3.บริการเสริม ของพี่เลี้ยงเด็ก

1424 Words
ตอนที่ 3 รอยยิ้มแรกของคุณพ่อ แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนั่งเล่น น้ำชานั่งอยู่บนโซฟา อุ้มน้องเกลไว้ในอ้อมแขน ขณะป้อนข้าวต้มเด็กอย่างใจเย็น เสียงหัวเราะแผ่วเบาของน้องเกลทำให้เธอยิ้มตาม เด็กคนนี้เหมือนสว่างของบ้าน และเป็นไฟอ่อนๆ ที่ละลายหัวใจเธอทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วย เสียงประตูห้องนอนใหญ่บนชั้นเปิดออก พร้อมกับร่างสูงของอธิที่เดินออกมาในชุดสูทสีเข้มใบหน้านิ่งเรียบไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เขาเดินผ่านเธอไปเงียบๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเห็นน้องเกลยิ้มแป้นในอ้อมแขนเธอ “เกล...” เสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อลูกสาวอย่างแผ่วเบา เขาโน้มตัวลง หอมแก้มลูกหนึ่งฟอดใหญ่ จังหวะนั้น น้ำชาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหันไปหอมแก้มอีกข้างของน้องเกลต่อทันทีตามเขา “หอมน้องเกลแล้วชื่นใจ” ดวงตาของเธอเปล่งประกายซุกซน อธิชะงักมองเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง พยายามกลั้นสีหน้าไม่ให้เผยอะไรออกมา แต่ริมฝีปากหยักของเขากลับเผลอยกขึ้นเล็กน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ น้ำชาเห็นทันที แววตาเธอยิ่งเจ้าเล่ห์ขึ้นไปอีก “อ๊ะ! ยิ้มแล้ว...” เธอแกล้งพูดเสียงเบา เหมือนคนพบสมบัติ “เปล่ายิ้ม” อธิตอบเรียบ ไม่หันมามอง “เมื่อกี้ปากคุณยกขึ้นนะคะ ชาเห็น” น้ำชาแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขานิดนึง ส่งสายตาออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดู “เมื่อคืน..” เธอยังไม่ทันได้พูดเขาหันขวับมามองเธอ ดวงตาเข้มลึกขึ้นชั่วขณะ “เมื่อคืน อย่าพูดถึงมันอีก” อธิกลั้นหายใจ สบตาเธออย่างหนักแน่น แต่สุดท้าย เขากลับถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ดูแลลูกฉันดีๆ อย่าเล่นเยอะ” เขาเดินผ่านไป ทิ้งไว้เพียงความนิ่งเงียบในอากาศ แต่น้ำชากลับยิ้มหวาน ลูบแก้มกลมนุ่มของน้องเกลเบาๆ ก่อนกระซิบว่า “ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวเราค่อยๆ ละลายหัวใจคุณพ่อกันนะคะ” หลังจากประตูหน้าบ้านปิดลงพร้อมร่างสูงของคุณพ่อไปทำงาน น้ำชาก็อุ้มน้องเกลขึ้นมานั่งบนตัก ก่อนจะย่นจมูกให้กับแก้มยุ้ยๆ นั่น “เราจะเป็นสาวสองคนในบ้านทั้งวันเลยนะคะ ยัยตัวแสบของพี่” “พี๊ พี๊!” น้องเกลอกเสียง เธอรู้ว่าเด็กหญิงกำลังหัดพูดตามเธอ ถึงจะฟังไม่ค่อยออก แต่น้ำชากลับหัวเราะเสียงใสรู้สึกเอ็นดูและพยายามฝึกให้พูดที่ละคำ เธอพาน้องเกลไปเล่นของเล่นในห้องนั่งเล่น เอาผ้าห่มมาปูพื้น แล้วเรียงของเล่นไว้รอบตัว ตุ๊กตาเป็ด ตุ๊กตาหมี และเปียโนเด็กสีชมพูจิ๋วถูกตั้งไว้พร้อม ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองนั่งแต่งตัวให้ตุ๊กตา น้ำชาใส่ชุดตุ๊กตาเจ้าหญิงให้น้องหมี พร้อมเสียงพากย์ว่า “เจ้าหญิงเกลเกลพร้อมออกงานแล้วค่ะ!” น้องเกลยิ้มกว้าง ยกตุ๊กตาหมีขึ้นจุ๊บเองหนึ่งที น้ำชามองภาพนั้นแล้วยิ้มอย่างมีความสุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพราะงานแต่เพราะเธอเริ่มรักเด็กคนนี้เข้าให้แล้วจริงๆ น้องเกลยิ้มฟันซี่เล็ก ส่งเสียง “แอ๊ะๆๆ” แล้วโผเข้ามากอดคอน้ำชา หัวใจเธออุ่นวาบเธอแน่ใจแล้วว่า ครั้งนี้เธอไม่ได้มาเล่นๆ เธออยากอยู่ในบ้านหลังนี้นานกว่าที่คิดไว้มาก ภายในห้องทำงานส่วนตัวชั้นบนสุดของบริษัท อธินั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เอกสารกองโตอยู่ตรงหน้า แต่เขาไม่ได้สนใจพวกมันสักนิด หน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ช่อง แสดงภาพสดจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านของเขา ภาพจากกล้องตัวหนึ่งแสดงให้เห็นห้องนั่งเล่น ที่ตอนนี้กลายเป็นสนามเด็กเล่นขนาดย่อม น้ำชานั่งอยู่บนพรม ผมยาวถูกรวบหลวมๆ เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงนิ่มทำให้เธอดูสบายๆ ต่างจากท่าทางขี้เล่นที่ซุกซน “ใครซ่อนหมีน้อยไว้ใต้หมอนคะ” เสียงจากไมค์เบาๆ ดังลอดออกมา น้ำชาหยิบตุ๊กตาหมีขึ้นมาแกล้งทำเสียงตกใจ “หรือว่า... จะเป็นน้องเกล!” น้องเกลหัวเราะคิก มือป้อมๆ ตีเบาๆ กับพื้นอย่างตื่นเต้น จากนั้นน้ำชาก็โผไปกอดเด็กน้อยไว้แน่น ภาพนั้น น่ารักจนเกินจะละสายตาได้ง่ายๆ อธิเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ ในใจเขา เงียบกว่าที่เคยแต่กลับอุ่นขึ้นอย่างประหลาด ตั้งแต่ภรรยาเขาทิ้งไป ไม่มีใครในบ้านทำให้ลูกสาวเขาหัวเราะได้แบบนี้ ไม่มีใครในบ้านที่เขารู้สึกไว้ใจพอจะปล่อยให้ดูแลลูกเพียงลำพัง แต่ผู้หญิงคนนี้แค่วันเดียว เธอทำให้บ้านที่ว่างเปล่า กลับมามีเสียงหัวเราะอีกครั้ง ดวงตาคมเข้มทอดมองภาพนั้นนาน ก่อนจะเผลอยกมุมปากขึ้นเบา ๆ รอยยิ้มบาง ที่ไม่เคยมีใครเห็น รอยยิ้มที่เขาไม่แม้แต่จะรู้ตัวว่าหลุดออกมา “บ้าเอ๊ย” เขาพึมพำในลำคอ รีบเบือนหน้าหนีจากหน้าจอ แต่ก็กลับมาเปิดดูอีกครั้งในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา ราวกับว่ายังไม่อยากละจากภาพนั้น อธิกลับถึงบ้านในช่วงหัวค่ำ โต๊ะอาหารถูกจัดเรียบร้อย มีข้าวสวยร้อน ๆ กับกับข้าวไม่กี่อย่าง และผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อุ้มลูกของเขา ยืนยิ้มต้อนรับอยู่ตรงหน้า “คุณธิหิวไหมคะ วันนี้แม่บ้านทำแกงจืดให้น้องเกล แล้วก็เผื่อคุณด้วย” เขาพยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไร แต่น้ำชาไม่คาดหวังคำชม เธอเพียงตักข้าวให้เขาเงียบ ๆ และนั่งกินด้วยกันอย่างสงบ บนโต๊ะอาหารไม่มีเสียงเพลง ไม่มีบทสนทนายาว ๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบจาน และบางช่วงที่น้องเกลหัวเราะอยู่ในเก้าอี้เด็กข้าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นมื้อเย็นที่สงบ และอบอุ่นที่สุดในรอบหลายเดือนของอธิ หลังจากทานเสร็จ น้องเกลง่วงจนตาปรือ น้ำชาจึงอุ้มพาขึ้นมานอน อธิยืนพิงกรอบประตูห้องเด็ก มองเห็นเธอก้มลงห่มผ้าให้ลูกสาวอย่างทะนุถนอม ท่าทางแบบนั้น ทำให้หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารีบผละออกมา แล้วกลับขึ้นไปที่ห้องทำงาน ไฟในห้องสว่างเพียงพอ แต่ในใจของอธิ มันทั้งมืด ทั้งว่างเปล่า คืนนี้เงียบเกินไป เงียบจนเขาเริ่มคิดถึงใครบางคนโดยไม่ตั้งใจ เงียบจนเผลออยากมีใครนั่งข้าง ๆ สักคน เขาไม่ควรคิดถึงเธอ เขาไม่ควรหวั่นไหวกับผู้หญิงที่เป็นแค่พี่เลี้ยง แต่ยิ่งห้ามคิด ใจก็ยิ่งเตลิดไปไกล เขาหลับตาแน่น พยายามปิดกั้นภาพรอยยิ้มของเธอ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยมากระทบจมูกทุกครั้งที่เข้าใกล้ แล้วทันใดนั้น เสียงเคาะประตูเบา ๆ ก็ดังขึ้น เขาไม่ขานรับ แต่ประตูเปิดออกช้า ๆ ร่างบางของน้ำชาโผล่พ้นประตูเข้ามา เสียงฝีเท้าเบาเหมือนแมว “ชาไม่ได้กวนใช่ไหมคะ” เขาหันไปมอง เห็นเธอสวมเพียงเสื้อคลุมบาง ๆ ทับชุดนอนผ้านิ่ม หน้าสดไร้เครื่องสำอาง ดูน่ามองกว่าตอนกลางวันเสียอีก “น้องเกลหลับแล้วค่ะ ชาก็เลย” เธอไม่พูดต่อ “น้ำชา...” อธิหลุบตาลงต่ำ สูดลมหายใจลึก “ชาแค่มาเอาหนังสือในห้องนี้ค่ะ” เธอพูดแทรกเหมือนจะเบี่ยงเบน แต่ในแววตาเธอไม่มีอะไรเลยที่เรียกว่า แค่มาเอาหนังสือ เธอเดินอ้อมเขาเข้าไปด้านในชั้นหนังสือ แล้วแกล้งหยิบผิดเล่ม พลางหันมาหาเขาช้า ๆ “เอ๊ะ ไม่ใช่เล่มนี้...” เสียงเธอเบาจนแทบกระซิบ เธอแกล้งเดิมมาใกล้ ๆ กลิ่นหมอจากตัวเธอทำให้หัวใจเขาเต้นหนัก ห้องทำงานที่ควรจะเย็นเฉียบ กลับร้อนผ่าวไปทั้งอากาศและเขารู้ดี หากเธอก้าวเข้ามาใกล้อีกก้าวเดียว เขาอาจจะห้ามตัวเองไม่ได้อีกต่อไป “คุณธิดูเหนื่อย ๆ ให้ชานวดให้ดีไหมคะ…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD