@สนามกีฬา
ผมกับเพื่อนนั่งอยู่บนอัฒจันทร์มองดูลงไปในสนามที่กำลังทีการคัดเลือกนักฟุตบอลใหม่ เนื่องจากสมาชิกบางคนเรียนจบไปแล้ว บางคนก็บาดเจ็บหนักจากการแข่งที่ผ่านมาจำเป็นต้องรักษาตัวยาว หายไม่ทันการแข่งที่กำลังมาถึง
“เออ ไอ้เพลิง กูจำได้ว่าก่อนหน้านี้มึงสนใจเด็กปี1 ตอนนี้ไปถึงขั้นไหนแล้ววะ?”
ทุกคนต่างหันมามองหน้าผมทันทีที่ขุนเขาพูดจบแต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากพูดคำถามอื่นก็ตามมา
“อย่าบอกนะ! ว่าเสร็จมึงแล้ว?”
ภาคินเริ่มจุดประเด็นเหมือนกำลังหาเรื่องคุยในวงเหล้า ทั้งที่ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ถ้าตอนเรียนความจำดีแบบนี้ มึงสองตัวคงได้เกียรตินิยมมากกว่าเกรดนิยมไปแล้ว”
“หึ พูดกวนตีนแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเสืออย่างมึงตะครุบเหยื่อพลาด!?” คิมหันต์พูดพลางแสยะยิ้ม สายตาที่กำลังมองเพื่อนแฝงไปด้วยความเจ้าและจับผิด พร้อมเสียงเค้นขำในลำคอ
หึ หึ
“มึงขำเชี่ยอะไร ไอ้คิม”
“ก็ขำมึงไง เป็นเสือมาตั้งหลายปี ไหงตอนนี้ยอมปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปง่ายๆ เรียนเก่งกีฬาเยี่ยม แค่เผด็จศึกผู้หญิงคนเดียว เสือก..” คำพูดหยุดลง พร้อมรอยยิ้มกวนประสาทเหมือนกำลังกวนใจให้ชายตัวโตเสียหน้า ซึ่งมันก็ได้ผล
ชายตัวโตถอนลมหายใจยาวอย่างเบื่อหาย จากที่ไม่ได้คิดจริงจัง แต่เมื่อถูกเพื่อนๆในกลุ่มท้าทาย มีหรือคนอย่างเขาจะอยู่นิ่งให้คนดูถูก
“หึ! ปัญญาอ่อน ไร้สาระ”
“ทำไม? หรือว่ามึงกลัวแพ้” คิมหันต์ยกยิ้มสายตายียวน ชวนให้หนุ่มใบหน้านิ่งขรึมขบกรามแน่น
“เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นจะต้องหงุดหงิดเลยหนิ อืม~ ก็ได้! แล้วมึงจะเอาเท่าไหร่ล่ะ?”
“1 แสน เป็นขี้ข้ากู 1 เดือน”
“ว้าว! ราคาขนาดนี้ ไม่ได้งอนพวกกูใช่ไหม? ก็ได้ๆ แต่ก็ต้องมีกำหนดเวลากันหน่อย จริงไหม?”
คิมหันต์หันไปมองหน้าเพื่อนๆที่ตอนนี้ต่างยิ้มกว้าง ก่อนจะยักคิ้วพยักหน้าเหมือนรู้ใจกัน
“น่าสนุก งั้นกูเอาด้วย!” ขุนเขาแทรกตัวเข้ามานั่งตรงกลางระหว่างคิมหันต์กับเพลิงก่อนที่ความกวนตีนของทั้งคู่จะทวีความรุนแรงขึ้นกว่านี้
“มึงล่ะ ไม่สนใจเหรอ?”
เพลิงหันไปถามซันที่นั่งอยู่ชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ ก่อนอีกอีกฝ่ายจะพยักหน้าแสยะยิ้มแทนคำตอบ
เมื่อทุกคนตกลงยอมรับเงื่อนไข แผนการมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัวของหนุ่มเจ้าแผนการทันที หากแต่สิ่งหนึ่งที่คาดไม่ถึงคือเธอคนนั้นกำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตของเขาโดยไม่รู้ตัว
“เฮ้ย! เพลิง! ลงมาตรงนี่หน่อย”
เสียงเรียกจากชายตัวสูงในชุดกีฬา กำลังยืนตะโกนโบกไม้โบกมือเรียกกลุ่มคนบนอัฒจันทร์ให้ลงไปที่สนาม ซึ่งนักศึกษาหนุ่มก็เดินลงไปหาอย่างว่าง่าย
“เลือกได้แล้วเหรอ?”
ผมหันไปมองชายตัวสูงผิวสีแทนกอดอกยิ้ม ก่อนจะหันไปมองนักกีฬาที่อยู่กลางสนามฟุตบอล
“เอ่อ เลือกได้แล้ว แต่อยากให้พวกมึงมาช่วยดูเลือกเพิ่มอีกที”
“โธ่ พี่แชมป์ ถ้าพี่โอเค พวกผมก็มีปัญหา” ขุนเขาพูดพลางเดินเข้ามากอดคออย่างสนิทสนม
“ไอ้ขุน! กูเพื่อนมึงเหรอ?” น้ำเสียงเข้มดุ ทำให้ขุนเขาค่อยๆ ยกแขนออก
“แฮะๆ ขอโทษครับ”
“ที่อยากให้ช่วยเลือก ไม่ใช่นักฟุตบอล แต่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลต่างหาก”
ห๊ะ!!! 0.0!!
เสียงขุนเขาอุทานด้วยความตกใจซึ่งคนอื่นก็มีอาการไม่ต่างกัน โค้ชหนุ่มแสยะยิ้มเหลือบมองกัปตันทีมที่ยังนิ่งสงบ
“ทำไมต้องมีผู้จัดการ? ผมไม่อยากได้”
“ใช่! พวกเราก็ไม่อยากได้ มีไอ้เพลิงเป็นกัปตัน มีพี่แชมป์เป็นโค้ช แล้วจะเอาผู้จัดการมาทำอะไร?”
“มันก็จริง แต่มันยังไม่พอ เพราะยังมีงานเอกสาร สวัสดิการ จัดตารางฝึกซ้อม ดูแลเรื่องตารางการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง มึงคิดว่าไอ้เพลิงคนเดียวมันจะทำไหวเหรอ หรือว่าพวกมึงจะช่วย ไอ้ขุน!”
โค้ชหนุ่มพูดพลางหันไปจ้องหน้าขุนเขาเป็นการกดดันให้สมาชิกคนอื่นๆยอมรับข้อเสนอ
“เห็นไหมล่ะ? มึงก็เก่งแต่ปาก ปอดแหกกันทั้งนั้น”
“อ้าว พี่แชมป์พูดแบบนี้ พี่มาเดี่ยวกับผมเลยดีกว่าไหมห้ะ!”
ปัก!
โอ๊ย!!
พูดไม่ทันขาดคำ ขุนเขาก็ส่งร้องเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บปวด เพราะถูกปลายนิ้วดีดเข้ากลางหน้าผากจนต้องผละถอยหลังออกไปไกล
“ถอยออกมาทำไมวะ? เข้าไปสิ!”
“อย่าผลักสิวะ แม่ง ดีดมาได้เจ็บชิบหาย!”
“เก่งดีนักสมน้ำหน้า”
“ไอ้คิน กูเพื่อนมึงนะ”
“หุบปาก! น่ารำคาญ” น้ำเสียงหงุดหงิดทำให้ทุกคนนิ่งเงียบ แม้จะบอกว่าเป็นเพื่อนแต่ด้วยอำนาจที่มี เขาจึงเป็นเหมือนหัวหน้าของกลุ่ม
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มขุ่นมัว แชมป์จึงรีบแก้สถานะการณ์โดยการเดินนำหน้าเข้าไปหากลุ่มนักศึกษาที่อยู่มุมสนาม
“ไอ้เพลิง น้องคนนั้น!”
ขุนเขาสะกิดแขนเรียกเพลิงให้มองเข้าไปในกลุ่ม ชี้นิ้วให้ดูหญิงสาวตัวเล็ก ที่กำลังนั่งคุยกับเพื่อน ผิวขาวสว่าง ใบหน้าจิ้มลิ้ม รอยยิ้มน่ารักผสมกับความสดใสของเธอทำให้เขาลืมตัวมองตาไม่กระพริบ หากแต่ไม่ใช่เพียงแค่เขาเพราะตอนนี้เพื่อนและหนุ่มนักศึกษาอีกหลายคน ก็มองดูเธออยู่เช่นกัน
ขุนเขา: “แม่ง! โคตรน่ารัก”
คิมหันต์: “อืม ผิวใสมาก”
ภาคิน: “ใสซื่อ ไร้เดียงสา”
“นั่นของกู!”
หื้อออ!! 0.0!!
ทุกคนหันควับ มองหน้าเจ้าของคำพูดเมื่อครู่อย่างพร้อมเพียง
“มีอะไร?”
“น้องเขาเป็นของมึงตอนไหน?” ภาคินถลึงตา ถามด้วยความตกใจและสงสัย
ใบหน้าคมคายยกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์มองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพอใจ โดยไม่สนใจตอบคำถามของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
“ผมจะเอา! คนนั้น”
นักศึกษาหนุ่มพูดพลางหันไปสบตากับอาจารย์โค้ช ก่อนทั้งสองจะยิ้มให้กันอย่างเป็นนัย
“หึ ของแบบนี้ ใครดีใครได้ไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของซันทำให้ผมหันไปมอง ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เพราะผู้ชายหน้าหวานเจ้าสำอางอย่างมัน ถึงจะเจ้าชู้กินไปเรื่อยแต่ก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนก่อน
“หรือว่า มึงก็.. สนใจ?”
“ก็น่าสนใจไม่ใช่เหรอ?”
ซันยักคิ้ว ฉีกยิ้มกว้างแทนคำตอบว่าทั้งคู่กำลังสนใจผู้หญิงคนเดียวกัน แม้เป็นเพื่อนสนิท กินดื่มด้วยกันมาหลายปี แชร์ทุกอย่างกระทั่งผู้หญิง แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา
“พี่ตั้ม! ทางนี้ค่ะ เหนื่อยไหม? มาเดี๋ยวพระพายเช็ดเหงื่อให้ ^^” ปลายเท้าเล็กเขย่งดันตัวให้สูง พร้อมเอาผ้าสีชมพูซับแก้มให้ชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ แค่เห็นหน้าพระพายพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว”
เสียงพูดคุยและการกระทำระหว่างคนทั้งคู่ไม่ได้ถูกปิดบังหรือซ่อนเร้นจากสายตาคนรอบข้าง
“ไหนบอกไม่ได้คบกันไง หวานจนมดขึ้นแล้วเนี่ย”
“หวานอะไร? ก็แค่เช็ดเหงื่อเอง” เสียงหวานปฏิเสธแต่สองแก้วขาวกลับแดงเรื่อด้วยความเขินอาย
“มาทำไมครับ แดดแรง อากาศก็ร้อน ทำไมยังไม่กลับบ้าน”
ดวงตาตี๋จ้องสาวน้อยตัวเล็ก สลับกับเพื่อนของเธอเพื่อฟังคำตอบ
“ก็มาสมัครเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลไงคะ ถ้าพระพายได้เป็นผู้จัดการทีมไงคะ”
“อ่ะ อย่าๆ อย่ามองจุ๊บแจงแบบนั้นนะคะ จุ๊บแจงห้ามแล้ว”
จุ๊บแจงรีบออกตัวปฏิเสธ ทันทีที่ชายหนุ่มหันไปมองเหมือนกำลังจะกล่าวโทษว่าไม่ห้าม
“จุ๊บแจงไม่เกี่ยวค่ะ พระพายอยากมาเอง” ดวงตาอ้อนมองชายหนุ่มในดวงใจ
“หึ กูว่าพวกมึง คงได้แดกแห้วกระป๋องแล้วล่ะ”
‘อย่าเสือก!!’
เสียงประสานพร้อมเพียง มองอาจารย์หนุ่มอย่างหงุดหงิด ทำแชมป์หุบยิ้มกดอารมณ์สะใจเอาไว้เงียบๆ
“ได้ยินแล้วหนิ ว่ายังไม่ได้เป็นแฟน แต่ถึงเป็น! หึ ใครจะสน”
ขุนเขา: “เอาจริงดิ!?”
ภาคิน: “น่ารักขนาดนี้”
คิมหันต์: “นั้นสิ น่าเอาขนาดนี้”
“บอกแล้วไง คนนี้ของกู”
“แล้วมึงจะมาหวงทำไม คนก่อนๆก็แบ่งให้พวกกูเอา” ซันกับเพื่อนคนอื่นต่างมองหน้าชายหนุ่มที่กำลังออกตัวเป็นเจ้าของ
“ยกเว้นคนนี้ เพราะเธอเป็นเหยื่อในเกมส์”
“ว้าว น้องคนนี้เองเหรอ จุ๊ๆ เด็ดจริง!” คิมหันต์ทำตาโตยิ้มกว้างทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงที่พวกเขากำลังพนันกันก่อนหน้าเป็นใคร
ภาคิน:“ไม่เป็นไร พวกกูรอได้ มึงเอาเสร็จพวกก็ค่อยต่อก็ได้ ฮ่าๆ”
ซัน: “นั้นสิ”
“ไว้กูเบื่อ ค่อนว่ากัน” พูดจบ ชายตัวโตก็เดินตามโค้ชหนุ่มไป
“กูว่าไอ้เพลิงแปลกๆนะ”
“นั้นสิ” สิ้นคำ ซันกับเพื่อนก็เดินตามชายผู้เป็นกัปตันทีมไปทันที