03 บทที่ 3 - 1

1258 Words
ตะวันกดวางสายโทรศัพท์ คำขู่ของอินทัชไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาเลยสักนิด ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เขารู้สึกพอใจขึ้นมาอย่างประหลาด เขาคงเป็นเด็กมีปัญหาอย่างที่ใครๆ ชอบว่าลับหลังนั่นแหละ ถึงได้ชอบสร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจแบบนี้ แล้วยังไง... ในเมื่อเขาพอใจที่จะทำ ตะวันผิวปากเบาๆ เท้าของเขายังคงเหยียบคันเร่งให้รถเคลื่อนที่ไปตามถนนที่ทอดยาว “เรากลับกันเลยไหมครับคุณตะวัน” ชญช์เอ่ยถามผู้เป็นนายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ส่วนเขานั่งตรงที่นั่งข้างคนขับของรถยนต์คันหรู “ไม่ได้ยินที่พี่อินบอกเหรอ อีกสองวันเขาจะตามมา” ตะวันยักคิ้ว แต่คนฟังกลับนิ่วหน้า “คุณอินหมายถึงให้เรารีบกลับภายในสองวันต่างหาก” ชญช์บ่นเบาๆ เมื่อผู้เป็นนายทำท่าจะเกเรต่อไปอีก ตะวันส่ายหน้า เอื้อมมาหยิบสตรอว์เบอร์รี่ในกล่องใสที่วางอยู่บกตักอีกฝ่ายยัดใส่ปากคนพูดมาก “กินเข้าไป ปากจะได้ไม่ว่าง” ชญช์ต้องรีบเคี้ยวสตรอว์เบอร์รี่ที่ถูกยัดเข้าปากมาสามลูกติดกัน ดวงตาหลังกรอบแว่นเลนส์ใสส่งค้อนน้อยๆ ให้กับผู้เป็นนาย ก่อนจะแบมือมาข้างหน้า “ไหนๆ คุณอินก็รู้เรื่องแล้ว ขอโทรศัพท์ผมคืนด้วยครับ” ตะวันพยักพเยิดไปทางกระเป๋าเป้ที่วางหลังรถ “อยู่ในกระเป๋า หยิบเองสิ” ชญช์ทำท่าดี๊ด๊าตอนหันไปหยิบกระเป๋าทำเอาคนมองนึกหมั่นไส้ ชญช์รูดซิปกระเป๋าเป้ที่มีพวงกุญแจอันใหม่ห้อยอยู่เพื่อเปิดออก หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา “โห มิส คอลเป็นสิบๆ” ชญช์บ่นอุบก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ “ผมโทร. หาแม่ก่อนนะ” ตะวันพยักหน้าอนุญาตเมื่อชื่นเป็นอีกคนที่เขาไว้ใจเพราะเลี้ยงดูเขาคู่กับชญช์มาตั้งแต่ยังเล็กจึงยอมให้อีกฝ่ายรู้ความเป็นไป ชื่นยังเอาใจใส่ตะวันถึงขนาดมีของขวัญวันเกิดให้กับเขาในทุกๆ ปี อย่างในปีนี้เขาก็เพิ่งได้รับพวงกุญแจตุ๊กตาไหมพรมที่ตอนนี้ห้อยติดกับกระเป๋าเป้คู่ใจของเขา สายตาของตะวันกำลังจับจ้องเส้นทาง แต่หูของเขายังได้ยินเสียงของชญช์ที่พูดคุยกับมารดาอย่างสนิทสนม ตะวันแอบรู้สึกตื้อขึ้นมาในอกอย่างเช่นทุกครั้งยามที่ได้ยินและไม่อาจควบคุมได้ ขนาดตอนที่ชญช์ต้องไปดูแลเขาที่อังกฤษ ชื่นยังพยายามหาทางติดต่อด้วยโปรแกรมสนทนาออนไลน์ แม้จะเป็นเรื่องลำบากสำหรับคนสูงวัย แต่ชื่นก็พยายามเพื่อที่ได้รู้ความเป็นอยู่ของบุตรชายตัวเอง ตะวันลอบถอนหายใจออกมา ความรื่นรมย์ในใจก่อนหน้านี้หดหาย กลายเป็นความอ้างว้างเข้ามาแทนที่ “เรียบร้อยครับ ว่าแต่นี่เรากำลังจะไปไหนกันต่อครับคุณตะวัน” ชญช์ถามขึ้นหลังจากวางสายโทรศัพท์ ยัดลูกสตรอว์เบอร์รี่เข้าปากตัวเองไปอีกลูก “ฉันจองรีสอร์ทเอาไว้แล้ว คืนนี้เราจะนอนกันที่นั่น พรุ่งนี้ฉันจะพาไปสวนส้ม” ตะวันเล่าแผนการ การขับรถเล่นที่ตะวันบอกกับอินทัชนั้นมีความหมายตรงตัวจริงๆ เพราะแผนของเขาคือการขับรถออกนอกเมืองทุกวันเมื่อชายหนุ่มค้นพบว่าการได้ขับรถระยะไกลนั้นเหมือนกับเป็นการผ่อนคลายของเขาช่วงที่เขาใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ “วันมะรืนก็จะไปไร่ชา ส่วนวันถัดไป...” “ผมว่าวันถัดไปคุณอินก็มาแล้วล่ะครับ” ชญช์อดขัดขึ้นไม่ได้พร้อมกับยัดลูกสตรอว์เบอร์รี่ลูกสุดท้ายใส่ปาก ตะวันยักไหล่อย่างไม่สะท้าน “เอาสิ อยากมาก็มา จะลากไปทุกทีที่พูดถึงเลย” เที่ยวรถที่ลดาจองตั๋วไว้เพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ จะออกเดินทางในช่วงสายของวัน ทันทีที่รถเทียบท่าตรงชานชาลา หลายคนก็รีบหยิบของ ลุกขึ้นยืนไปรอตรงประตูเพื่อที่จะได้ขึ้นรถเป็นอันดับแรกๆ บางคนที่มีสัมภาระมากหน่อยก็นำไปให้พนักงานเดินรถเก็บไว้ใต้ท้องรถทัวร์ รามช่วยลดายกของไปให้พนักงานเหล่านั้น ก่อนที่เขาและเธอจะเดินกลับมายืนรวมกับอุ่นไอฟ้าและอาทิตย์ที่รออยู่ “ขอบคุณคุณรามมากนะคะ” ลดายกมือไหว้ราม แม้อีกฝ่ายจะอายุเท่ากันกับเธอแต่ก็มีศักดิ์เป็นอดีตนายจ้าง “ขอบคุณที่ดูแลลดาอย่างดีมาตลอด และยังมาส่งที่ท่ารถในวันนี้อีก” “ลดาทำงานกับฉันมานาน และยังเป็นพนักงานที่ทำงานดีมาเสมอ ฉันเลยอยากมาส่งด้วยตัวเอง” รามมองอดีตลูกน้องของตัวเองอย่างเมตตา “อย่าลืมล่ะ ถ้าวันไหนอยากกลับมาทำงานกับฉันอีกติดต่อมาได้ทันทีเลยนะ” “ค่ะคุณราม” ลดายกยิ้ม หันไปทางอุ่นไอฟ้าบ้าง “พี่ไปนะอุ่น” “เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ลดา” อุ่นไอฟ้าโผกอดลดาอีกครั้ง หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาเพราะอยากบอกลาด้วยรอยยิ้ม เมื่อทั้งคู่ผละออก อาทิตย์จึงโผเข้าหาลดาบ้าง ลดากอดเด็กน้อยจนแน่น พร้อมกับหอมแก้มไปอีกสองฟอดใหญ่ “ถ้าพี่ถึงกรุงเทพฯ พี่จะโทร. หานะ” ลดาบอกกับสาวรุ่นน้อง เดินขึ้นรถที่ตอนนี้ผู้โดยสารขึ้นไปนั่งกันจนเกือบเต็มคันรถ อุ่นไอฟ้ายังคงมองไปทางรถทัวร์คันใหญ่จนกระทั่งมันค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป รามยืนรออย่างใจเย็นเพราะรู้ว่าคนทั้งสองผูกพันกันมากเพียงใด ลดาเป็นคนขอร้องเขาให้ช่วยรับหญิงสาวแม่ลูกอ่อนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อนคนนี้เข้าทำงาน นับได้ว่าลดาคือผู้ที่ให้ชีวิตใหม่แก่อุ่นไอฟ้าอย่างแท้จริง “แม่ร้องไห้ทำไมครับ” อาทิตย์มองหน้าอุ่นไอฟ้าอย่างเป็นห่วงทำให้คนเป็นแม่เพิ่งรู้สึกตัว รีบยกมือขึ้นเช็ดหยาดน้ำตา “ไม่มีอะไรหรอกครับ” อุ่นไอฟ้าส่งยิ้มให้บุตรชาย อาทิตย์ยังคงเอียงคอมองอย่างไม่เข้าใจนัก “ถ้าอย่างนั้นเรากลับกันเถอะนะ” รามเอ่ยขึ้นบ้าง อุ่นไอฟ้าตอบรับ หญิงสาวจับจูงบุตรชายให้เดินตามรามไปยังรถที่จอดไว้ “ไหนๆ ก็เข้าเมืองมาแล้ว อุ่นกับอาทิตย์อยากไปไหนกันหรือเปล่า” รามถามขึ้นหลังจากที่ทุกคนขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย เขายกยิ้มบาง เมื่อเห็นว่าอาทิตย์คว้ารถบังคับที่เขาซื้อให้มาเล่นคู่กับตุ๊กตาของลดาทันทีที่ขึ้นนั่งหลังรถ “ไม่เป็นไรค่ะคุณราม พวกเราออกมากันตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับถึงสวนส้มก็ต้องขับรถอีกตั้งสองชั่วโมง เรากลับไปพักกันดีกว่าค่ะ” อุ่นไอฟ้าปฏิเสธซึ่งคนฟังก็ไม่แปลกใจนัก เขาเข้าใจว่าหญิงสาวคงจะเกรงใจเขามากกว่า ที่ต้องเป็นคนขับรถให้ “ถ้าอย่างนั้นแวะกินข้าวสักหน่อยนะ เพราะกว่าจะถึงสวนส้มก็คงจะบ่าย” คราวนี้อุ่นไอฟ้ารับคำอย่างว่าง่าย รามจึงพาทุกคนเดินทางไปยังร้านอาหารที่เขาแอบเลือกเอาไว้ในใจตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะพาสองแม่ลูกไปกินข้าวด้วยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD