ตออนที่ 1 ตกเป็นเมียไอ้โรคจิต NC 25++
เสียงฝนซัดสาดกระทบหน้าต่างของบ้านหลังใหญ่ ที่ดูลึกลับราวปราสาทโบราณ ม่านผ้ากำมะหยี่สีดำสะบัดไหวตามแรงลม
เอลลี่ยืนอยู่หน้าประตูบานใหญ่ที่กำลังเปิดออกอย่างเชื่องช้า ภายในคือบรรยากาศอึมครึม เย็นยะเยือก และชวนให้หายใจติดขัด
“คุณเตชินทร์อยู่หรือเปล่าคะ” เสียงของเธอถามสาวใช้ที่เดินออกมารับ
“อยู่ค่ะแต่คุณไม่ได้นัดเอาไว้ใช่ไหมคะ”
ดวงตาของหญิงรับใช้หลบตาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“ไม่จำเป็น ฉันเป็นน้องเมียของเขา” เอลลี่ตอบเสียงเรียบ แม้ในใจจะเต้นระส่ำ มือเรียวกำเข้าหากันจนแน่น แต่สีหน้าของเธอกลับนิ่งสนิท
เธอไม่ค่อยได้เจอเตชินท์สักเท่าไร เพราะเขาดูน่ากลัวมากเธอจึงหลีกเลี่ยงเขามาตลอด แต่พี่สาวของเธอ "โจลี่" หายตัวไปเมื่อสองเดือนก่อน ไม่มีการติดต่อ ไม่มีข้อความไม่มีร่องรอยแม้แต่เบาะแส เธอแน่ใจว่าความลับบางอย่างถูกเก็บไว้ในที่แห่งนี้ ที่บ้านของเขา
เธอไม่ฟังเสียงแม่บ้านที่ห้ามสักนิด เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นจากบันไดวนหินอ่อน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำสนิท ผมดำขลับถูกเซทไว้อย่างดี ดวงตาคมกริบสีเทาหม่นมองเธอด้วยสายตาเย็นเยียบและไม่เป็นมิตร
“เธอ มาทำไม” เสียงเขาต่ำลึก
“ฉันมาหาพี่สาว” เธอตอบตรงไปตรงมา “พี่สาวของฉันหายไปไหน”
เตชินทร์เดินเข้ามาใกล้ ใกล้จนเธอได้กลิ่นไวน์จาง ๆ จากลมหายใจของเขา มือใหญ่ตวัดจับข้อมือเธอไว้แน่น
“จะเล่นบทนักสืบเหรอ ระวังจะไม่มีทางกลับออกไปจากที่นี่อีกนะ”
“ปล่อยนะ! คุณเอาโจลี่ไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“หึ ซ่อนเหรอ” จู่ ๆ เขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนโรคจิต บีบข้อมือเธอแรงขึ้น
“โอ๊ย! เจ็บนะ หรือคุณทำอะไรกับโจลี่ คุณฆ่าเธอใช่ไหม”
เธอพยายามแกะมือเขาที่บีบข้อมือเธอราวกับคีมเหล็ก
เขาออกแรงกระชากข้อมือเธอแรงขึ้นอย่างจงใจ ทำให้ร่างบางเซเข้าไปติดแผงอกแน่น แววตาเขาไม่ได้มีความเมตตาแม้แต่นิด มีแต่ความดิบเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียง
“เธอคิดว่าฉันจะฆ่าผู้หญิงแพศยานั่นงั้นเหรอ”
“แล้วโจลี่อยู่ไหน” เธอกล้าสบตาเขา ไม่หวั่นไหวแม้มือของเขาจะกำแน่นจนนิ้วแทบจมลงในเนื้อ
“หนีตามชู้ไปแล้ว” เตชินทร์ยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขามันดูเศร้าดูเจ็บปวดระคนกันไปหมด
“ไม่จริง โจลี่ไม่ใช่คนแบบนั้น คุณอย่ามาใส่ร้ายพี่สาวฉัน ถ้าจะให้พูดว่ามีชู้ฉันว่ามันคุณมากกว่า”
“ระวังปาก!” เขากดร่างเธอติดผนัง ริมฝีปากหยาบกร้านบดลงมาบนเรียวปากที่สั่นระริก ความรุนแรงในจูบนั้นเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่อัดแน่น ราวกับต้องการสั่งสอนเธอ
เอลลี่ผลักเขาออก แต่แรงผู้หญิงตัวเล็กอย่างเธอสู้เขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขากลับยิ่งบีบข้อมือเธอแน่นขึ้นจนเธอร้องครางเบา ๆ ด้วยความเจ็บ
“ไอ้คนเลว!” เธอสบถออกมา
“ได้ฉันยอมรับ เพราะฉันก็ไม่ได้เป็นคนดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว งั้นขอทำตัวสารเลวให้ถึงที่สุดเลยแล้วกัน”
เขาจับเธอเหวี่ยงไปที่โซฟาหนังสีดำกลางห้อง มือหนาตรึงร่างบางไว้ใต้ร่างสูงใหญ่ ฝ่ามือร้อนจัด เริ่มลูบไล้ไหล่เนียนของเธอขณะที่ริมฝีปากไล่ลงมาจนถึงซอกคอ เสียงหายใจของเขาหนักหน่วง
เอลลี่พยายามข่มใจไม่ให้ร้อง แม้จะรู้สึกร้อนวูบในอก และรู้ดีว่าร่างกายกำลังทรยศต่อความรู้สึกของตัวเอง
“หยุดนะ ไอ้โรคจิต!”
