่เงียบเพราะพี่เริ่มชอบผมแล้วใช่มั้ย^^” เห็นหญิงสาวเงียบ เขาก็เริ่มคิดว่าเธอน่าจะมีใจให้เขาบ้าง
“บ้า ยังไงซะนายก็ยังฝึกงานไม่ครบกำหนด อย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมากเลย ถ้านายทำตัวไม่ดีฉันจะไปรายงานบอสให้ไล่นายออก” ริต้าขู่กลับ ทำให้รอยยิ้มที่สดใส กลายเป็นหน้าตาบูดบึ้ง ผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ใจร้ายกับผมจัง นี้ผมยอมพี่ทุกอย่างแล้วนะ พี่ไม่คิดจะเปิดใจให้ผมหน่อยเหรอ” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อน แววตาเศร้า เอาคางมาวางที่หัวไหล่มน คลอเคลียเหมือนกับลูกแมวน้อย ทำเอาหญิงสาวถึงกับอึ้งไม่รู้จะพูดยังไงต่อ
ถ้าเรื่องงานเธอสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที แต่เรื่องพวกนี้เธอกับคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม
“งั้นผมก็ขอโทษพี่แล้วกัน ที่ทำให้พี่ต้องอึดอัดและลำบากใจ” พูดจบขายาวลุกขึ้นเดินเข้าห้องพัก ปล่อยให้หญิงสาวนั่งอยู่คนเดียว ไม่นานริต้าก็เดินกลับเข้าไปในห้อง ต่างคนต่างไม่พูดอะไรกัน
เช้าวันใหม่
ริต้าเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อจะออกไปเดินเล่นริมหาดตอนเช้า แต่พอมองไปที่โซฟาก็เห็นผ้าห่มถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย แล้วมีหมอนวางทับไว้อีกที บ่งบอกว่าเด็กหนุ่มตื่นเช้ากว่าเธอ
“ไปไหนของเขาแต่เช้านะ” หญิงสาวมองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่เจอ เดินไปดูใกล้ๆ ก็ไม่เห็นกระเป๋าเดินทางหรือรองเท้าของเด็กหนุ่มที่เคยวางไว้ประจำ
“ไปก็ไม่บอก ชิ” หญิงสาวบ่นอุบที่เด็กหนุ่มไปโดยไม่บอกกล่าว เธอเดินไปที่ริมชายหาดเพื่อวิ่งออกกำลังกายยามเช้าตามริมชายหาดยาวหลายกิโลจนเหงื่อท่วมตัว ด้วยชุดออกกำลังกายที่ด้านบนเป็นสปอร์ตบาร์ครึ่งตัว กางเกงรัดรูป ผมยาวลอนสีน้ำตาลถูกมัดรวบขึ้นกลางหัวทุย โชว์รูปร่างเพรียวบาง เวลาวิ่งอกอวบที่ใหญ่เกินตัวก็สั่นกระเพื่อมตามแรงวิ่ง ทำให้เป็นภาพที่ดูเซ็กซี่เย้ายวนใจต่อผู้พบเห็น
ระหว่างที่จะวิ่งกลับมาที่ห้องพักก็เจอกับฝรั่งหน้าหล่อ ตาสีฟ้า ตัวสูงใหญ่ กล้ามแน่น สองคนวิ่งตามมาดักหน้าเธอ
“สวัสดีคนสวย ผมชื่ออดัม คุณชื่ออะไรครับ” อดัมก้าวเท้าขึ้นมาด้านหน้าเพื่อไม่ให้เธอวิ่งต่อ
“ส่วนผมชื่อออสตินนะคนสวย” ออสตินยืนอยู่ด้านหลัง
“เออ...ฉันขอตัวนะคะ พอดีติดธุระ” ริต้าทำท่าจะวิ่งต่อ แต่ถูกอดัมขว้างไว้ ทำให้เธอชนเข้ากับอกแกร่ง จนเซถลาเข้าไปในอ้อมแขนของออสตินที่ยืนประกบอยู่ด้านหลัง
“ระวังหน่อยซิสาวน้อย นี้เธอทำเราเจ็บตัวนะ จะชดใช้ยังไง” อดัมทำทีเป็นจับที่อก ที่ใส่เพียงเสื้อกล้าม คอกว้าง กางเกงขาสั้น เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปที่มาเที่ยวทะเล
“ขะ ขอโทษค่ะฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ขอโทษแล้วจะหนีไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ พวกเราว่าเธอควรต้องชดใช้ให้พวกเราก่อนนะ” อดัมพูดพร้อมส่งสายตามองไปที่อกอวบอิ่มที่ล้นออกมานอกสปอร์ตบาร์ครึ่งตัว
“อย่ามาลามกกับฉันนะ ถ้านายไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วย” ริต้าเริ่มหวาดกลัว อยู่มาตั้งหลายวันไม่เคยเจอพวกนี้มาก่อน น่าจะเป็นฝรั่งที่เพิ่งมาใหม่แน่ๆ
“ไกลขนาดนี้ คิดว่าจะมีใครมาช่วย พวกเราไปตรงนั้นกันดีกว่า” อดัมส่งสายตามองไปทางโขดหินก้อนใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ถ้าริต้าร้องตะโกน โอกาสที่จะมีคนได้ยินน้อยมาก เพราะตรงนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านไปมา อีกอย่างเสียงคลื่นทะเลดังมากด้วย
ออสตินจับแขนริต้าเดินไปข้างหน้า ส่วนอดัมเดินนำไปก่อน เพื่อดูต้นทาง
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย” ริต้าร้องขอความช่วยเหลือแข่งกับเสียงคลื่น และพยายามดิ้นขัดขืนจากการจับกุม
“เงียบ ไม่งั้นอย่าหาว่าพวกเรารุนแรงแล้วกัน” ออสตินตะคอกเสียงดัง เมื่อถึงหลังโขดหินขนาดใหญ่ ออสตินผลักร่างบางลงไปกองที่พื้น
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันมีสามี มีลูกแล้วด้วย ปล่อยฉันไปเถอะ” ริต้ายกมือพนมขอร้องฝรั่งสองคนที่ค่อยๆ ก้าวสามขุมเข้ามา
“อย่ามาโกหก พวกพี่เห็นน้องไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นอาทิตย์ จะมาบอกมีผัวแล้วได้ยังไง” อดัมตวาดเสียงดัง เขาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอให้เสียเวลา จึงดึงขาทั้งสองข้างเข้ามาใกล้ตัว ริต้าไม่รู้จะทำยังไง กำทรายในมือทั้งสองข้างปาใส่ตาฝรั่งทั้งสองคน จนร่างใหญ่ร้องโวยวายดังลั่น เธอจึงรีบวิ่งหนีอย่างสุดแรงที่มี
ริต้าวิ่งไป ร้องขอความช่วยเหลือไปตลอดทาง แล้วหันหลังไปมองฝรั่งสองคนที่วิ่งไล่ตามมาอย่างทุลักทุเล เพราะยังเคืองตาจากทรายที่เธอปาใส่
ปึก!
