บทที่ 1
“นับดาว มึงรีบหนีไปก่อนเดี๋ยวกูรับหน้าเสี่ยเอง”
“มึงจะให้กูหนีไปไหน กูไม่ผิดกูไม่ได้เป็นคนเอาเงินเสี่ยไป”
นับดาว พริตตี้สาวสวยหุ่นดี กำลังเครียดอย่างหนัก เพราะแฟนหนุ่มของเธอรับเงินจากเสี่ยมาก้อนใหญ่ เพื่อทำงานบางอย่าง แต่มันกลับไม่ทำงานให้เสี่ย แล้วหอบเงินหนีหายไป และเธอก็ติดต่อไม่ได้มันทำให้เธอพลอยซ่วยไปด้วยเพราะเสี่ยกำลังส่งคนตามมาเล่นงานเธอ
“แต่แฟนมึงเอาเงินเสี่ยแล้วหายไปแบบนี้ เสี่ยเขาต้องสงสัยมึงอยู่แล้ว มึงก็รู้ว่าเสี่ยโหดไหน” แก้วตาเพื่อนสนิทของเธอพูด นับดาวคิดไตร่ตรองดูถึงความโหดของเสี่ยที่เธอเคยเห็นไม่ว่าจะเป็นจับไปขังแล้วซ่อม หรือถ้าเป็นผู้หญิงคงโดนจับให้พวกลูกน้องรุมโทรมแน่ ๆ นับดาวยิ่งคิดก็เสียวสันหลังวาบทันที
“แล้วกูจะหนีไปไหนรอด เสี่ยมีอิทธพลขนาดนี้”
“เสี่ยมีพวกอยู่แค่ภาคกลางและใต้ มึงขึ้นเหนือไปหรือไม่ก็อีสาน หาที่หลบก่อน”
“เออ ๆ”
นับดาวเชื่อตามที่เพื่อนบอกเธอรีบเก็บเสื้อผ้าและของของที่จำเป็นยัดใส่รถแล้วขับออกไปทันที
หลังจากเธอขับรถออกไปได้ไม่นาน เสี่ยและพวกก็ขับรถเข้ามา พร้อมกลับลากร่างของ กาย แฟนของนับดาวที่สภาพยับเยินมาด้วย แก้วตารีบปรี่เข้าไปประคองกายทันที
“นับดาวอยู่ไหน” มือขาวของเสี่ยเอ่ยเสียงเข้ม
“นับดาวมันหนีไปแล้วพี่ แก้วบอกพวกพี่แล้วไงคะว่ากายไม่เกี่ยวกายมันไม่ได้เอาเงินเสี่ยไป” แก้วโกหกคำโต ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนของแก้วตาและกาย ที่ทั้งสองลอบมีความสัมพันธ์กันแล้วคิดจะพกเงินฮุบเงินก้อนโตของเสี่ยโดยการใส่ร้ายว่านับดาวเป็นคนเอาไป เป็นการกำจัดนับดาวที่แยบยลและยังได้เงินใช้ฟรี ๆ อีกด้วย
“ไม่มีลูกพี่ เสื้อผ้าของใช้ถูกเก็บไปหมดแล้ว”
“แก้วบอกแล้วไงคะ ไม่ได้โกหกนับดาวมันเอาเงินเสี่ยหนีไปจริง ๆ”
เมื่อพวกของเสี่ยรู้จากแก้วตาว่สนับดาวจะหนีไปทางไหน แต่เพราะแถวนั้นไม่ใช่ถอ่นของพวกเขาจึงทำได้แค่ล่าจัวเธออย่างเงียบ ๆ
สามวันผ่านไป นับดาวขับรถขึ้นมาทางอีสาน เธอเลือกทางเลี่ยงเมืองเพราะคิดว่าเสี่ยก็น่าจะส่งคนมาตามตัวเธอ ถนนหนทางเริ่มทุรกันดานมากขึ้น สองด้านข้างมีแต่ทุ่งนา
เธอขับรถไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมายกะว่าจะหาโฮมสเตย์ตามหมู่บ้านชนบทอยู่สักพัก
แต่แล้วเธอก็ต้องตื่นตระหนก หญิงสาวมองผ่านกระจกหลังมีกะบะสีดำกระจกทึบไล่ตามเธอจนฝุ่นตลบ นับดาวหวาดระแวงกลัว และคิดว่าคงจะเป็นพวกของเสี่ยที่จามล่าตัวเธอ เธอรีบเหยียบตันเร่งขับหนีไปด้วยความเร็วบนพื้นถนนที่เป็นลูกรังจนฝุ่นสีส้มตลบมองไม่เห็นทาง
ด้วยความรนรานเธอบังคับพวงมาลัยเลี้ยวเข้าถนนเส้นเล็ก ๆ แต่ผ่านขับไปไม่เท่าไรถนนเส้นนี้ก็ถูกตัดขาดไม่มีทางไปต่อได้อีกแล้ว
นับดาวรีบลงจากรถ เธอชะเง้อมองเห็นรถกะบะคันนั้นตามเธอมา หญิงสาวตัดสิ้นใจทิ้งรถไว้ วิ่งหนีเข้าไปในชายป่าด้านหน้าอย่างตื่นตะหนก
ร่างสวยหุ่นผอมบางวิ่งสะเปะสะปะจนหลงทิศ แค่คิดว่าต้องหนีให้ไวที่สุดจนไม่ได้มองว่าด้านหน้าด้านเป็นบ่อน้ำที่คงจะมีชาวบ้านขุดไว้เก็บน้ำหน้าฝน
นับดาวไม่ทันได้มองด้านหน้า เพราะระแวงว่าพวกนั้นจะตามเธอทัน ร่างบางจึงสะดุดเข้ากับรากไม้ล้มหน้าผากฟาดกับก้อนหินแล้วกลิ้งตกน้ำจนหายไป..
กะบะสีดำคันที่ตามเธอมาเป็นคนของเสี่ยตามที่เธอคิดไว้ พวกนั้นจำระของเธอได้จึงได้เข้าไปค้นในรถแต่ก็ไม่เจออะไร จึงได้ตามเธอเข้าไปในป่าเห็นหลังของนับดาวไว ๆ ว่าเธอกำลังวิ่ง จากนั้นก็ล้มลงแล้วตกน้ำไป
ขายพวกนั้นไปยืนดูริมบ่อน้ำเห็นคราบเลือดติดที่ก่อนหินแถมเธอยังจมน้ำหายไปก็คิดว่านับดาวคงจะตายแล้วจึงได้พากันกลับ..
คล้อยหลังพวกนั้นเดินจากไปไม่กี่นาที พื้นน้ำก็เกิดการเคลื่อนไหว ร่างของนับดาวค่อย ๆ โผล่จนพ้นพื้นน้ำขึ้นมาพร้อม ๆ กับควายตัวใหญ่สี่ห้าตัวพวกมันก็เดินโดยมีร่างของเธอพาดขวางอยู่พื้นหลังควาย
ร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งเดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่เขาเดินตรงมาที่หญิงสาว ฝูงควายต่างหลบให้เขาเข้ามามือสากจับที่หัวของนับดาวดูก็เห็นว่าเธอบาดเจ็บ จึงรีบกระโดดขึ้นหลังควายจับร่างของเธอมาอุ้มไว้แล้วขี่ควายกลับบ้าน…
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อนับดาวครับ เธอเป็นพริตตี้ในสังกัดของเสี่ยอ้วน”
“ชื่อนับดาวนี้เอง ไปสืบมาใครเป็นคนตามฆ่าเธอ” ร่างใหญ่กำยำเอ่ยสั่งชายฉกรรจ์ที่อยู่นอกกระท่อม ก่อนจะเดินกลับเข้ามามองหญิงสาวร่างบาง ใบหน้าจิ้มลิ้ม ตัวขาวโพลนสว่างอย่างกับติดไฟนีออนไว้ที่ตัว เขาค่อย ๆ แตะที่หน้าผากเธอเบา ๆ
“ซี้ดด” เปลือกตาสวยค่อย ๆ ขยับลืมตาขึ้น เธอรู้สึกปวดหัวมึนหัวไปหมด หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ มองขายแปลกหน้าที่กำลังมองเธออยู่
เธอพยายามจะลุกขึ้นกระเถิบตัวหนีแต่ก็ไม่ค่อยจะมีแรงเพราะปวดหัวไปหมด
“เดี๋ยว ๆ ค่อยลุก ไม่ต้องกลัวฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยบอกแล้วเอื้อมมือสากไปจับต้นแขนนุ่มนิ่มของเธอประคองช่วยให้เธอนั่ง
“ฉัน..ฉัน..คุณ..คุณ” เธออึกอักพูดไม่ออกเขาไม่รู้จักเธอแสดงว่าไม่ใช่พวกของเสี่ย ทำไงดี ๆ นับดาวคิดในใจยังไงเธอก็ต้องมีที่ซ่อนตัวจากเสี่ย เอาอย่างนี้แล้วกันแกล้งความจำเสื่อมจะได้อาศัยอยู่กับเขาไปก่อน
“ฉัน…ปวดหัว”
“คงจะปวดอยู่แล้วล่ะหัวกระแทกแรงขนาดนั้น”
“กระแทกเหรอ”
“ใช่”
“แล้วกระแทกได้ยังไง”
“เธอจำไม่ได้เลยหรือ”
“.....” นับดาวแสร้งเป็นนึกอยู่พักหนึ่ง
“จำไม่ได้ แล้วฉันเป็นเมียคุณใช่ไหม คุณโกรธฉันเรื่องอะไรถึงได้ตีเมียตังเองแบบนี้”
“เดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มมองหน้าเธออย่างงง ๆ
“ที่รักฉันไปทำอะไรให้คุณโกรธ” ร่างบางรีบโผเข้าอกใบหน้าสวยแนบอกใหญ่ ที่ทำเอามจเธอเต้นตึก ๆ เพราะร่างกายชายหนุ่มนั้นกำยำแน่นไปด้วยมัดกล้าม
“เดี๋ยวนะ ไหนบอกจำไม่ได้แล้วทำไมถึงบอกว่าเธอเป็นเมียฉัน”
“ก็เราอยู่ที่นี่แค่สองคน แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่”
ชายหนุ่มพึงนึกได้ว่าเขาเป็นคนถอดเสื้อผ้าเธอออกเองเพราะมันเปียก ตอนนั้นก็เกือบจะตบะแตกเหมือนกัน ก็ร่างกายส่วนเว้าส่วนโค้งที่ยั่วยวนทำเขาเกือยจะอดใจไม่ไหว ส่วนเขาเองตอนนี้ก็สวดเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวเท่านั้น
มือใหญ่จึงเอื้อมไปลูบหลังเธอเบา ๆ
“ใช่เธอเป็นเมียฉัน”
สำเร็จ! นับดาวคิดในใจ
“แต่ฉันไมาได้โกรธเธอ มันเป็นอุบัติเหตุเธอล้มหัวฟาดแล้วยังจมน้ำอีก” ร่างใหญ่รับว่าเธอเป็นเมียเขาแล้ว แต่ในใจก็ยังคงคิดว่าถ้าเธอจำได้ขึ้นมาเธอจะว่าอะไรไหมนะ
“เจ็บแผลไหมนับดาว”
“นับดาว ฉันชื่อนับดาวนี้เอง” เธอแกล้งเล่นลทคนความจำเสื่อมต่อ
“อืม”
“แล้วคุณ..”
“เดื่อ พี่ชื่อเดื่อ”
“พี่เดื่อ” ชื่อโคตรลูกทุ่งเลย แต่ให้อภัยเพราะเขาหล่อมาก หน้าตาคมเข้มแถมหุ่นยังดีอย่างกับนายแบบไม่หน้าเชื่อว่าจะหาได้ตามชนบทแบบนี้ เธอคิดในใจ
“ตกลงยังเจ็บแผลอยู่ไหม”
“ไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ”
“งั้นนอนต่อเถอะ นี้ก็ดึกมากแล้ว” ชายหนุ่มรียประคองร่างเล็กของเธอให้นอนลง เพราะเธอกอดเขาอยู่ท่านี่แถมเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่หัวนมของเธอแนบอยู่ที่ลำตัวเขา จนท่อนเนื้อด้านล่างมันแข็งไปหมด
เธอเธอลงอย่างง่าย แล้วชายหนุ่มก็ล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ
“พี่เดื่อทำไมนอนตรงนี้”
“ก็เราเป็นผัวเมียก็ต้องนอนเตียงเดียวกันไปซิ”
นับดาวนึกขึ้นได้เธอเกือบจะหลุดออกไปแล้ว
“ไม่ดาวหมายถึงทำไมพี่เดื่อนอนตรงนั้นกระเถิบมาใกล้ ๆ กันหน่อยซิ” เธอเอื้อมมือไปโอบร่างกนากำยำให้เข้าใกล้ แล้วห่มผ้าผืนเดียวกัน
มันต้องนอนอย่างนี้ถึงจะสมกับเป็นผัวเมีย เธอคิดในใจ
ผ่านไปเกือบสิบนาที ชายหนุ่มนอนหงายเกร็งตัวแข็ง รวมถึงท่อนเนื้อกลางกายด้วยที่มันแข็งจนดันผ้าห่มขึ้นมา เดื่อชำเลืองมองหญิงสาวที่กอดเขาอยู่ แล้วอดยิ้ม ๆ ที่เบียดแขน
“ฟู่..ให้ตายเถอะ” เขาก็เป็นผู้ชายไม่ใช่พระอิฐพระปูน มีเลือดเนื้อมีความรู้สึกเหมือนกัน ใครมันจะไปทนได้ว่ะเมื่อมีหญิงสาวสวย ๆ มานอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้
มือสากเลื่อนเข้าไปใต้ผ้าห่มจับท่อนเนื้อของตัวเองที่ตั้งโด่รูดชักขึ้นลง
“ซี้ดด ไหนก็เป็นผัวเมียกันแล้วก็ต้องเอากันเป็นเรื่องธรรมดา” เขาพึมพำเบา ตัดสินใจตะแคงข้างด้านหญิงสาวให้นอนหงายแล้วเปิดผ้าห่มออก ร่างสวยเปลือยเปล่าขาวเนียนดึงดูดสวยตา ยิ่งจุกสีหวานที่ปลายเต้ามันช่างยั่วยวนเชิญชวนให้ลิ้มลอง
“พี่เดื่อ อ๊ะ…จะทำอะไร” ร่างบางร้องเสียงหลง เมื่อปากอุ่นครอบดูดปลายเต้าตอนที่เธอยังไม่ตั้งตัว มือหนาอีกข้างจับสะโพกเธอกดไว้แน่นแล้วเลื่อนลงจู่โจมเนินสวาทสอดปลายนิ้วชี้และกลางขยี้ติ่งเสียวอย่างหนักหน่วง
“อ๊ะ…ซี้ดดด”
“ทำเรื่องที่ผัวเมียเขาทำกันไงดาว”