“ใช่ ฉันโรคจิต เดี๋ยวเธอก็จะได้เป็นเมียไอ้โรคจิตแทนพี่สาวของเธอ” เขากระซิบเสียงพร่า
มือหยาบกร้านกระชากเสื้อของเธอออก เสียงขาดดังก้องในห้องนั่งเล่นอันเงียบงัน
“หยุด...อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!” เธอจ้องมองใบหน้าของเขา ที่ดูไม่ปกติแววตาของเตชินท์ดูดุดัน แล้วก็เศร้าราวกับมีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจ แต่ก็เพียงวูบเดียวเท่านั้น
“แต่เธอกำลังแฉะ” น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความน่ากลัวดูไม่ปกติ
“มะ..ไม่จริง” เธอกัดฟันเถียง
“แต่ฉันได้กลิ่นความกระสันของเธอมันทะลุผ้า” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความยั่วเย้าและกดดัน
“มะ..ไม่ใช่” เธอพยายามดิ้น ร่างกายสั่นสะท้านเพราะสัมผัสของเขา เขากดเข่าแยกเรียวขาของเธอออก ฝ่ามือล้วงเข้าระหว่างต้นขา ลูบไล้เนินสามเหลี่ยมผ่านผ้าบาง ๆ ที่เริ่มเปียกชื้นจากแรงอารมณ์ที่เธอปฏิเสธไม่ได้ ร่างกายของเธอกำลังทรยศตัวเองอย่างสิ้นเชิง
“ไอ้สารเลว...เตชินท์ ไอ้โรคจิต...!”
“เดี๋ยวเธอจะได้ครางชื่อคนสารเลวนี้ทั้งคืน” เขาโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเสียงพร่า
นิ้วใหญ่ของเขาแหวกผ้าตรงกลางง่ามขาของเธอในคราวเดียว แล้วกดชำแรกเข้าร่องสวาทอย่างแม่นยำ ร่างของเธอสะดุ้งเฮือก เผลอแอ่นสะโพกรับความร้อนแรงนั้นโดยไม่รู้ตัว
“กรี๊ด! ตะ…เตชินท์ หยุดนะไอ้บ้า” น้ำเสียงเธอเริ่มสั่น พร้อมเสียงเฉอะแฉะของนิ้วเขาเคลื่อนขยับในความเปียกของเธอดังชัดเจนในความเงียบ
“ดูสิ ร่างกายเธอมันอยากแค่ไหน” เขาพูดพลางกระตุกนิ้วเข้าออกอย่างแรง ลึกและรัว จนเธอต้องกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงคราง
แต่เขาไม่ให้เธอปิดเสียงได้นาน ลมหายใจของเขาร้อนจัดขณะก้มลงแทนที่นิ้วด้วยลิ้นหยาบที่ตวัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า กดลากรุนแรงจนเรียวขาของเธอสั่น
“อ๊า...พอ...พอเถอะ...” เธอครางปนสะอื้น แต่สะโพกกลับแอ่นขึ้นหาราวกับอ้อนวอน
เขาจับสะโพกของเธอกดแน่น ก่อนจะดันปลายลิ้นเข้าในร่องที่สั่นระริก เสียงดูดดื่มกับเสียงครางแผ่วเบาดังสอดประสาน
“ไม่ ฉันไม่อยาก อืมมม” ร่องเสียวของเธอกำลังกระตุกตอดลิ้นเขา แต่เขารู้เธอกำลังจะเสร็จและเขาก็จะไม่หยุด จนในที่สุดเธอปล่อยเสียงครางยาวดังลั่นห้อง พร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานใส่ปากเขา
ร่างบางหายใจหอบ หน้าอกกระเพื่อมแรง ดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำตา ที่เต็มไปด้วยความอับอาย ความสับสน และความเร่าร้อนที่ยังไม่ดับลง
เขายืนคร่อมเหนือร่างเธอ มือข้างหนึ่งยังกำแน่นกับต้นขาเธอ ส่วนอีกข้างรูดเข็มขัดออกอย่างเชื่องช้า สายตาไม่ละจากใบหน้าเธอแม้แต่วินาทีเดียว
“ทะ..ทำไมต้องทำกับฉันแบบนี้” เอลลี่ถามเสียงสั่น
“เพราะพี่สาวของเธอไง เธอต้องรับโทษแทนพี่สาวของเธอ มองฉันให้ชัด ดูให้เต็มตา ว่าเธอกำลังจะได้เป็นเมียไอ้โรคจิตคนที่เธอด่า”
หญิงสาวพยายามเบือนหน้าหนี แต่เขาก็จับคางเธอให้หันกลับมา ริมฝีปากเขายกยิ้มมุมปาก พลางดึงซิปลง เผยให้เห็นความใหญ่โตแข็งแกร่งที่พุ่งดันออกมา
“เธอไม่อยากรู้เหรอ เวลามันเข้าไปในตัวเธอมันจะลึกแค่ไหน” ร่างหนาเอ่ย พร้อมกับจับท่อนเนื้อถูไถที่ร่องเสียวของเธอจนน้ำฉ่ำเยิ้ม
“ไม่ ฉันไม่อยากรู้”
“แต่เธอต้องรู้”
เขาจับขาทั้งสองข้างของเธอพาดบนท่อนแขนแข็งแรง แล้วกดส่วนหัวที่ปลายหยักบานใหญ่กว่าลำโคนของเขาเข้ามาโดยไม่ให้โอกาสเธอหนี
“อ๊าาา กรี๊ดด!” เธอร้องลั่นเมื่อเขาแทงกระทุ้งท่อนรักเข้ามาในจังหวะเดียว แน่นและลึกจนรู้สึกได้ถึงการกระแทกกับผนังด้านใน
“แน่นฉิบหาย...” เขาครางต่ำในลำคอ
“ฮือ ๆ เจ็บ ฉันเจ็บข้อร้องล่ะ” ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บแน่นตึงเหมือนส่วนรางของเธอฉีกขาด
แต่เตชินท์ไม่สนใจ เขากัดฟันแน่นเสียวลำเอ็นแทบขาดใจร่องของเธอแน่นจนเขารู้สึกได้ ว่านี้เป็นครั้งแรกของเธอ
หัวใจเขาไหววูบเพียงชั่วครู่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่พี่สาวของเธอก่อเอาไว้ ความโกรธแค้นก็มาบดบังความรู้สึกทั้งหมด
เขาไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงใต้ร่างจะเจ็บปวดแค่ไหน เมื่อเธอเป็นน้องสาวของคนที่เขาเกลียด ความแค้นทั้งหมดเขาจะลงที่เธอ
ร่างหนาขยับเอวเข้าออกอย่างดุดัน ไม่สนหญิงสาวใต้ร่างเธอจะร้องครวญครางเจ็บปวดแค่ไหน
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังพั่บ ๆ ก้องในห้องรับแขก เธอพยายามผลักเขาออก แต่ยิ่งผลักเขายิ่งกระแทกรุนแรงขึ้น
“หยุด! เตชินท์ พอเถอะ...ฉันไม่ไว้แล้ว!”
“ไม่ไว้เหรอ ฉันรู้ว่าเธอเสียว เพราะร่องของเธอตอดดุ้นฉันไม่หยุดเลย อ่าส์”
เขาโน้มตัวลง ริมฝีปากขบเม้มยอดอกเธออย่างไม่ปรานี ลิ้นหยาบลากวนจนเสียงครางหลุดจากปากเธออีกครั้งโดยไม่อาจห้ามได้
เธอสะบัดหน้าไปมา เส้นผมเปียกเหงื่อปะปนกับหยาดน้ำตา เสียงครางหลุดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ มือของเธอจิกที่ต้นแขนเขาจนเลือดซิป ความเจ็บจุกในคราวแรกมันเริ่มเปลี่ยนเป็นความหฤหรรษ์รัญจวนอย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน ร่างบางสั่นไหวทุกครั้งที่เขากระแทกเข้าไปจนสุด
“อ๊าา มันจะ...อึ่ก...ไม่ไหวแล้ว...เตชินท์”
เขาหยุดแค่ชั่ววินาที แล้วพลิกเธอคว่ำหน้าลงกับพนักโซฟา ยกสะโพกเธอขึ้นสูง ก่อนเสียบเข้าไปอีกครั้งจากด้านหลังแบบไม่ให้ตั้งตัว
“อั่กกก...!” เสียงเธอสะท้อนในห้องกว้างอย่างน่าหวาดเสียว ขณะที่เขาโหมจังหวะกระเด้าเข้าออกแรง ๆ และลึกไม่หยุด แขนเขาโอบรัดเอวเธอแน่น ปากกระซิบข้างหูเสียงพร่า
“จำไว้นะตอนนี้เธอเป็นเมียไอ้โรคจิตคนนี้แล้ว”