“ฉันว่านายคงจะเป็นหนักอยู่นะ!” ฉันตะคอกใส่หน้าเขาไปอย่างเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว อยากออกไปจากตรงนี้เต็มแก่ เพราะมันทั้งคับแคบและอบอ้าว แถมยังต้องมาต่อปากต่อคำกับคนเป็นประสาทอีก ฉันจะเป็นบ้าตาย!
“ใช่ ฉันเป็นหนัก!”
เขาปล่อยมือออกจากการเหนี่ยวรั้งเอวของฉันไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นค่อย ๆ ลูบไล้ตามข้างลำตัวของฉันไปมาแทน จนมันรู้สึกวาบหวิวไปหมด
“หยุดนะ!” ฉันพยายามปัดมือเขาที่ลูบไล้ฉันทิ้ง แต่เขาก็จับมือของฉันไว้ทั้งสองข้างแล้วจับมันล็อกชูไว้เหนือหัว ก่อนจะดันตัวฉันให้แนบชิดติดกับผนังห้องน้ำ
“ปล่อยนะ นายจะทำอะไร!?” ฉันเค้นถามเสียงต่ำ แล้วจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าคมคายและดวงตาคมกริบของเขาแบบไม่ชอบใจนัก ชักเริ่มจะเกลียดเขามากกว่าเดิมแล้วนะ
“เลือกมา!”
“เลือกอะไร?”
“เลือกว่าจะไปหาฉันหรือจะโดนฉันจับกระแทกในนี้!”
“นายต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ แหกตาดูด้วยว่าที่นี่ที่ไหน!”
“ก็ร้านกาแฟไง”
“ใช่ ที่นี่คือร้านกาแฟ นายต้องเป็นคนยังไงถึงได้คิดจะทำอะไรต่ำ ๆ เลวทรามในที่แบบนี้!”
“หึ ก็เลวพอตัว!” เขาทำหน้าแบบไม่แยแส
“ก็รู้นิ่!”
“หึ ๆ”
“และอีกอย่างฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ที่นายคิดอยากจะทำอะไรยังไงกับฉันก็ได้!”
“ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอขาย แต่มีข้อเสนอดี ๆ มาเสนอ”
“ฉันไม่สนใจข้อเสนออะไรของนายทั้งนั้น!” ฉันพยายามดีดดิ้นออกจากพันธนาการพลางมองตาขวางใส่เขาอย่างไม่ยอมแพ้
“แล้วแต่ แต่ตอนนี้เธอต้องเลือกมาก่อน” ทว่าเขากลับทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่ฉันพยายามพูดหรือโต้แย้งเลยสักนิด
“ฉันไม่เลือกอะไรทั้งนั้นไม่เข้าใจหรือไง นายปล่อยฉันได้แล้วนะ!”
ฉันพยายามรวบรวมแรงและฝืนร่างกายตนเองในการดันตัวเขาให้ออกห่างและดึงมือที่เขาจับฉันล็อกไว้ออก แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเขาแรงเยอะมาก!
“ไม่ปล่อย!”
“นี่นาย!”
ฉันชักจะเหลืออดกับคนอย่างเขาแล้วนะ!
“ถ้าเธอไม่เลือก ฉันก็คงต้องทำแบบนี้!”
พูดจบเขาก็กดริมฝีปากลงมากระแทกที่ริมฝีปากฉันอย่างแรงแบบจัง ๆ แล้วขบเม้มดูดดึงริมฝีปากของฉันอย่างแรงจนฉันรู้สึกเจ็บชาไปหมดทั้งปาก
“อื้อ อ่อยอัน (ปล่อยฉัน) !!”
ฉันพยายามดีดดิ้นตัวเองสุด ๆ แต่ก็ไม่เป็นผลเลย เพราะเขาล็อกมือฉันไว้ พร้อมทั้งใช้ลำตัวแกร่งของเขาดันร่างของฉันไว้ไม่ให้ขยับหรือดิ้นหนีได้สำเร็จ
เขาดูดดึงริมฝีปากของฉันไปเรื่อย ๆ พลางพยายามที่จะเปิดปากของฉันโดยการกัดที่ริมฝีปากและดึงให้ปากเปิดกว้างออก แต่ฉันก็กัดฟันไว้แน่นอย่างไม่ยอมให้เขาใช้ลิ้นบุกเบิกเข้ามาได้สำเร็จ
ฉันจะไม่มีทางเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของเขาอย่างเด็ดขาด
แกร๊ก แอร๊ดดดดด...
เสียงประตูด้านนอกถูกเปิดอ้าออก ทำให้ฉันถึงกับสะดุ้งและตื่นเต้นจนเผลอเผยอปากออก ทำให้เขาได้โอกาสรีบสอดลิ้นเข้ามากวาดต้อนภายในโพรงปากของฉันไปมาอย่างเร่าร้อน แต่ฉันก็ไม่กล้าส่งเสียงต่อต้านเขาออกไป เพราะกลัวว่าคนข้างนอกนั้นจะได้ยินเสียงของเราสองคน
ปัง!
เสียงปิดประตูห้องข้าง ๆ ทำให้ฉันสะดุ้งตกใจอีกรอบ แล้วพยายามดันแผงอกและขัดขืนเขามากขึ้น
“มึง เมื่อกี้กูเจอติณที่ร้านด้วยว่ะ!”
“เออ แต่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว”
“หล่อดิวะ!”
“กูรู้สึกว่าเดินมาทางห้องน้ำนะ แต่ยังไม่เห็นเดินออกไป”
“เออ ๆ รีบมา กูรออยู่ร้านเนี่ย!”
เสียงผู้หญิงข้างห้องดังต่อเนื่อง ฟังจากประโยคการพูดแล้วน่าจะคุยโทรศัพท์มือถือกับเพื่อน ดูจะคลั่งไคล้ไอ้ผู้ชายประสาทนี่ไม่น้อย
“อื...”
จู่ ๆ ติณก็ผละริมฝีปากออก แล้วเปลี่ยนมาเป็นซุกไซ้ซอกคอของฉันแทน จนฉันเกือบจะเผลอส่งเสียงครางออกมาแล้ว แต่โชคดีที่เอามือมาปิดปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน
นี่เขาไม่กลัวคนอื่นรู้เลยหรือไงนะ!
ไอ้ประสาทเอ๊ย!
เขาซุกไซ้ซอกคอของฉันไปมา สลับซ้ายขวา ลมหายใจกรุ่นร้อนของเขาที่พ่นใส่ต้นคอมันทำให้ฉันแทบจะหายใจได้ไม่เต็มปอด และยังต้องกลั้นเสียงที่กลัวว่าจะเผลอครางออกมาเพราะความรู้สึกวาบหวิวกับการกระทำของเขาแบบนี้อีก ทรมานไม่ใช่น้อย!
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูห้องน้ำจากห้องข้าง ๆ ทำให้ฉันรู้สึกหายใจสะดวกมากขึ้น แต่คนที่ยังกระทำกับร่างกายของฉันอยู่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เสียงเปิดประตูใหญ่ออกไปของคนเมื่อกี้ทำให้ติณหยุดการกระทำ แล้วจ้องหน้าฉันโดยที่ระยะห่างจากใบหน้าของเราไม่ถึงคืบ
“ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้ว่ะ!”
“......” ประโยคเมื่อกี้ของเขาทำคิ้วของฉันขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ นี่เขาหมายความว่ายังไง?
“เพราะฉันรู้สึกเหมือนเสพติดร่างกายของเธอไปแล้ว”
“แต่ฉันไม่ได้เต็มใจให้นายทำแบบนี้กับฉันนะ!!” ฉันรีบกดเสียงต่ำพูดสวนเขาไปอย่างไม่พอใจ
“......”
“เราไม่ได้รู้จักหรือสนิทกันที่จะมาทำเรื่องแบบนี้!”
“ฉันชื่อติณ...เธอชื่อเกรซ”
“นะ..นายรู้จักชื่อฉันได้ยังไง!?”
“แล้วเธอคิดว่าไง?” เขาเอียงคอย้อนถามกลับ
“......”
“ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ”
ฉันเกือบลืมไปเลยว่าเขาเป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย มันคงเป็นเรื่องง่ายมากที่เขาจะไปสืบหาประวัติของฉันมาจากสำนักทะเบียนของมหาวิทยาลัย
“กว่าฉันจะหาประวัติเธอเจอ เลือดตาแทบกระเด็น!”
“แล้วทำไมนายต้องสืบหาประวัติฉันด้วย!!”
“คงจะเป็นเพราะเหตุผลที่ฉันทำกับเธอเมื่อกี้นี้!”
“นายมันประสาท!”
เขาคงอยากจะทำเรื่องอย่างว่ากับฉันแน่ ๆ ถึงได้ลงทุนทำถึงขนาดนี้
“หึ ๆ” โดนฉันด่าแต่ยังมีอารมณ์มาหัวเราะชอบใจ ถ้าเขาไม่ได้เป็นประสาทแล้วจะเป็นอะไรไปได้ น่าหงุดหงิดชิปเป๋ง
“ปล่อยฉันได้แล้ว!”
เขายอมปล่อยฉันให้เป็นอิสระแต่โดยดี แล้วขยับถอยห่างออกจากตัวฉันไปเล็กน้อย
“ไปหาฉันเย็นนี้”
“ฉันไม่ไป!”
“ทำไมวะ!?”
“แล้วทำไมล่ะ ทำไมฉันต้องไปหานายด้วยไม่ทราบ!!?”
“ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอ”
“แต่ฉันไม่อยากคุยหรือเห็นหน้านายอีก หลบไป!” พูดจบฉันก็ผลักตัวเขาให้ออกห่างจากประตูห้องน้ำ แล้วแทรกตัวไปเพื่อที่จะเปิดประตูห้องน้ำออกไป
“ฉันอยากรับผิดชอบเธอ”
มือของฉันที่กำลังจะจัดการเปิดประตูห้องน้ำถึงกับหยุดชะงักกึกทันที ก่อนจะหันขวับไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“รับผิดชอบ?”
“มาคบกับฉัน”
“หะ! ทำไมฉันต้องคบกับนายด้วย!?”
อยู่ ๆ ก็บอกว่าจะรับผิดชอบโดยการให้ฉันไปคบกับเขาเนี่ยนะ! ตลกล่ะ!!
“ถ้าเธออยากรู้เหตุผลมากกว่านี้ก็ไปเจอฉันที่คอนโด XT ห้องหนึ่งสี่ศูนย์เก้า”
“คิดว่าฉันจะไป?”
“ฉันจะรอเธอ”
“ฉันไม่มีทางคบกับนายและไม่ไปหานายอย่างแน่นอน!”
“ทำไม?”
“ฉันมีแฟนแล้ว!”
“แฟน ใครวะ!?” เขาดูหัวเสียขึ้นมาทันทีที่ฉันพูดถึงแฟนขึ้นมา
“นายไม่จำเป็นต้องรู้ว่าแฟนของฉันเป็นใคร รู้แค่ว่าฉันไม่อยากให้นายมาทำแบบนี้กับฉันอีก!!”
“......”
“คงจะรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร”
“?” เอียงคอขมวดคิ้วทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม
“ฉันไม่อยากมีปัญหากับแฟน เพราะฉันรักเขามาก!”
พูดจบฉันก็สะบัดหน้าใส่เขาอย่างเชิด ๆ แล้วเปิดประตูออกมา แต่ยังไม่ทันที่ขาจะได้ก้าวออกมาจากห้องน้ำเขาก็พูดขึ้น
“งั้นก็เสียใจด้วย ฉันไม่ใช่พวกสนใจหรือแคร์ความรู้สึกของใคร!”
“......”
“เพราะถ้าฉันอยากได้อะไรขึ้นมา ยังไงฉันก็ต้องได้!”
ฉันหันกลับไปมองเขาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ แต่เขากับกระตุกยิ้มร้ายออกมาอย่างไม่แยแสต่อสิ่งที่ฉันบอกไปเลยสักนิด ก่อนจะดันตัวฉันให้เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินผ่านหน้าฉันออกไปโดยไม่หันกลับมามองฉันอีก
นี่เขาหมายความว่ายังไงกัน!?
อยากได้อะไรก็ต้องได้อย่างงั้นเหรอ!!!?
ฉันเริ่มใจคอไม่ดี มีลางสังหรณ์ว่าชีวิตต่อไปนี้จะไม่สงบสุขอีกต่อไปแล้ว โคตรเฮงซวยจริง ๆ เลยที่ได้มาเจอผู้ชายอย่างเขา ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย!!!