สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
นาตาชาสวมแว่นตาสีดำพร้อมชุดเดรสสั้นสีชมพูสดใส ท่ามกลางผู้คนจากหลากหลายชาติกำลังเดินขวักไขว่ไปมา ทุกก้าวย่างของเธอเต็มไปด้วยมั่นใจที่แม้มองแค่ปรายตาก็พาจะดูออกว่าเธอมั่นหน้ามั่นตาแค่ไหน
“คุณหนู คุณหนู” เสียงของชายชาติ คนขับรถที่ประเทศไทยของนาตาชาตะโกนสุดเสียง เมื่อเห็นร่างที่คุ้นตาเดินมาท่ามกลางฝูงชนที่คลาคล่ำเต็มสนามบิน
นาตาชาเหลือบมองชายชาติก่อนจะขยับแว่นตาให้กระชับกว่าเดิม แล้วก้าวเท้าเดินตรงไปยังเสียงเรียก
“เบา ๆ หน่อยสิคะ” เธอแอบบอกคนรถก่อนจะเดินนำหน้าเขาไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เอ่อ ครับผม”
ชายชาติเป็นคนหนุ่มอายุ 35 ปี ที่เพิ่งเข้ามาเป็นคนรถให้กับนาตาชาเมื่อปีที่แล้ว
“ไปที่โรงแรมคุณพ่อค่ะ” นาตาชาเอ่ยทันทีที่ประตูรถปิด
“ได้ครับ”
เมื่อคำสั่งออกมา ชายชาติก็ไม่รอช้า เขารีบเหยียบคันเร่งเพื่อพาเจ้านายไปที่โรงแรมทันที ที่โรงแรม N นั้นยังคงเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวประจำกรุงเทพเหมือนเดิม หญิงสาวก้าวเท้าออกจากรถที่ชายชาติเปิดให้
“ฉันนัดทานข้าวกับเพื่อนที่นี่ อีกสักชั่วโมงค่อยมารับนะ” เธอบอกกับคนขับรถ
“ครับคุณหนู” ชายชาติตอบ
“สวัสดีค่ะคุณหนูนา” เสียงเจื้อยแจ้วของ ฐาปนีย์ หัวหน้าแผนกต้อนรับรีบเดินมาทำหน้าที่เหมือนเช่นทุกครั้งที่นาตาชาแวะมาพักที่เมืองไทย
“คุณนก” นาตาชาเรียกด้วยความคุ้นเคย
“นกเตรียมตามที่คุณหนูนาสั่งพร้อมแล้วค่ะ เชิญทางนี้” เธอรีบรายงาน พร้อมผายมือเชิญให้เธอเดินตามไป
“ดีค่ะ แต่ยัยนั่นคงมาสาย ไม่ต้องซีเรียสนะคะ ฉันจะไปหาอะไรดื่มรอก่อน” นาตาชายิ้มจาง ๆ
“ได้ค่ะ เชิญทางนี้เลยค่ะ” ฐาปนีย์รีบเดินนำหน้านาตาชาไปที่ห้องอาหารที่จัดเอาไว้
“มาถึงแล้ว” นาตาชาทักหาชะเอมเพื่อนสาว
“ฉันออกตรวจเสร็จแล้วจะรีบไป” ชะเอมตอบกลับมา
“ย่ะ ยัยหมอดื้อ”
นาตาชายิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะวางมือถือไว้บนโต๊ะ ด้านหน้ามีชากุหลาบสีสวยพร้อมกับครัวซองต์ของโปรดที่พนักงานเตรียมเอาไว้ให้
“นี่...เป็นเมนูใหม่เหรอคะ” เธอชี้ไปที่ครัวซองต์ที่มีช็อกโกแลตโรยหน้าเอาไว้
“ค่ะ คุณหนูนา” พนักงานเสิร์ฟยิ้มรับ
“ฉันไม่ชอบครัวซองต์ที่เป็นสูตรใหม่ ไม่มีใครบอกคุณเหรอคะ”
นาตาชาจ้องมองพนักงานเสิร์ฟด้วยแววตานิ่งเรียบที่เย็นชา เพราะปกติแล้วพนักงานที่นี่รู้ดีว่าเธอชอบความเป็นออริจินัลของครัวซองต์มากแค่ไหน ถึงแม้เธอจะอยู่ซานฟรานซิสโก แต่รากเหง้าของเธอยังโหยหาอาหารต้นตำรับฝรั่งเศสอยู่เสมอ
“อะ เอ่อ...” พนักงานเสิร์ฟสาวเริ่มหน้าเสีย เธอหลบสายตาคมกริบมองต่ำโดยอัตโนมัติ
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณหนูนา” เชฟประจำห้องอาหารรีบเข้ามาที่โต๊ะของนาตาชาทันที
“คุณมัวส์” นาตาชามองหน้าเชฟคู่ใจด้วยแววตาไม่ปลื้มเลยสักนิด
“ขอโทษแทนเธอด้วยครับ เธอเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้สัปดาห์เดียว คงเข้าใจผิดว่าให้เอาขนมพรีเมี่ยมมาเสิร์ฟให้คุณหนูน่ะครับ” เชฟประจำห้องอาหารรีบขอโทษ ก่อนจะหยิบจานขนมครัวซองต์นั้นออกจากหน้าของนาตาชาทันที
“เดี๋ยว!” นาตาชาเอ่ย
“ครับ”
“คุณทำเองใช่มั้ยคะ?”
“ครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันจะทานอันนี้” นาตาชาบอกกับมัวส์ที่ตอนนี้มองเธอกลับด้วยแววตาประหลาดใจ
“แต่มัน...ไม่ใช่รสออริจินัลนะครับ” มัวส์เอ่ย
“ค่ะ ถ้าคุณทำ ฉันจะทาน”
นาตาชาช้อนตามองอีกฝ่ายด้วยแววตานิ่งเรียบจนเชฟประจำค่อย ๆ วางจานขนมกลับไปที่เดิม
“เชิญทานให้อร่อยนะครับ” มัวส์เอ่ยก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับพนักงานสาว
“เฮ้อ...เจอเรื่องไม่ถูกใจตั้งแต่ต้นทริปเลยสินะ” นาตาชาบ่นเบา ๆ อันที่จริงที่โวยวายเพราะไม่เคยมีใครทำเช่นนี้มาก่อน ทุกครั้งที่เธอมาที่โรงแรม พนักงานทุกคนรู้จักเธอดียิ่งกว่าอะไร และไม่เคยมีการบริการส่วนไหนทำให้เธอขัดใจด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่เธอค่อนข้างซีเรียส
“อย่าเอาแต่ใจมากนะคะ” เสียงของฟารีนเข้ามาเตือนสติตอนที่เธอจ้องจะเอาผิดพนักงานเสิร์ฟ ยิ่งเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนใจของมัวส์ เลยทำให้เธอยอมลดโทสะที่คุกกรุ่นลงเพื่อรักษาบรรยากาศดี ๆ เอาไว้
(น่าหงุดหงิดชะมัด) นาตาชาคิดในใจ ก่อนจะกดส้อมและมีดลงไปบนตัวครัวซองต์ที่กรอบนอกนุ่มใน
เธอชิมรสชาติของเนื้อแป้งที่นุ่มละมุน แทบจะละลายทันทีที่สัมผัสอยู่ในปาก เป็นสัมผัสที่ทำให้เธอรู้สึกประทับใจไม่น้อย แต่กระนั้นหญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้รอยยิ้มเล็ดรอดออกมาจนคนอื่นสังเกตได้ว่า เธอเองก็ปลื้มครัวซองต์รสช็อกโกแลตเช่นกัน