“โอ๊ย....” หญิงสาววิ่งชนอะไรบางอย่างเข้าเต็มแรง จนเธอกำลังจะลงไปกองที่พื้น ก็มีมือใหญ่เข้ามาช้อนแขนเรียวไว้ทัน
“พี่วิ่งหนีอะไรมา” เด็กหนุ่มถามอย่าตกใจ เห็นเธอเหมือนวิ่งหนีอะไรมา เขาเลยตามมาดู
“ชะ ช่วยด้วยวินทร์มีคนจะข่มขืนฉัน” ริต้าจับที่แขนเด็กหนุ่มแล้วเขย่าไปมาแรงๆ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัว
“พี่ตามผมมานี้ เร็วๆ” ภาวินทร์มองไปด้านหลังเห็นฝรั่งสองคนกำลังวิ่งมาทางนี้ เขาคว้าข้อมือเล็กให้วิ่งไปอีกทาง หลบไปตามต้นไม้จนไปถึงห้องห้องหนึ่ง เขาเปิดประตูแล้วพาหญิงสาวเข้าไปในห้อง
“พี่หลบอยู่นี้ก่อนนะ รอสักพักแล้วผมจะออกไปดูว่าพวกมันไปกันรึยัง”
“อย่าไป อยู่กับฉัน อย่าทิ้งฉันไป” หญิงสาวคว้าเข้าที่แขนแกร่ง น้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความกลัว น้ำเสียงสั่นเครือ ทำเอาคนฟังถึงกับใจอ่อนยวบ ภาวินทร์โผเข้ากอดด้วยความสงสาร ริต้าอดกลั้นความกลัวไว้ไม่ไหว ร้องไห้ออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ผมขอโทษ เมื่อเช้าผมไม่น่าปล่อยพี่ไว้คนเดียวเลย” มือหนาเลื่อนขึ้นไปลูบหัวมนช้าๆ อย่างปลอบประโลม
“ฮือๆๆๆๆๆ ฉันกลัว” หญิงสาวร้องไห้จนไม่เหลือมาดของสาวเก่งที่คุมลูกน้องทั้งชายและหญิงเป็นสิบ ยี่สิบคน ตอนนี้เธอเปรียบเหมือนกับเด็กน้องที่เพิ่งถูกเพื่อนรังแก
ภาวินทร์กอดปลอบใจอยู่นานสองนาน จนหญิงสาวเริ่มสงบสติอารมณ์ขึ้นมาได้บ้าง เธอจึงผลักอกแกร่งออกช้าๆ มือสองข้างยกปาดน้ำตาไปมาเหมือนเด็กๆ
“พี่ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย เข้าไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับไปเอาเสื้อผ้ามาให้ ตอนนี้พี่อย่าเพิ่งกลับไปที่ห้องเลย เผื่อพวกมันดักรอพี่ระหว่างทาง” ภาวินทร์พูดจบเขาก็เดินไปเปิดประตู คราวนี้ริต้าไม่รั้งไว้ เพราะเธอดีขึ้นบ้างแล้ว จึงไปอาบน้ำให้รู้สึกดีขึ้น
ริต้าออกจากห้องน้ำโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว รัดอยู่ที่อกอวบสวย ออกมานั่งเป่าผมที่หน้ากระจก รอเสื้อผ้าที่เด็กหนุ่มไปเอามาให้ ด้วยสติที่ยังไม่ครบถ้วน ตอนนี้เธอหลงลืมกำแพงที่ตั้งเอาไว้ ลืมถึงขนาดที่กล้าแต่งตัวแบบนี้มานั่งรอเขา
แกร๊ก (เสียงเปิดประตู)
หญิงสาวหันไปมองตามเสียงอย่างคนขวัญผวา เธอเป่าผมเสร็จพอดี เด็กหนุ่มก็เข้ามายื่นเสื้อผ้าให้กับเธอ สายตาคมมองไปที่อกอวบอิ่มที่โผล่พ้นขอบผ้าเช็ดตัว