ตอนที่18 แย่งชิง

1480 Words
การปรากฏตัวของชายหนุ่มสร้างความตื่นเต้นให้กับสมาชิกภายในห้องเป็นอย่างมาก ทุกคนนั่งเงียบตั้งใจฟังสิ่งที่ชายตัวโตกำลังจะกล่าว ใบหน้าและสายตาต่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวังมองว่าเขาเป็นเหมือนต้นแบบในการเจริญรอยตาม “พระพาย! เป็นผู้หญิงของกู” หัวใจของฉันแทบหยุดเต้น ทันทีที่ได้ยินเขาพูดคำนั้นออกมาจากปาก นี่เขาเป็นบ้าหรือว่าไปเมายาอะไรมา ถึงพูดออกมาแบบนั้น เสียงโห้ดังก้อง ทว่าหูสองทั้งข้างของเธออื้อดับ ความคิดภายในหัวมีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมาเต็มไปหมด พึ่บ แต่เมื่อชายหนุ่มข้างกายลุกขึ้น ประสาทสัมผัสทุกส่วนของเธอกลับรับรู้ได้ในทันที “พี่ตั้ม! จะกลับแล้วเหรอคะ พี่ตั้ม!” เสียงเล็กเรียกชื่อของเขาซ้ำๆ แต่เขากลับทำเหมือนไม่ได้ยิน ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้หญิงสาวตัวเล็กมองตามด้วยแววตาเศร้า “มึงต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ? ยังไงมันก็เป็นรุ่นน้องร่วมคณะ” ภาคินเดินเข้ามายืนข้างๆ เพลิง ขณะที่สายตาของเขายังอยู่ที่หญิงสาวตัวเล็ก ใบหน้าเรียบนิ่งเผยรอยยิ้มบนมุมปาก สายตาเย็นชาที่เขากำลังมองเธอกลับเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างน่ากลัว “หึ! กูทำอะไร?” “ทำเป็นเล่นสนุกไปเถอะ ระวังจะหลงเหยื่อไม่รู้ตัว” ขุนเขาพูดแทรกเอาแขนวางบนไหล่ของภาคินพร้อมแสยะยิ้ม ยักคิ้วให้กับเพลิง แล้วยกแก้วเทน้ำสีทองลงคอจนหมดใครคร่าวเดียว “ทำไม? กลัวว่ากูจะพลาดเหมือนมึงเหรอ?” “อ้าว ไอ้เชี่ยเพลิง” “เฮ้ย! พอเลย คุยเรื่องนี้ทีไรทำไมพวกมึงต้องกัดกันทุกทีวะ” ภาคินใช้มือดันผลักอกของเพื่อนทั้งสองออกไปคนละฝั่ง “ก็ไอ้เพลิงมันกวนตีนกูก่อน” “มึงหุบปากไปเลยไอ้ขุน เมาแล้วก็ไปนอนไป มึงก็เหมือนกันไอ้เพลิง แม่ง! กัดกันอย่างกับหมา” ระหว่างที่ภาคินบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทันใดนั้นเองที่สายตาของเพลิงเหลือบไปมองโซฟาซึ่งเคยมีหญิงสาวตัวเล็กนั่งอยู่ หากแต่ตอนนี้ที่ตรงนั้นเหลือเพียงความว่างปล่า “ไปไหนแล้ว!” เสียงพูดในลำคอ สายตาคมกวาดมองสำรวจไปรอบๆห้อง ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่เพื่อนสนิทของเธอแทน “พระพายไปไหน?” คำถามพุ่งตรงไปที่จุ๊บแจงซึ่งตอนนี้เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น “พระพาย เมื่อกี้ยังนั่งอยู่ตรงนี่ หะ หายไปไหนแล้วคะ” “กูถามว่า พระพายไปไหน?” เสียงตะคอกดัง สายตาน่ากลัวทำให้เธอตกใจจนพูดอะไรไม่ออก “เฮ้ย! ไอ้เพลิง มึงใจเย็นๆสิวะ จุ๊บแจงไม่.. “มึงอย่าเสือก! กูไม่ได้ถาม” ซันกัดฟันแน่น แต่ก็ทำได้เพียงก้มหน้านั่งเงียบๆตามคำสั่ง “ไม่รู้ จุ๊บแจงไม่รู้ ฮึก! ฮึก!” ใบหน้าขาวซีดพร้อมกับร่างที่กำลังสั่นเทา ทำให้เขาประเมินได้ว่าคำพูดของเธอไม่ใช่คำโกหกและเชื่อว่าเธอเองก็คงไม่กล้าแม้แต่จะคิด เพราะจากชื่อเสียงด้านมืดที่ทุกคนกล่าวขาน การจะทำให้เธอหายสาบสูญก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา ..ด้านหน้าของผับ ร่างสูงโปร่งเดินสับเท้าออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด จากที่เคยใจเย็น สุขุม ทว่าตอนนี้เขากลับไม่สามารถข่มอารณ์ความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ได้ เสียงขบกรามดังกร็อดๆ ใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงติ่งหู มือสองข้างกำจนสั่นหากแต่ไม่ใช่เพราะความกลัวแต่เพราะความโกรธเกรี้ยวที่กำลังลุกโชนอยู่ในอก เขาเร่งฝีเท้าก้มหน้าเดินห่างจากผับแห่งนี้ออกไปไกลเรื่อย ๆ โดยไม่สนว่ามีใครบางคนวิ่งตามออกมา พี่ตั้ม! พี่ตั้มคะ! “รอพระพายด้วย! ฟังพระพายอธิบายก่อน” พี่ตั้ม! พี่ตั้มคะ! ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ เสียงหอบร้องเรียกพร้อมกับเสียงเท้าเล็กวิ่งไล่หลังตั้งแต่ออกมาจากผับ ทว่ากลับไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มหยุดหรือหันแม้แต่จะหันมาสนใจ ตุบ! อ่ะ อร้าย!! กึก! ฝีเท้าของชายตัวสูงหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาว และเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นว่าร่างบางเล็กได้ทรุดลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นถนนเสียแล้ว ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำใสก่อนที่มันจะค่อยๆ ล้นไหลผ่านสองแก้มขาว สายตาของเธอทำให้เขาไม่อาจทิ้งเธอไปได้ กึก กึก กึก ตั้มเดินกลับมาหาคนตัวเล็ก ซึ่งเธอเองก็นั่งรอเฝ้ามองเขาผ่านม่านน้ำตาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเขามายืนอยู่เบื้องหน้า สายตาที่ทั้งคู่มองกันและกันเต็มเปี่ยมไปด้วยความผูกพันและห่วงหา ความรู้สึกที่พวกเขาไม่ต้องเอ่ยปากพูดแต่ก็เข้าใจกัน ตั้มนั่งคุกเข่าประคองร่างของหญิงสาวให้ลุกขึ้น เขาจับมือเล็กอย่างแผ่วเบารอยถลอกเล็กๆ มีของเหลวสีแดงซึมออกมา “เจ็บไหม?” น้ำเสียงนุ่ม สายตาอบอุ่น ความอ่อนโยนกลับทำให้น้ำตาหยดเล็กๆของเธอพรั่งพรูออกมาเป็นสาย สาวน้อยส่ายหน้าแทนคำตอบ รอยยิ้มหวานเปื้อนน้ำตา ทว่ากลับสามารถสร้างรอยยิ้มให้เขาได้ “ถ้าไม่เจ็บ แล้วร้องไห้ทำไมครับ?” “ก็พระพายกลัว กลัวว่าพี่ตั้มจะไปจากพระพาย กลัวว่าพี่จะไม่สนใจ กลัวว่า. อุ๊บ!! ยังพูดไม่ทันสิ้นคำเสียงเล็กของเธอก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากนุ่มของชายหนุ่ม แม้เธอจะรู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือต่อต้านการกระทำนั้นของเขา คนตัวเล็กหลับตาพริ้มปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่หัวใจของเขาและเธอเพรียกหา หมับ!! พึ่บ!! อ่ะ!! ท่อนแขนเล็กถูกกระชากดึงเอาร่างบางออกมาจากห้วงจูบของความฝัน กายเนื้อปลิวไปตามแรงเหวี่ยงกระแทกเข้ากับแผงอกกว้างของใครบางคน “ถ้าอยากได้ของเหลือจากกู มึงก็ต้องรอให้กูเบื่อก่อน” ทันทีที่ได้ยินเสียงพูด หัวใจของหญิงสาวก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะและเมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมองสิ่งที่เธอคิดตอนนี้ได้ปรากฎอยู่ตรงหน้า ความร้อนแผ่ไปทั่วใบหน้าราวกับกองไฟนับร้อยโหมเข้ามาหาเธอใครคร่าวเดียว “หมายความว่ายังไง?” “กัป กัปตัน!” ดวงตาเบิกกว้าง เรียกเจ้าของอกแกร่งในลำคอ “ปล่อยพระพายมาให้ผม ตอนนี้เราสองคนไม่ใช่คนในทีมฟุตบอลของพี่แล้ว พี่ไม่มีสิทธิ์มาบังคับหรือออกคำสั่ง” “ปล่อยเหรอ? กูคงปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปไม่ได้ อยากรู้ไหมว่าทำไม?” มุมปากหนากระตุกยิ้ม สายตาเจ้าเล่ห์ทำให้หัวใจคนตัวเล็กยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ “พูดบ้าอะไร? ปล่อยนะ พระพายจะกลับบ้าน ปล่อย!” ฉันพยายามพูดเหตุผลเพื่อหยุดไม่ให้เขาพูดอะไรไปมากกว่านี้ แต่ยิ่งพยายามดิ้นแรงโอบรัดของเขาก็ยิ่งแน่นและดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้สนใจคำพูดของฉันเลย “ทำไม?” “พี่ตั้มจะกลับบ้านใช่ไหมคะ พี่ตั้มกลับไปก่อนก็ได้ ดะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พระพายโทรหา นะคะ!” “หึ! ก็เพราะ.. “เพราะ เพราะพระพายเป็นผู้จัดการทีมยังไงล่ะ พระ พระพาย ตะ ต้องกลับไปจัดการเอกสารก่อนถึงจะกลับได้ พี่ตั้มกลับไปก่อนนะคะ” ฉันรีบพูดแทรกก่อนที่กัปตันจอมปีศาจจะพูดอะไรออกมา และเหมือนว่าเหตุผลของฉันจะได้ผลเพราะตอนนี้สายตาของพี่ตั้มหันมามองฉันแล้ว “ก็ได้ครับ งั้นพี่จะนั่งรอ” “ไม่ๆ ไม่เป็นไรคะ ^^ มีจุ๊บแจงอยู่เป็นเพื่อนแล้ว พี่ตั้มกลับไปพักเถอะนะคะ” รอยยิ้มแห้งๆ คำพูดตะกุกตะกัก มองยังไงก็ไม่น่าเชื่อเลยสักนิด จะให้ทำยังไงล่ะก็ตอนนี้สมองของฉันมันตันคิดคำโกหกอื่นไม่ออก แต่ถึงเป็นคำโกหกแบบตื้อๆ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่เสียพี่ตั้มไปและจะไม่ยอมเสียเขาไปเด็ดขาด “หึ! หัดเป็นเด็กเลี้ยงแกะตั้งแต่เมื่อไหร่?” “กัปตัน หุบปากไปเลยนะ! ไม่ต้องพูด!” ห๊ะ! คิ้วหนาเลิกสูง ดวงตาคมจ้องใบหน้าขาวของคนตัวเล็กในอ้อมกอด การกระทำของเธอกลับยิ่งกระตุ้นให้น่าสนใจมากขึ้น เพราะตั้งแต่จำความได้ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดกับเขาแบบนี้และยิ่งไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาเลยสักครั้ง ขณะที่เธอเป็นคนเดียวที่กล้าทำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD