“ไปอยู่ที่นั่นนะลูกแม้ว่ามันไม่ได้ปลอดภัยที่สุด แต่มันดีกว่าทางอื่นแล้ว” เสียงขอร้องของหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับลูกสาวของตัวเองทันที
“จะให้ดาไปแล้วทิ้งแม่ไว้แบบนี้เหรอจ๊ะ” ดา หรือ ธิดา เอ่ยถามแม่ตัวเองออกไปอย่างไม่จำยอมกับสิ่งที่แม่เลือกให้
“แต่ถ้าดารักแม่และอยากให้แม่ตายตาหลับ ดาต้องไปอยู่ที่นั่น ไม่อย่างนั้นดาก็เห็นแม่ตายไปเลยดีกว่า!”
“แม่!” ทำไมแม่เธอต้องเลือกแบบนี้ ต้องกดดันเธอแบบนี้ สิ่งที่แม่เธอเลือกให้เธอรู้ว่าแม่เธอเป็นห่วง แต่แม่เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าเธอเองก็ห่วงแม่เหมือนกัน
“เชื่อแม่นะดา ถือว่าแม่ขอดาเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าดาไม่อยากให้แม่โทษตัวเองไปจนตาย ดาต้องไปอยู่ที่นั่น”
“ได้ ดาไปอยู่ที่นั่นก็ได้ แต่แม่สัญญากับดาได้ไหมว่าแม่จะต้องรอดา ดาจะหาทางช่วยแม่ให้ได้”
“ได้ ขอแค่ดาไป แม่สัญญาว่าแม่จะรอดาจนกว่าดาจะกลับมา”
“แม่สัญญาแล้วนะ แม่ต้องห้ามเป็นอะไรนะ” สองแม่ลูกกอดกันกลมด้วยความรักและความห่วงใย
ทั้งสองอยู่ด้วยกันมาตลอดแต่เมื่อถึงเวลาที่ไร้ทางเลือกกลับต้องแยกกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
คำว่าทาสในยุคนี้ทุกคนอาจจะคิดว่ามันหมดไปแล้ว แต่นั่นก็แค่ในกลุ่มคนที่มีทางเลือกมากมายและมีกำลังทรัพย์พอต่างหาก เพราะสำหรับคนที่ไร้ซึ่งทางเลือก ไร้ซึ่งเงินทอง และยังมาพร้อมหนี้สินมากมาย สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นทาสในที่สุด
สุดท้ายหญิงสาวร่างบางหน้าตาสะสวยแต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความเศร้าหมองก็มาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ ใหญ่ชนิดที่ว่าชาตินี้แค่ได้เข้ามาเหยียบก็เป็นเรื่องไม่คาดฝันแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอตื่นเต้นเลยสักนิด
“กฎของที่นี่มีแค่นี้ เธอรับได้ใช่ไหม” หญิงวัยกลางคนที่เหมือนเป็นหัวหน้าแม่บ้านเอ่ยขึ้นกับหญิงสาวตรงหน้าที่เต็มใจเข้ามาในบ้านหลังนี้อย่างเหยียดหยาม เพราะหญิงวัยรุ่นส่วนใหญ่ที่พาตัวเองเข้ามาบ้านหลังนี้ต่างก็เพราะหวังสุขสบายทางลัดกันทั้งนั้น
“ค่ะ” ธิดาตอบรับออกไปอย่างไม่เรื่องมาก เพราะกฎของบ้านที่เธอรู้มามันก็คือ
ทำทุกอย่างตามที่เจ้านายต้องการโดยไม่มีข้อแม้ และห้ามนำเรื่องภายในออกไปพูดข้างนอกเด็ดขาด รวมถึงเรื่อง... แต่เธอที่เข้ามาเป็นลูกจ้างก็ต้องทำตามเจ้านายสั่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เธอทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว
“งั้นไปพักได้แล้ว เย็นๆ ค่อยออกมาช่วยงาน”
“ค่ะ” ธิดาตอบรับออกไปอีกครั้งก่อนจะเดินไปยังด้านหลังที่มีห้องพักเรียงรายกันอยู่หลายห้อง ซึ่งเธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะบ้านหลังนี้ใหญ่โตมาก บริเวณบ้านก็กว้างใหญ่มากเช่นกัน ถ้าจะมีแม่บ้านและคนงานเป็นสิบคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
“เธอมาใหม่เหรอ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักธิดาขึ้นหลังจากเห็นธิดาเดินมาถึงห้องพักข้างเธอ
“ใช่”
“ฉันชื่อตังเม เธอชื่ออะไร”
“ฉันชื่อธิดา เรียกดาเฉยๆ ก็ได้”
“เธออายุเท่าไหร่แล้วอ่ะ”
“ยี่สิบสาม” ใช่ เธอพึ่งอายุยี่สาม เธอพึ่งเรียนจบยังไม่ได้งานทำด้วยซ้ำ แต่เธอกลับต้องเจอมรสุมชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนสุดท้ายก็ต้องมาอยู่ที่นี่
“ตอนนี้ฉันอายุยี่สิบห้า งั้นเธอเรียกฉันว่าพี่ก็แล้วกัน”
“จ้ะ” ธิดาตอบรับออกไปสั้นๆ เพราะเธอไม่ใช่คนพูดเก่งอะไรอยู่แล้ว
“เธอชอบความรุนแรงไหม” แล้วอยู่ๆ ตังเมก็ขยับเข้ามากระซิบถามธิดาด้วยความอยากรู้ทันที
“ความรุนแรงเหรอ” เธอไม่ชอบเลยสักนิด เพราะเธอก็ไม่เคยใช้ความรุนแรงเลยสักครั้ง และเธอเองก็คิดว่าความรุนแรงมันต้องทำให้เจ็บตัว ซึ่งคนเราจะชอบเจ็บตัวกันเหรอ
“ใช่ความรุนแรง เธอรู้ใช่ไหมว่ามาอยู่ที่นี่เราอาจจะเป็นผู้หญิงที่ถูกเลือกให้ไปนอนกับเจ้านายได้...”
“และฉันขอเตือนเธอไว้อย่างหนึ่งเลยนะ ว่าเจ้านายเป็นคนชอบรุนแรงมาก!” ตังเมกระซิบบอกธิดาด้วยความหวังดี
“.....” และมันก็ทำให้ธิดาเงียบคิดตามสิ่งที่ตังเมพูด
เรื่องที่ว่าผู้หญิงเข้ามาทำงานที่นี่และมีสิทธิ์ถูกเลือกไปนอนกับเจ้านายเธอรู้เพราะแม่เธอบอกมาแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดไว้หรอกว่าตัวเองจะถูกเลือก และอย่างหนึ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็คือ เจ้านายของที่นี่เป็นคนชอบความรุนแรง
“อย่าทำหน้าแบบนั้น ถึงแม้ว่าเจ้านายจะรุนแรงแค่ไหน แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมามันคุ้มค่ามาก...”
“ถ้าเธอทนได้ เธอจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเกือบทุกอย่าง”
“ได้ในสิ่งที่ต้องการงั้นเหรอ”