บทนำ

678 Words
‘ลูกของป๋าต้องเข้มแข็ง ต้องมีหัวใจที่แข็งแกร่ง จำไว้นะลูก’ หมอกขาวที่แผ่คลุมร่างเงาร่างหนึ่งซึ่งคุ้นตาเหลือเกิน ทั้งยังมีคำพูดซ้ำวนด้วยใจความเดิมๆ ทำให้แพรรินที่เร่งฝีเท้าเท่าไรก็ก้าวไม่ถึงอีกฝ่ายยกมือขึ้นไขว่คว้า ทว่าเธอไม่อาจเอื้อมไปถึงได้ “คุณป๋า...คุณป๋า...” “คุณ...คุณครับ คุณ...” คนที่รู้สึกถึงแรงเขย่าเบาๆ ตรงต้นแขนลืมตาหนักอึ้งขึ้นมองภาพเบื้องหน้าอย่างมึนๆ ใบหน้าคมสันหล่อเข้มในแบบตะวันตกผสมผสานตะวันออกที่ลอยอยู่ตรงหน้าทำให้แพรรินนิ่งงันไปเหมือนได้เห็นเทพอพอลโลในระยะใกล้ “เครื่องกำลังจะลงจอดแล้วครับ คุณควรรัดเข็มขัด” ปากได้รูปสวยของเขาขยับ เสียงเข้มๆ ดังขึ้นทุ้มๆ เป็นภาษาอังกฤษหากก็ไม่ดังจนเกินไปนักเหมือนเตือนสติ แพรรินสะดุ้ง ตาเบิกโพลง ผงะถอยออกห่างจากคนที่จับตัวเธออยู่พร้อมปัดมืออีกฝ่ายออกพัลวัน โดยไม่คิดเลยว่าจริงๆ แล้วมือของตัวเองต่างหากที่เกาะเกี่ยวเขาเอาไว้พอรู้ตัวก็เสไปวุ่นกับการรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย พยายามทำเป็นไม่สนใจเขาอีกทว่าในหัวยังคิดต่อ เขาไม่ใช่อพอลโล ไม่ใช่แม้แต่คนที่เธอรู้จัก...สติที่ยังเบลออยู่บอกตัวเอง พยายามเรียบเรียงสิ่งต่างๆ ในหัว หญิงสาวหันไปมองหน้าต่างที่ตนเองนั่งติดอยู่ บรรยากาศไม่คุ้นตาภายนอกบ่งบอกว่าเธอมาถึงญี่ปุ่นแล้ว เมื่อเย็นวานขณะที่กำลังซ้อมเทควันโดกับเอริค เพื่อนหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายของป้าสุนันทาเพื่อนของคุณแพรพรรณ แม่ของตนเองอยู่นั้น แพรรินก็ได้รับโทรศัพท์ที่คาดไม่ถึงจากเมืองไทย ‘คุณหนูแพงครับ ผมลุงวุธนะครับ คุณหนูทำใจดีๆ ไว้นะครับ’ เพราะเสียงปลายสายที่กรอกผ่านโทรศัพท์เข้ามานั้นเคร่งเครียด ทำให้แพรรินหุบยิ้ม ‘คือ…คุณท่านประสบอุบัติเหตุ…เอ่อ เสียชีวิตครับ’ ใบหน้าสวยหวานซีดเผือดลงจนเอริคที่มองอยู่เห็นได้อย่างชัดเจน แล้วเพียงแค่นั้นโทรศัพท์ก็หล่นลงจากมือหญิงสาวในทันที หลังจากแพรรินขออนุญาตผู้เป็นแม่สำหรับการเดินทางมาเคารพพ่อครั้งสุดท้ายที่เมืองไทย หญิงสาวก็ได้รับโทรศัพท์จากลุงวุธอีกครั้งเพื่อนัดวันเวลาเที่ยวบิน รวมทั้งจัดการเรื่องตั๋วให้อย่างเรียบร้อย ทว่าพอถึงเวลาเดินทางเข้าจริงๆ ลุงวุธกลับติดต่อมาบอกว่ามารับเธอไม่ได้ ทุกคนที่มาส่งเธอที่สนามบินโกรธมากเมื่อเธอต้องเดินทางคนเดียว คุณแพรพรรณจะไม่ให้เธอมาด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่เคยให้อภัยนายสาธิตพ่อของลูกได้ หญิงสาวต้องขอร้องจนใกล้จะขึ้นเครื่อง คุณแม็คบิดาเลี้ยงกับป้าสุนันทาช่วยพูดกับคุณแพรพรรณจนแม่ของเธอยอมอย่างไม่เต็มใจ ส่วนเอริคเธอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยแต่ไม่อาจขัดใจเธอได้ เขาอยากมากับเธอด้วยซ้ำทว่ายังต้องอยู่จัดการเรื่องกำลังจะจบปริญญาโทของตัวเขาเองให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นแพรรินจึงจำต้องขึ้นเครื่องจากสนามบินดัลเลสออกจากรัฐเวอร์จิเนียมาลงที่สนามบินนะริตะเพียงคนเดียว เมื่อเครื่องจอดชายหนุ่มคนนั้นก็ปลดเข็มขัดของตัวเอง ไม่ได้หันมามองเธออีก แล้วก็ลุกขึ้นยืน ขยับเนกไทให้เข้าที่ก่อนจะเดินไปทางด้านที่มีหนุ่มร่างโตในชุดสูดสีดำสี่คนลุกขึ้นยืนรออยู่ หนึ่งในนั้นยื่นสูทให้เขา ทว่าชายหนุ่มยกมือขึ้นในเชิงปฏิเสธแล้วเดินผ่านไปทั้งสี่คนจึงก้าวตาม แพรรินมองตามอีกฝ่ายทั้งที่แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องมองเขา ขณะที่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจคนอื่นๆ เริ่มลุกขึ้นทยอยเดินออกไปเช่นกัน =====
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD