1/7 ถูกรุมรักโดยลูกเลี้ยงฝาแฝด

1871 Words
เพ็ญนภา หรือที่ทุกคนเรียกต่างเรียกเธอว่า เพนนี หญิงสาวชาวไทยอายุยี่สิบเก้า เธอแต่งงานกับเศรษฐีชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุมากกว่าเธอถึงสามสิบกว่าปี ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าที่เธอแต่งงานเพื่อหวังสมบัติเขา แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นที่เธอแต่งงานกับเขาเพราะว่าความจำเป็นและตอบแทนพระคุณเท่านั้น เพนนีย้ายไปอยู่ที่เกาหลีกับเศรษฐีคนนั้นและเขาก็มีลูกชายฝาแฝด ซอยุน กับ ซอจุน ที่อายุน้อยกว่าเธอเพียงแค่สามปี แต่เขาสองคนเกลียดเธอเข้าไส้หาว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงินยอมแต่งกับคนอายุคราวพ่อ หญิงสาวได้แต่ทำเฉยเธอไม่อยากจะมีปัญหากับพวกเขา เศรษฐีคนนั้นได้แบ่งบริษัทให้ลูกชายฝาแฝดดูแล ส่วนตัวเองย้ายมาอยู่คฤหาสน์ชานเมืองกับเธอ แต่ทว่าผ่านไปเพียงห้าเดือน สามีแก่ของเธอก็เสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว เพนนีเสียใจเป็นอย่างมากหนำซ้ำยังโดน ซอยุน และซอจุนกล่าวหาว่าเธอเป็นคนทำให้พ่อของพวกเขาตายอีก เพราะพ่อของพวกเขายกมรดกให้เพนนีเป็นผู้ดูแล แต่มีข้อแม้ว่าหนึ่งปีให้หลังจากที่เขาตาย ใครสามารถดูแลเพนนีได้คนนั้นจะได้มรดกที่อยู่ในความดูแลของเพนนี หลังจากที่สามีแก่ของเธอเสียไปเพนนีก็มาใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ กับอาชีพใหม่ดีไซเนอร์ที่เธอลองทำแล้วรู้สึกชอบและทำออกมาได้ดี โดยที่ไม่ได้ยุ่งกับมรดกนั้นเลยสักนิด จนในที่สุดก็ครบรอบหนึ่งปี เพนนีไปสถานที่ฝังศพเพื่อเคารพ เธอก็ได้เจอกับซอยุนและซอจุน ในรอบหนึ่งปีเธอยังคงใจเต้นแรงทุกครั้งที่เจอทั้งสอง จริง ๆ เพนนีเป็นแค่ภรรยาในนามของพ่อพวกเขาเท่านั้น ตอนเธออยู่ที่เมืองไทยเพนนีเป็นพยาบาลแล้วเกิดเรื่องบางอย่างกับครอบครัวของเธอ พ่อของพวกเขาได้เข้ามาช่วยเหลือเธอจึงซาบซึ้งในพระคุณ และเมื่อรู้ว่าชายแก่คนนั้นป่วยมีโรคประจำตัว ต้องการคนดูแลเธอจึงอาสาเป็นพยาบาลมาดูแลเขาถึงเกาหลี พ่อของซอยุนและซองจุนรู้ตัวว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่นาน เขาจึงอยากใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ แต่เรื่องแต่งงานซอยุนและซอจุนเข้าใจผิดไปเอง และเธอก็ไม่มีโอกาสที่จะอธิบาย เธอจึงปล่อยเลยตามเลยแค่ใช้ชีวิตเงียบ ๆ ดูแลผู้มีพระคุณเท่านั้น แต่พอชายแก่เสียชีวิตลงเขากลับเขียนในมรดกว่าให้เธอเป็นผู้ดูแลสมบัติ จนครบหนึ่งปีเธอคิดไว้แล้วว่าจะแบ่งให้ทั้งสองเท่ากันโดยเธอไม่ขอมีส่วนเกี่ยวข้องอะไร แต่แฝดทั้งสองช่างร้ายกาจต่อเธอมากนัก ถึงพวกเขาจะหน้าตาหล่อเหลาสักแค่ไหน ทำให้เธอใจเต้นแรงทุกทีที่เจอ แต่คราวนี้เธอต้องดัดนิสัยพวกเขาสักหน่อย “ไง เพนนี แผนเธอสำเร็จแล้วนี่ หลอกลวงคนแก่อย่างพ่อฉันแล้วทำให้ตายอย่างเลือดเย็น เธอก็ได้นอนกอดกองสมบัติสบายสมใจเธอแล้ว” ซอยุนพ่นคำพูดร้าย ๆ ใส่ทันทีที่เจอหน้า “ซอยุน คือ..เพนนีบอกคุณไปหลายครั้งแล้วนะคะ ว่าคุณท่านเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวหมอก็บอกมาอย่างนี้” หญิงสาวตัวเล็กเถียงกลับ “ใครจะเชื่อ ฉันคนหนึ่งที่ไม่เชื่อ ไม่หลงกลผู้หญิงมารยาอย่างเธอหรอก เพนนี!” ซอจุนเอ่ยสมทบ ท่าทางเยือกเย็นและแววตาเย็นชาของพวกเขาทำเอาเธอเสียวสันหลัง หญิงสาวถอดลมหายใจอย่างสุดกั้น ในเมื่อพวกเขาไม่เคยเชื่อเธอ เธอก็จะบอกจุดประสงค์ของเธอแล้วออกไปจากชีวิตพวกเขา “คือวันนี้ครบรอบหนึ่งปีที่ฉันดูแลมรดกของคุณท่านให้พวกคุณ ฉันจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ให้พวกคุณทั้งสอง แล้วต่อจากนี้ไปเราไม่ต้องมาเจอกันอีก” พูดจบเธอก็รู้สึกโล่งถึงจะรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้เจอพวกเขาทั้งสองอีกแต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าที่ไม่ต้องมาทนเขาทั้งสองดูถูก “แบบนี้มันได้ที่ไหน ในพินัยกรรมระบุไว้ว่าพวกฉันต้องดูแลเธอ ลืมข้อนี้ไปหรือเปล่า” ซอยุนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง เขาโน้มใบหน้าลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของเธอ แล้วจ้องดวงตาของเพนนี หญิงสาวรีบหลบสายตาเพราะเธอจะหวั่นไหวเวลาจ้องตาเขา “ใช่ถ้าฉันคนใดคนหนึ่งไม่ดูแลเธอมรดกทั้งหมดของคุณพ่อ พวกฉันก็จะไม่มีสิทธิ์อีกต่อไป” ซอจุนยืนกอดอกนิ่งมองหญิงสาวร่างเล็ก “แต่….ฉันไม่ต้องการให้พวกคุณมาดูแล” เธอเอ่ยปฏิเสธ “ไม่มีแต่ไปได้แล้ว” ซอจุนจับข้อมือของเธอแน่น กึ่งจูงกึ่งลากไปที่รถโดยมีซอยุนเดินตามมาติด ๆ “จุน!.. ปล่อยนะ” หญิงสาวสะบัดข้อมืออย่างแรงจนหลุดออก แต่ซอยุนที่เดินตามกันมาก็จับข้อมือเธอและกระชากจนร่างของเพนนีกระแทกอกของเขา “อย่าทำตัวมีปัญหา ฉันก็ไม่ได้อย่างดูแลเธอนักหรอก ถ้าพินัยกรรมนั้นไม่ได้ระบุไว้” ซอยุนกัดกรามแน่น บีบข้อมือเธออย่างแรง “ยุน..ฉันเจ็บ” “เฮ่ ยุนรีบไปเถอะ คนมองกันเยอะแล้ว”ซอจุนเอ่ยบอก ยุนจึงคลายข้อมือแล้วเปิดประตูรถดันเพนนีเข้าไป ทั้งสามนั่งอยู่ในรถคันเดียวกันโดยมี เพนนีนั่งอยู่ที่เบาะหลังคนเดียว บรรยากาศในรถเงียบสนิท รถยนต์คันหรูขับมุ่งหน้าไปยังบ้านพักสุดหรูใจกลางเมือง จุนใช้เวลาขับรถเกือบสองชั่วโมงในที่สุดก็มาถึง “เธอพักห้องนั่น” ยุนชี้ไปที่ห้องที่อยู่ตรงกลาง “ค่ะ” เพนนีรับคำก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องโดนไม่สนใจเข้าทั้งสอง ห้องนี้กว้างใหญ่มาก เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า คิดจะหาข้ออ้างว่าจะกลับไปเอาเสื้อผ้า และกลับพบว่าในตู้มีเสื้อผ้าแบรนด์หรูอยู่เติมตู้ไปหมด เธอหยิบมาดูสองสามชุดก็พบว่าเป็นไซส์เธอพอดี นี้พวกเขาเตรียมไว้พร้อมขนาดนี้เลยหรือ หัวค่ำเพนนีจึงเดินออกมาจากห้อง แต่เธอพบว่าไม่มีใครอยู่เธอจึงเดินไปที่ห้องคุรัวทำอาหารง่ายกินเองคนเดียวเงียบ ๆ แล้วรีบกลับเข้าห้อง พอเช้ามาเธอก็ตื่นแต่เช้ารีบจัดการตัวเองกะว่าจะแอบออกไปเอาของแล้วโน๊ตบุคที่เอาไว้ใช้ทำงาน “จะไปไหน” เสียงของจุนดังยืนด้านหลัง ทำให้เพนนีสะดุ้งจนรองเท้าที่ถืออยู่หล่นพื้น “ฉัน…ฉันแค่จะไปเอาของที่บ้าน” “ไม่ต้อง ยุนไปเอามา ใกล้จะถึงแล้ว” จุนบอกเธอหน้านิ่งก่อนจะหันหลังเดินหายไป ไม่นานยุนก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับคนขนของสองสามคน “เธออยากว่างตรงไหนก็บอกพวกเขา” ยุนเอ่ยสั่ง แล้วเดินจากไป “นี้พวกนายจะไม่ให้ฉันออกไปไหนบ้างหรือไง” เพนนีเอ่ยเสียงดัง “เธอจะออกไปไหน อยากได้อะไรก็บอกฉัน ไม่ก็บอกจุนสิ เดี๋ยวพาไปเอง” ยุนเดินวนกลับมาหาเธอ “แต่พวกนายต้องไปทำงาน จะมาอยู่กับฉันตลอดเลยหรือไง” เพนนียังไม่ลดละ “ก็ได้” ทั้งสองพูดพร้อมกัน วันต่อมาทั้งสองคนพาเพนนีไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้เธอ พร้อมกับติดระบบจีพีเอสติดตามไว้เรียบร้อยด้วยไม่ให้เธอรู้ “เธอจะไปไหนก็ได้แต่ต้องกลับบ้านไม่เกินสามทุ่ม” จุนสั่งเสียงเรียบ “นี้เห็นฉันเป็นเด็กหรือไง” “ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ต้องออกไปไหน” ยุนพูดแล้วมองเธอตาขวาง “เผด็จการ” เพนนีพึมพำเบา ๆ “ฉันได้ยินนะ” จุนจ้องเธออีกคน แววตาพวกเขาสองคนนี้ช่างหน้ากลัวจริง ๆ แต่ก็ทำให้เธอใจเต้นแรงทุกที หลายวันผ่านไปหญิงสาวใช้ชีวิตอย่างปกติสุข จนวันนี้เธอต้องนำงานที่เธอออกแบบไปส่งลูกค้า แต่ลูกค้าขอเลี้ยงข้าวเย็นและมีดื่มกันเล็กน้อย แต่เพนนีที่อัดอั้นมานานเธอจึงเผลอดื่มหนักไปหน่อย จนเมาไม่ได้สติ “ยุนวันนี้ฉันต้องไปจัดการงานที่อีกเมืองวันนี้คงกลับไปทันฉันจะค้างที่นั่นเลย” “โอเคฉันรู้แล้ว” จุนตอบกลับยุนไป แล้ววางสายเขามองดูนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มกว่า แต่ตอนนี้เพนนียังไม่กลับบ้าน จุนจึงเปิดดูจีพีเอสว่าเธออยู่ที่ไหน เมื่อรู้พิกัดแล้วเขาจึงรีบขับรถไปที่นั่นทันที แต่พอใกล้จะถึงก็มีสายเข้ามาคือเบอร์ของเพนนี เขาจึงรีบรับสายแต่กลับไม่ใช้เสียงของเธอ หลังจากคุยสายจึงได้รู้ว่าเธอเมามากจนไม่สามารถขับรถกลับได้ ไม่ถึงห้านาทีซอจุนก็ถึงร้านนั้น เขาเดินเข้าไปหาเพนนีที่เมาพับคอตก “เพนนี” ร่างสูงของจุนจับต้นแขนของเธอ แล้วประคองใบหน้าเธอขึ้น “ยุน..เอ๊ะหรือจุน เรียกชื่อฉันห่วน ๆ แบบนี้ได้ไง” น้ำเสียงที่ยานคล้อยบ่งบอกว่าเธอเมามาก แถมจำไม่ได้ว่าเข้าถึงซอจุนไม่ใช่ซอยุน “ไปกลับบ้านได้แล้ว” พูดจบจุนก็ช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มแล้วขึ้นรถกลับบ้าน “ถึงแล้ว เพนนี” “ไม่..ฉันไม่ลง พวกนายใจร้ายจะขังฉันไว้” คนเมายังโวยวายไม่หยุด “อย่าดื้อหน้าใครจะไปขังเธอได้ เพนนี” จุนตัดสินใจอุ้มเธอเข้าบ้าน สองแขนเล็กของเธอคล้องคอชายหนุ่มไว้ ใบหน้าของเธอแนบอยู่ที่ต้นคอ เธอบ่นพึมพำโดนที่จุนก็ฟังไม่รู้เรื่อง แต่เขาขนลุกซู่เมื่อริมฝีปากบางของเธอแตะอยู่ที่ต้นคอเขา จุนวางเธอลงบนเตียงเบา ๆ แต่แขนของเธอยังกอดคอเขาไม่ปล่อยจังหวะที่เขาจะลุกขึ้นจึงเสียหลักล้มลงไปทับร่างของเพนนี ริมฝีปากของซอจุนแตะลงที่ริมฝีปากของหญิงสาว สติของชายหนุ่มขาดผึ่งเขากดจูบลงที่ริมฝีปากของเธออีกครั้ง ปากบางเผยออ้ารับเรียวลิ้นของชายหนุ่มให้สอดเข้ามาตักตวงหาความหวานโดยที่เธอก็ไม่รู้ตัว “อืมม…” ร่างใหญ่ครางกระหึ่มในลำคอ เลือดในกายเดือดพล่าน..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD