ผู้มีพระคุณ

4806 Words
มังกร พิทักษ์กิจ นั่นคือชื่อของผม อายุ 27 ปี เป็นเจ้าของกิจการโรงแรม หลายแห่ง ใครๆต่างก็อิจฉาผม ที่ผมประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 แต่ใครจะรู้ว่ากว่าผมจะมีวันนี้ได้ ผมต้องพิสูจน์ตัวเองมากแค่ไหน ด้วยความที่ ครอบครัวผมประกอบธุรกิจโรงแรม เกือบจะทุกภาคของประเทศไทย จึงทำให้ ใครๆคิดว่าผม เกิดมาบนกองเงินกองทอง ซึ่งจะมองอย่างนั้นก็ไม่ผิด เพราะผมเกิดมา ครอบครัวผมก็เจริญรุ่งเรืองแล้ว ผมไม่เคยลำบาก จึงทำให้ทุกคนคิดว่าผมทำอะไรไม่ได้ แต่ใครจะรู้ ว่าผมต้องช่วยที่บ้านทำงาน ตั้งแต่ผมเรียนมหาลัย ซึ่งไม่ใช่งานง่ายๆเลย สำหรับเด็กมหาลัย ที่ต้องบริหารงานโรงแรม ผมแทบไม่มีเวลานอน จนตอนนี้ โรงแรมทุกที่ พ่อให้ผมบริหารหมด ส่วนตัวพ่อเหรอ โน้นไปเที่ยวรอบโลกกับแม่อย่างสบายใจเฉิบ ทุกวันนี้ถ้าใครไม่รู้จักครอบครัวผม จะคิดว่าผมอยู่แค่กับภรรยาและลูก ไม่มีพ่อแม่ แต่จริงๆพ่อแม่ผมยังอยู่นะครับ และใช่ครับ ผมมีภรรยา และมีลูกที่น่ารักอยู่คนหนึ่ง ชื่อน้องของขวัญ และวันนี้เป็นวันเปิดโรงแรม อีกโรงแรมหนึ่งของผม “ ผมถึงโรงแรมแล้วนะวดี ” ( โอเคค่ะ วันนี้มังกรจะกลับมานอนบ้านไหมคะ) “ คงไม่ได้กลับนะครับ น่าจะนอนที่โรงแรมเลย วดีก็พาลูกเข้านอนได้เลยนะไม่ต้องรอผม ” ( ได้ค่ะ) “ ผมฝากบอกฝันดี ของขวัญหน่อยนะครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ ” หลังจากวาง สายจากภรรยา ผมกำลังจะเดินเข้าโรงแรมผมก็เหลือบไปเห็นผู้ชาย 3 คน กำลังจะพากันเดินไปขึ้นรถ ตอนแรกผมไม่ได้เอะใจอะไรหรอก เพราะผมเป็นคนไม่สนใจใครอยู่แล้ว แต่ในจังหวะที่ผมจะเดินผ่าน ผมรู้สึกว่าผู้ชายที่เดินตรงกลางท่าเดินแปลกๆแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปผมจะปล่อยผ่านไปแล้วแต่ดันเผลอไปสบตาเข้า แค่แว๊บเดียว ผมตัดสินใจหันหลัง เดินกลับเข้าไปในงาน แต่สายตานั้น มันทำให้ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ผมจึงย้อน กลับไปทางที่เดินผ่านมาเมื่อกี้ “ เดี๋ยวครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณจะไปไหนกันเหรอครับ ” “ พวกผมมารับเด็กคนนี้กลับนะครับ พอดีเสี่ยให้มารับ ” ผู้ชายที่พยุงอีกข้างหนึ่งตอบผม “ คุณอย่าสงสัยอะไรมากเลย เด็กขายทุกวันนี้อัพเกรดตัวเองขึ้นมาแล้วนะ ต้องมีคนมารับแหละ ” ผมมองไปเด็กผู้ชายที่บอกว่าเป็นเด็กขาย มันไม่แปลกทุกวันนี้เขาก็ขายกัน ผมไม่ได้สนใจหรอก ผมสนใจตรงแววตาของเด็กมัน แววตาดูอ้อนวอน ผมต้องทำอะไรสักอย่าง “ จะเป็นการเสียมารยาทไหมครับ ถ้าผมจะขอซื้อเด็กคนนี้ต่อ ” “ ไม่ได้หรอกครับผมซื้อมาแพง และถ้าผมไม่ได้เด็กไปส่งให้เสี่ยผม ผมต้องตายแน่ๆ ” “ คุณจะไม่ลองคิดดูก่อนเหรอครับ ” ผมเห็นแววลังเลในตาของผู้ชายสองคนที่หันไปสบตากัน “ ผมให้เวลาคุณ แต่อย่านานนักนะ เพราะผมอาจจะเปลี่ยนใจไม่ซื้อแล้ว ” ผมเห็นสองคนหันไปปรึกษากัน ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคุยอะไรกัน เพราะตอนนี้ผมมองแค่เด็กผู้ชายที่เขาบอกว่าเป็นเด็กขาย และเด็กคนนั้นมองผมอย่างมีความหวัง “ กูว่าขายๆให้เสี่ยเขาไปเหอะว่ะ เราเอาไปส่ง ก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินหรือเปล่า ถ้าขายให้เสี่ยตอนนี้ อย่างน้อยเราก็ได้แน่ๆ ” “ เอาไงก็เอากัน เสร็จแล้วกูจะได้หนีกลับบ้านกูสักที ” “ ตกลงคุณจะซื้อใช่ไหม ผมจะได้เอาไปส่งให้ที่ห้องคุณเลย ” “ ถ้างั้น คุณเอาไปส่งไว้ห้องเบอร์นี้เลยนะครับ ผมขอจัดการงานข้างล่างให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวผมตามขึ้นไป ” หลังจากที่ ผมจ่ายเงินให้ผู้ชาย 2 คนเสร็จ แล้วให้เขาขึ้นไปส่ง เด็กขายไว้บนห้องผม ผมก็โทรหาเพื่อนผมทันที รอสักพักฝ่ายนั้นก็รับสาย ( ว่าไงครับเสี่ย ให้ไปส่งเมียนะครับ ไม่ใช่หนีออกจากงานไปเลย) “ มึงอย่าเพิ่งพูดมาก มึงยังอยู่ในงานใช่ไหม ออกมาหากูที่ลานจอดรถหน่อย ” ( เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นป่ะ กูต้องพาลูกน้องไปด้วยไหม ) “ พามาด้วย ” ( เอาแล้วไงมึงเสี่ยมังกร เปิดงานวันแรก มึงก็โดนซะแล้ว รอแป๊บกูกำลังออกไป ) “ แค่นี้ เร็ว ” หลังจากที่วางสายแล้วผมก็ยืนรอสักพัก ใจจริงผมอยากตามขึ้นไปดูเด็กคนนั้นแต่ผมต้องรอเพื่อนผมมาก่อน หลังจากเพื่อนผมวิ่งกระหืดกระหอบออกมา ผมก็คุยให้มันฟังสักพัก คุยกับเพื่อนพอบอกรูปพรรณสัณฐานเสร็จกำชับว่าให้ทำเงียบที่สุดผมไม่อยากให้คนอื่นรู้แล้วโรงแรมผมจะเสียเครดิต ผมก็รีบขึ้นไปดูผู้ชายบนห้อง ใครที่คิดจะมาทำอะไรไม่ดีในโรงแรมผมง่ายๆ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกจะได้รู้กัน ว่าโรงแรมผมน่ะ มาตรการความปลอดภัยมันขนาดไหน แล้วพวกมันเป็นใคร จะมาซื้อขายกันง่ายๆในโรงแรมผม พวกมันยังรู้จักเสี่ยมังกรน้อยไป ภายในห้องพัก ผมเปิดประตูเข้าไปช้าๆ มองเห็นเด็กขาย นอนอยู่บนเตียง แต่ผมว่า ท่านอนของเขาแปลกๆ “ ทำไมหอบขนาดนั้นวะ เป็นอะไรหรือเปล่า ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ เดินเข้าไปจับตัวเขา “ ตัวร้อนอะไรอย่างนี้วะ ” “ ร้อนผมร้อน ” เด็กนี้บ่นออกมา ผมจึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนที่เป็นหมอ “ ไอ้หมอ ” ( ใจเย็นๆนะไอ้เสือ มึงให้กูกล่าวคำทักทายก่อน) “ ไว้ค่อยทักทายทีหลัง ตอนนี้กูมีเรื่องให้มึงช่วย ” ( มีอะไรว่ามา) “ มันมีเด็กคนหนึ่ง เหมือนจะโดนวางยามา แต่กูไม่รู้ว่ามันเป็นชนิดไหน ตอนแรกที่กูเจอเหมือนจะพูดไม่ได้ แต่ตอนนี้บอกว่าร้อน กูต้องทำยังไงวะ ” ( เฮ้ย กูว่ามันต้องใช่ยาตัวนั้นแน่เลย ที่มันกำลังระบาดอยู่ตอนนี้ คืองี้นะ คนที่โดนยาตัวนี้ ตอนแรกจะรู้สึกชา สักพักจะรู้สึกมีความต้องการมาก มันต้องได้รับการปลดปล่อยนะเว้ย ไม่งั้นอาจจะช๊อคได้) “ ฉิบหายละ แล้วกูจะทำยังไงวะเนี่ย ” ( ใจเย็นๆนะไอ้เสือ อันดับแรกนะ มึงทำให้เขา….) “ ร้อนผมร้อน ” ผมยังคุยกับไอ้หมอไม่ทันจบเลย แต่ตอนนี้คนบนเตียง ถอดเสื้อผ้าตัวเองออก จนเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวบาง “ เฮ้ยไอ้หมอ แค่นี้ก่อนนะ ” ผมวางสายจากไอ้หมอแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งซุ่มๆไป เดินเร็วๆไปที่เตียงนอน ผมรู้แล้วว่าเด็กนี้โดนวางยาแน่นอน ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเจอ แต่ปัญหาคือผมจะทำยังไงให้เขาสงบลง และที่ผมอยากบอกผมไม่ใช่คนดีพอที่จะช่วยใครฟรีๆ “ ใจเย็นๆนะคุณ หายใจเข้าลึกๆ ลุกไหวไหมเดี๋ยวผมจะพาไปอาบน้ำ ”เด็กนี่เหมือนจะว่าง่าย มันลุกคับ แต่ลุกมาเกาะผมเนี่ย “ ช่วย…. ช่วยผมหน่อยนะ ”ปากก็พูดอ้อนวอนให้ผมช่วย มือหนึ่งยึดไหล่ผมเป็นที่พิงส่วนอีกมือมันเลื้อยไปตามเนื้อตัวมัน “……. ” ผมพยายามอดทน พยายามห้ามตัวเอง ภาพตรงหน้า ปลุกเร้าอารมณ์ผมไม่ใช่น้อย “ ผมเป็นอะไร มันร้อน ร้อนตรงนี้ ” เอาล่ะครับผมว่าผมเจองานใหญ่แล้วแหละ ก็เด็กมันเล่นพูดไปกัดปากไป แถมมือมันก็อยู่ไม่นิ่ง ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะไม่จับมันเหวี่ยงลงเตียงอีกครั้ง “ คุณอยู่นิ่งๆก่อนนะเดี๋ยวผมจัดการเอง ” “ คุณครับ ช่วยผมหน่อย นะ ผมขอร้อง ผมทนไม่ไหวแล้ว ” “ ใจเย็นๆ ค่อยๆเดิน เดินไหวไหม ” “ ไม่ผมเดินไม่ไหวผมไม่มีแรง ” ผมตัดสินใจอุ้มเด็กคนนี้เข้าไปในห้องน้ำ วางใต้ฝักบัว แล้วผมก็เปิดน้ำเย็นราดตัวเขา “ ร้อน คุณช่วยผมหน่อย ”ไม่พูดเปล่า ไอ้เด็กนี่มันจับมือผม ไปวางตรงแกนกลางของมัน ซึ่งร้อนมาก และแข็งมาก “ ใจเย็นนะครับหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ อย่างนั้นแหละครับ เด็กดี เดี๋ยวผมจะช่วย ” ผมค่อยๆรูดรั้งแกนกายคนตรงหน้า ซึ่งผมคิดว่าคงไม่เคยผ่านมือใคร แม้กระทั่งมือเจ้าของเอง เพราะดูท่ายังไง เด็กคนนี้ คงจะไม่เคยจริงๆ ผมค่อยๆรูดรั้ง จากจังหวะช้าๆ เป็นเร็วขึ้น “ อาาห์… เร็ว เร็วอีกนิด ” เด็กนี้มันร้องขอพร้อมทั้งช้อนตาที่ปรือปรอย ขึ้นมามองผม ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้จังหวะมือผมชะงัก “ หยุด… หยุดทำไมครับ ช่วยดินที นะ นะครับ ” อาา ชื่อดินสินะ ผมกัดฟันจนแทบจะหัก เด็กนี้มันคิดว่าผมเป็นรูปปั้นหรือไงว่ะ มันคงไม่รู้หรอกว่าสภาพมันตอนนี้กับการเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อมันน่าขยี้ขนาดไหน ผมพยายามไม่มองหน้ามันขณะที่ช่วยมันปลดปล่อย แต่มันไม่ให้ความร่วมมือซักนิด มือมันเลื้อยไปตามหน้าท้องผม เลื้อยต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงขอบกางเกง “ ดินอยู่นิ่งๆ ” ผมดุคนตรงหน้าด้วยเสียงสั่นๆ ให้ตายเถอะตั้งแต่เกิดมา นายมังกรยังไม่เคยที่จะใช้ความอดทนขนาดนี้เลย ผมรูดรั้งแท่งร้อนสลับกับใช้นิ้วคลึงตรงปลายที่มีน้ำใสๆเยิ้มออกมา ผ่านไปสักพัก ไอ้เด็กนี่ก็เกร็ง ร่างกายกระตุก 2 – 3 ที่พร้อมกับปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มมือผม เจ้าตัวทรุดฮวบลงดีที่ว่าผมรั้งเอวบางไว้ได้ทันไม่งั้นคงได้แผลจากการที่เข่ากระแทกพื้น แน่นอน “ ไม่พ.. มันยังไม่พอ ” ผมได้ยินเด็กตรงหน้าพึมพำเบาๆ พร้อมทั้งชักรูดแกนกลางลำตัวของตัวเองไปด้วย ผมพอรู้มาว่าถ้าใครโดนยาเข้าไปแค่ครั้งเดียวมันไม่พอหรอก “ เอาล่ะ ผมจะช่วยคุณเอง ” ผมประคองคนตัวบางลงไปแช่ในอ่างซึ่งผมเปิดน้ำใส่จนเต็มแล้ว “ อาห์…. ” ผมมองภาพตรงหน้าแล้วต้องรีบเดินออกไปหาน้ำแข็งเพื่อจะทำให้เด็กดินสงบ ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจกระโจนลงอ่างตามเด็กมันแทน ผมเดินออกมาจากห้องน้ำถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอว ตรงไปตู้เย็นแล้วเปิดออก ให้ตายเหอะไม่มีอะไรเลยนอกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอ กำลังจะเดินไปหยิบโทรศัพท์สั่งพนักงาน แต่….. “ คุณครับช่วย ดิน หน่อยนะครับ ” ผมบอกแล้วใช่ไหม ว่าผมไม่ใช่รูปปั้น ความอดทนผมขาดลงในจังหวะที่เด็กดิน สวมกอดผมแล้วแหงนหน้ามองผมด้วยตาที่ฉ่ำน้ำ ผิวกายร้อนที่มีหยดน้ำเกาะพราวแนบเข้ากับร่างกายผม ผมตัดสินใจแล้ว! ผมช้อนอุ้มตัวเด็กดิน ไปวางบนเตียง “ คุณแน่ใจนะ ว่าจะให้ผมช่วย ” “……. ” ไม่มีเสียงตอบจากคนด้านล่างนอกจากใบหน้าที่ขยับขึ้นลงเป็นเชิงตอบรับ “ คุณจะไม่เสียใจทีหลังใช่ไหม ” “ ไม่ผมไม่เสียใจ ” เสียงตอบรับที่เบาหวิวพร้อมสีหน้าที่ทรมารส่งมาให้ผม “ ได้ ” ผมดันดินนอนราบไปกับเตียงแล้วทาบร่างตามลงไป ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ใช่รูปปั้น แล้วการที่มีเด็กตัวขาว ปากแดงมาขอร้องให้ผมช่วยเรื่องอย่างว่า คุณคิดว่าผมจะทนได้เหรอ ……………….. “ คุณ ” “ มังกรเรียกผม ว่ากร ” “ กรครับช่วยดินนะ ” ผมนอนหอบหายใจมองคนที่คร่อมทับเหนือร่างผม ผมรู้ว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นแต่ผมควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้ เสี่ยมังกรค่อยๆลูบตามแนวสันกรามผม แล้วดันคางผมขึ้นให้สบตา “ ผมจูบคุณได้ใช่ไหม ” “ ครับ ” หลังจากที่ผมตอบรับเสี่ยมังกรก็ประกบปากลงมาที่ปากผม อย่างร้อนแรง ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ ได้แต่เปิดปากเพื่อหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดและจังหวะนั้นลิ้นร้อนของอีกฝ่าย ก็ส่งเข้ามาหยอกล้อลิ้นผม กวาดต้อนไปทั่วโพรงปาก ยิ่งผมหดลิ้นหนี เขาก็ยิ่งตามมาเกี่ยวกลับไป ผมรู้สึกดีเป็นบ้า ผมมองตามเสี่ยมังกรที่ผละออกจากปากผมแล้วกดจูบไปตรงไหปลาร้าไล่ตามมือลงไปเรื่อยจนถึงยอดอก “ อาาห์ ”ผมครางออกมาลั่นห้องเพื่อบรรเทาอาการเสียว เมื่อเสี่ยมังกรดูดเม้มเม็ดสีอ่อนตรงกลางอกผม ส่วนมือขวาก็ขยี้ลงตรงเม็ดสีอ่อนอีกข้างเหมือนกลัวจะน้อยหน้า ผมบิดตัวเพื่อบรรเทาอาการที่เป็นอยู่ เสี่ยมังกรผละออกจากยอด อกผมเงยหน้าขึ้นมามองสบตา “ ทำไมน่ารักขนาดนั้น ” ผมไม่รู้หรอกว่าผมทำหน้าแบบไหน “ อึก… อื้ม.. ” เสี่ยมังกรละ จากยอดของผมไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ครอบปากตรงกึ่งกลางตัว ดูดดึงเบาๆจากจังหวะช้าๆและขยับเป็นเร็ว “ อาาห์ ”ผมใช้สองมือขยุ้มเส้นผมคนที่คร่อมเหนือร่างผม “ ชอบใช่ไหมแบบนี้ใช่ไหม ” “ อึก.. อาห์ แรงอีกได้ไหม ” ผมรู้สึกว่าสมองขาวโพลนเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่บริเวณท้องมากมาย ร่างกายผมเกร็งกระตุกแล้วก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มปากเสี่ยมังกร ผมทิ้งตัวลงกับที่นอนหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดเหมือนผมจะหมดแรง แต่เปล่าเลยตรงบริเวณกึ่งกลางลำตัวมันยังคงแข็งค้าง ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง “ ยังไม่จบเหรอว่ะ ” ผมได้ยินเสียงเสี่ยมังกรสบถออกมาเบาๆ “ ……… ” “ นี่คือต้องลงมือทำจริงๆใช่ไหม ” ตอนนี้ผมรู้สึกร้อนและปวดตรงกลางลำตัวมากจนต้องส่งมือไปนวดคลึงให้หายปวด “ สงสัยต้องทำให้สงบ ” ผมได้ยินเสี่ยมังกรพึมพำกับตัวเอง แล้วเสี่ยมังกรก็ยกขาผมขึ้น คายน้ำที่ผมปล่อยเข้าปากเสี่ยออกมาใส่ฝ่ามือแล้วนำไปลูบตรงช่องทางด้านหลังของผม “ โทษทีนะดิน ผมไม่รู้ว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ผมไม่ได้เตรียมอะไรไว้ ใช้ของคุณไปก่อนแล้วกัน ”เสี่ยมังกรลูบวนเบาๆ ตรงช่องทางข้างหลังผมแล้วค่อยๆกดนิ้วเรียวยาวเข้าไปช่องทางคับแคบ “ เจ็บ ” “ หยุดไหม ” “ ไม่.. ไม่.. ไม่หยุด ” ผมได้ยินเสียงบด ฟันของเสี่ยมังกร เสี่ยมังกรถอดนิ้วออกไป แล้วดันเข้ามาอีกรอบผมรู้สึกเจ็บ ทั้งเจ็บทั้งจุกมันคับแน่นไปหมดเสี่ยมังกรควงมือทั่วๆจนไปเจอจุดหนึ่งผมรู้สึกดีเป็นบ้า “ อร้างงง ” “ ตรงนี้สินะ ”แล้วเสี่ยมังกรก็กระแทกจุดนั้นซ้ำๆ “ ไม่.. ไหว…อึก… เสียว ” เสี่ยมังกรกระแทกซ้ำจุดเดิมอยู่หลายครั้งผมรู้สึกว่าแค่นี้ยังไม่พอ “ คุณ… ” เสี่ย มังกร เงยหน้าขึ้นมองผม ผม ได้ยินเสียงบดกันของฟันดัง “ ให้ ตาย เถอะ ผม จะ ทนไม่ไหว แล้ว” “ อาห์ มากว่านี่ได้ไหมครับ ” “ ได้ ได้ เลย ”ผมได้ยินเสี่ยมังกรคำรามลั่น นี้เขาไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่า เสี่ยมังกรถอดนิ้วออกจากช่องทางด้าน ทำให้ผมต้องผวาตาม หมับ “ ดินอย่าทำแบบนี้ ”เนื่องจากผมต้องการปลดปล่อยจึงตามไปปลดผ้าขนหนูออกจากเอวสอบ พร้อมทั้งจับท่อนไฟร้อนที่ขยายจนคับมือผม “ ขอ ผมขอนะครับ ” “ ผมจะไม่ทนแล้ว ”เสี่ยมังกรผลักให้ผมนอนราบกับเตียงอีกครั้ง จับขาซ้ายผมขึ้นพาดบ่า มือหนึ่งรูดรั้งตามแก่นกายอีกมือเลื่อนมาจับเอวผมไว้ แล้วเอาท่อนไฟร้อนถูตรงช่องทางด้านหลังผม …………….. หลังจากผมถูไถหยอกล้อช่องทางสีสวยจนเห็นว่าคนด้านล่างผมพร้อมแล้วผมก็ค่อย ๆ กดส่วนใหญ่โตเข้าไป “ อึก ” น้ำใสๆไหลหล่นจากหางตาคนร่างบางทำให้ผมหยุดชะงัก นี้ผมทำอะไรลงไป ผมกำลังจะเอาเปรียบเด็กนี้ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่มีสติ ผมดึงส่วนใหญ่โตออกแล้วพลิกไปนั่งพิงหัวเตียงพลางหลับตาเพื่อระงับอารมณ์ “ เฮ้ย!! ” ดินตามมาคร่อมทับบนตักผมจับท่อนไฟร้อนจ่อตรงปากทางเข้าแล้วกดตัวลงมาในครั้งเดียว “ อึก… ฮือ.. ” เสียงสะอื้นมาพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม ผมกระชากคนตรงหน้ามาจูบอย่างร้อนแรง กั้นเสียงคำรามของตัวเอง แรงบีบรัดจากช่องทางที่ทั้งอ่อนนุ่มและร้อนทำให้ผมทนไม่ไหว “ ดะ.. ดิน … ครับ … คุณต้อง… ขยับ ” “ อาห์.. ไม่.. ไหว.. ผม… ทำ.. เฮือก… ไม่เป็นไร.. ” เสียงกระชิบแหบพร่าบวกกับการขยับตัวเงอะงะ ทำผมแทบจะเสร็จเดี๋ยวนี้ ผมผลักดินนอนราบกับเตียงอีกครั้งพร้อมทั้งขยับร่างกายตามไป ฟึ่บๆๆ “อาห์… ตรงนั้น.. แรง.. อีก.. ” ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความใหญ่โตของผมหรือว่าท่วงท่าที่ทำอยู่ ที่ทำให้ผมกระแทกโดนจุดอารมณ์ของคนร่างบาง “ อาห์ สุดยอด เลย ”ยิ่งผมขยับแรงร่างขาวยิ่งเปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้มขึ้นๆ กึก กึก กึก ผมไม่ได้สนใจเสียงเตียงที่กระทบกับพื้น ผมสนใจแค่ร่างขาวตรงหน้า “ ถ้า… ผม.. ทำแรง… กว่านี้.. คุณไหว… ไหม… ” “ ไหว ดิน ไหว ” ดินตอบไม่เป็นภาษา แรงตอดรัดถี่ๆทำให้ผมรู้ว่าดินใกล้จะถึงปลายทางแล้ว ผมเร่งจังหวะ แล้วก้มลงไปจูบปิดเสียงครางทั้งของผมและดินก่อนที่ดินจะกระตุกแล้วปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะหน้าท้องของเราทั้งสอง ผมกระแทกเอวหนักๆอีก 2 – 3 ทีก็ปล่อยน้ำอุ่นร้อนเข้าไปข้างในตัวดิน ดินปรือตาขึ้นมามองผมก่อนจะค่อยๆหลับไปพร้อมกับจังหวะการหายใจสม่ำเสมอ นั้นแสดงว่าดินเหนื่อยจนหลับไปทั้งที่อาวุธคู่กายยังไม่สงบ ผมค่อยๆถอดกายออกช้าๆ น้ำที่ไหลออกมาตามแกนกายผมมีสีน้ำตาลปน นี้ได้เลือดเลยเหรอ ผมอุ้มร่างบางเข้าห้องน้ำอีกครั้ง เพราะถ้าให้หลับไปทั้งอย่างนั้น พรุ่งนี้ไข้ขึ้นแน่นอน หลังจากที่ทำความสะอาดทั้งภายในภายนอกแล้ว ผมจับให้ใส่ชุดคลุมอาบน้ำแล้วอุ้มไปนอนที่เตียงก่อนจะเข้าไปอาบน้ำบ้าง ผมไม่ใช่คนดีที่ต้องทำความสะอาดให้คู่นอนหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมหรอกนะครับ แต่เด็กดินนี้กรณียกเว้น ????? ผมเดินหาโทรศัพท์ที่ผมโยนทิ้งไว้ไหนก็ไม่รู้ ผมมองหน้าจอที่แสดงเวลาตีหนึ่งกว่าๆ นี้ผมใช้เวลาในการที่จะทำให้เด็กดินสงบ 4 ชั่วโมงกว่าเลยเหรอ ปานนี้ในงานจะเป็นอย่างไรบ้าง ‘ สายเรียกเข้าจากหมวดตาหวาน ’ “ เป็นไงบ้างมึง ทุกอย่าง เรียบร้อยใช่ไหม ” ( เรียบร้อยดี กูพึ่งส่งต่อให้ร้อยเวร แล้วงานมึงเป็นไงบ้าง ) “ กูแจ้งผู้จัดการโรงแรมไปแล้ว ว่ากูไม่กลับเข้าไปในงานอีก ” ( ดีแล้ว แขกจะได้ไม่ต้องตกใจ เด็กนั่นเป็นไงบ้าง กูขอขึ้นไปดูหน่อยได้ไหม) “ ไม่ ไม่ได้ ” ( ดูลนนะ เป็นอะไรหรือเปล่า) “ เปล่า เด็กนั่นหลับไปแล้ว ขึ้นมาตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังไงก็ต้องรอให้ตื่นก่อน มึงรู้ไหมว่าเด็กนี้เป็นใคร ” ผมปฏิเสธไอ้นนท์ไป ตอนนี้ ผมไม่อยากให้ใครขึ้นมาเห็นสภาพเด็กนี้ ( กู เค้นจากไอ้สองคนนั้น มันบอกว่าเป็นพนักงานจากร้านอาหารผึ้งน้อย) “ อือ ถ้างั้นแค่นี้นะ ฝากให้มึงดูแลจัดการต่อด้วย ” ( ถ้างั้นกูกลับเลยนะ แล้วก็ ยินดีด้วยกับการเปิดสาขาใหม่ ) “ ขอบใจมากนะนนท์ ” ( เพื่อนกัน คิดอะไรมาก) หลังจากที่วางสายจากไอ้นนท์แล้ว ผมก็โทรบอกให้ ผู้จัดการโรงแรม เอายาแก้ปวดแก้อักเสบ ยาทาภายใน ขึ้นมาให้ผม ถึงผมจะไม่ใช่คนดี แต่ผมคงไม่ใจร้ายพอ ที่จะปล่อยให้เด็กนั่น นอนทั้งอย่างนั้นหรอก ส่วนเรื่องร้านอาหารผึ้งน้อย ผมก็คงปล่อยให้ มันเป็นเรื่องภายในของเขาเองเขาจะจัดการยังไงผมไม่ขอยุ่ง รออยู่ไม่นาน ผู้จัดการโรงแรม ก็เอาสิ่งที่ผมต้องการมาให้ ผมเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง ชั่งใจอยู่นาน ว่าจะปลุกให้ขึ้นมากินยา หรือว่าจะรอให้ตื่นก่อน “ ดิน ดินครับ ตื่นขึ้นมากินยาก่อน ” ผมเขย่าตัวเบาๆ มีเสียงครางตอบรับเบาๆ แต่ไม่มีการขยับตัว ผมเดินไปรินน้ำใส่แก้ว แล้วตัดสินใจพยุงตัวขึ้นนั่งพิงอก “ ดินกินยาก่อน ” แต่เด็กดินไม่แม้แต่จะอ้าปาก ยังไงก็ต้องเอายาให้กินให้ได้ ผมตัดสินใจ โยนยาเข้าปากผม แล้วอมน้ำตามไปอีกอมหนึ่ง แล้วใช้มือบีบปาก เด็กดิน ประกบปากลงไป แล้วใช้ลิ้น ดัน เม็ดยา ให้ค่อยๆไหลลงไป ในลำคอพร้อมกับน้ำ ดินไอออกมาเล็กน้อย แต่ไม่มีเม็ดยาตามออกมา ผมจึงค่อยๆวางลงกับที่นอน แล้วเปลี่ยนไปดูช่องทางด้านหลัง “ โอ้โห ถึงกับฉีกเลยเหรอวะ พรุ่งนี้จะเดินไหวไหมเนี่ย ” หลังจากทายาให้ดินแล้ว ผมก็ไปอาบน้ำ เตรียมตัวนอน ไม่ไหวแล้ว วันนี้ผมเหนื่อยมาทั้งวัน ไหนจะต้องมาออกแรง ช่วยเด็กดิน ให้สงบลงอีก ลมล้มตัวลงนอนหันหลังให้ดิน เวลานอน ผมไม่ชอบนอนร่วมเตียงกับใคร ตอนแรกว่าจะไปเปิดอีกห้อง แต่ไม่ไหว ผมเพลียมากจริงๆ ก่อนที่ผมจะหลับไป ผมได้ยินเด็กดิน มันครางออกมาเบาๆ คงเจ็บน่าดู พรุ่งนี้ค่อยคุย วันนี้ขอนอนก่อนแล้วกัน **************** ผมตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดร้าว ทั้งร่างกาย โดยเฉพาะช่องทางด้านหลัง ผมหันมองไปรอบๆห้อง ผมยังอยู่ในห้องของโรงแรมเสี่ยมังกร ผมจำได้ลางๆว่าเมื่อคืน เกิดอะไรขึ้น ผมโดนวางยา และกำลังจะถูกนำไปขาย แต่ในความโชคร้ายพระเจ้าคงจะเห็นใจผมอยู่บ้างจึงส่งเสี่ยมังกรมาให้ แต่จะเรียกว่าโชคดีก็ไม่ได้อีก เพราะผมต้องแลกมากับความบริสุทธิ์ของผม ผมรู้ว่าเสี่ย มังกร ซื้อผมต่อจากผู้ชายสองคนนั่น เพราะ ถึงผมจะโดนวางยา ผมก็มีสติทุกอย่าง เพียงแต่ผมควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ เสี่ยมังกร เป็นนักธุรกิจ เขาคงไม่คิดจะช่วยผมเปล่าๆ ถ้าเขาไม่คิดว่า จะเอาผมจริงๆ เขาคงปล่อยให้ผม โดนพาขึ้นรถไปแล้ว ผมไม่ได้หวังว่า ตื่นมาแล้วมันจะกลายเป็นความฝัน และไม่คิดว่าจะตื่นมาเจอเสี่ยมังกรด้วย ป่านนี้เขาก็คงจะกลับไปหาลูกเมียเขาแล้ว ผมถอนหายใจ เอาลมร้อนออกจากปอด รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัว ผมต้องไม่สบายแน่ๆ ผมกัดฟันพาตัวเองลุกขึ้น เห็นเสื้อผ้า ชุดเมื่อคืนของผม วางอยู่ปลายเตียง ผม เดินตรงไปยังห้องน้ำ ผมไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมหมดสติไปตอนไหน จริงๆผมไม่อยากอาบน้ำหรอก ผมรู้สึกปวดหัว แต่มันไม่ไหวจริงๆ ผมรู้สึกเหนียวตัวไปหมด ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นาน ก็เรียบร้อย “ อุ้ย !! ตาเถร ขอโทษค่ะ ป้าไม่รู้ว่ามีแขกอยู่ ป้านึกว่าเช็คเอ้าท์ออกไปแล้ว ” “ ไม่เป็นไรครับป้า ขอโทษครับ นี่กี่โมงแล้วครับ ” “ 11 โมง จะเที่ยงแล้วค่ะ ” นี่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนไม่ได้ยินเสียงป้าที่เข้ามาทำความสะอาดห้องเลยเหรอ “ แล้วร้านอาหาร ที่มาจัดงานเมื่อคืนน่ะครับ เขากลับกันหมดหรือยัง ” “ ป้าไม่รู้หรอกค่ะ ป้าพึ่งจะมา ” “ อ่อ ครับ ขอบคุณป้ามากครับ ” “ ถ้างั้นป้าไปทำห้องอื่นก่อนค่อยย้อนมาใหม่ คุณจะได้แต่งตัว ” “ ครับ ” หลังจากผมจัดการตัวเองเรียบร้อย ผมก็ลงลิฟท์ลงมาชั้นล่าง “ นี้ๆ เมื่อคืนน่ะ มีคนมาส่งเด็กให้เสี่ยมังกรด้วยแหละ ฉันน่ะอิจฉาเลย ” “ ฉันไม่เข้าใจว่า เขาคิดอะไรของเขา เมียก็สวยแสนสวย ลูกก็น่ารัก ยังมีกระจิตกระใจซื้อเด็กขึ้นมานอนด้วยอีก ” “ นั่นน่ะสิ เด็กนั่นมันเป็นใคร ” “ ก็คงจะเป็นเด็กขายรายใหม่นั่นแหละ แต่อย่าคิดเลยว่าเขาจะจริงจัง เขาก็แค่เอามาแก้ขัดแหละมั้ง ” “ เนี่ยฉันก็ได้ข่าวมาว่าคุณมังกร ออกไปตั้งแต่เช้า ” “ ป่านนี้เด็กนั่นยังไม่ลงมาเลย คงจะโดนหนักแหละเมื่อคืนเนี่ย ” “ ฉันอยากเจอหน้าจริงๆ ” “ คงจะงั้นงั้นแหละ ไม่งั้นคุณมังกร คงไม่หนีกลับไปแบบนี้หรอก ” “ ไอ้เด็กนั่นมันคิดว่ามันเป็นใคร จะเลยเวลาเช็คเอาท์อยู่แล้ว ยังไม่ออกมาอีก ” “ คงคิดว่าคุณมังกรจะกลับมาหาสินะ ” “ ดีนะ ที่เป็นคุณมังกรพามา ถ้าเป็นคนอื่นฉันอยากจะขึ้นไปดูหน้าจริงๆจิตใจทำด้วยอะไร รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว ยังจะมาเสนอขายให้เขาอีก ” ผมหยุดยืน ฟังพนักงาน 2 คนกำลังคุยกัน เมื่อเขาหันมาเห็นผมก็หยุด แล้วหันมามองหน้า แล้วก็เงียบเสียงไป ในจังหวะที่ผมจะเดินพ้นล็อบบี้ “ คุณคะ คุณใช่คนที่ มากับร้านอาหารผึ้งน้อยไหมคะ ” “ ใช่ครับ ” “ พอดีมันเหลือกระเป๋าใบหนึ่งอ่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช่ของคุณหรือเปล่า หรือถ้าไม่ใช่ ยังไงรบกวนคุณ เอากลับไปคืน เจ้าของเขาด้วยนะคะ ” “ ได้ครับ ”ผมยื่นมือไปรับกระเป๋า แล้วหันหลังเดินจากมา ผมควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ไม่มีข้อความ ไม่มีสายเรียกเข้าจากไอ้ต่อ นี่แสดงว่ามันไม่รู้ว่าเกิดอะไร กับผม ก็ดีแล้วแหละ มันจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง มันยิ่งขี้โวยวายอยู่ ผมเดินออกมาเรียกแท็กซี่ ให้กลับไปส่งที่หอพัก โทรบอกไอ้ต่อว่าวันนี้ไม่เข้ามหาลัย มันก็โวยวายนิดหน่อย เพราะมันกำลังจะขับรถออกมารับผมพอดี แต่ผมปฏิเสธไปแล้วผมไม่อยากให้ใครมาเจอผมสภาพนี้ ผมนั่งมาในแท็กซี่ ลุงคนขับ หันมามองผม แกคงจะ ตกใจกับสภาพของผมไม่น้อย “ แกเป็นอะไรหรือเปล่าไอ้หนุ่ม แกหน้าซีดนะ ไปหาหมอไหม เดี๋ยวลุงไปส่ง ” “ ไม่เป็นไรครับลุง แต่รบกวน จอดร้านยาให้ผมหน่อย ” “ ได้ๆๆ ”หลังจากที่ผม ซื้อยาเสร็จแล้ว คนขับแท็กซี่พาผมมาส่ง ที่ห้อง ผมกินยา แล้วกะว่าจะเตรียมอุปกรณ์การเรียนก่อนแล้วจะพักหน่อย เปิดเทอมวันแรก ผมก็โดดแล้วเหรอ ด้วยฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปไม่นานผมก็หลับไป ทั้งๆที่ยังเตรียมอุปกรณ์การเรียนไม่เสร็จ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD