ตอนที่4 ท้าทาย

1544 Words
@สนามกีฬา ผมกับเพื่อนนั่งอยู่บนอัฒจันทร์มองดูลงไปในสนามที่กำลังทีการคัดเลือกนักฟุตบอลใหม่ เนื่องจากสมาชิกบางคนเรียนจบไปแล้ว บางคนก็บาดเจ็บหนักจากการแข่งที่ผ่านมาจำเป็นต้องรักษาตัวยาว หายไม่ทันการแข่งที่กำลังมาถึง “เออ ไอ้เพลิง กูจำได้ว่าก่อนหน้านี้มึงสนใจเด็กปี1 ตอนนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ววะ?” ทุกคนต่างหันมามองหน้าผมทันทีที่ขุนเขาพูดจบแต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากพูดคำถามอื่นก็ตามมา “อย่าบอกนะ! ว่าเสร็จมึงแล้ว?” ภาคินเริ่มจุดประเด็นเหมือนกำลังหาเรื่องคุยในวงเหล้า ทั้งที่ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ “ถ้าตอนเรียนความจำดีแบบนี้ มึงสองตัวคงได้เกียรตินิยมมากกว่าเกรดนิยมไปแล้ว” “หึ พูดกวนตีนแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเสืออย่างมึงตะครุบเหยื่อพลาด!?” คิมหันต์พูดพลางแสยะยิ้ม สายตาที่กำลังมองเพื่อนแฝงไปด้วยความเจ้าและจับผิด พร้อมเสียงเค้นขำในลำคอ หึ หึ “มึงขำเชี่ยอะไร ไอ้คิม” “ก็ขำมึงไง เป็นเสือมาตั้งหลายปี ไหงตอนนี้ยอมปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปง่ายๆ เรียนเก่งกีฬาเยี่ยม แค่เผด็จศึกผู้หญิงคนเดียว เสือก..” คำพูดหยุดลง พร้อมรอยยิ้มกวนประสาทเหมือนกำลังกวนใจให้ชายตัวโตเสียหน้า ซึ่งมันก็ได้ผล ชายตัวโตถอนลมหายใจยาวอย่างเบื่อหาย จากที่ไม่ได้คิดจริงจัง แต่เมื่อถูกเพื่อนๆในกลุ่มท้าทาย มีหรือคนอย่างเขาจะอยู่นิ่งให้คนดูถูก “หึ! ปัญญาอ่อน ไร้สาระ” “ทำไม? หรือว่ามึงกลัวแพ้” คิมหันต์ยกยิ้มสายตายียวน ชวนให้หนุ่มใบหน้านิ่งขรึมขบกรามแน่น “เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นจะต้องหงุดหงิดเลยหนิ อืม~ ก็ได้! แล้วมึงจะเอาเท่าไหร่ล่ะ?” “1 แสน เป็นขี้ข้ากู 1 เดือน” “ว้าว! ราคาขนาดนี้ ไม่ได้งอนพวกกูใช่ไหม? ก็ได้ๆ แต่ก็ต้องมีกำหนดเวลากันหน่อย จริงไหม?” คิมหันต์หันไปมองหน้าเพื่อนๆที่ตอนนี้ต่างยิ้มกว้าง ก่อนจะยักคิ้วพยักหน้าเหมือนรู้ใจกัน “น่าสนุก งั้นกูเอาด้วย!” ขุนเขาแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลางระหว่างคิมหันต์กับเพลิงก่อนที่ความกวนตีนของทั้งคู่จะทวีความรุนแรงขึ้นกว่านี้ “มึงล่ะ ไม่สนใจเหรอ?” เพลิงหันไปถามซันที่นั่งอยู่ชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ ก่อนอีกอีกฝ่ายจะพยักหน้าแสยะยิ้มแทนคำตอบ เมื่อทุกคนตกลงยอมรับเงื่อนไข แผนการมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัวของหนุ่มเจ้าแผนการทันที หากแต่สิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึงคือเธอคนนั้นกำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว “เฮ้ย! เพลิง! ลงมาตรงนี่หน่อย” เสียงเรียกจากชายตัวสูงในชุดกีฬา กำลังยืนตะโกนโบกไม้โบกมือเรียกกลุ่มคนบนอัฒจันทร์ให้ลงไปที่สนาม ซึ่งนักศึกษาหนุ่มก็เดินลงไปหาอย่างว่าง่าย “เลือกได้แล้วเหรอ?” ผมหันไปมองชายตัวสูงผิวสีแทนกอดอกยิ้ม ก่อนจะหันไปมองนักกีฬาที่อยู่กลางสนามฟุตบอล “เอ่อ เลือกได้แล้ว แต่อยากให้พวกมึงมาช่วยดูเลือกเพิ่มอีกที” “โธ่ พี่แชมป์ ถ้าพี่โอเค พวกผมก็มีปัญหา” ขุนเขาพูดพลางเดินเข้ามากอดคออย่างสนิทสนม “ไอ้ขุน! กูเพื่อนมึงเหรอ?” น้ำเสียงเข้มดุ ทำให้ขุนเขาค่อยๆ ยกแขนออก “แฮะๆ ขอโทษครับ” “ที่อยากให้ช่วยเลือก ไม่ใช่นักฟุตบอล แต่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลต่างหาก” ห๊ะ!!! 0.0!! เสียงขุนเขาอุทานด้วยความตกใจซึ่งคนอื่นก็มีอาการไม่ต่างกัน โค้ชหนุ่มแสยะยิ้มเหลือบมองกัปตันทีมที่ยังนิ่งสงบ “ทำไมต้องมีผู้จัดการ? ผมไม่อยากได้” “ใช่! พวกเราก็ไม่อยากได้ มีไอ้เพลิงเป็นกัปตัน มีพี่แชมป์เป็นโค้ช แล้วจะเอาผู้จัดการมาทำอะไร?” “มันก็จริง แต่มันยังไม่พอ เพราะยังมีงานเอกสาร สวัสดิการ จัดตารางฝึกซ้อม ดูแลเรื่องตารางการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง มึงคิดว่าไอ้เพลิงคนเดียวมันจะทำไหวเหรอ หรือว่าพวกมึงจะช่วย ไอ้ขุน!” โค้ชหนุ่มพูดพลางหันไปจ้องหน้าขุนเขาเป็นการกดดันให้สมาชิกคนอื่นๆยอมรับข้อเสนอ “เห็นไหมล่ะ? มึงก็เก่งแต่ปาก ปอดแหกกันทั้งนั้น” “อ้าว พี่แชมป์พูดแบบนี้ พี่มาเดี่ยวกับผมเลยดีกว่าไหมห้ะ!” ปัก! โอ๊ย!! พูดไม่ทันขาดคำ ขุนเขาก็ส่งร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด เพราะถูกปลายนิ้วดีดเข้ากลางหน้าผากจนต้องผละถอยหลังออกไปไกล “ถอยออกมาทำไมวะ? เข้าไปสิ!” “อย่าผลักสิวะ แม่ง ดีดมาได้เจ็บชิบหาย!” “เก่งดีนักสมน้ำหน้า” “ไอ้คิน กูเพื่อนมึงนะ” “หุบปาก! น่ารำคาญ” น้ำเสียงหงุดหงิดทำให้ทุกคนนิ่งเงียบ แม้จะบอกว่าเป็นเพื่อนแต่ด้วยอำนาจที่มี เขาจึงเป็นเหมือนหัวหน้าของกลุ่ม เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มขุ่นมัว แชมป์จึงรีบแก้สถานะการณ์โดยการเดินนำหน้าเข้าไปหากลุ่มนักศึกษาที่อยู่มุมสนาม “ไอ้เพลิง น้องคนนั้น!” ขุนเขาสะกิดแขนเรียกเพลิงให้มองเข้าไปในกลุ่ม ชี้นิ้วให้ดูหญิงสาวตัวเล็ก ที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อน ผิวขาวสว่าง ใบหน้าจิ้มลิ้ม รอยยิ้มน่ารักผสมกับความสดใสของเธอทำให้เขาลืมตัวมองตาไม่กระพริบ หากแต่ไม่ใช่เพียงแค่เขาเพราะตอนนี้เพื่อนและหนุ่มนักศึกษาอีกหลายคน ก็มองดูเธออยู่เช่นกัน ขุนเขา: “แม่ง! โคตรน่ารัก” คิมหันต์: “อืม ผิวใสมาก” ภาคิน: “ใสซื่อ ไร้เดียงสา” “นั่นของกู!” หื้อออ!! 0.0!! ทุกคนหันควับ มองหน้าเจ้าของคำพูดเมื่อครู่อย่างพร้อมเพียง “มีอะไร?” “น้องเขาเป็นของมึงตอนไหน?” ภาคินถลึงตา ถามด้วยความตกใจและสงสัย ใบหน้าคมคายยกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์มองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพอใจ โดยไม่สนใจตอบคำถามของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย “ผมจะเอา! คนนั้น” นักศึกษาหนุ่มพูดพลางหันไปสบตากับอาจารย์โค้ช ก่อนทั้งสองจะยิ้มให้กันอย่างเป็นนัย “หึ ของแบบนี้ ใครดีใครได้ไม่ใช่เหรอ?” คำพูดของซันทำให้ผมหันไปมอง ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะผู้ชายหน้าหวานเจ้าสำอางอย่างมัน ถึงจะเจ้าชู้กินไปเรื่อยแต่ก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนก่อน “หรือว่า มึงก็.. สนใจ?” “ก็น่าสนใจไม่ใช่เหรอ?” ซันยักคิ้ว ฉีกยิ้มกว้างแทนคำตอบว่าทั้งคู่กำลังสนใจผู้หญิงคนเดียวกัน แม้เป็นเพื่อนสนิท กินดื่มด้วยกันมาหลายปี แชร์ทุกอย่างกระทั่งผู้หญิง แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา “พี่ตั้ม! ทางนี้ค่ะ เหนื่อยไหม? มาเดี๋ยวพระพายเช็ดเหงื่อให้ ^^” ปลายเท้าเล็กเขย่งดันตัวให้สูง พร้อมเอาผ้าสีชมพูซับแก้มให้ชายหนุ่ม “ขอบคุณครับ แค่เห็นหน้าพระพายพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว” เสียงพูดคุยและการกระทำระหว่างคนทั้งคู่ไม่ได้ถูกปิดบังหรือซ่อนเร้นจากสายตาคนรอบข้าง “ไหนบอกไม่ได้คบกันไง หวานจนมดขึ้นแล้วเนี่ย” “หวานอะไร? ก็แค่เช็ดเหงื่อเอง” เสียงหวานปฏิเสธแต่สองแก้วขาวกลับแดงเรื่อด้วยความเขินอาย “มาทำไมครับ แดดแรง อากาศก็ร้อน ทำไมยังไม่กลับบ้าน” ดวงตาตี๋จ้องสาวน้อยตัวเล็ก สลับกับเพื่อนของเธอเพื่อฟังคำตอบ “ก็มาสมัครเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลไงคะ ถ้าพระพายได้เป็นผู้จัดการทีมไงคะ” “อ่ะ อย่าๆ อย่ามองจุ๊บแจงแบบนั้นนะคะ จุ๊บแจงห้ามแล้ว” จุ๊บแจงรีบออกตัวปฏิเสธ ทันทีที่ชายหนุ่มหันไปมองเหมือนกำลังจะกล่าวโทษว่าไม่ห้าม “จุ๊บแจงไม่เกี่ยวค่ะ พระพายอยากมาเอง” ดวงตาอ้อนมองชายหนุ่มในดวงใจ “หึ กูว่าพวกมึง คงได้แดกแห้วกระป๋องแล้วล่ะ” ‘อย่าเสือก!!’ เสียงประสานพร้อมเพียง มองอาจารย์หนุ่มอย่างหงุดหงิด ทำแชมป์หุบยิ้มกดอารมณ์สะใจเอาไว้เงียบๆ “ได้ยินแล้วหนิ ว่ายังไม่ได้เป็นแฟน แต่ถึงเป็น! หึ ใครจะสน” ขุนเขา: “เอาจริงดิ!?” ภาคิน: “น่ารักขนาดนี้” คิมหันต์: “นั้นสิ น่าเอาขนาดนี้” “บอกแล้วไง คนนี้ของกู” “แล้วมึงจะมาหวงทำไม คนก่อนๆก็แบ่งให้พวกกูเอา” ซันกับเพื่อนคนอื่นต่างมองหน้าชายหนุ่มที่กำลังออกตัวเป็นเจ้าของ “ยกเว้นคนนี้ เพราะเธอเป็นเหยื่อในเกมส์” “ว้าว น้องคนนี้เองเหรอ จุ๊ๆ เด็ดจริง!” คิมหันต์ทำตาโตยิ้มกว้างทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงที่พวกเขากำลังพนันกันก่อนหน้าเป็นใคร ภาคิน:“ไม่เป็นไร พวกกูรอได้ มึงเอาเสร็จพวกก็ค่อยต่อก็ได้ ฮ่าๆ” ซัน: “นั้นสิ” “ไว้กูเบื่อ ค่อนว่ากัน” พูดจบ ชายตัวโตก็เดินตามโค้ชหนุ่มไป “กูว่าไอ้เพลิงแปลกๆนะ” “นั้นสิ” สิ้นคำ ซันกับเพื่อนก็เดินตามชายผู้เป็นกัปตันทีมไปทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD