“อ่าาาาส์ เธอแม่งเอาโคตรมัน”
เสียงครางกระเส่าปนแหบพร่าของผู้ชายที่กำลังกระแทกอยู่บนร่างของฉันอย่างมีอารมณ์ ทำให้ฉันแทบอยากจะกลั้นใจตายซะให้สิ้นเรื่องไปเลยในตอนนี้
ฉันกำลังทำเรื่องน่ารังเกียจแบบไม่เต็มใจเพราะการขาดสติ และฉันก็รู้ตัวดีว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าหากฉันไม่ดื่มเหล้าเข้าไปเยอะจนทำให้ไม่มีสติและพลาดให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ฉันชื่อ ‘เกรซ’ ค่ะ
ฉันเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูงและไม่ค่อยแคร์คนอื่นสักเท่าไหร่ในสภาวะปกติที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือด
และฉันก็ดันเป็นคนประเภทแปลกประหลาด ก็คือ เวลาที่ดื่มเหล้าหนัก ๆ หรือแอลกอฮอล์เกินลิมิตของตัวเองแล้วเมามาย ฉันมักจะชอบเข้าไปอ่อยคนอื่นโดยที่ตัวเองไม่มีสติมากนัก จนทำให้หลายครั้งฉันเกือบจะเสียท่าและเสียตัวให้ผู้ชายพวกนั้นไปแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่รอดพ้นมาได้เพราะเพื่อน ๆ ของฉันคอยมากันท่าไว้และห้ามผู้ชายพวกนั้นไม่ให้ฉุดฉันเอาไว้ได้ทันตลอด แต่ครั้งนี้เพื่อนฉันคงมาคอยห้ามไม่ทันแล้วล่ะ เพราะฉันดันดื้อแอบพวกมันมาเข้าห้องน้ำคนเดียว เพราะคิดว่าตัวเองยังไหวและไม่เมามากเท่าไหร่
แต่ฉันคงคิดผิดไป เพราะพอฉันเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วจู่ ๆ ก็เกิดอาการทรงตัวไม่อยู่และรู้สึกอยากอ้วกขึ้นมาแบบกะทันหัน ฉันจึงหลบมุมไปนั่งพักตรงสวนหย่อมเล็ก ๆ ที่พวกผู้ชายเอาไว้ยืนสูบบุหรี่กันเพื่อให้อาการดีขึ้น แต่ใครจะไปรู้ว่าการที่ฉันนั่งพักอยู่ตรงนั้น มันกลับทำให้ฉันได้เจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่มายืนสูบบุหรี่จนควันโขมงฟุ้งไปทั่วบริเวณ
ฉันเข้าไปอ่อยเขาแบบไม่รู้ตัวและไร้สติ จนทำให้ฉันต้องเสียสิ่งที่ฉันพยายามเก็บรักษาไว้อย่างดีมาเกือบ 21 ปีไปให้กับผู้ชายที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก และเขาก็เพิ่งบอกฉันว่าเขาชื่อว่า ‘ติณ’
‘ติณ’ ผู้ชายคนนี้ถ้าฉันจำไม่ผิดเขาคือหนุ่มหล่อจากแก๊ง EXTRA ที่สาว ๆ เกือบทั้งมหา’ ลัยพากันกรี๊ดกร๊าดและพร้อมที่จะถวายตัวและหัวใจให้ เพราะดีกรีของเขาไม่ธรรมดา
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยสนใจแก๊งนี้สักเท่าไหร่ แต่ฉันก็พอจะรู้จักพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นคนดังที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึงและขนานนามว่า ‘แก๊งที่มีอิทธิพลมากที่สุดในมหาวิทยาลัย’ เพราะพวกเขาทั้งหล่อ รวย และโหด และที่สำคัญนายติณที่กำลังรังแกและย่ำยีร่างกายของฉันอยู่ก็คือลูกชายเจ้าของมหา’ ลัยที่ฉันกำลังเรียนอยู่ ใครที่เรียนที่นี่แล้วไม่รู้จักเขาก็คงจะแปลกหรือไม่ก็บ้านนอกแล้วล่ะ
“เอาขนาดนี้ยังไม่ครางอีกเหรอวะ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเคลิ้ม ๆ และดูเสียวซ่านแบบสุด ๆ ฉันจึงมองจ้องเขากลับไปแบบไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้นอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหันหนีไปมองทางอื่น
เขาที่เห็นฉันเบือนหน้าหนีก็อาศัยจังหวะที่ฉันเผลอแกล้งกระแทกใส่ร่องรักของฉันแบบเน้น ๆ แรง ๆ หนึ่งที จนฉันตัวโยน เพราะมันทั้งเจ็บทั้งจุก และก็แสบมากเช่นกัน จนเผลอหลุดร้องครางออกมา
“อ้ะ!”
