“ น้องดิน ดิน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ยังน่ารักเหมือนเดิม มาค่ะ ขอกอดที ”
ครับนั้นแหละพี่ผึ้ง ก็หลังจากที่ไอ้ต่อพาผมไปพักในห้องนอน ด้วยความที่เดินทางมาไกล ประกอบกับแอร์เย็นๆ จากที่ผมคิดว่าจะนั่งพักเฉยๆก็กลายเป็นว่าผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่พี่ผึ้งกลับมาจากคุยธุระ แล้วไอ้ต่อมาเรียกแล้วบอกว่าพี่ผึ้งกลับมาแล้วนั้นแหละครับ
“ พี่ผึ้งหวัดดีครับ เสียมารยาทจังผมนี้ ดันหลับจนต้องให้พี่ผึ้งรอ ” ผมส่งยิ้มแห้งๆไปให้พี่ผึ้ง รู้สึกเกรงใจไม่น้อยที่มานอนหลับจนต้องให้ไอ้ต่อไปปลุก
“ เสียมารยาทอะไรละ เราก็เหมือนน้องพี่คนหนึ่ง และไม่ต้องรู้สึกเกรงใจหรอก เดินทางเป็นไงบ้างไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ”
“ ไม่ครับทุกอย่างโอเค ”
“ ดีแล้วจ๊ะ รู้ไหมว่าพอพี่รู้จากต่อว่าดินจะมากรุงเทพ พี่ดีใจมากเลย ” พี่ผึ้งพูดไปยิ้มไป
“ มึงรู้ไหมว่าพี่กูนี้ตื่นเต้นกว่ากูอีก วันนี้ปลุกกูตั้งแต่เช้าทั้งๆที่กูบอกแล้วนะว่ามึงมาถึงสายๆ กูก็ไม่รู้ว่าจะปลุกกูขึ้นมาทำไม ” ไอ้ต่อหันมาฟ้องผม
“ ไม่ได้หรอกอย่างแกต้องเผื่อเวลาไว้สองชั่วโมง เกิดแกไปรับน้องดินสายแล้วมีคนหลอกน้องดินไปขาย จะทำยังไง ยิ่งสวยๆอยู่ ” พี่ผึ้งก็ไม่ยอมแพ้เช่นกันและผมเริ่มจะชินกับคำชมที่ว่าผมสวยแล้วละ
“ โธ่พี่ผึ้ง ไอ้ดินมันเป็นผู้ชายนะครับ เผื่อพี่ลืม ”
“ ฉันรู้แล้ว แต่สมัยนี้ไว้ใจไม่ได้หรอก แล้วแกดูหน้าน้องดินสิ สวยน้อยเสียเมื่อไหร่ ”
ผมนั่งทำตาปริบๆมองไอ้ต่อทีมองพี่ผึ้งที พี่ผึ้งเขาลืมหรือเปล่าว่าผมอยู่ที่นี้ด้วยเพราะแลดูพี่แกจะมีความสุขกับการเถียงกับไอ้ต่อ จนผมไม่กล้าเอ่ยแทรกเลย
“ พี่ลืมถาม ป้ากับลุงสบายดีไหม ”
“ ก็สบายดีครับ นี้ยังฝากของมาให้พี่เยอะแยะไปหมดเลย”
“ ของฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ได้ยินต่อเล่าว่าดินจะมาทำงานเหรอ ”
“ ตอนแรกก็ตั้งใจไว้แบบนั้นแหละครับ แต่ไอ้ต่อบอกว่าที่มหาลัยมันมีทุนให้ ผมเลยกะว่าจะลองไปสมัครทุนดู ไหนๆผมก็สามารถสอบได้แล้ว”
“ คืออย่างนี้พี่ผึ้ง ตอนแรกไอ้ดินมันจะทำงานเก็บเงินก่อน ปี หนึ่งแต่ต่อเสียดายเวลาไง แล้วพอดีที่มหาลัยต่อมีทุนให้นักศึกษา ต่อเลยเสนอให้ดินมันลองดู ” ไอ้ต่อมันอธิบายให้พี่ผึ้งฟัง
“ แต่มันติดที่ว่า ถ้าผมตัดสินใจเรียนปีนี้ ผมก็จะไม่ได้ทำงาน เพราะคงไม่มีที่ไหน รับนักศึกษาทำงานหรอก ”
“ เอาอย่างนี้แล้วกัน เดี๋ยวดินก็ไปดำเนินเรื่องเรียนต่อให้เรียบร้อย จะได้เรียนพร้อมต่อไปเลย ไหนๆก็สอบติดที่เดียวกันแล้ว ต่อจะได้มีเพื่อนแล้วพี่จะได้วานให้ดินช่วยดูแลต่อด้วย ส่วนเรื่องทำงาน ดินก็มาทำงานกับพี่แล้วกัน เดี๋ยวพี่หาตำแหน่งที่เหมาะสมไว้ให้ ”
“ ไม่เอาครับพี่ผึ้ง ผมเกรงใจ ให้ไอ้ต่อไปรับแล้วยังจะให้งานผมทำอีก แค่เรื่องที่ไอ้ต่อเป็นธุระเรื่องเรียนให้ผมก็เกรงใจจะแย่ ”
“ เฮ้ย มึงจะเกรงใจกูทำไม เพื่อนเขามีไว้ทำอะไรว่ะ มึงพูดแบบนี้กูเสียใจนะ ” ไอ้ต่อมันว่าผมแล้วทำหน้าตึงใส่
“ กูรู้ว่ามึงหวังดีกับกู แต่กูอดที่จะรู้สึกเกรงใจไม่ได้ ก็ที่กูคิดไว้คือ กูไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เรียนพร้อมมึงไง แต่มึงก็ยังช่วยกูขนาดนี้ กูก็กลัวจะทำให้มึงผิดหวังไง ” ผมรู้สึกเกรงใจไอ้ต่อจริงๆนะครับ ตั้งแต่เกิดมาผมก็ต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอดพอมีคนมาทำให้แบบนี้ก็เลยรู้สึกแปลกๆ
“ ถ้าเกรงใจกูก็มาเป็นเมียกูสิ เพราะว่าผัวก็ต้องมีหน้าที่ดูแลเมียอยู่แล้ว ” ไอ้ต่อมันพูดยิ้มๆ แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันคิดจริงว่ะ
“ กูยังชอบผู้หญิงครับเพื่อน และที่สำคัญกูนี้จะต้องเสียบมึง ไม่ใช่มึงเสียบกูครับ ”
“ แหม มึงจะพูดอะไร มึงดูหน้าตัวเองสักนิดนะครับ ”
“ หน้ากูมันเป็นอะไร ”
“ หน้ามึงมันน่ารักไง ฮิฮิ ” ฮิหน้ามึงสิครับ ไอ้ห่านี้ก็กวนตีนได้ทุกเวลาจริงๆ
“ ฮ่ะฮ่ะ ยังเล่นกันน่ารักเหมือนเดิมเลยนะสองคนเนี้ย ”
“ น่ารักอะไรละครับ พี่ผึ้ง ไอ้ต่อมันชอบแกล้งผมอ่ะพี่ ”
“ เอาละๆ เอาตามนี้แหละ ตอนนี้ก็จัดการเรื่องเรียนให้เรียบร้อยไปก่อน ส่วนเรื่องงานเอาไว้ค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลังแล้วกัน ตอนนี้พี่ว่าเราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่า ” ผมมองตามพี่ผึ้ง ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงแสนดีขนาดนี้ จะมีกี่คนกันที่จะยอมยื่นมือเข้ามาช่วยคนที่ไม่ใช่ญาติกันได้ขนาดนี้
ตั้งแต่ที่ผมตัดสินใจมาทำงานในกรุงเทพแล้ว ถึงคนอื่นจะมองผมว่าผมเก่งแค่ไหน แต่ผมต้องยอมรับแบบไม่อายว่ามันก็ต้องมีความรู้สึกกลัว แล้วผมต้องโชคดีแค่ไหนถึงได้มารู้จักกับพี่น้องคู่นี้
“ อ้าวตามมาสิจ๊ะ น้องดิน แกด้วยเจ้าต่อแกจะยืนมองน้องดินให้ได้อะไรละ มาเร็วเด็กๆ ”
“ แหม สองมาตรฐานฉิบหาย พอพูดกับไอ้ดินนี้เสียงหวานหยดเลย แต่พอหันมาพูดกับผมนี้แทบจะแดกหัว ”
“ บ่นอะไรห๊ะ ฉันได้ยินนะ ให้ ไว”
“ ป่ะๆไอ้ดิน รีบไปเดี๋ยวจะโดนแดกหัวเอา ” ผมเหลือบตามองไอ้ต่อ ถึงมันจะต่อปากต่อคำหรือกวนตีนพี่ผึ้งแค่ใหน แต่ผมก็เห็นสายตาที่มันมองตามพี่ผึ้งว่าทั้งรัก และเคารพมาก พี่ผึ้งยิ้มบางๆส่งมาให้ พร้อมกับเดินมาจูงมือผมเมื่อเห็นว่าผมไม่เดินตามไป
“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละคะ ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องเกรงใจหรอก เนึ๊ยะถ้ายังทำหน้าแบบนี้อยู่พี่จะโกรธแล้วนะ ”
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วพี่ผึ้งก็พาพวกเราย้าย มานั่งในห้องทำงาน
“ เอาละ เรามาคุยกันจริงๆจังๆสักทีนะ พี่สังเกตุตั้งแต่ตอนนั่งทานข้าวแล้ว น้องดินมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า เล่าให้พี่ฟังได้ไหม ”
“ จริงๆ ที่ผมวางแผนไว้คือ ผมจะเข้ามาทำงานเก็บเงินก่อนปีหนึ่ง แล้วค่อยหาที่เรียนหนังสือ อย่างที่พี่รู้แหละครับ ว่าทางครอบครัวผมฐานะไม่ดี แล้วพ่อแม่ผมก็ไม่มีทุนที่จะส่งเสียผมได้ ถ้าผมอยากเรียนต่อผมต้องหาเงินส่งตัวเอง แต่พอมาเจอพี่ผึ้งกับไอ้ต่อ ผมเลยไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ”
“ เอาอย่างนี้ ถ้าดินกลัว เดี๋ยวพี่ให้ยืมตังค์ แล้วพอดินเรียนจบค่อยคืนพี่ดีไหม ”
“มันก็ดีครับ แต่ว่าผมเกรงใจ ”
“ มึงจะเกรงใจทำไม เขาไม่ได้ให้มึงฟรี ๆเขาให้ยืม มึงไม่ต้องคิดมากหรอก ปีๆหนึ่งเขาให้ทุนเด็กตั้งเท่าไหร แค่นี้ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงหรอก ” ไอ้ต่อพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
“ ถ้าอย่างนั้นผมขอรบกวนด้วยนะครับพี่ผึ้ง แต่อันดับแรกผมขอช่วยเหลือตัวเองก่อน แต่ ถ้าไม่ไหวยังไงผมจะบอกพี่นะครับ ”ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่ผึ้งแล้วหันไปส่งยิ้มให้ไอ้ต่อ
“ ถ้างั้นก็เอาตามนี้ น้องดินไปทำเรื่องเรียนให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเรื่องงานที่จะทำเอาไว้พี่จะหางานที่เหมาะสมให้ทำ แต่ตอนนี้ควรแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อน น้องดินก็ไปพักที่คอนโดต่อก่อน ”
“ ผมขอเข้าห้องน้ำแป็บหนึ่งนะครับ ”
ร่างของไอ้ดินหายเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ผมหันไปยิ้มให้พี่ผึ้งชึ่งพี่สาวคนสวยของผมก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนแล้ว พี่ผึ้งเขาเอ็นดูไอ้ดินมาก ตอนที่ผมเล่าให้ฟังว่าไอ้ดินจะเข้ามาทำงาน เขาแทบจะรับมันเป็นลูกบุญธรรม
ก็อย่างที่บอกไปไอ้ดินมันน่ารัก ใครเห็นก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าพี่ผึ้งรักมันซะยิ่งกว่าผม ผมจับปล้ำตั้งนานแล้ว ( ผมล้อเล่นครับใครจะทำอย่างนั้นกันละ) แต่นิสัยอย่างไอ้ดินมันขี้เกรงใจ ถ้าเสนอให้มันฟรีๆ มันไม่เอาหรอก แต่ถ้าให้ยืมแล้วผ่อนที่หลัง พอมีลุ้น ตอนที่พี่ผึ้งเสนอไปแล้วมันทำหน้าลังเล ผมนี้ลุ้นพอๆกับลุ้นผลสอบเข้ามหาลัยเลย ยิ่งตอนที่มันปฏิเสธพี่ผึ้ง แล้วพี่ผึ้งหันมาส่งสายตาให้ผมนะ
ผมอยากจะบอกไอ้ดินว่ามึงรับๆไปเหอะ เพราะถ้ากูกล่อมให้มึงเรียนพร้อมกูไม่ได้ กูนี้แหละจะเกิดปัญหา มันคงไม่รู้หรอกว่า การตัดสินใจของมันมีผลกับค่าขนมของผมนะเห้ย ผมอยากจะถามพี่ผมว่าถ้ารักขนาดนั้นทำไมไม่จีบมันสะให้รู้แล้วรู้ลอด เห้อออออ ต่อเหนื่อย
**********
อาทิตย์กว่าแล้วที่ผมมาอาศัยอยู่กับไอ้ต่อ ชีวิตประจำวันของผมก็ไม่มีอะไรมาก แต่จะเรียกชีวิตประจำวันคงไม่ได้ เพราะแต่ละวันกิจกรรมของผมแทบจะไม่เหมือนกันเลย ตื่นเช้ามาบางวันก็ทำอาหารให้ไอ้ต่อ บางวันก็เก็บผ้าที่คุณชายต่อทอดทิ้งไว้ไปซัก ความจริงไอ้ต่อมันไม่ให้ผมทำหรอกครับ มันบอกมีแม่บ้านมาทำให้ทุกอาทิตย์ แต่พวกคุณก็ต้องเข้าใจผมนะ ว่าผมอยู่เฉยๆเป็นที่ไหนละ
อย่างที่เล่าไปตั้งแต่ตอนต้นว่าฐานะทางบ้านผมไม่ดี ผมต้องทำงานทุกอย่างตั้งแต่เล็กๆ มันจึงทำให้ผมกลายเป็นคนอยู่นิ่งไม่เป็น นั้นแหละครับพอสายๆหน่อยก็แล้วแต่คุณชายต่อเลยครับ อยากพาไปไหนหรืออยากให้ทำอะไรก็แล้วแต่มันเลย แต่ 2 – 3 วันมานี้มันให้ผมเตรียมเอกสารเพื่อจะไปยื่นกับทางมหาวิทยาลัย มันบอกว่าคนที่ได้รับทุนเขาสละสิทธิ์กระทันหัน แล้วทางมหาวิทยาลัยเขาก็จะตัดทุนนี้ออกแล้ว ไอ้ต่อบอกว่าไอ้กานไปคุยกับอธิการบดีให้ผม ซึ่งผมคิดว่าไอ้กานมันต้องใหญ่ขนาดใหนถึงสามารถคุยกับอธิการบดีได้ แต่ผมไม่ได้ซีเรียสตรงนั้นหรอก แค่มันไปคุยให้ก็ดีใจมากแล้ว
จะว่าไปไอ้ต่อมันคบเพื่อนนี้มันคัดหน้าตาไหมนะ แต่ละคนนี้หน้าตาเหมือนสวรรค์สร้าง ผมไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กนะ ( ในความคิดผมนะ) แต่เวลายืนกับพวกมันนี้นึกว่าหลุมดำแต่ละคนจะสูงไปไหน ดีหน่อยว่าครามมันสูงสูสีกับผม ผมสูงกว่าด้วย ไอ้ต่อมันบอกว่าผมไม่จำเป็นต้องไปหาห้องเช่า มันบอกว่าผมสามารถอยู่กับมันได้จนเรียนจบ เลย แต่ผมทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ไม่ใช่ว่าผมอึดอัดที่จะอยู่กับไอ้ต่อ ผมแค่คิดว่าทุกคนต้องอยากมีพื้นที่ส่วนตัวทั้งนั้น เวลาอยู่กับไอ้ต่อเป็นยังไงนะเหรอ ก็……
“ ดิน ดิน ” มาแล้วครับสิ่งที่พวกคุณอยากรู้
“…… ”
“ ดิน ดิน อยู่ไหน ”
“ อยู่ในครัว ”
“ ทำอะไร ”
“ ก็เมื่อวานหมาที่บ้านกูอยากกินข้าวต้มกุ้ง กูเลยจะทำให้มันกิน ”
“ ว้าว มีความเป็นแม่บ้านแม่เรือนไปอีก ตั้งแต่มึงมาอยู่กับกูนิเหมือนกูมีเมียเลย ” ผมไม่ได้พูดต่อปากต่อคำกับมันหรอกครับ บอกได้คำเดียวว่าเบื่อที่จะเถียงกับมัน เมื่อเห็นผมไม่ตอบมันจึงเดินมาพิงสะโพกกับขอบประตูห้องครัว มองผมด้วยหัวฟูๆ ผมบอกพวกคุณไปแล้วไงว่าหน้าตาพวกมันเหมือนสวรรค์สร้าง ก็ดูอย่างไอ้ต่อตอนนี้สิ ขนาดพึ่งตื่นนอน ใส่แค่เสื้อกล้ามตัวบางๆกับกางเกงบอล แถมผมยังชี้ไม่เป็นทรงอีก ออร่ามันยังพุ่งขนาดนี้
“ ทำไมมองพี่อย่างนั้นละจ๊ะ แอบคิดอะไรกับพี่ในใจหรือเปล่าจ๊ะน้องดิน ”
“….. ”
“ ทำหน้าแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนปล้ำหรอก ” ผมไม่รู้หรอกว่าผมทำหน้ายังไง แต่ไอ้ต่อมันกางแขนแล้วพุ่งมาทางผมอย่างไว
“ หยุดไอ้ต่อ ”
“ อือ อีกนิดหนึ่ง ”
“ นิดหนึ่งบ้านมึงสิ จะแดกไหมข้าวนิ ถ้าไม่แดกกูจะได้เอาไปให้หมามันกินจริงๆ ”
“ กินสิจ๊ะเมียจ๋า เมียพี่อุส่าทำให้กินจะพลาดได้ไง”
“ แล้วกูบอกไปกี่ครั้งแล้วห๊ะ!! ว่าอย่าเรียกกูอย่างนั้น กูขนลุก และที่สำคัญนะ กูเป็นผู้ชาย กูมีแบบมึงทุกอย่าง มึงจะมาเรียกกูว่าเมียไม่ได้ ”
“ เออ ๆ กูล้อเล่นหน่อยเดียวทำไมต้องเกรี้ยวกราด แล้วเอกสารเตรียมครบหรือยัง ”
“ น่าจะครบนะ ก็ตามที่ไอ้กานมันส่งมาบอกนั้นแหละ ”
“ แล้ว…. ”
“ มึงจะแล้วว อีกนานไหม มากินข้าวก่อนเดี๋ยวค่อยคุย ”
“ คร้าบ คร้าบ ดุเหมือนเมียกูเลย ”
“ ถ้ามึงยังไม่หยุดเรียกกูว่าเมีย มึงจะโดนฝ่ามืออรหันต์แน่ ”
ตุ๊บ
“ โอ้ย ไอัดินถ้ามึงจะพูดพร้อมกับฟาดหัวกูขนาดนี้ อย่าใช้คำว่าจะโดนเลย แม่งฟาดมาได้สมองกูไหลมารวมกันหมดแล้วเนี้ย ”
“ เออ ตายๆไปสะ ”
“ ถ้ากูตายมึงจะเป็นหม้ายนะ ”
“ มึง ยัง ไม่ หยุด ใช่ไหม ห๊ะ!!”
“ หยอกๆ มาๆกินข้าวกัน ” แล้วสงครามในครัวก็จบลงที่ต่างฝ่ายต่างนั่งกินข้าวต้มของตัวเอง
ผมกินข้าวไปก็มองไอ้ต่อไป ผมมาคิดๆดูแล้วไอ้ต่อมันช่วยเหลือผมเยอะมากจนผมคิดว่า ชาตินี้จะหาเพื่อนแบบนี้ได้ที่ใหน
“ อะไรคือการนั่งกินข้าวไปมองหน้ากูไปครับ คุณดิน มีอะไรก็พูดมา ”
“ กูกำลังคิดว่าจะตอบแทนอะไรมึงได้บ้าง ”
“ อยากตอบแทนกูใช่ไหม ”
“ ใช่มีอะไรที่กูพอจะตอบแทนมึงได้ไหม ” พอผมพูดจบไอ้ต่อมันยิ้มครับ ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ จนผมรู้สึกกลัว
“ ถ้าอยากตอบแทนกู ก็ยอมเป็นเมียกูสิ ”
“…… ” เหวอไปเรียบร้อยแล้วครับหน้าผมนิ
“ ฮ่าๆๆๆ กู ล้อเล่น หน้ามึงอย่างตลก ”หลังจากมัน พูดจบผมก็ส่งนิ้วให้มันนิ้วหนึ่ง แล้วอย่าคิดว่าผมจะยกนิ้วโป้งให้แล้วบอกว่ามึงเยี่ยมมาก หึหึ ผมส่งนิ้วกลางให้มันสวยๆครับ
พอกินข้าวเสร็จผมก็ไปอาบน้ำ แล้วเอาเอกสารมานั่งตรวจอีกรอบ ก็วันนี้ไอ้กานจะพาผมไปยื่นเอกสารที่จะสมัครทุน ส่วนไอ้ต่อโน้นครับ พอกินข้าวเสร็จมันก็ไปนอนแผ่อยู่หน้าทีวีโน้น
??????
“ ต่อโทรศัพท์มึงดัง ”
“…… ”
“ ไอ้ต่อ ”
“ รู้แล้วๆ ” ไอ้ต่อเดินมาหยิบโทรศัพท์ที่เอามาวางไว้ข้างๆผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอน
*******
“ ว่าไงครับคุณชายกาน ”
( เสร็จหรือยังมึงน่ะ นี้กูมารอที่มหาลัยแล้วนะ)
“ ห๊ะ!! จริงดิกูยังไม่อาบน้ำเลย ”
( ไอ้เ-ี้ย ต่อ มึงรีบเลยนะ กูไม่น่าไว้ใจฝากดินไว้กับมึงเลย รู้งี้กูไปรับเองดีกว่า กูน่าจะเอะใจตั้งแต่ตอนไปรับดินแล้วว่าทำไมพี่ผึ้งย้ำนักย้ำหนา)
“ เออๆ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน ขอเวลาอาบน้ำ แป็บ”
@มหาลัย xxx
“ ดินไอ้ต่อ ทางนี้ ”
“ อะไรคือเรียกไอ้ดินเสียงนุ่มๆแต่หันมาเรียกกูเสียงแข็ง แล้วนี้พวกมึงมาทำไม กูจำได้ว่านัดแค่ไอ้กานไม่ใช่เหรอ ”
“ กูก็มาเป็นกำลังใจให้ดินไง ” ไอ้เบสตอบไอ้ต่อด้วยสีหน้ากวนๆ
“ กูก็เหมือนกัน แล้วถ้ากูไม่มากูก็คงไม่รู้ว่ามึงพาดินมาสาย แล้วดินเตรียมเอกสารครบแล้วใช่ไหม ” ครามหันมาถามผมหลังจากแขวะไอ้ต่อ
“ อือ น่าจะครบนะ ”
“ ป่ะดินเดี๋ยวกูพาไปยื่นเอกสาร ”
ผมเดินตามไอ้กานพลางคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้มาเจอไอ้ต่อกับพี่ผึ้ง แต่ตอนนี้คำว่าโชคดีสำหรับผมมันอาจจะน้อยไปเพราะนอกจากผมได้เจอไอ้ต่อกับพี่ผึ้งแล้วผมยังได้มาเจอเพื่อนแบบกาน เบส แล้วก็คราม กลับไปผมต้องไปทำบุญไว้เยอะๆ เผื่อเวลาอยู่ในมหาลัยจะได้เจอคนแบบพวกไอ้ต่อเยอะๆ
หลังจากยื่นเอกสารเรียบร้อยแล้ว กานมันก็อาสาพาผมและพวกไอ้ต่อเดินชมมหาวิทยาลัย ผมก็เดินตามมันไปหูก็ฟังไอ้กานอธิบายว่าอะไรอยู่ตรงไหน มันอธิบายได้หมด จนผมคิดว่ามันเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยหรือเปล่า
“ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไงดิน คิดอะไรกับกูไหมมึงอ่ะ ” ผมไม่รู้หรอกว่าผมทำหน้าอย่างไร ตอนที่มองไอ้กาน
“ เฮ้ย มึงจะนอกใจกูไม่ได้นะ ดินๆ เดี๋ยวกูกลับไปฟ้องพี่ผึ้ง ว่ามึงมองไอ้กานตาเป็นมันเลย ”
“ มึงจะบ้าหรือต่อ กูแค่สงสัยว่าไอ้กาน ทำไมมันรู้เรื่องมหาลัยดี จนคิดว่ามันเป็นเจ้าของมหาลัยเลยเนี่ย ”
“ แล้วไป แล้วกูก็เตือนมึงเลยนะไอ้ดิน ว่ามึงอย่าไปมองใครด้วยสายตาแบบนี้อีก ถ้ามึงไม่อยากได้ผัวโดยไม่รู้ตัว จะหาว่ากูไม่เตือนไม่ได้นะ และนี่พวกมึงจะไปไหนกันต่อป่ะเนี่ย กูกับดินต้องกลับไปหาพี่ผึ้งนะ เดี๋ยวไอ้ดินมันจะไปคุยเรื่องงานกับพี่ผึ้งอีก ”
“ กูไม่มี แต่กูกะว่าจะไปบ้านไอ้เบสซะหน่อย คิดถึงอาหารฝีมือแม่ ไม่ได้กินนานแล้ว ส่วนไอ้กานก็คงจะกลับไปตรวจเอกสารสิมึงน่ะ ” ฟ้าครามพูดขึ้นมาหลังจากที่ต่อถามจบ
“ เอกสารอะไรวะ อายุแค่นี้มึงต้องตรวจเอกสารแล้วเหรอ ”
“ น้องดินอย่ารู้เลย ไว้โตก่อนนะเดี๋ยวพี่ต่อจะบอก แต่ตอนนี้เราต้องกลับบ้านกันนะครับ เดี๋ยวจะพาไปหาพี่ผึ้ง ถ้างั้นกูกลับเลยนะพวกมึง แยกย้ายกันตรงนี้ ไว้เจอกันเว้ย ” พูดจบไอ้ต่อก็ลากผมกลับบ้าน ใช้คำว่าลากกลับบ้านจริงๆครับ เห้อ….
