ตอนที่3 ล็อคเป้า

1427 Words
เสียงเรียกชื่อทำให้คนตัวเล็กหันไปมอง ชายหนุ่มตัวสูงใบหน้าคุ้นเดินออกมาจากด้านหลัง ทำให้สาวน้อยเผยรอยยิ้มกว้าง “ตัวช่วยของฉันมาช่วยแล้ว” แววตาเต็มเปรียบด้วยความหวังทันทีที่เห็นว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร “หึ ฝันไปเถอะ ที่นี่เทวดามาจากไหนก็ช่วยเธอไม่ได้หรอก” 0.0! ฉันหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ถึงหน้าตาจะดี แต่จิตใจชั่วร้ายเป็นรุ่นพี่หน้าหล่อ แต่ทำตัวแย่ ที่สุดที่ฉันเคยเจอ “มองหน้าผม? มีปัญหาเหรอ?” เสียงนุ่ม สายตาเจ้าเล่ห์จ้องเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น “นี่เป็นกิจกรรมของมหาลัย ทุกคนไม่ว่ารุ่นพี่หรือน้องใหม่ไม่มีใครถืออภิมิทธิ์เหนือคนอื่น” คำพูดของเขาทำให้สตาฟทุกคนนิ่งเงียบ ร่วมถึงชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาเมื่อครู่ก็ต้องถ้อยกลับไปยืนอยู่ข้างหลัง สายตาของเขาทำให้ หน้าของเธอร้อนผ่าวอีกครั้งแม้ว่าหัวใจมีชายอีกคนแต่ความหล่อเหล่าของคนตรงหน้า กลับทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวและเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ..ผมมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ท่าทางเขินของเธอทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าแผนแรกสำเร็จแล้ว กิจกรรมรับน้องการพบปะระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องดำเนินยาวนานไปเกือบสองอาทิตย์ กฎระเบียบ บทเพลงขับร้องวัฒนธรรมต่างๆส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น กระทั่งทุกอย่างสิ้นสุดลง. ตุบ!! ฮ่าๆ / ฮ่า~ “ใครแพ้ คืนนี้เลี้ยงเหล้า” สนามกีฬาในร่ม กลุ่มนักศึกษาชายกำลังเตะบอลส่งเสียงหัวเราะดังลั่น “ได้ยินว่ามึงสนใจเด็กปี1เหรอวะ?” คิมหันต์พูดพลางยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ก่อนที่คนถูกตั้งคำถามจะหันมาสนใจ “หมาตัวไหนเอาข่าวมาบอกล่ะ?” “ไอ้เพลิงมึงว่ากูเป็นหมา?” ฮ่าๆ /ฮ่าๆ เสียงเพื่อนหัวเราะลั่น ขณะที่บางคนกลับทำหน้าถมึงทึงยืนเอามือท้าวเอวมองด้วยความไม่พอใจ “พวกมึงขำเชี่ยอะไร?” “หึ ยังไม่มีใครเอ่ยชื่อสักหน่อย มึงจะร้อนตัวทำไม?” มุมปากหนากระตุกยิ้ม เหลือบมองขุนเขาด้วยหางตา ก่อนจะเมินหน้าเหมือนไม่สนใจ “ไอ้เพลิง กูเกลียดมึง!” ขุนเขาสบท ทำใบหน้าบูดบึ้งราวกับหญิงสาว ทำให้เพื่อนๆที่นั่งอยู่ต่างยิ้ม ส่ายหน้าแทนการปลอบใจ “สนใจแบบไหนล่ะ จริงจัง หรือแค่สนุก?” “มึงมองหนังหน้ามันก่อน หน้าอย่างมันเนี่ยนะจะจริงจัง หลอกแดกตังค์ในบัญชีพวกเราละไม่ว่า” “ระวังไม่มีปากไว้แดกข้าวนะไอ้ขุน ถ้าถูกลากหายเข้าไปในป่า ก็อย่าหาว่ากูไม่เตือน พวกกูคงไม่ช่วยหรอกนะ” ภาคินพูดพลางเหลือบมองร่างใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล ทว่าหัวโจกกลับนิ่งเงียบไม่ได้พูดสำทับ “เด็กคณะไหนวะ สวยไหม?” ซันหนุ่มหล่อเจ้าสำอาง กระซิบกระซาบถามด้วยความสนใจ “คณะการโรงแรม แต่ความสวย กูว่า.. น้อยกว่ามึงไปนิด” เสียงนุ่มพูดพลางโน้มใบหน้าเข้าหาใกล้ สายตาหวานจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย พึ่บ! “เชี่ย!! มึงถอยไปไกลๆกูเลย กูชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย” ซันเอามือผลักหน้าของเพลิงให้ผละออก แม้เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่สายตาและการกระทำของเขา ทำให้ซันรู้สึกเขินและไม่ปลอดภัย 1 เดือน ต่อมา ปรืนนนน.. รถสปอร์ตยี่ห้อหรูวิ่งเข้ามาจอดหน้าตึกคณะวิศวะ และเพียงไม่นานก็มีรถสปอร์ตอีกสามสี่คันวิ่งตามเข้ามาติดๆ รถนำเข้าราคาหลายล้านจอดเรียงกันอยู่กลางลาน การกระทำของพวกเขาดึงดูดสายตาของคนในมหาลัยโดยเฉพาะกลุ่มสาวๆ ที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ นักศึกษาใบหน้าหล่อเหลาก้าวเท้าลงจากรถ รอยยิ้มของพวกเขาทำให้สาวๆหลงไหล อยากเข้าไปอยู่ในใจของใครสักคนในนั้น ฮิ้ววว /ฮ่าๆ “ไอ้ขุนมึงแพ้ วันนี้มึงเป็นเจ้ามือ” “เออๆ ไม่ต้องตอกย้ำ แม่ง ค่อยดูนะก่อนเรียนจบกูจะต้องชนะไอ้เพลิงให้ได้” “หึ เร็วๆหน่อยล่ะ อีกปีเดียวกูก็จบแล้ว คงไม่อยู่เรียนเป็นเพื่อนมึงจนแก่หรอกนะ” สิ้นคำสายตาคมก็เหลือบมองขุนเขา ที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วแสดงสีหน้ามึนงง เอามือเกาท้ายทอยสร้างความตลกขำขันให้กลุ่มเพื่อนเป็นอย่างมาก “เอ๊ะ! ไอ้เพลิง มึงว่ากูโง่?” “หึ! มึงพูดเองนะ กูเปล่า” ฮ่า ๆ / ฮ่า ๆ เสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อน ทำให้ขุนเขาทำหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ ก่อนซันจะเดินเข้ามาตบไหล่เป็นการปลอบใจ แล้วดึงแขนพาเดินเข้าไปในตึก .(เพลิง).ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผมแทบไม่มีเวลาพัก ทั้งตารางเรียนที่อัดแน่นตั้งแต่เช้ายันค่ำ พอจะมีเวลาว่างสักหน่อยก็ต้องเจียดเวลาไปจัดการงานที่สโมสรนิสิต แล้วยังต้องลงสนามฝึกซ้อมกับทีมฟุตบอลของมหาลัยเพื่อเตรียมไปแข่งขันในลีกที่กำลังจะมาถึง ฟังแล้วเหนื่อยแทนเลยใช่ไหมล่ะ หึ! แน่นขนาดนี้ใครไม่เหนื่อยก็บ้าแล้ว จริงไหมครับ? แต่หลังส่งมอบงานที่สโมสรให้รุ่นน้อง แอบถอนวิชาเลือกบางตัวที่แม่อยากให้เรียนออก แค่นั้นแหละ ตารางชีวิตของผมก็ดีขึ้นราวฟ้ากับเหว มีเวลาให้ไปทำอย่างอื่นที่อยากทำมากขึ้น “ไอ้เพลิง เย็นนี้ลงสนามไหมวะ?” ภาคินสะกิดไหล่โน้มตัวลงมากระซิบจากที่นั่งด้านหลัง อืม! “แล้วซ้อมเสร็จ จะไปต่อป่ะ?” คิมหันต์ถามเพิ่มด้วยน้ำเสียงความหวัง “อืม!” “ไม่ไปไม่ได้เหรอวะ โดดซ้อมสักวันไม่เป็นไรมั้ง! กูอยากเที่ยว” ผมเอนตัวพิงพนัก ก่อนจะหันกลับไปมองซันสมาชิกเพียงคนเดียวที่ไม่อยู่ในทีมฟุตบอล “ไม่ได้ เย็นนี้พี่แชมป์จะคัดคนเข้าทีมพวกกูต้องไปดูหน่อย มึงไปรอที่ร้านก่อนก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องไปนั่งตากแดดนานๆ เดี๋ยวผิวสวยๆของมึงจะพัง” “สเปกไอ้เพลิงจะเปลี่ยน จากผู้หญิงเป็นไอ้ซ้นว่ะ” “ถ้าไม่เรียนก็ออกไป อย่าส่งเสียงรบกวนคนอื่น” ทันทีที่ขุนเขาพูดจบ ก็มีเสียงดังมาจากหน้าห้อง ชายตัวผอมแต่งกายสุภาพ ยืนนิ่งมองมายังกลุ่มนักศึกษาชายที่อยู่หลังห้อง ขณะเดียวกันสายตาของนักศึกษาภายในห้องก็หันกลับมามองพวกเขาด้วยเช่นกัน พึ่บ! กึก!! ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นยืน ใบหน้านิ่งเรียบ แววตาเย็นชาไร้อารมณ์ราวกับเขาไม่ได้สนใจหรือเกรงกลัวชายที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย “นั่นคุณจะไปไหน?” “อาจารย์พูดเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าถ้าไม่เรียนก็ให้ออกไป” คิ้วหนาเลิกสูง ดวงตาคมเข้มจ้องใบหน้าคู่สนทนาที่อยู่หน้าห้อง “เฮ้ยไอ้เพลิง ใจเย็น!” ขุนเขาสะกิด ดึงแขนให้เพื่อนนั่งลง แม้จะรู้ว่าเพื่อนไม่เคยก้มหัวให้ใครและไม่ชอบให้ใครออกคำสั่ง ซัน: “พวกเราไปกันเถอะ วิชาง่ายๆ แค่นี้ อย่าเสียเวลามานั่งฟังเลย” ภาคิน: “อืม ซ้ำซาก น่าเบื่อ” “พวกมึงให้เกียรติอาจารย์เขาหน่อยสิ เดี๋ยวก็ร้องไห้วิ่งแจ้นไปฟ้องผู้บริหาร พวกเราจะแย่กันนะ” คิมหันต์พูดพลางหันไปยิ้มให้กับอาจารย์หนุ่ม น้ำเสียงสุภาพน่าฟังหากแต่เป็นคำพูดที่กำลังเยาะเย้ย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้โต้แย้ง ได้เพียงกัดฟันเก็บอารมณ์ความโกรธเอาไว้ ห้องเรียนรวมขนาดใหญ่บรรยากาศภายในห้องเริ่มขุ่นมัวปราศจากเสียงพูดคุย นักศึกษาเกือบร้อยชีวิตนั่งนิ่งหลบสายตาของชายหนุ่มซึ่งเป็นที่รู้จักของทุกคนในมหาลัย ไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวตัวเล็กที่นั่งหลบอยู่อีกมุมเฝ้ามองสถานะการณ์อึมครึมนั้นอยู่เงียบๆ “ถ้าอาจารย์ไม่มีอะไรแล้ว พวกผมไปนะครับ” น้ำเสียงเรียบเย็นพูดพลางเดินออกไปจากห้องโดยไม่รอคำตอบ ตามด้วยเพื่อนๆในกลุ่มที่ทยอยเดินตามออกไปเช่นกัน “นึกว่าเป็นรุ่นพี่ดีๆ ที่ไหนได้ เป็นรุ่นพี่นิสัยเสียนี่เอง” หมับ! อื้มมม “พระพาย! หุบปากเลยนะ เดี๋ยวพวกเขาก็ได้ยินหรอก” จุ๊บแจงเอามือปิดปากของเพื่อนพร้อมกับหันมองไปรอบๆ อย่างระวัง ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่กระพริบตาปริบๆ แทนการตอบรับคำเตือน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD