ตอนที่2ทำความรู้จัก

1447 Words
@เปิดเทอมวันแรก พึ่บ!! อะ โอ๊ยย~~~ ร่างเล็กล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ “ซุ่มซ่าม ไม่แหกตาดูทางหรือไง” คำพูดไร้อาทร น้ำเสียงแสนเย็นชา ไร้ความรับผิดชอบ ทำให้อีกฝ่ายนิ่งอึ้ง สาวน้อยเงยหน้ามองเจ้าของร่างยักษ์ ทั้งที่เขาเป็นคนเดินออกมาขว้างหน้าแท้ๆ แต่กลับพูดเหมือนเธอเป็นคนผิด “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? นายเป็นคนชนฉันนะ” นักศึกษาสาวดันตัวลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ก่อนจะแหงนมองนักศึกษาหนุ่มร่างสูงให้ชัดอีกครั้ง แต่เมื่อสายตากระทบใจหน้าของชายหนุ่ม หัวใจของเธอก็แทบหยุดเต้น ดวงตาคมเข้ม จมูกโด่งพุ่ง ผิวหน้าเรียบเนียนราวกับผู้หญิง ทำให้จิตใจของสาวน้อยสั่นไหวจนหลงลืมคำด่าในหัวไปจนหมด “อยู่ปี 1 เหรอ?” “0.0 คะ! อ่อ ค่ะ ปะ ปี1 คณะโรงแรมและการท่องเที่ยว” เสียงของชายหนุ่มดึงสติของเธอให้กลับมา “โรงแรมเหรอ?” ใบหน้าเรียบนิ่ง ทอดสายตามองต่ำตามระดับความสูงของหญิงสาว ก่อนจะเมินสายตามองผ่านเธอไปราวกับเธอไม่คู่ควรให้เขามอง ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะอ้าปากท้วง ร่างใหญ่ก็เดินผ่านหน้าไปอนึ่งว่าเธอเป็นเพียงอากาศที่พัดผ่านเข้ามาเท่านั้น “เป็นรุ่นพี่แล้วยังไง? คิดว่าหล่อหน้าตาดีแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ? ขอโทษก็ไม่มี ขี้เก๊ก นิสัยเสีย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด ชิ!” เสียงเล็กบ่นพึมพำ มองตามหลังกว้างและไม่มีวี่แววว่าจะหันกลับมา ..ห้องเรียนขนาดใหญ่มีเพียงร่างของหญิงตัวเล็กนั่งอยู่ภายใน หลังจากนั่งรออยู่นานทว่าก็ไม่มีใครมาเข้ามาเพิ่มเลยสักคน กระดาษ A4 ถูกหยิบขึ้นมากางบนโต๊ะอีกครั้งหลังจากดูไปแล้วหลายรอบ “หรือว่าดูผิด? ไม่สิ! ก็ถูกแล้ว เวลา! ห้อง!” นิ้วเล็กจิ้มตารางเรียนทีละช่อง ใบหน้าเล็กหงิกงอ คิ้วเล็กขมวดย่น เพ่งพินิจมองกระดาษตรงหน้าด้วยความสงสัย “ก็ถูกแล้วนะ ไม่ผิดแน่ ๆ หรือว่าเขาเปลี่ยนห้อง?” แกร็ก! ขณะที่คนตัวเล็กกำลังทะเลาะกับตัวเอง ทันใดนั้นประตูห้องเรียนก็ถูกใครบางคนเปิดออก สาวน้อยรีบหันไปมองด้วยความดีใจแต่ทันทีที่เห็นหน้าคนที่เข้ามารอยยิ้มของเธอก็ต้องหุบลง ร่างสูงโปร่งของนักศึกษาหนุ่มที่เธอเพิ่งเจอไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ตอนนี้เขากำลังยืนมองเธออยู่หน้าประตู “เอ๊ะ!! นาย อุ๊บ! ระ รุ่นพี่ก็เรียนวิชานี้เหมือนกันเหรอคะ?” “ซื่อบื่อไม่ได้ดูตารางกิจกรรมหรือไง? ปีหนึ่งเขาไปรวมตัวกันที่หอประชุมกันหมดแล้ว” “ห๊ะ!! 0.0!! หะ หอประชุม?” ดวงตากลมเบิกกว้าง ร้องอุทานด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อถูกสายตาคมของอีกฝ่ายจ้องตาเขม็ง “มัวนั่งอึ้งอยู่ทำไม? ไปสิ!” สิ้นคำ หญิงสาวก็รีบลุกจากเก้าอี้ วิ่งแทรกตัวผ่านหน้าเขาไปทันที “หึ แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ” ..ฉันรีบวิ่งมาที่หอประชุมใหญ่ของมหาลัยอย่างไม่คิดชีวิต ภายในหัวก็คิดว่าทำไมฉันต้องตื่นเต้น แล้วทำไมหัวใจจะต้องเต้นเร็วขนาดนี้ ตึก ตึก ตึก เฮอ เฮอ >.< ปึง!! 0.0!! เพียงไม่กี่นาทีเท้าเล็กก็วิ่งมาถึงโถงประชุมใหญ่ เสียงประตูเหล็กถูกผลักเข้าเต็มแรง ทุกสายตาหันมาจับจ้องมองเจ้าของร่างปริศนา อาการเหนื่อยหอบลมหายใจเร็วถี่ ตอนนี้เธอกลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคนในห้องไปเสียแล้ว “มาช้า!” น้ำเสียงดุดันดังก้องสะท้อนมาจากด้านหน้า ป้ายบนหน้าอกเด่นชัดบ่งบอกตำแหน่งของผู้ที่กำลังตีหน้าเข้มจ้องมาที่เธอ “ขะ ขอโทษค่ะ” “คุณรู้ไหมว่าผมเป็นใคร? แล้วคุณรู้ไหมว่าคนที่นั่งอยู่ในห้องนี้รอคุณแค่คนเดียว?” เสียงหายใจหอบค่อยๆช้าลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ สายตาจับจ้องมองชายตัวสูงให้ชัดอีกครั้ง เขาคือผู้ชายคนนั้น คนเดียวกับที่เธอเจอบนอาคารเรียนเมื่อครู่ แต่ที่น่าแปลกคือเพียงไม่กี่นาทีเขาก็มายืนอยู่ที่นี่อีกทั้งเสื้อที่ใส่ก็เปลี่ยนเป็นอีกตัว ขณะที่ความคิดกำลังสับสน รู้ตัวอีกทีร่างสูงนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว บรรยากาศรอบตัวเย็นลงราวกับขึ้นไปยืนอยู่บนยอดเขาหิมะ เสียงหัวใจในอกเต้นแรงเหมือนกับจะหลุดออกมาจากร่าง แม้คำพูดดุดัน สายตาและสีหน้าจะดูน่ากลัว ทว่าภายในความคิดของเธอกลับไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างที่คิด “หล่อจัง!” “อะไรนะ?” “0.0! คะ?” สติของฉันถูกดึงกลับมาอีกครั้ง คำพูดในหัวมันดังจนทำให้เขาได้ยินเลยเหรอ หรือว่าฉันเผลอพูดมันออกมา “เมื่อกี้ เธอว่าอะไรนะ?” “ปะ เปล่าค่ะ” คำปฏิเสธตะกุกตะกัก รอยยิ้มแห้งพยายามปิดอาการทั้งที่ความจริงตอนนี้ หน้าของเธอร้อนผ่าวไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา “หึ วันนี้เป็นวันแรกงั้นผมจะยังไม่ลงโทษคุณ ไปรับป้ายชื่อแล้วเข้าไปยืนในแถวกับเพื่อนซะ” “ขอบคุณค่ะ ^^” ฉันวิ่งเข้าไปหยิบเอาป้ายชื่อพร้อมเชือกห้อยคอจากโต๊ะที่มีรุ่นพี่ที่โต๊ะ ก่อนจะพุ่งตัววิ่งไปหาจุ๊บแจงที่ยืนอยู่ในแถว “ทำไมไม่บอกกันสักคำว่าวันนี้ ปี1 ต้องมารวมตัวกันที่นี่” “อย่ามาโทษนะ ฉันกับพี่ตั้มโทรไปเป็นร้อยสายแล้วมั้ง เธอนั้นแหละทำไมไม่รับสาย” ฉันรีบล้วงกระเป๋าจะเอามือถือขึ้นมาดู แต่.. “ไม่นะ ไม่จริง หะ หาย หายไปไหน?” น้ำเสียงตื่นตระหนก สีหน้าขาวซีดทำให้จุ๊บแจงและเพื่อนๆที่ยืนในแถวต่างหันมามองด้วยความตกใจ “เป็นอะไร?” จุ๊บแจงกระซิบถาม ขณะที่เพื่อนคนอื่นๆก็สงสัยไม่ต่างกัน “มือถือของฉัน หายไปแล้ว!” “ลืมเอามาหรือเปล?” เสียงเพื่อนที่อยู่ด้านหลังกระซิบ ทำให้หญิงสาวตัวเล็กนิ่งคิดก่อนจะหันกลับไปตอบ “ไม่น่าลืมนะ เพราะก่อนจะขึ้นรถสองแถวมาเราก็เพิ่งวางสายจากแม่” กึก กึก กึก ระหว่างที่กลุ่มนักศึกษากำลังคุยกันด้วยความตึงเคลียด เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเธอ “คุยอะไรกัน? เพิ่งมาถึงก็ชวนเพื่อนคุยเสียงดัง สงสัยคงอยากจะคุยมาก งั้นก็ออกไปยืนคุยหน้าแถวให้เพื่อนคนอื่นฟังด้วย” 0.0!! “ปะ เปล่านะคะ” สายตาคมเหลือบมองป้ายห้อยคอ ทว่าป้ายนั้นกลับว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ร่องรอยของหมึก นั่นยิ่งทำให้สีหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจ “ชื่อไม่เขียน มาก็สาย ชวนเพื่อนคุย แถมยังชอบเถียง ทำผิดไม่ยอมรับผิด ออกไปยืนรายงานตัวบอกชื่อกับคณะแล้วก็สาขาให้ทุกคนในห้องนี้ได้ยิน” เสียงตะคอกดัง ใบหน้านิ่งดุไร้รอยยิ้ม แววตาเย็นชาราวกับปีศาจ ทำให้ทุกคนภายในห้องไม่มีใครกล้าส่งเสียง บรรยากาศภายในห้องเงียบกริบ แม้แต่ลมหายใจก็แทบไม่ได้ยิน “จะตะคอกทำไมคะ ก็กำลังจะ..” “เดี๋ยวนี้!!” เสียงดุตะคอกดังจนคนตัวเล็กสะดุ้งโหย่ง ดวงตาแดงคล้ายกำลังจะร้องไห้ “ไม่มีเหตุผล” “ที่นี่ไม่ใช่บ้าน ถ้าคิดจะทำตัวงอแงเอาแต่ใจ ก็เชิญลาออก แล้วกลับไปอยู่บ้านให้พ่อแม่เลี้ยง” สายตาเฉยชา น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน หากแต่ใบหน้านั้นกลับมีรอยยิ้มบางๆมุมปาก แฝงบางอย่างเอาไว้ ร่างบางออกไปยืนหน้าแถวตามคำสั่ง แม้จะไม่เต็มใจแต่เมื่อก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่เธอก็ได้แต่จำใจทำตามกฎ ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาหลายร้อยทุกคนมองมาที่เธอเพียงจุดเดียว ไม่เว้นแม้แต่รุ่นพี่ที่เข้าร่วมชมกิจกรรมในครั้งนี้ ทว่าทุกการกระทำของเขากลับไม่มีใครกล้าพูดหรือคัดค้านเลยแม้แต่คำเดียว “สวัสดีค่ะ” “ดังอีก!” ฉันเหลือบมองเจ้าของคำสั่ง ท่าทางของเขาตอนนี้เหมือนกำลังมีความสุขที่ได้ทำโทษฉัน “สวัสดีค่ะ น้องชื่อพระพาย เรียน คณะ การท่องเที่ยวและการโรงแรม ชั้นปีที่1” เสียงเล็กแหลมดังลั่น ใบหน้าขาวเล็กเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ พระพาย!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD