"คุณจะไปนอนที่ไหนคะ?"
เอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นสามีป้ายแดงของเธอก้าวขาออกไปจากห้องนอนเพื่อไปนอนห้องอื่นเป็นคืนที่สองหลังจากแต่งงานกัน
"ผมไม่ชินที่จะนอนร่วมเตียงกับใคร โดยเฉพาะกับคนที่ไม่สนิท"
มธุรดาคิดว่าภาคินคงจะไม่พอใจที่เธอกลายมาเป็นเจ้าสาวตัวแทนของพี่สาว พ่อกับแม่สั่งนักสั่งหนาว่าเธอจะต้องทำดีกับเขามากๆเพื่อทดแทนความผิดของกรรวีพี่สาวของเธอที่ทำเอาไว้...อย่างน้อยก็หนึ่งปี
"คุณโกรธเรื่องที่เปลี่ยนตัวเจ้าสาวหรือเปล่าคะ"มธุรดาตัดสินใจถามขึ้น อย่างน้อยเธอก็ควรรู้ว่าสามีในนามของเธอรู้สึกอย่างไรกับเธอในตอนนี้ โกรธเกลียด รังเกียจ หรือว่า...รัก..ไม่น่าจะใช่อย่างหลัง
หลังจากได้ยินคำถาม สายตาคมปราบตวัดมองหญิงสาวด้วยสายตาที่เดาไม่ออก เห็นเพียงรอยยิ้มมุมปากเยาะหยันที่ผุดขึ้น
"เปล่า ทำไมผมต้องโกรธเรื่องไร้สาระแบบนั้น ครอบครัวคุณก็ไม่ได้ผิดสัญญาอะไร เจ้าสาวของผมเป็นใครก็ได้ขอเพียงเป็นสุทธาคุณตามที่ได้สัญญากันไว้"
"แสดงว่าที่ผ่านมาคุณไม่ได้รักพี่กรรวี"
ภาคินหัวเราะหึๆในลำคอ มธุรดาค่อนข้างงงกับท่าทางที่เย็นชาไร้อารมณ์ของภาคินผู้นี้ ไม่แปลกใจสักนิดที่พี่กรรวีไม่อยากแต่งงานด้วย เขาดูเหมือนพวกคนไร้หัวใจ
"ผมมองทุกอย่างเป็นธุรกิจ และอย่าคิดว่าผมจะไม่นอนกับคุณ เพียงแต่ช่วงนี้ผมขอเวลาปรับตัวชั่วคราวเท่านั้น....ระหว่างเรา ไม่ใช่เรื่องของความรัก....ก็แค่เรื่องธุรกิจซึ่งก็แปลว่าผมไม่มีทางที่จะยอมขาดทุน"
"ฉันไม่เข้าใจ.."
"ผมคิดว่าคุณไม่น่าโง่ที่จะเข้าใจอะไรยาก คิดหน่อยเหตุใดถึงยอมเป็นตัวแทนพี่สาว อ้อ และอีกเรื่องต่อหน้าคนอื่นรบกวนช่วยพูดแทนตัวเองว่าแอนนี่และมันจะดีมากๆถ้าคุณจะฝึกพูดเสียตั้งแต่ตอนนี้"
มธุรดาอึ้งไปหลายตลบนี่มันอะไรกัน เธอกลายเป็นสินค้าทางธุรกิจของผู้ชายคนนี้งั้นเหรอ
'ลูกต้องอดทน หนึ่งปีเท่านั้น..แล้วพ่อจะยอมให้ลูกหย่า'
พอนึกถึงคำพูดของพ่อทำให้มธุรดาต้องจำยอมนิ่งไว้ก่อน แม้นิสัยที่แท้จริงของเธอไม่ใช่คนยอมคนง่ายๆ
'ท่องไว้แอนนี่ ท่องไว้ว่าทุกอย่างเพื่อครอบครัว ผู้ชายคนนี้ก็คือธุรกิจเป็นสินค้าของเธอเหมือนกัน เขามองเธอยังไงเธอก็ควรมองเขาแบบนั้น'
"ค่ะ เพราะทุกเรื่องระหว่างเราคือเรื่องของธุรกิจ ทำไมแอนนี่จะเรียกตัวเองว่าแอนนี่ไม่ได้"
"ดี เรียนรู้ปรับตัวได้ไว ก็ย่อมดีสำหรับเราทั้งสองฝ่าย"
หน้าหล่อคมแววตาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เพทุบาย เขามองชีวิตของตัวเองเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหรือยังไงกันนะ ถึงได้คิดถึงแต่เรื่องกำไรขาดทุนไปซะหมด
ปัง!
เสียงประตูปิดลง มธุรดาได้แต่ถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่ง เอาเถอะอย่างน้อยเธอก็รอดมาสองคืนแล้ว
(แอนนี่)
เสียงข้อความแชทจากผู้เป็นพี่สาวดังขึ้น
(น้องโอเคมั้ย คุณภาคินดีกับน้องหรือเปล่า พี่เพิ่งรู้ว่าน้องต้องแต่งงานแทนพี่ แอนนี่พี่ขอโทษ)
แม้ว่ามธุรดาไม่อยากเปิดอ่าน แต่ตอนนี้พี่สาวของเธอกำลังตั้งท้องอยู่ กรรวีไม่ควรเครียดเรื่องนี้แม้ว่ามธุรดาควรโกรธแต่ว่า..ที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโตพี่กรรวีอดทนเพื่อเธอมามากพอแล้ว ยอมถูกกดดันรอบด้านเพื่อให้น้องสาวได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสมอมา
'เขาดีมากค่ะ พี่วีไม่ต้องเป็นห่วงแอนนี่นะคะ'
(ถ้าพี่ไม่ท้อง..พี่คงไม่หนีมา พี่ไม่อยากทำแท้ง..พี่เชื่อว่าพ่อคงไม่ปล่อยให้เด็กคนนี้เกิดขึ้นมาแน่ๆ หากว่าพี่ยังอยู่ที่นั่น)
'อย่าคิดมากนะพี่วี ดูแลหลานในท้องของแอนนี่ให้ดี เจ้าบ่าวของแอนนี่หล่อ รวย ทุกคนต่างอิจฉาที่แอนนี่ได้เขามาเป็นสามี ฉะนั้นไม่มีเรื่องไหนที่พี่วีต้องเป็นกังวลเลยค่ะ'
(เห้อ โล่งอกไปที...แบบนี้พี่ค่อยสบายใจหน่อย ฝากขอโทษคุณภาคินด้วยนะจ้ะน้องรัก ความจริงคุณภาคินไม่ได้รักพี่หรอก...ไม่ได้รักพี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รักน้องนะเข้าใจมั้ย ทำดีกับเขาเยอะๆทำให้เขารักแอนนี่ให้ได้นะ)
'ค่ะ'
ทุกคนต่างก็บอกว่าให้เธอทำดีกับเขา แต่ไม่มีใครสักคนถามเลยว่าเขาทำดีกับเธอหรือเปล่า หนึ่งปี หนึ่งปี มธุรดาท่องคำนี้ซ้ำๆ หนึ่งปีหลังจากนี้เธอจะคว้าเอาอิสรภาพคืนมาให้ได้ ไม่ใช่คว้าหัวใจของเขา