บทที่ 1 PD PUB
“มึงดูผู้หญิงคนนั้นดิวะ มึงว่าน่ารักปะ” แทนไท เอ่ยถามเพื่อนขณะกำลังมองสาวคนหนึ่งอยู่ในผับ
“น่ารักดิวะ ผับกูคัดหน้าตาลูกค้านะครับ” ออกัสพูดไปด้วยพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก
ออกัสเพื่อนสนิทของราเชนน์ บ้านรวยจากการที่ครอบครัวเป็นนักการเมือง และมีตำแหน่งสูงอยู่ในวงการทนายและผู้พิพากษา แต่เขาเองกลับไม่ได้เดินตามรอยครอบครัวของเขาเลยสักนิด และการที่เขาเปิดผับนี้ขึ้นมา ก็เพื่อสนองความต้องการของเขาเอง เพราะเป็นคนชอบเที่ยว ชอบเสียงเพลง และชอบที่จะควงผู้หญิงกลับไปที่คอนโดทุกวัน เขามักจะเลือกผู้หญิงที่ชอบเข้าหาเขามากกว่า ไม่เคยจริงจังกับใคร
"เออกูรู้ แต่ถึงจะสวยขนาดไหน ก็ไม่ทำให้เพื่อนมึงออกจากจำศีลเลยสักนิด" แทนไท ทำหน้ายื่นไปทางเจย์ที่นั่งเงียบๆ มองคนเดินไปเดินมาด้านล่าง ห้อง VIP ห้องเป็นห้องประจำของพวกเขาจะเป็นห้องกระจกใหญ่เพื่อไว้คอยสังเกตเหตุการณ์ด้านล่าง
"กูถามหน่อยเถอะว่ะไอ้เจย์ มึงไม่อยากมีสาวๆ มาไว้แก้เหงาหน่อยเหรอวะ แล้วนี่มึงไม่อึดอัดบ้างเหรอ กูต้องปล่อยทุกคืน คืนไหนไม่ปล่อยออกกูนี่อึดอัดจนนอนไม่หลับ" ออกัสพูดพลางมองหน้าเจย์อย่างไม่เข้าใจ
"เสือก...กูไม่ใช่พวกมึงเอาคนอื่นไปทั่ว" เจย์ตอบกลับพลางยกไหล่ขึ้น เขาไม่ได้แคร์ว่าต้องมีผู้หญิงมาคอยมอบความสุขให้เขาทุกวัน เพราะตอนนี้เขามีใครบางคนอยู่ในใจ เพียงแต่เป็นคนที่เขาไม่สามารถเอามาเป็นของตัวเองได้ก็เท่านั้น
“แล้วเมื่อไหร่ไอ้เชนน์มันจะมาสักทีวะ ยังกินข้าวกับน้องนิตาไม่เสร็จอีกเหรอ”
“พูดถึงก็มาพอดีนั่นไง ตายยากฉิบหาย”
“นินทากูอยู่หรือว่าอย่างไง ถึงได้มองกูตาไม่กะพริบ” ราเชนน์เดินเข้ามาในผับ สาวๆ ในร้านต่างก็มองเขาเป็นตาเดียว ราวกับว่าเขามีแสงสปอตไลต์ติดตัวตลอดเวลา ก็แน่ล่ะสิ เขาทั้งหล่อ รวย แถมหุ่นไม่ต้องพูดถึง สาวๆ ที่มองเช็ดน้ำลายกันแทบไม่ทัน
“แล้วน้องนิตาไม่มาด้วยเหรอวะ”
“พรุ่งนี้นิตาต้องเข้าบริษัทแต่เช้า เลยไม่มา….เรื่องที่โกดังเป็นยังไงบ้างวะไอ้เจย์ เคลียร์จบยัง” ตอบออกัสเสร็จ ราเชนน์ก็หันไปถามเจย์เรื่องที่โกดังเก็บสินค้าทันที
“รู้ตัวคนทำละ แต่อย่าพึ่งใจร้อนปล่อยมันไปก่อน กูอยากรู้ว่ามันต้องการอะไรจากเรา”
เมื่อไม่กี่วันก่อนที่โกดังเก็บอาวุธของพวกเขาโดนคนบุกรุก และสร้างปัญหาให้ไม่น้อย เพราะพวกนั้นเข้าไปในห้องเก็บอาวุธสำคัญ ที่จะต้องส่งให้ทางตุรกีอาทิตย์หน้านี้ หากแต่ว่าระบบความปลอดภัยของโกดังแน่นหนา และอัจฉริยะมากทำให้คนของเขารู้ว่ากำลังมีภัยเข้ามาซะก่อน มียิงปะทะกันนิดหน่อย แต่พวกมันก็หนีออกไปกันได้ คนที่รู้เรื่องเป็นคนแรกก็คือเจย์ เพื่อนสนิทของราเชนน์อีกคน ที่รับหน้าที่ดูแลงานที่โกดังเป็นหลัก เจย์มีพี่น้องหลายคนและบริษัทเป็นบริษัทครอบครัว เลยไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำงานในบริษัทด้วยซ้ำ ต่อให้เขาไม่ต้องทำอะไรเลยนอนรอเงินเข้าบัญชีทุกเดือนๆ ก็ไม่ลำบาก
“ใครวะ แล้วมันได้อะไรไปบ้าง” แทนไทที่เลิกสนใจสาวๆ หันมาถามพรางทำหน้าขมวดคิ้วคิด
“หึ จะเป็นใครได้ เรามีปัญหากับมันแค่คนเดียว กูคิดว่าเมื่อคืนมันไม่ได้ตั้งใจมาขโมยของหรอก แค่ต้องการมาเช็คว่าลูกค้าที่ทิ้งมันมาหาเรา เพราะเรามีของดีอะไรต่างหาก” เจย์ยิ้มที่มุมปาก และกระดกแก้วเหล้าไปด้วย
[มนิตา]
หลังจากที่แยกกับราเชนน์ มนิตาก็กลับมาอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอน ตอนกลับมาทุกคนในบ้านคงจะนอนกันหมดแล้วเพราะไม่เจอใครเลยสักคนเจอก็แต่แม่บ้านที่ออกมาต้อนรับเธอ เธอหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาแชทหาแฟนหนุ่มว่าถึงบ้านเรียบร้อย และอัปเดตข่าวสารตามโซเชียลไปเรื่อยๆ การคบกันของเธอทั้งสองคนเป็นแบบนี้มานาน ไม่ได้หวือหวา ต่างคนต่างเข้าใจช่วงเวลาทำงาน และช่วงเวลาที่คนใดคนหนึ่งออกไปเที่ยวกับเพื่อน ต่างคนต่างไว้ใจกัน ไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง ไม่ได้เร่งหรือหงุดหงิดเมื่อแชทหาอีกฝ่าย แล้วไม่ได้ตอบกลับทันที ราเชนน์เองก็เป็นผู้ใหญ่มากพอ มนิตาเองก็ไม่ได้มีนิสัยเด็ก กลับกันเธอมีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากๆ ด้วยซ้ำ เพราะนิสัยแบบนี้ของเธอทำให้พ่อของเธอวางใจให้เธอทำงานในตำแหน่งที่สูงและสามารถตัดสินใจได้ในทันที โดยที่ไม่ต้องรอปรึกษาพ่อของเธอเลย ในบางครั้งเธอเองก็กลัวใจของราเชนน์จะเปลี่ยนไปเหมือนกัน จากที่พอจะรู้มาราเชนน์เป็นคนเจ้าชู้เงียบๆ เมื่อก่อนก็อาจจะควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ก็คงจะเหมือนๆ กับเพื่อนในกลุ่มของเขา ที่มีนิสัยเหมือนกันเลยทำให้คบกันได้นานขนาดนี้ เว้นก็แต่เจย์ที่เธอไม่เคยจะมองออกเลย บางครั้งเขาก็นิสัยดีบางครั้งเขาก็เงียบจนน่ากลัว ทุกครั้งที่เธอไปไหนมาไหนกับราเชนน์แล้วต้องไปเจอเพื่อนของเขา เธอมักจะคุยเล่นได้กับทุกๆ คน ส่วนเจย์เธอจะรู้สึกเกร็งๆ เวลาเจอเขาทุกครั้ง เลื่อนดูโทรศัพท์ได้ไม่นาน มนิตาก็เลื่อนมือขึ้นไปปิดไฟที่หัวเตียง และวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ เพราะรู้สึกว่าเริ่มง่วงแล้ว ไม่นานก็ผล็อยหลับไป
[ราเชนน์]
“กูรู้ว่าพวกมันคอยตลบหลังเรา มึงว่ามันมีคนอยู่เบื้องหลังมันไหมวะ” ราเชนน์ถามออกมาอย่างคิดสงสัยไม่ตก
“กูว่ามันมี มันก็รู้ว่ากำลังเล่นกับใคร”
“ไอ้เจย์มึงให้คนของมึงคอยสืบเรื่องพวกมันไว้ก่อน อย่างน้อยเราก็ควรระวังตัวมากกว่านี้”
“กูเห็นด้วยกับไอ้แทนนะ เราจะได้รู้ตัวก่อนที่พวกมันจะลงมือทำอะไรอีก ไอ้พวกนี้มันหมาลอบกัด หรือบางทีเราอาจจะมีหนอน”
หลังจากไอ้ออกัสมันพูดว่ามีหนอนอยู่ในคนของเรา ผมหันไปมองหน้ามันอย่างสงสัยว่ามันอาจจะรู้อะไรมา คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวผับมัน ก็มีแต่คนใหญ่คนโตมีตำแหน่งกันทั้งนั้น ถึงพวกข้างล่างจะเป็นลูกค้าทั่วไป แต่พอได้ขึ้นมาชั้น VIP แล้วละก็ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพราะแบบนี้ไอ้ออกัสมันถึงไม่จำเป็นต้องง้อเงินที่บ้าน เพราะมันสามารถหาเองได้เยอะกว่าที่มันต้องเข้าไปรับตำแหน่งอีกเสียด้วยซ้ำ
“มึงรู้อะไรมาวะไอ้กัส” แทนไท ที่นั่งข้างๆ ก็สงสัยไม่แพ้กัน
ทุกคนต่างก็มองไปที่ออกัสพร้อมๆ กัน แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่ออกัสพูดออกมา
“ละมึงไอ้เจย์ มึงนั่งเงียบทำไมวะ”
“กูให้คนสืบอยู่ เรื่องนี้เราตกลงแบบเงียบๆ แต่พวกมันกลับรู้ กูว่ามันไม่ปกติ”
“มึงก็เลยคิดว่ามีคนของพวกมันอยู่”
“อืม ไว้กูชัวร์ก่อน กูจะบอกพวกมึงอีกที”
ไอ้เจย์ตอบออกมาแบบหน้าตาย ไอ้นี่ลูกน้องมันเยอะและมีแต่เก่งๆ เรื่องพวกนี้ทั้งนั้น ทุกคนวางใจให้มันทำงานนี้ได้แบบไม่ต้องห่วง หลังจากที่เราคุยเรื่องงานกันได้สักพัก ผมก็ขอตัวกลับก่อน จริงสิผมลืมเช็คโทรศัพท์เลย ไม่รู้นิตาจะทักมาบ้างหรือยัง นอนหรือยังนะ ผมล่ะอยากจะเอาเธอมาอยู่ด้วยทุกคืนเลยซะจริงๆ ให้ตายสิ ทำไมผมถึงได้หลงเธอขนาดนี้นะ คืนนี้ผมกลับมานอนที่เพนท์เฮ้าท์ ที่นี่ใกล้บริษัท ผมดื่มมาหนักและกลับมาเกือบเช้าขนาดนี้ ถ้าจะไปทำงานให้ทันคงต้องใช้วิธีนี้แหละ หลังจากอาบน้ำเสร็จผมทิ้งตัวลงบนที่นอน และเปิดแชทนิตาเพื่อจะส่งบอกฝันดี นี่คือกิจวัตรประจำวันของผมและเธอ ถึงจะไม่ค่อยได้คุยกันแต่ก็ไม่เคยลืมที่จะบอกฝันดีก่อนนอนกันสักคืน
“ฝันดีนะครับที่รัก พี่รักนินะ”