กลิ่นของชาเอิร์ลเกรย์ลอยขึ้นแตะปลายจมูกเรียวเล็กของนาตาชา สาวสวยลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสที่กำลังพักผ่อนหลังจากกลับมาจากการช้อปปิ้งอันแสนยาวนาน ริมฝีปากอวบอิ่มค่อย ๆ ละเลียดดื่มชาแก้วโปรดด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย ผมสีน้ำตาลเข้มสะท้อนเล่นแสงแดดยามเย็น ส่งให้ดวงตาคมกริบของนาตาชายิ่งดูมีเสน่ห์ล้ำลึกยิ่งกว่าเดิม
“แมรี่คะ?” เสียงใสพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าจากเจ้าของชื่อที่เธอเอ่ยซึ่งรีบเดินมาทันทีที่ได้ยินเสียงของนาตาชา
“ค่ะ คุณหนู”
“หนูอยากทานครัวซองต์ค่ะ”
“เอ่อ...” แมรี่แม่บ้านทำท่าลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเธอสบตาพบกับเจ้าของสายตาคมกริบราวกับมีดที่มองกลับ ความลังเลก็พลันหายไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน
“ได้ค่ะคุณหนู แต่รอสักครู่ได้มั้ยคะ? เดี๋ยวฉันจะรีบให้โรเบิร์ตไปซื้อมาให้ค่ะ” แมรี่ยิ้มสู้สายตาของนาตาชาด้วยความมั่นใจ เพราะเธอรู้ดีว่านี่คือการรับมือที่หญิงสาวตรงหน้าจะชอบที่สุด
“ได้สิคะ” นาตาชายกมุมปากขึ้นช้าๆ อย่างพอใจ สายตาคมผละออกจากสาวรับใช้ที่เดินออกไปห้องครัวของเธอ
มองทอดไปยังท้องฟ้าที่กำลังทอแสงสีส้มอมม่วง ซึ่งบ่งบอกว่ายามเย็นกำลังจะลาจาก แล้วชักชวนความมืดมิดมาเยือนย่านนี้ในอีกไม่ช้า ริมระเบียงบ้านในย่านคนรวยนั้นมีแต่ความสงบสุข พร้อมบรรยากาศอันแสนสวยของเมืองซานฟรานซิสโก นาตาชาเงยหน้าสูดรับอากาศอันแสนบริสุทธิ์พร้อมรอยยิ้มที่อ่อนลงในความเงียบ
“เฮ้อ...” เธอถอนหายใจเบา ๆ
“แอ๊ด...”
เสียงประตูเปิดเข้ามา ทำให้นาตาชายิ้มกว้างขึ้นเล็กน้อย เธอไม่ได้มองหาต้นเสียงด้วยเพราะรู้ดีว่าใครที่กำลังเดินเข้ามาในห้อง แค่จังหวะการเดินเธอก็รู้ดีเสียแล้ว
“คอลเลคชั่นใหม่ค่ะคุณหนู”
เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนดังขึ้น ทำให้นาตาชาลืมตาขึ้นในที่สุด เธอหันไปมอง ฟารีน แม่นมที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เธอยังแบเบาะ หญิงสาวยิ้มอ่อนพลางหยิบสมุดแคตตาล็อกสินค้าแบรนด์แนมที่เธอชื่นชอบไปเปิดดูทันที
“นั่งกับหนูหน่อยสิคะ ฟารีน” เธอทำเสียงอ้อน
“ได้สิคะ คุณหนู”
ฟารีนลูบไหล่หญิงสาวตรงหน้าที่ต่อหน้าคนอื่นอาจจะดูมั่นใจ ไม่ยอมใคร แต่เธอรู้ดีว่าแท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ใช่แบบนั้น เธอนั่งลง พร้อมมองตามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู พลางคิดไปว่า แม้นาตาชาจะเป็นคุณหนูแสนเนี้ยบและเอาแต่ใจไปสักหน่อย แต่ใครเลยจะรู้จักผู้หญิงคนนี้ดีเท่าเธอที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเด็ก
“เฮ้อ วันนี้เหนื่อยจังเลยค่ะ” หญิงสาวที่ดูแข็งกระด้างค่อย ๆ โน้มศีรษะอิงกับไหล่ของหญิงที่เลี้ยงดูเธอมาด้วยความผ่อนคลาย
ฟารีนเป็นคนฝรั่งเศสโดยกำเนิด เป็นพี่สาวข้างบ้านของอูแบร์ ลูอิส พ่อของนาตาชานั่นเอง ด้วยความที่อูแบร์และเพ็ญนีย์ แม่ของเธอ ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกสาวสุดที่รักเหมือนครอบครัวอื่น ๆ หน้าที่การเลี้ยงดูจึงตกเป็นของฟารีนพี่สาวแสนดีที่อูแบร์และเพ็ญนีย์ไว้วางใจนั่นเอง
“ลองดูคอลเลคชั่นใหม่ ๆ ดูนะคะ คุณหนูน่าจะรู้สึกดีขึ้น” ฟารีนเอ่ยพร้อมจ้องมองไปที่แคตตาล็อกที่หญิงสาวกำลังเปิดดู
“ใบนี้สวยจังค่ะ” นาตาชาจิ้มไปที่กระเป๋าหนังจระเข้สีส้มสดใสด้วยแววตาเป็นประกาย
“เหมาะกับคุณหนูมากค่ะ” ฟารีนสมทบ
“น่าจะเข้ากับสร้อยอันนี้นะคะ” นาตาชาเปิดมาที่หน้าเครื่องประดับ พลางเลือกด้วยความพอใจ
“โทรบอกจอห์นนี่ได้เลยค่ะ เขารอสายคุณหนูอยู่” ฟารีนพูดอย่างรู้ใจหญิงสาว
“คืนนี้หนูจะเลือกเพิ่มค่ะ ฟารีน นี่เพิ่งให้แมรี่อบครัวซองต์ให้ เดี๋ยวเราลงไปทานกันเถอะนะคะ” นาตาชาดูจะมีแรงขึ้นมาทันทีเมื่อได้เห็นกระเป๋าและเครื่องประดับที่เธออยากได้
“เอาอีกแล้วนะคะ ทำไมแกล้งแมรี่อยู่เรื่อยเลย” ฟารีนขมวดคิ้วด้วยความเอ็นดู
“หนูเปล่านะคะ ฟารีนก็รู้ว่าหนูชอบทานครัวซองต์”
“ใช่ค่ะ แต่ก็ต้องบอกแม่ครัวก่อนมั้ยคะว่าอยากจะทาน เพราะไม่ใช่ว่าของจะครบ ไหนจะต้องนั่งทำแป้งอีก คุณหนูกินเหมือนคนอื่นเสียเมื่อไหร่?”
“อืม... ฟารีนบ่นหนูเหรอคะ ไม่รักหนูแล้วเหรอ?”
นาตาชาทำเสียงอ่อย
“คุณหนู!” แม่นมทำท่าอ่อนใจ
“ถ้าหนูอยากได้อะไรก็ต้องได้สิคะ ฟารีนก็เคยบอก”
นาตาชาเลิกคิ้ว
“ใช่ค่ะ คุณหนูจะได้ทุกอย่าง แต่อย่าทำให้คนอื่นลำบากใจก็พอ ฟารีนพูดเพราะอยากให้คนอื่นรักคุณหนูเหมือนที่ฟารีนรักนะคะ” ฟารีนใช้ความเป็นผู้ใหญ่ค่อย ๆ ปลอบหญิงสาวจอมเอาแต่ใจให้สงบใจลง
และก็ได้ผล นาตาชาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะพยายาม”
“ดีมากค่ะ”
“งั้น ไปทานครัวซองต์กันนะคะ”