"คุณไม่ได้หึงหวงผมแล้วเหรอ?"

1376 Words
ภาคินกลับมาถึงบ้านในตอนเกือบเที่ยงวัน "ป้าแสงครับ" เนื่องจากไม่เห็นบุคคลที่อยู่ร่วมบ้านเลยเรียกหาแม่บ้านเพื่อถามไถ่ "คะ คุณคิน" ป้าแสงกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหาตามเสียงเรียกของผู้เป็นเจ้านาย "แล้ว คุณแอนนี่ล่ะ?" หัวคิ้วมุ่นขึ้นในขณะที่ใช้สายตากวาดไปรอบๆบ้าน รถของมธุรดาก็ยังจอดอยู่ที่โรงจอดรถ นั่นก็แสดงว่าหล่อนไม่ได้ออกไปไหน "เมื่อครู่ป้าเห็นขนอุปกรณ์วาดรูปไปที่สระว่ายน้ำหลังบ้านค่ะ" "อ๋อ ครับ" ภาคินพยักหน้ารับทราบ รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อยที่เรื่องเมื่อคืนมธุรดาไม่ได้เอาไปฟ้องผู้เป็นบิดาและมารดาของเขา "คุณคินมีอะไรหรือเปล่าคะ?" ป้าแสงถามขึ้นเพราะปกติแล้วภาคินไม่ได้ดูสนใจมธุรดาขนาดนั้น "ไปหาน้ำกับของว่างให้แอนนี่ด้วยนะครับ" "ค่ะ" ภาคินเดินตามไปที่สระว่ายน้ำ เพิ่งอยู่ด้วยกันไม่กี่วันเขาไม่รู้เลยว่าภรรยาในนามชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร รู้เพียงแต่ว่าหล่อนชอบตามระรานเขาเป็นชีวิตจิตใจเท่านั้น ร่างบอบบางในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสวมทับกางเกงขาสั้นอวดขาเรียวเล็กนวลเนียน ใบหน้าใสไร้ซึ่งเครื่องสำอางมองเผินๆคงไม่คิดว่าเป็นสาววัยยี่สิบสี่ปี แต่หากเป็นเพียงเด็กสาววัยแรกแย้มที่ยังคงเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ทรงผมดำขลับที่เคยปล่อยยาวสลวยถูกรวบไว้หลวมๆเป็นทรงดังโงะอย่างไม่ได้ตั้งใจ บนพื้นเต็มไปด้วยกระดาษวาดรูปที่ถูกขยำทิ้ง "อืม ฝึกวาดมาเป็นเดือนแล้ว ทำไมถึงวาดไม่ได้สักทีนะ" บ่นขึ้นโดยไม่รู้ว่าคนตัวสูงบางคนเดินกอดอกมายืนอยู่ข้างหลัง "อุย! คุณ" เผลออุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อมือเรียวที่กำดินสอวาดรูปถูกเขากอบกุมเอาไว้ ก่อนจะจับมือให้ลงน้ำหนักและจังหวะไปพร้อมกับเขา มธุรดาใจสั่นระรัวเพราะอยู่ใกล้กันเพียงปลายจมูก "ใจเย็นๆค่อยๆลากเส้น สังเกตมุมของแสงค่อยๆแรเงาไปแบบนี้ เห็นไหมเริ่มเป็นเค้าโครงแล้ว" เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ "จริงๆด้วยค่ะ" มธุรดาคลี่ยิ้มกว้างอย่างน่ารักเหมือนเด็กน้อยให้ภาคิน เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหล่อนในอิริยาบถแบบนี้ ไม่ใช่สาวเจนจัดทาปากแดงแปร๊ดวิ่งตามหึงหวงเขาไม่เว้นแต่ละวัน "เอาล่ะทีนี้ก็ลอง.." ภาคินลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ มธุรดาได้แต่ขมวดคิ้วว่าเขามาไม้ไหนอีก หรือว่าจะใช้แผนเดียวกับเธอ แต่..วันนี้เธอเฟคไม่ไหวหรอกนะ "แล้วนั่นอะไร?" ชี้ไปบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยหนังสือและแล็ปท็อป "ทำงานค่ะ" "หืม มีงานทำด้วยเหรอ?" ไม่รอช้าภาคินถือวิสาสะเดินเข้าไปดูงานอย่างว่าของเธอทันที มธุรดายักไหล่ไม่ได้สนใจจะร้องห้ามเพราะงานของเธอไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อะไร สุดท้ายแล้วก็ถูกเขาดูถูกอยู่ดีเพราะสำหรับเธอแล้วงานของเธอไม่ได้มีคุณค่าถึงขั้นรับเงินทองเป็นกอบเป็นกำ เพียงแต่มธุรดามองว่ามันมีคุณค่าทางใจที่ประเมินออกมาไม่ได้ต่างหาก ภาคินนั่งลงอ่านสิ่งที่อยู่หน้าจออย่างตั้งใจ โดยที่มธุรดาสนใจอยู่กับการวาดรูป ทุกอย่างอยู่ในความเงียบไปชั่วครู่เมื่ออีกคนนั่งอ่านนิยายส่วนอีกคนนั่งตั้งใจวาดรูป "อืม...บทเลิฟซีน มันยังดูแข็งๆไปนะ"จู่ๆภาคินก็เอ่ยวิจารณ์บทนิยายของเธอขึ้นมา มธุรดาแทบสำลักน้ำลาย ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปปิดหน้าจอทันที แก้มสาวแดงปลั่งด้วยความเขินอายเธอลืมไปว่านิยายเรื่องนี้มีบทอัศจรรย์ด้วย ท่าทางอายแทบแทรกแผ่นดินหนีของหญิงสาวทำให้ภาคินเผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างขำขันปนไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู มธุรดาอึ้งตะลึงไปเล็กน้อย 'เขายิ้ม ให้ตายเถอะ ยิ้มออกมาแบบนี้หล่อเป็นบ้า' ใจสาวเต้นตึก ๆ รัวเร็วอย่างไม่เป็นจังหวะ ไม่อยากจะคิดว่าคุณภาคิน สุทธาคุณผู้เย็นชาเหมือนน้ำแข็งที่เย็นเชียบวันนี้มีอารมณ์ขันกับเขาด้วย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารอยยิ้มของเขามันมีผลกับหัวใจของเธอมากเลยทีเดียว "ก็..ก็ แอนนี่ยังไม่ได้รีไรท์เลย เขียนไปงั้นๆก่อน" รีบแก้ตัว แก้มยังคงร้อนผ่าวแดงเป็นลูกตำลึง ยิ่งถูกสายตาคมจ้องมองแบบแปลกๆอีก มธุรดาเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ดูถูกเย้ยหยันหรือว่า...เห้อ ก็แล้วแต่ มธุรดาไม่อาจจะห้ามความคิดของใครได้ จะคิดอย่างไรก็ช่างเถอะ "ชอบงานด้านนี้สินะ" ตอนแรกภาคินนึกว่าลูกสาวคนรองของรัศมิ์สกุลจะไม่เอาการเอางานซะอีกที่แท้หล่อนไม่ได้มีหัวด้านธุรกิจ แต่ถึงจะมีความสามารถให้เขาเดาแล้วล่ะก็ไม่น่าจะบังคับมธุรดาให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำได้ หล่อนมีสไตล์ตัวตนอีกแบบกับที่แสดงออกมาให้เขาเห็น 'เธอเป็นคนยังไงกันแน่นะแอนนี่?' ภาคินเริ่มวิเคราะห์หญิงสาวแต่แอบเก็บงำทุกอย่างไว้ในใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดมาตลอดหลายเดือน และไม่ได้เหมือนกับกรรวีพี่สาวแม้แต่นิด 'จะว่าไปแล้วก็น่าค้นหาไม่ใช่น้อย จะเป็นไรถ้าเราจะเล่นตามบทของหล่อนไปด้วย ก็คงจะน่าสนุกดีพิลึก' มุมปากหยักโค้งขึ้นผุดยิ้มออกมาโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้สังเกต "เย็นนี้ผมมีนัดคุยงานด่วนกับลูกค้าที่พัทยา" มธุรดาที่กลับไปนั่งตรงโต๊ะของตัวเองฟังแล้วนิ่งเฉย ไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจาก "ค่ะ" คำตอบสั้นๆที่ปกติคนขี้หึงขี้หวงเขาจะไม่นิ่งเฉยแบบนี้แน่นอน ภาคินเริ่มแน่ใจอะไรบางอย่าง "คุณต้องไปเตรียมตัวเพราะคุณจะต้องไปกับผมด้วย" "แอนนี่ไม่ไปหรอกค่ะ " ตอบเอื่อยเฉื่อย ก็บอกแล้ววันนี้ไม่มีแรงเฟคใส่เขาจะไปทำอะไรก็ไปดิ จะมารายงานทำไมคะคุณสามี "ผมไปพัทยานะ สาวๆเยอะกว่าไนท์คลับเมื่อคืนอีก" "ค่ะ" ยังมีทีท่าเงียบเชียบเหมือนเดิม เธอสนใจแต่รูปวาดที่กำลังบรรจงวาดขึ้นตามที่เขาสอนและยิ้มดีใจที่เริ่มออกมาดี ออกจะรำคาญภาคินมากกว่าที่ไม่ออกไปซะที "คุณไม่ได้หึงหวงผมแล้วเหรอ?" แค่นั้นแหล่ะดินสอสองบีที่อยู่ในมือก็ร่วงหล่นลงบนพื้นในทันที "เมื่อกี้ว่าอะไรนะคะ ไปพัทยาเหรอ ไปกับใครคะ แล้วไปพบลูกค้าแบบไหน ผู้หญิงหรือผู้ชาย?" จากที่แน่ใจแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ตอนนี้ภาคินเริ่มแน่ใจแล้วว่ามธุรดาไม่ได้รู้สึกชอบเขาจริงๆ มธุรดาคงจะทำตามความต้องการของพ่อแม่ของหล่อนที่ต้องการให้หล่อนทำแบบนี้เอาใจเขา ซึ่งเขาไม่ต้องการความสัมพันธ์จอมปลอมแบบนั้น ก็ได้...อยากแสดงก็เอาให้เต็มที่เลยแอนนี่ เขาจะรอดูบทละครที่คุณเขียนขึ้นมาแสดงเองเหมือนกัน แต่บอกไว้ก่อนว่าคนอย่างเขาไม่มีวันยอมขาดทุน 'วิทวัส จองห้องพักให้ผมกับภรรยาที่พัทยาด้วย เอาห้องHoneymoon Roomอย่างดีเลยนะ' ข้อความถูกส่งไปหาเลขาฯส่วนตัวชื่อวิทวัส หนุ่มหน้าตี๋อายุยี่สิบเจ็ดปีซึ่งมีอายุน้อยกว่าเขาสามปี วิทวัสเป็นเลขาฯและผู้ช่วยซึ่งมีหน้าที่คอยจัดการเรื่องส่วนตัวให้เขาในทุกๆเรื่องและทุกๆเวลาที่ภาคินต้องการ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD