“พระพาย”
เสียงกระซิบเบา ดึงสติให้ฉันหันไปมอง เป็นเสียงของจุ๊บแจงตอนนี้กำลังยืนหลบหลังเสากวักมือเรียก
“มีอะไร?”
“เมื่อกี้ พี่เพลิงเขาทำอะไร?”
“ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย เป็นแค่อุบัติเหตุ”
รู้ทั้งรู้ว่าเป็นคำตอบที่ฟังไม่ขึ้น แต่ตอนนี้ในหัวของฉันก็ตื้อตันคิดอะไรไม่ออก และไม่รู้ว่าเขาทำแบบนั้นไปทำไม จุ๊บแจงชักสีหน้าจ้องฉันตาเขม็งก็แน่ล่ะ ใครจะเชื่อจริงๆล่ะ
“แน่ใจนะว่าคืนนั้นเป็นแค่วันไนท์ ไม่ได้มีอะไรต่อ?”
“แน่ใจสิ”
“แน่ใจอะไรเหรอครับ?” คำถามแทรกทำให้ทั้งสองสะดุ้ง หันมองชายตัวสูงที่เดินเข้ามาหาทั้งคู่พร้อมรอยยิ้ม
“อุ้ย! เป็นส่วนเกินสินะ ฉันออกไปรอข้างนอกดีกว่า” จุ๊บแจงยักคิ้วให้เพื่อนแล้วรีบเดินออกไปปล่อยให้เพื่อนรักกับชายตัวโตพูดคุยกันต่อ
“ว่ายังไงครับ แน่ใจเรื่องอะไร?”
“ก็แน่ใจว่ามหาลัยของเรา ต้องชนะยังไงล่ะคะ” เสียงหวานตอบด้วยใบหน้าฉีกยิ้ม
“แล้วเรื่องที่พี่เคยถามล่ะครับ แน่ใจหรือยัง?”
สายตาหวานรอยยิ้มละมุน น้ำเสียงอุบอุ่นที่สาวๆหลายคนตกหลุมรักไม่เว้นแม้แต่ตัวฉันเอง แต่ไม่รู้ทำไม วันนี้ถึงพูดคำนั้นออกมาไม่ได้แล้ว ทั้งที่พี่ตั้มคือผู้ชายที่ฉันแอบชอบมาตลอดก็ตาม
“เรื่องนั้น..”
“ไม่เป็นไรครับ ไว้จบเกมส์วันนี้ค่อยบอกพี่ก็ได้” น้ำเสียงนุ่ม พร้อมรอยยิ้มละมุน ช่างเป็นการตอกย้ำความรู้สึกผิดภายในใจของฉันให้ชัดเจนมากขึ้น
“พี่ตั้มเหนื่อยไหมคะ? เอาผ้าเย็นไหมเดี๋ยวพระพายไปเอามาให้”
พึ่บ!
“ฉันก็เหนื่อย ไม่คิดจะถามฉันบ้างเหรอ?”
เอวเล็กถูกโอบดึงเข้าไปกอด พร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างติ่งหู
“ปล่อยพระพาย เดี๋ยวนี้”
“ทำไมกูต้องปล่อย”
ชายตัวโตจ้องหน้ามองตากันไม่กระพริบ ภายใต้ความเงียบไร้คำพูดทว่าสายตาของพวกเขาทั้งคู่กลับเต็มไปด้วยคมดาบที่กำลังปะทะฟาดฟันกันเสียงดัง บรรยากาศรอบๆขุ่นมัว รัศมีความน่ากลัวเข้าปกคลุมแผ่ขยาย ความรู้สึกอึดอัดทำคนตัวเล็กรับรู้ได้
“กัปตันจะเอาผ้าเย็นใช่ไหมคะ ดะ เดี๋ยวพระพายจะไปเอามาให้”
ร่างเล็กพยายามดันตัวออกจากท่อนแขนใหญ่ทว่ายิ่งดิ้นมากเท่าไหร่แรงกอดรัดก็ยิ่งรัดแน่นมากขึ้น แต่สายตาของพวกเขากลับยังจ้องตากันอยู่ตลอด แต่แล้ว..
“มีเรื่องอะไรกัน?”
เสียงทุ้มต่ำพร้อมร่างชายผิวแทนหุ่นล่ำ สำหรับหญิงสาวเสียงนั้นเป็นดั่งเสียงสวรรค์ไม่มีผิด
“เปล่า! แค่คุยเรื่องแผนของครึ่งหลังเฉยๆ”
คำตอบเรียบง่ายไม่มีแม้แต่หางเสียงแสดงถึงความเคารพ แต่โค้ชหนุ่มกลับไม่ได้ต่อว่าหรือตักเตือนแถมยังพยักหน้ารับ แล้วหันกลับไปมองนักฟุตบอลที่กำลังนั่งพักกวักมือเรียกให้ทุกคนมาร่วมตัวกันตรงนี้เหมือนมีเรื่องพูดคุย
“เปล่าได้แล้วคะ” ร่างเล็กดันกายผลักตัวเองออกจากชายตัวโต ซึ่งคร่าวนี้ เขายอมปล่อยเธออย่างว่าง่าย
ทุกคนวิ่งเข้ามาร่วมตัวกัน บ้างก็ยืดตัวบิดไปมาเพื่อนคลายเส้น บ้างก็จัดแต่งชุดของตัวเองให้พร้อมกับการลงสนาม
“การแข่งในครึ่งหลังให้ทุกคนทำตามเกมส์เดิมที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้า เดินเกมส์ให้ไว ยิงให้เร็ว อย่างคิดสร้างแต่ผลงาน เราเล่นกันเป็นทีมไม่ได้เล่นคนเดียวเข้าใจไหม?”
เข้าใจครับ!
เสียงตอบรับที่เข้มแข่งสร้างขวัญกำลังใจให้กับทุกคนในทีม และเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมีกำลังใจและมีพลังในการแข่ง
“เพลิง มีอะไรจะพูดอีกไหม?”
“มี!”
“เอาสิ” โค้ชหนุ่มยกยิ้ม มองหน้ากัปตันทีมที่ตอนนี้สายตาของเขายังจับจ้องมองผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีมไม่ยอมละ
“ต่อไปนี้ห้ามใช้พระพายทำโน้นทำนี่ แล้วก็ห้ามพูดแซวหรือแชทหาโดยที่กูไม่สั่ง”
“ทำไมวะ ก็พระพายเป็นผู้จัดการ ทำไมพวกกูจะใช้ไม่ได้”
“เมื่อก่อนได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว”
“ปกติพวกเราก็ไม่เคยใช้นะครับพี่เพลิง อย่างมากก็แค่หยิบน้ำให้ ใช่ไหมครับน้องพระพาย”
ปัก!
โอ๊ย!!
ขวดน้ำเปล่าฟาดเข้ากลางหน้าผากสมาชิกทีมรุ่นน้องทันทีที่พูดจบ พร้อมกับสายตาดุมองด้วยความไม่พอใจ
ระหว่างที่ทุกคนกำลังคุยกันผู้หญิงตัวเล็กก็ได้เพียงยืนนิ่งฟังอยู่เงียบๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพราะเธอคิดว่าการที่เขาพูดแบบนั้นเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอก็ต้องลาออกจากทีมแล้วก็ตำแหน่งนี้แล้ว ดังนั้นการประกาศในเวลานี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“เหตุผลละวะ มึงมีเหตุผลอะไร?”
ภาคินทำหน้าที่ถามแทนทุกคนที่อยู่ตรงไหน เพื่อคลายความสงสัยไขข้อข้องใจให้กับทุกคนได้รู้
“เพราะพระพาย.. เป็นแฟนกู”
0.0!!
ว้าว! ฮิ้ว~
เสียงหัวเราะแซวดังทันทีที่ได้ยินคำพูดของกัปตันหนุ่ม ไม่เว้นแม้แต่แชมป์อาจารย์หนุ่มที่ยิ้มด้วยความพอใจ
“ห๊ะ! ฟะ แฟน แฟนอะไรคะ? ไม่สิ ไม่ใช่” ใบหน้าเล็กขาวซีด ดวงตากลมเบิกกว้าง ถามย้ำไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
หมับ!
“พูดเชี่ยอะไร? ไหนบอกว่าห้ามไม่ให้คนในทีมมีแฟนหรือว่าคบกันไง?”
ตั้มกระชากไหล่ของรุ่นพี่ ถามเสียงสั่นด้วยความโกรธ
“ห้าม? หึ มันเป็นแค่เกมส์สนุกๆ คัดคนเข้าทีม มีแต่คนโง่ที่เชื่อกฎแบบนั้น ”
พั๊วะ!
เฮ้ย! เชี่ย!
หยุด!
ทันทีที่หมัดแน่นเหวี่ยงเข้าปลายคางของใบหน้าคมเข้ม ร่างของตั้มก็ถูกลากแยกออก ขณะคนที่เป็นฝ่ายถูกกระทำกลับแสยะยิ้มยืนนิ่ง ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มจากด้านให้หายชา ก่อนจะเช็ดของเหลวสีแดงสดออกจากมุมปาก โดยไม่มีสีหน้าของความโกรธหรือไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
“พระพายกับผม พวกเรากำลังจะคบกัน”
“เหรอ? มึงถามเธอหรือยัง ว่ากูหรือมึงที่เป็นแฟน”
“กัปตันหุบปากไปเลยนะ ไม่ใช่นะคะ พี่ตั้ม ไม่ใช่แบบนั้น”
สาวน้อยพยายามปฏิเสธ เธอมองเข้าไปในดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นของตั้มซึ่งตอนนี้มีเพียงความเศร้าและความผิดหวัง
“พอ! ไว้แข่งจบพวกมึงค่อยไปเคลียร์กันเอง ตอนนี้เตรียมตัวลงสนามก่อน”
โค้ชหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดึงสติของทุกคนให้กลับมาจดจ่ออยู่กับการแข่งขัน
ปี๊ดดดด~
เสียงนกหวีดเป่าดัง เป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาพักและเรียกให้นักฟุตบอลของทั้งสองทีมกลับลงสู่สนามแข่งอีกครั้ง
เกมส์การแข่งขันดำเนินอย่างดุเดือด เสียงกองเชียร์ดังกึงก้องไปทั่วทั้งสนามไปจวบจนวินาทีสุดท้ายพร้อมกับชัยชนะอย่างภาคภูมิ
กรี๊ดดด~~~
เย้~ เฮ้~~
เสียงตะโกนโห้ร้อง กองคู่ตีสนั่น กองเชียร์และนักฟุตบอลต่างกระโดดโลดเต้นโผล่เข้ากอด ส่งเสียงหัวเราะแสดงถึงความดีใจสุดขั้ว
“คืนนี้ ฉลองที่ผับ G”
เย้~~
โค้ชหนุ่มประกาศก้อง ตามด้วยเสียงเฮดังเป็นการตอบรับ
พิธีการรับถ้วยประกาศชัยชนะเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่แม้เป็นการแข่งระดับมหาลัยแต่ก็เป็นการปูทางไปสู่เส้นทางใหญ่ในอนาคต
..หน้าผับหรู
“ฉันว่า ฉันไม่เข้าไปดีกว่า”
“ไปเถอะ นะ นะ” สาวน้อยกระพริบตาปริบๆ อ้อนเพื่อนรักให้ใจอ่อน
“ถึงฉันไม่เข้าไป ก็ยังมีพี่ตั้มอยู่คงไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก มั้ง? อย่าลืมสิว่าฉันเป็นคนนอก ที่สำคัญพี่เพลิงก็อยู่เขาคงไม่ปล่อยให้ใครทำอะไรไม่ดีในร้านของเขาหรอก”
“ก็เพราะมีเขาอยู่นะสิ ในนั้นถึงได้น่ากลัว” เสียงบ่นในลำคอ ท่าทางสิ้นหวังทำให้คนข้างๆถอนหายใจยาว
“ก็ได้”
“จริงนะ? เย้~”
ใบหน้าขาวฉีกยิ้มร่า ดวงตากลมสวยเป็นประกายทันทีที่ได้ยินคำตอบ
“มารยา ตอแหล”
“เพื่อนเธอนั้นแหละ^^”
สองสาวเดินเกาะแขนกุมมือแน่น ตรงดิ่งเดินเข้าไปที่ประตูทางเข้า ทว่า..
“บัตร!”
“บัตร! บัตรอะไรคะ?”
“น้องสาว ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะครับ ที่น้อง ๆ อยากจะเข้าไปวิ่งเล่นตอนไหนก็ได้”
ชายตัวโตสี่ห้าคนยิ้มกริ่ม สายตาเจ้าเล่ห์มองสองสาวตั้งแต่จรดปลายเท้า ชุดวอมโอเว่อไซส์ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเหมือนเด็กมัธยมไม่มีผิด