อุ่นไอฟ้าก้าวเข้าไปโรงครัวสถานที่ที่เธอเริ่มต้นทำงานตอนย้ายมาอยู่ที่นี่ ตอนนั้นเธออายุแค่สิบแปด เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีแรกก็ต้องตัดสินใจออกจากการศึกษากลางคันเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้องเพราะเธอไม่กล้าสู้หน้าคนรู้จัก และเธอยังหมดสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษาเพราะความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ด้วยความรู้ที่มีทำให้เธอเริ่มต้นจากงานผู้ช่วยแม่ครัวซึ่งก็คือ ลดา โชคดีที่อุ่นไอฟ้ามีทักษะการทำอาหารอยู่พอสมควรเพราะต้องดิ้นรนดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก จึงทำงานในครัวได้อย่างคล่องแคล่ว
โชคดีของอุ่นไอฟ้าอีกเรื่องคือคนที่นี่ล้วนเมตตาเธอและบุตรชาย นอกจากตัวเธอที่ต้องคอยดูแลอาทิตย์ที่เธอจะพามานอนบนตั่งที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากห้องครัวและมองเห็นได้ในระยะสายตา แม่ครัวและคนงานหลายคนก็แวะเวียนผลัดกันมาเล่นและช่วยดูแลอาทิตย์เช่นกัน
โรงครัวแห่งนี้แยกเป็นสองส่วนคือ ส่วนครัวกับส่วนโรงอาหาร ส่วนครัวจะอยู่ด้านหลัง มีอุปกรณ์ที่เพียบพร้อมและมีห้องเย็นขนาดย่อมเพื่อเก็บของสดสำหรับทำอาหารให้คนงานในสวนส้มกว่าสองร้อยชีวิตทั้งสามมื้อตามรอบเวลาที่กำหนดแน่ชัด ส่วนโรงอาหารจะเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีโต๊ะยาววางเรียงต่อกันไปพร้อมกับเก้าอี้ยาวที่ทั้งหมดรวมกันสามารถรองรับคนได้สามร้อยคน รอบอาคารติดหน้าต่างที่ทำจากกระจกบานใหญ่ไว้ โดยหน้าต่างจะถูกเปิดในเวลาเช้าและเย็น ส่วนตอนบ่ายจะถูกปิด และภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อให้พนักงานได้พักผ่อน
รามเจ้าของสวนส้มแห่งนี้เป็นเจ้านายที่ใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ของลูกน้องมาก เขาพูดเสมอว่าสวนส้มแห่งนี้เติบโตเพราะความใส่ใจของพนักงานทุกคน ทุกหน้าที่ ทำให้เขาเป็นที่เคารพของลูกน้องทุกคนเช่นกัน
“เป็นยังไงครับ เคี้ยวไม่หยุดเลยนะ” อุ่นไอฟ้าเดินไปนั่งข้างบุตรชายที่ก้มหน้าก้มตากินเมนูโปรดของตัวเอง ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก ในโรงอาหารจึงยังไม่ค่อยมีคน อุ่นไอฟ้าสังเกตเห็นตุ๊กตาถักจากไหมพรมตัวเล็กที่วางบนตักบุตรชายก็เอ่ยทักขึ้น “น่ารักจัง ของพี่ลดาใช่ไหมคะ”
อุ่นไอฟ้าหันหน้าไปทางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ลดามักจะทำงานฝีมือมาเป็นของขวัญวันเกิดให้บุตรชายของเธอทุก ๆ ปี
“ใช่จ้ะ พี่เคยเห็นอาทิตย์ดูการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ เลยทำมาให้เป็นของขวัญวันเกิดปีนี้”
“ขอบคุณนะคะ” อุ่นไอฟ้าส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจให้กับคนตรงหน้า ลดายิ้มรับอย่างเต็มใจ
“ว่าแต่อุ่นอยากกินอะไร เดี๋ยวพี่ไปทำมาให้” ลดาถามหญิงสาวที่ตอนนี้ไม่ได้เป็นผู้ช่วยของเธอแล้ว หลังจากที่ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งปี อุ่นไอฟ้าก็สมัครเรียนทางด้านบัญชีกับมหาวิทยาลัยเปิดซึ่งเป็นด้านเดียวกับที่เธอเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบ รามจึงให้อุ่นไอฟ้าย้ายไปทำงานในส่วนสำนักงานร่วมกับเขาตามความรู้ความสามารถของหญิงสาว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ลดา เดี๋ยวอุ่นกินตามเมนูที่เขาทำเช้านี้ก็ได้”
“เอาน่า พี่อยากทำให้กิน ยังไงวันนี้พี่ก็ว่างอยู่แล้ว กลายเป็นคนว่างงานแล้วนี่” ลดาพูดขำ ๆ เรื่องที่เธอลาออกจากที่นี่ หากแต่คนฟังหน้าหมองลงไปทันที
“พี่ลดาไม่เปลี่ยนใจจริง ๆ หรือคะ” อุ่นไอฟ้ายังคงใจหาย เรื่องที่ลดาจะกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ในวันมะรืนนี้
“พี่มีเรื่องสำคัญที่ทำให้ต้องกลับไปที่นั่นจริงๆ เอาไว้ถ้ามีเวลา พี่จะแวะมาหานะ” ลดากุมมือบาง แต่ยังคงเก็บงำเหตุผลของตัวเองไว้ดังเดิม อุ่นไอฟ้าจำใจต้องยอมรับเพราะท่าทางของลดายังคงเด็ดเดี่ยวเช่นเคย
“ว่าแต่อุ่นเถอะ ไม่คิดจะกลับไปอีกแล้วจริงๆ ใช่ไหม” ลดาเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง
อุ่นไอฟ้าสบตากับคนถามแววตาของเธอเด็ดเดี่ยวไม่แพ้กัน “ค่ะ อุ่นจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว”
เมื่อใกล้เวลาเริ่มงานอุ่นไอฟ้าจึงแยกตัวไปสำนักงานและฝากอาทิตย์ไว้ให้ลดาดูแล ปกติในช่วงปิดเทอมอย่างนี้ หญิงสาวจะพาอาทิตย์มาที่นี่ด้วย เพราะแถวสำนักงานจะมีสนามหญ้าไว้ให้ลูกของเธอกับลูกคนงานคนอื่น ๆ ได้วิ่งเล่น อาทิตย์ยังมีรถบังคับขนาดเล็กที่อุ่นไอฟ้าซื้อไว้ให้เป็นของเล่นคู่ใจ เลยทำให้เด็กชายไม่เคยเถลไถลไปที่ไหนไกล ๆ จากสายตาของเธอ
“วันนี้อาทิตย์ไม่ได้มาด้วยหรืออุ่น” เลขาสาวใหญ่ของรามถามขึ้นเมื่อเห็นว่าอุ่นไอฟ้าเดินเข้ามาแค่เพียงลำพัง อาทิตย์มักจะเข้ามาทักทายคนในสำนักงานก่อนเสมอแล้วค่อยออกไปวิ่งเล่น สำนักงานแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มาก พนักงานทุกตำแหน่งจึงนั่งทำงานในห้องเดียวกัน มีแค่ตำแหน่งผู้จัดการของสวนส้มและรามผู้เป็นเจ้าของที่นี่เท่านั้นที่มีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเอง
“วันนี้พี่ลดาช่วยดูแลให้ค่ะ อุ่นเลยไม่ได้พามาด้วย”
“อ้าวเหรอ เห็นว่าวันนี้วันเกิดเลยซื้อของขวัญมาให้ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ฝากเอาไปให้อาทิตย์หน่อยนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” อุ่นไอฟ้ายกมือไหว้รุ่นพี่และรับของที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ จากนั้นทั้งสองต่างก้มหน้าทำงานของตัวเองและพูดคุยกันบ้างในบางครั้งเท่านั้น
เสียงข้อความเข้าทำให้อุ่นไอฟ้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาดู จึงได้เห็นข้อความจากรามที่สั่งให้เธอนำเอกสารของเดือนก่อนหน้าเข้าไปให้เขา อุ่นไอฟ้าลุกขึ้นไปหยิบแฟ้มบนชั้น เดินไปทางห้องทำงานของราม หญิงสาวเคาะประตูและเปิดเข้าไปหลังจากที่เจ้าของห้องตอบรับ
“ขอบใจมาก” รามส่งยิ้มละไมให้กับหญิงสาว ดวงตาของเขามีประกายขึ้นมายามที่ได้สบตากับอุ่นไอฟ้าและได้เห็นรอยยิ้มบาง แต่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานของเธอ
“ฉันจำได้ว่าวันนี้วันเกิดของอาทิตย์”
อุ่นไอฟ้าประหลาดใจเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆ รามก็ชวนคุยไปยังเรื่องส่วนตัว
“ใช่ค่ะ”
“เมื่อวานฉันเจอลดา เห็นลดาบอกว่าตอนเย็นจะมีงานเลี้ยงด้วยใช่ไหม”
“ก็ไม่เชิงงานเลี้ยงหรอกค่ะ แค่กินข้าวเย็น และให้อาทิตย์ได้เป่าเทียนวันเกิดอย่างที่เขาชอบแค่นั้น” อุ่นไอฟ้าตอบไปตามที่คิดเพราะปกติทุกปีเธอกับลดาจะทำแบบนั้น
“เอ...แล้วถ้าปีนี้ฉันจะขอเชิญตัวเองไปกินข้าวเย็นมื้อนี้ด้วย จะได้ไหม” รามถามยิ้มๆ แต่คนเป็นลูกน้องกลับวางตัวไม่ถูกขึ้นมา
“ถ้า...ถ้าคุณรามว่างเชิญมาร่วมงานได้เลยค่ะ คือ...อุ่น...เกรงใจน่ะค่ะ” อุ่นไอฟ้าก้มหน้า นึกกลัวว่าคนเป็นนายจะโกรธที่เธอไม่ได้กล่าวชวน ทั้งๆ ที่เธอเพียงคิดว่าการทำแบบนั้นอาจจะยิ่งไม่เหมาะสมเพราะเธอเป็นแค่ลูกจ้างเท่านั้น
รามมองใบหน้าสวยหวานของอุ่นไอฟ้า ระบายยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ฉันเข้าใจ ฉันไม่ว่าอะไรอุ่นหรอก เอาเป็นว่าเย็นนี้ฉันจะไปด้วยนะ”
“ค่ะ” อุ่นไอฟ้าตอบรับและลอบถอนหายใจออกมาที่รามไม่ได้ต่อว่า โดยที่หญิงสาวไม่ทันสังเกตว่า การกระทำของเธอทำให้แววตาของคนมองอ่อนแสงลงไปอีกหลายส่วน