กระแทกเน้น ๆ ครั้งเดียวไม่พอ เขาก็กระแทกตามมาอีกครั้งจนฉันรู้สึกมวนไปทั้งท้องน้อย
“นี่! มันเจ็บนะ!” ฉันตวาดลั่นใส่หน้าเขาอย่างไม่พอใจ แต่เขาดันไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด กลับแสยะยิ้มมุมปากคล้ายสะใจที่เห็นว่าฉันแสดงท่าทีไม่พอใจใส่
“หึ”
“พอได้หรือยัง?” ฉันถามเขาไปด้วยน้ำเสียงติดเย็นชาเคล้าเจ็บปวด เพราะมันเจ็บปวดรวดร้าวทั้งร่างกายและจิตใจ และฉันก็อยากออกไปจากตรงนี้สักที
ฉันไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดอะไรเขามากมายนักหรอก เพราะเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นเพราะฉันทำตัวเองทั้งนั้น แต่จะไม่โกรธเลยก็คงไม่ได้เพราะเขาไม่ยอมฟังที่ฉันขอร้องอ้อนวอนเลยสักนิดเดียว
“รีบเหรอวะ กูยังไม่เสร็จ!”
“งั้นนายก็รีบ ๆ เสร็จเข้าสิ!” ฉันแหวเสียงเร่งเขาไปแบบหงุดหงิดใจ เพราะฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว มันเจ็บปวดและร้าวระบมไปหมดทั้งตัว เจ็บจนจะรับแรงกระแทกจากเขาไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
เขาไม่ตอบอะไรฉันกลับมา เอาแต่กระตุกยิ้มมุมปากแล้วขยับสะโพกกระแทกเข้าออกถี่ ๆ จนฉันรู้สึกแสบตรงส่วนนั้นไปหมด แต่ก็ต้องพยายามอดทนอดกลั้นเอาไว้
“อ่าาาาาส์~” เขารีบถอนท่อนเอ็นของตัวเองออกมาปลดปล่อยข้างนอกอย่างไว แล้วร้องครางออกมาอย่างสุขสม
“เสร็จแล้วสินะ” ฉันดันตัวเขาให้ออกห่างจากตัวฉัน เขาจึงชักสีหน้าไม่พอใจใส่ แต่ก็ยอมถอยห่างออกไปจัดการกับสภาพของตัวเองแต่โดยดี
ฉันหยิบแพนตี้ตัวน้อยขึ้นมาสวมใส่ก่อนจะตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองให้กลับไปเป็นเหมือนปกติที่สุด
เมื่อเรียบร้อยดีแล้วก็เหล่ตาไปมองเขาเล็กน้อย และเห็นว่าเขากำลังจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองอย่างตั้งใจอยู่เช่นกัน ฉันละสายตาจากเขาแล้วเอื้อมมือไปที่ประตูรถหมายจะเปิดประตูรถลงไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเขารั้งมือของฉันเอาไว้
“เดี๋ยวก่อน!”
ฉันหันหน้ากลับไปมองเขาที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าเรียบนิ่งและแววตาดูเฉยเมย
“มีอะไร?” ฉันถามเขาไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดูไม่ทุกข์ร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น
“จะไปแล้วเหรอวะ?” เขาขมวดคิ้วถามฉันอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำของฉัน
“จะอยู่ทำไมล่ะ”
“ไม่คิดจะเรียกร้องอะไรเลยเหรอวะ ฉันเปิดซิงเธอนะเว้ย!”
“ก็แค่ซิง สักวันเดี๋ยวมันก็ต้องเสียไปอยู่แล้ว” ฉันตอบเขาไปแบบไม่ใส่ใจนัก แต่จริง ๆ แล้วฉันรู้สึกเสียดายและเสียใจมากที่เสียมันไป จนแทบอยากจะย้อนเวลากลับไปเลยล่ะ ถ้าเลือกได้ฉันจะไม่มาดื่มเหล้าวันนี้โดยเด็ดขาด!
“ก็แค่เสียให้นายคนแรก ถือว่าฉันทำทานให้ก็แล้วกัน”
“หึ!” เขาแสยะยิ้มมุมปากให้ฉัน แล้วปล่อยมือที่รั้งฉันเอาไว้ออก
พอเขาไม่พูดอะไรต่อ ฉันก็เปิดประตูออกมาจากรถทันที แต่พอเท้าแตะพื้นได้เพียงแค่ข้างเดียว ความเจ็บปวดมหาศาลก็แล่นพลันมากระจุกอยู่ตรงกลางกายของฉัน จนแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่ฉันเอามือจับประตูรถเอาไว้เป็นที่พึ่งไว้ได้ทัน
“ไหวไหม?” เขาถามฉันขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแกมเป็นห่วงเล็กน้อย
“ไหว” ฉันพูดตอบเขาไปเสียงเบา แล้วพยายามทรงตัวไว้ไม่ให้ตัวเองล้มลงไปได้ ก่อนที่จะค่อย ๆ ปล่อยมือที่จับประตูรถไว้อยู่แบบช้า ๆ ไม่รีบร้อน เพราะไม่อยากเอาหน้าสวย ๆ ลงไปวัดกับพื้นถนน
“เธอชื่ออะไร?” ฉันค่อย ๆ หันกลับไปเผชิญหน้าและมองสบตาเขาที่กำลังขมวดคิ้วมองมาที่ฉันกลับไป
“นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” ฉันพูดตอบเขาไปด้วยสีหน้าไม่ไยดีก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากให้เขา แล้วปิดประตูกระแทกหน้าเขาอย่างแรง จากนั้นก็ค่อย ๆ พยุงร่างที่แสนจะเจ็บปวดและร้าวระบมก้าวเดินเข้ามาในผับที่เพิ่งโดนลากออกมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ตัวเองดีว่าทำตัวเองทั้งนั้น แต่การที่ฉันขอร้องเขาให้หยุดการกระทำแบบนั้นแต่เขากลับไม่ยอมหยุด และเลือกที่จะข่มขืนฉันแบบที่ฉันไม่เต็มใจ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าเขานั้นอันตรายเกินไป และทางที่ดีฉันควรที่จะหลีกเลี่ยงและอยู่ให้ห่างจากเขาไว้ เพื่อความปลอดภัยของฉันและคนรอบข้าง
ฉันเดินกลับเข้ามาในผับและเดินมุ่งตรงไปที่โต๊ะที่เพื่อนของฉันกำลังนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ด้วยท่าทางที่พยายามให้ดูเป็นปกติมากที่สุด เพื่อไม่ให้พวกมันสงสัยได้
“มึงหายไปไหนมาตั้งนานอีชะนีเกรซ!?” เสียงอีกะเทยวินนี่ดังแว้ดขึ้นทันทีที่เห็นฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ
วินนี่ คือกะเทยดัดจริตของกลุ่มที่เอ่ยทักฉันขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังแปดหลอดของนางจนโต๊ะข้าง ๆ หันมามองเราเป็นตาเดียวกัน จริง ๆ พ่อแม่นางตั้งชื่อเล่นให้แค่ ‘วิน’ นะ แต่ด้วยความกระแดะของมัน จึงเพิ่มคำว่า ‘นี่’ ต่อท้ายเข้าไปด้วยเพื่อให้ตัวเองดูอินเตอร์ขึ้น
“กูไปเข้าห้องน้ำมาไง” ฉันตอบวินนี่ไป แล้วหยิบขวดโซดาขึ้นมากรอกใส่ปากตัวเองไปสองสามอึกเพื่อคลายความกระหายน้ำ
“กูนึกว่ามึงตกส้วมตายไปแล้วนะเนี่ย หายไปนานขนาดนี้!” วินนี่วีนและจิกกัดใส่ฉันอย่างไม่พอใจปนเป็นห่วง
“นั่นสิ ฉันก็นึกว่าแกเป็นอะไรไปซะแล้ว” มะนาวเพื่อนผู้แสนดีของฉันพูดเสริมด้วยสีหน้าดูโล่งอกขึ้น
“กูไปเข้าห้องน้ำแล้วรู้สึกอยากอ้วกอ่ะ ก็เลยนั่งพัก”
“แล้วมึงโอเคขึ้นหรือยัง?” ปลาวาฬเพื่อนอีกคนของฉันพูดถามขึ้นบ้าง
“นั่นสิ” มะนาว
“เออ มึงไหวไหมเนี่ย?” วินนี่
“กูโอเค ๆ พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง” ฉันทำนิ้วเป็นเครื่องหมายโอเคส่งให้พวกมันไป เพราะดูจากสีหน้าของพวกมันที่จ้องมองมาที่ฉันแสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วงฉันมาก
“มึงแน่ใจนะคะ” วินนี่ถามฉันอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่ฉันพูดบอกว่าโอเคสักเท่าไหร่
“เออ พวกมึงสนุกกันต่อเลย” ฉันบอกพวกมันไป แล้วหันไปสั่งพนักงานให้เอาน้ำเปล่ามาให้สองขวด
“เออ ๆ แดกน้ำเปล่าอ่ะดีแล้ว จะได้ไม่เมาแล้วร่านไปอ่อยคนอื่นเขา!” วินนี่พูดแซะฉันขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันสั่งน้ำเปล่ากับพนักงานไป
“มึงอยากปากแตกไหมอีวินธวัช!” ฉันหันขวับไปมองค้อนใส่อีวินนี่ทันทีด้วยสายตาอาฆาตที่พร้อมจะฆ่ามันทิ้งทันที หากมันยังพูดมากอยู่
“อ๊ายยยยอีเกรซ มึงอย่าเรียกชื่อจริงกูที่ร้านเหล้า กูรับบ่ได้” อีวินนี่แหกปากร้องออกมาคล้ายหมาถูกน้ำร้อนสาด จนมะนาวและปลาวาฬถึงกับพร้อมใจกันส่ายหัวให้มันอย่างเอือมระอา ส่วนฉันนั้นก็แสยะยิ้มมุมปากสะใจก่อนจะสวนกลับไป
“ถ้ารับไม่ได้ก็หุบปากไปอีกะเทย!”
จริง ๆ ฉันกับวินนี่ถือว่าสนิทกันมาก หรือจะพูดว่าฉันกับมันสนิทกันที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ เพราะเราสนิทกันมาตั้งแต่มอปลาย ถึงแม้เราสองคนจะชอบด่ากันแรง ๆ ก็เถอะ แต่พอเวลาฉันมีปัญหาก็มีมันนี่แหละที่คอยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ฉันตลอด และอีกอย่างก็คือมันไม่เคยทิ้งฉัน เวลาที่ฉันไปอ่อยคนอื่นก็ได้มันนี่แหละที่คอยช่วยฉันไว้
ส่วนมะนาวกับปลาวาฬฉันเพิ่งรู้จักตอนเข้ามหา’ ลัยแรก ๆ สองคนนี้ก็ดีกับฉันมาก คอยอยู่ข้าง ๆ และไปไหนไปกันกับฉันตลอด ปลาวาฬจะเป็นคนประเภทไม่ค่อยยอมคน ร้ายมาก็ร้ายกลับ ส่วนมะนาวจะเป็นคนที่ค่อนข้างแตกต่างจากพวกเราสามคนที่สุด เพราะมันจะออกแนวหวาน ๆ น่ารักใส ๆ ไม่ค่อยสู้คนและไม่พูดคำหยาบ แต่มันก็สามารถเข้ากับพวกฉันได้ดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ
พอพนักงานเอาน้ำเปล่ามาเสิร์ฟให้ฉัน ฉันก็จัดการเปิดขวดเทน้ำใส่ในแก้ว แล้วหยิบขึ้นมากระดกดื่มทันทีจนหมดแก้ว ดื่มเพื่อหวังให้ช่วยให้ฉันสร่างเมาไว ๆ จะได้จำใส่กะโหลกตัวเองว่าอย่ามาเมาแล้วเป็นแบบนี้อีก เพราะแค่นี้ฉันก็รู้สึกผิดกับตัวเองและแฟนของตัวเองมากพอแล้ว อย่าให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นมาอีกเลยเถอะ ขอร้อง!!