ตอนที่ 1
“แม่! ใครมาเคาะประตูบ้านแต่เข้า” นาราหญิงสาววัยยี่สิบปี โว้ยวายเสียงดังจนแม่เลี้ยงของเธอต้องรีบเอามืออุดปาก
“ชู่ว..หุบปากนางนารา”
“อะไรของแม่อีก”
“เอออยู่เงียบ ๆ ให้พวกนั้นไปก่อน” สองแม่ลูกกระซิปกันเสียงแผ่ว
“แม่ไปกู้เงินพวกนั้นมาอีกหรือไง”
“ก็เออสิว่ะ ข้าเอาไปลงทุนแต่มันไปไม่รอดว่ะ”
“โห..แม่” นาราถอดใจจนเหลืออด ครั้งที่แล้วเธอก็ตามใช้หนี้ให้ไปหลายหมื่น ถึงพิไลจะไม่ใช้แม่แท้ ๆ แต่ก็เลี้ยงเธอมาเหมือนลูก แต่เมื่อหลายปีก่อนพ่อของเธอได้เสียชีวิตไป ทำให้เธอกับพิไลเสียหลักการเงินฝืด จนทำให้มีหนี้มากมาย
ปังๆ ปังๆ เสียงทุบประตูดังลั่น พร้อมกับชายฉกรรจ์สี่ห้าคนเดินสอดส่องรอบ ๆ บ้าน
“แม่ไปกู้เขามาอีกเท่าไร”
“สามแสน”
“ห้ะ! สามแสน!” นาราตกใจตะโกนลั่น
“เบา ๆ สิวะ”
“ตั้งสามแสนนะแม่ จะเอาเงินที่ไหนไปคืนเขา”
พิไลก้มหน้าเครียด พยายามคิดหาทางออก
“ยังไงตอนนี้ข้าก็ไม่มีผัวแล้ว ข้าจะเอาตัวเองไปขัดดอก”
“ละเมอหรือเปล่าแม่ สมัยนี้แล้วเขาไม่มีหรอกเอาตัวไปขัดดอกนะ มีแต่จะฆ่าทิ้งยกครัว และอีกอย่างแม่นะแก่แล้ว”
“เออข้ารู้แล้วนะ แล้วแกล่ะพึงเลิกกับผัวไปไม่ใช่เหรอ”
“แล้วไงฉันเลิกกับผัวแล้วเกี่ยวอะไรกับแม่”
“แกก็ช่วยแม่หน่อย สวย ๆ อย่างแกเสี่ยเขาต้องเอ็นดูแน่ ๆ”
“ฉันพึ่งจะพูดไปหยก ๆ สมัยนี้ไม่มีแล้วเอาตัวขัดดอกนะ แล้วเสี่ยอะไรนั้นแก่หงำเหงือกสิไม่ว่า”
โครม!
เหมือนจะเป็นเสียงประตูบ้านที่พัง แล้วเสียงฝีเท้าของคนหลายคนกำลังเดินเข้ามา
“แม่ทำไงดี เราโดนฆ่าทิ้งแน่”
“เออ..เอ็งเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มนี้ก่อน”
นารารีบมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มตามที่แม่สั่ง
“ไงเจ้พิไล หนี้ของเสี่ยเมื่อไรจะจ่าย”
“ฉัน ฉันยังหาเงินไม่ได้เลย”
“หาไม่ได้ก็จ่ายดอกมา”
“ก็ ก็ดอกด้วยนั่นแหละฉันยังหาไม่ได้ ให้เวลาฉันหน่อยสิ”
“ให้เวลา พูดง่ายไปไหมอะไรก็ไม่มีค้ำประกัน”
“ค้ำประกัน มี..มีสิ” พิไลชี้ไปบนที่นอน
ชายกลุ่มนั้นจึงได้ดึงผ้าห่มออก จึงได้เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างบอกบางที่ยังอยู่ในชุดนอน
“แม่!” นาราเอ่ยเรียกแม่เสียงสูง
“เอาลูกสาว ฉันค้ำประกันก่อน”
“สวย ๆ แบบนี้เสี่ยน่าจะชอบว่ะ” ชายกลุ่มนั้นปรึกษากัน
“ได้งั้นเอาลูกสาวเจ้ค้ำประกันก่อน” พูดจบชายกลุ่มนั้นก็คลุมผ้าห่มที่ร่างนารา แล้วพันตัวเธอไว้และใช้ผ้าปิดปากไม่ให้เธอร้อง ก่อนจะแบกขึ้นไหล่แล้วพากันกลับไป
“นาราเอ่ย แม่ขอโทษนะแต่ถ้าได้เป็นเมียเสี่ยเอ็งก็จะสบาย” พิไลมองตามหลังชายพวกนั้นที่แบกร่างเล็กของนารา
“แม่นะแม่ เสี่ยบ้าอะไร ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ ฉันจะไม่ว่าเลย” หญิงสาวบ่นในใจ
นาราถูกพาตัวให้มาอยู่ในห้องห้องหนึ่ง ทั้งที่ยังถูกปิดปาก มือก็ยังใส่กุญแจมือไว้อีกด้วย
“พี่เอาผู้หญิงกลับมาแบบนี้เสี่ยได้ฆ่าพวกเราแน่”
“เออน่า ถ้าเสี่ยไม่เอากูเอาเองแล้วเดี๋ยวค่อยพากลับไปส่ง”
“แผนของพี่ใช่ไหม”
“มึงนี่รู้ทันจริง ๆ เดี๋ยวรอเสี่ยกลับมาก่อน”
“อะไรนะพวกมึงไปเอาผู้หญิงมาขัดดอกอีกแล้วเหรอว่ะ” ชายหนุ่มตบโต๊ะด้วยความโมโห เขาเคยสั่งลูกน้องไปหลายครั้งแล้ว ถ้าไม่มีให้ยึดของไม่ให้ยึดคน
“มึงใช่ไหมตัวต้นคิด” ร่างใหญ่ถีบลูกน้องคนนั้นจนหงายหลัง
“กูได้ยินมาหลายหนแล้ว ว่ามึงขัดคำสั่งกูตลอด และมึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูจะไม่เก็บไว้” ชายหนุ่มดวงตาดุดันคมกริบ ฉายแววโมโหจนลูกน้องหวาดกลัว
“คุณเสี่ย ไว้ชีวิตผมด้วยเถอะครับ ลูกผมยังเด็กเมียผมยังเล็ก”
“เอาตัวมันไป” เสี่ยตวาดดังลั่น
“เอาไปที่ไหนดีครับ”
“เอาไปให้หลวงพ่อกู ให้พ่อกูบวชให้มันดันนิสัยมันหน่อย”
“ได้ครับ”
เสี่ยชายหนุ่มอายุยี่สิบสามปี รูปหล่อบ้านรวย จิตใจดีตั้งแต่แม่เสียไปพ่อของเขาก็บวชไม่ยอมสึก เสี่ยจึงต้องรับหน้าที่ดูแลกิจการที่บ้าน คือตลาดหลายแห่งในจังหวัด และเขายังปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยถูก ๆ เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอีกด้วย
“ผมไม่อยากบวช ให้ผมทำอย่างอื่นเถอะครับ” ลูกน้องคนนั้นอ้อนวอน เพราะการที่ถูกส่งไปบวช ก็หมายถึงจะต้องละทางโลกไปเลย
“ลากมันไป และค่อยดูให้มันอยู่ในศีลในธรรมด้วย”
ชายหนุ่มออกคำสั่งลูกน้องทั้งหมดจึงได้เดินออกไป เสี่ยจึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง ที่นารายืนตั้งท่าอยู่เตรียมตัวจะพุ่งชนและจะหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ ยังไงเธอก็จะไม่ยอมเป็นเมียเสี่ยแก่ ๆ แน่นอน
เสี่ยเปิดประตูเข้าห้องมา นาราก็วิ่งมาด้วยความเร็ว แต่ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบ หัวของนาราจึงชนเข้ากับประตูอย่างแรง
ร่างบางล้มหงายท้องสลบ ชุดนอนตัวบางเปิดขึ้นจนเห็นเนินสามเหลี่ยมที่มีขนอ่อนปกคลุมเล็กน้อย
เสี่ยมองร่างบางของหญิงสาวที่สลบไสล หน้าผากปูดเป็นลูกมะนาว และสายตายังเลือนลงมองเนินสามเหลี่ยมของเธออย่างห้ามไม่ได้
แต่เพราะเสี่ยเป็นคนดี เขาจึงรีบเบนสายตาไปทางอื่น แล้วเดินไปหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างของนารา ก่อนจะอุ้มเธอไปนอนบนเตียง แล้วเอายามายาให้
“ซี้ด..เจ็บ” นาราค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นชายหนุ่มรูปหล่ออยู่ใกล้
“คุณ คุณเป็นใคร”
“เจ้าหนี้แม่เธอ”
“เจ้าหนี้งั้นเหรอ”
“ให้เจ้าหนี้ ฉันชื่อเสี่ย”
“เสี่ย” เสียงหวานเอ่ยเรียก เธอแทบไม่อยากจะเชื่อ ใครช่างตั้งชื่อให้แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเจ้าหนี้ที่หล่อขนาดนี้กำลังจะเป็นของเธอ
“อืมม”
“แม่ส่งนารามาขัดดอก”
“ชื่อนารานี้เอง แต่ฉันไม่ชอบเอาคนขัดดอกมันผิดศีล”
“ห่ะ ผิดศีล แต่ปล่อยเงินกู้ไม่ผิดศีลเหรอ”
“ฉันปล่อยถูกกว่าธนาคารอีกนะ ถือว่าช่วย ๆ กัน”
“โถ..ช่างพ่อพระจริง ๆ” หญิงสาวเอ่ยอย่างชื่นชม
“เดี๋ยวจะส่งเธอกลับ”
“โอ้ย!” นาราแกล้งร้องแล้วเอามือจับหัวที่โน ก่อนจะเอียงร่างบางไปซบที่อกเขา
“นาราเจ็บ ซี้ด” เธอแสร้งร้อง แล้วทำสายของชุดนอนหล่นจากไหล่ จนทรวงอกโล่งออกมาข้างหนึ่ง
“นาราเธอแต่งตัวดี ๆ หน่อย” เสี่ยหันหน้าไปมองทางอื่น เข้าไม่กล้ามองเธอด้วยซ้ำเพราะใจกำลังเต้นแรง ถึงภาพลักษ์ชายหนุ่มจะดูทรงแบด ๆ แต่ความจริงแล้วมันคือบุคลิกที่เขาสร้างขึ้นมาเท่านั้น จริง ๆ แล้วเสี่ยเป็นคนธรรมะธัมโม แล้วเขาก็ยังไม่เคยผ่านผู้หญิงมาก่อน
“อุ้ย! หลุดอีกข้างแล้ว” หญิงสาวแกล้งเกี่ยวสายอีกด้านให้หลุดจากไหล่ จนชุดนอนของเธอล้นลงไปกองอยู่ที่เอว
สองเต้ากลมสวยจึงเด่นหราอย่างยั่วยวน
“นารา” เสี่ยยังคงหันหน้าหนีไม่ยอมมอง
“ทำไมตรงนี้มีถึงมีรอยช้ำ ๆ พวกนั้นทำไมทำรุนแรงแบบนี้” นาราแกล้งเอ่ย
“ไหนตรงไหน”
เสี่ยรีบหันหน้ากลับมาดู นาราก็รีบคว้ามือของเขามาแตะที่เต้าใหญ่ของเธอทั้งสองข้าง
“ตรงนี้ค่ะ ลองบีบดูสิคะ” หญิงสาวกุมมือชายหนุ่มบีบนวดและเริ่มขย้ำ
“อ่าส์..เสี่ยเบาหน่อยสิคะ”
“ฉัน ฉันเปล่าบีบนะเธอจับมือฉันเอง” ชายหนุ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เต้านมของเธอมันช่างนุ่มนิ่มจนสติเขาแทบหลุดอย่างจะขย้ำให้แหลกคามือ
“ทำไม่เสี่ย หน้าแดงอย่าบอกนะว่ายังไม่เคยเรื่องอย่างว่า..”
“ใช่ที่ไหน ทำไมจะไม่เคย” ชายหนุ่มรู้สึกฉุกที่เธอดูถูกความเป็นชาย
“จริงเหรอคะ งั้นของเช็กหน่อย” นารารีบตะปบจับเป้ากางเกงของชายหนุ่ม ซึ่งก็จริงดังคาดเพราะท่อนเนื้อของเขาแข็งตั้งเป็นลำ แถมยังใหญ่ซะด้วย
“อู้วว แข็งปั๋งเชียวชักอยสกจะเห็นแล้วสิ” ไม่พูดเปล่ามือเล็กยังคงลูบท่อนเนื้อผ่านเป้ากางเกงเขาด้วย
“ซี้ด…” เสี่ยครางเสียวออกมา เขาก็อยากจะลองเหมือนกัน
“เธอแต่งงานหรือยัง ฉันไม่อยากผิดศีลข้อสาม”
“ยังค่ะ ตอนนี้นาราโสด”
“ดีงั้นมาเริ่มกันเลย”
นาราใจหายวาบเมื่อชายหนุ่มถอดกางเกงออก ดวงตาสวยจ้องมองท่อนเนื้อลำใหญ่เกินกว่ามาตรฐานชายไทยคอนไปทางยุโรป
“อ่าส์…ซี้ด”