ตั้งแต่ไปยื่นเอกสารขอทุนกับทางมหาลัย ผมก็ลุ้นอยู่ว่าจะผ่านไหมแต่พวกไอ้ต่อนี้มันมั่นใจมากว่าผมจะได้ มีนัดกันจะไปฉลองทุนผมด้วยนะ
และตอนนี้ผมย้ายออกมาอยู่ห้องเช่าแล้วตอนแรกไอ้ต่อกับพี่ผึ้งไม่ยอมหรอก พี่ผึ้งบอกว่าถ้าไม่อยู่คอนโดกับไอ้ต่อก็พักที่ร้านอาหารพี่ผึ้ง
ผมบอกพวกคุณไปยังว่าผมได้งานทำที่ร้านพี่ผึ้งนั่นละ ตอนแรกพี่ผึ้งจะให้ผมเป็นผู้ช่วยพี่ชัย แต่ผมว่าไม่ดีกว่าเดี๋ยวคนอื่นๆเขาจะไม่ชอบขี้หน้าผม ผมจึงขอพี่ผึ้งทำในตำแหน่งเด็กเสิร์ฟ พอพี่ผึ้งยอมไอ้ต่อไม่ยอมอีกเกลี้ยกล่อมอยู่นานก็ไม่ยอม มันให้เหตุผลว่าผมเป็นเหมือนญาติมันคนหนึ่งทำไมต้องไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ( เห็นไหมครับว่าแต้มบุญผมเยอะขนาดไหนถึงได้มาเจอ 2 พี่น้องนี้)
จนผมต้องขู่ว่าถ้าไม่ให้ผมเป็นเด็กเสิร์ฟ ผมจะไปหางานที่ใหม่นั้นแหละครับมันถึงยอม ขนาดยอมแล้วยังไม่วายไปขู่พี่ชัยให้ดูแลผมดีๆ แล้วพี่ชัยก็บ้าจี้ตามมัน ผมแทบจะไม่ได้หยิบจับอะไรเลย จะว่าไปทำไมพี่ชัยถึงยอมไอ้ต่อขนาดนั้น ผมดูแล้วพี่ชัยจะยอมไอ้ต่อมากกว่าพี่ผึ้งซึ่งเป็นนายจ้างตัวจริงซะอีก
วันนี้เป็นวันที่ทางมหาลัยจะประกาศเรื่องทุนผม เมื่อคืนผมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ส่วนไอ้กานกับไอ้เบสก็มีโทรมาคุยบ้าง ส่วนครามมันไม่เคยโทรหรอกครับ มันเลือกที่จะส่งข้อความมาหาผม เหตุผลก็เหมือนเดิมครับ เสียงมันหวานเกินไป แต่จะว่าไปเสียงมันหวานจริงๆครับ ไม่ใช่หวานหยดย้อยเหมือนเสียงผู้หญิงแต่จะออกแนวนุ่มๆ ฟังแล้วเพลินดีผมยังคิดว่าผมหลงรักเสียงมันเลย เสียอย่างเดียวมันไม่ค่อยโทรมา มันจะแชทมามากกว่า