อีกด้านหนึ่ง
บริเวณอาคารปฐมนิเทศ
เสียงจอแจของนักศึกษาใหม่ดังไปทั่ว แต่เสียงหนึ่งกลับเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษ
“อิงอิง! ทางนี้!”
พริ้มเพรา เพื่อนสนิทของอิงอิงตั้งแต่มอปลาย
ยืนโบกมือหยอย ๆ อย่างดีใจสุดขีด
เธอสวย หรู มีออร่าไฮโซแบบคุณหนูนักการเมือง จนใครเห็นก็รู้ทันทีว่า “ไม่ธรรมดา”
ข้าง ๆ พริ้มเพราคือแก๊งเพื่อนสนิท
หนูนา มายด์ มิว และพลอย
กลุ่มเพื่อนสนิทที่เดินด้วยกันตั้งแต่ม.ปลาย
และเป็นกลุ่มที่คนทั้งโรงเรียนเคยเรียกว่า “แก๊งเจ้าหญิงไฮสคูล”
อิงอิงยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อน
แต่ก่อนจะเดินไป เธอไม่ลืมที่จะจับข้อมือน้ำขิงแน่น แล้วดึงไปด้วยกัน
“นี่…ไปด้วยกันเถอะ ชีวิตมหาลัยต้องมีเพื่อนนะ”
น้ำขิงชะงักไปเล็กน้อย
เพราะเธอไม่เคยชินกับคำว่า “เพื่อน” เลย
เสียงในลำคอจึงออกมาเบาแสนเบา
“อะ…อื้อ”
อิงอิงยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม
เหมือนดีใจที่น้ำขิงยอมก้าวตามเธอ
จากนั้นสองสาวเดินตรงไปยังกลุ่มเพื่อน
หนึ่งคนเป็นคุณหนูไฮโซที่ใคร ๆ ก็รู้จัก
อีกคนเป็นเด็กผู้หญิงที่สังคมรังเกียจตั้งแต่วันแรกที่ลืมตา
แต่วันนี้…โชคชะตาบังคับให้ทั้งคู่ยืนอยู่ข้างกัน
ขณะนั้นพริ้มเพรา ลูกสาวผู้สมัครเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี
ยืนกอดอก มองภาพอิงอิงจูงมือน้ำขิงเดินมาแบบงง ๆ
คิ้วของเธอขมวดแน่นทันที
ซึ่งไม่ต่างจากเพื่อนในแก๊งคุณหนูอีกสี่คน
พริ้มเพราเอียงหน้า กระซิบเสียงเย็น
“เมื่อกี้อิงอิง…ไม่ได้ยินนามสกุลยัยหน้าจืดนั่นเหรอ?”
หนูนาเหลือบตามองตามอย่างไม่ชอบใจ
“คงได้ยินแหละ”
มายด์ยิ้มมุมปากแบบดูถูก
“ประวัติจะซ้ำรอยเหมือนแม่ไหมนะ…ยัยอิงอิงนี่ก็นะ ชอบเก็บคนแปลก ๆ มาเป็นเพื่อน”
มิวพลอยไม่ได้พูด แต่สีหน้าไม่ต่างจากกัน
ทั้งหมดมองน้ำขิงราวกับสิ่งที่ไม่ควรเข้าใกล้
ทันใดนั้นเอง
อิงอิงก็เดินมาถึงกลุ่มพอดี พร้อมน้ำขิงที่ก้าวตามมาอย่างเงียบ ๆ
“พวกเธอว่าไงนะ?”
น้ำเสียงอิงอิงเรียบ แต่แฝงความสงสัยชัดเจน
พริ้มเพราค่อย ๆ หุบยิ้มเสียดสี เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานแบบเสแสร้งทันที
“อ๋อ… เปล่า ๆ ไม่มีอะไรจ้ะ”
คุณหนูตระกูลดังจึงเลือกไม่ถามต่อ
เธอจับแขนน้ำขิงเบา ๆ แล้วแนะนำให้กับคุณหนูอีกห้าคนได้รู้จัก
“นี่…น้ำขิงนะ เพื่อนฉัน”
เธอยิ้มกว้าง
“หวังว่าเราจะสนิทกันไว้เนอะ ชีวิตมหาลัยจะได้สนุกไง”
คำว่า เพื่อนฉัน
ทำให้แก๊งคุณหนูทั้งสี่ชะงักไปครู่หนึ่ง
เหมือนถูกตบหน้ากลาย ๆ เพราะปกติอิงอิงจะเลือกคบเฉพาะกลุ่มระดับเดียวกันเท่านั้น
แต่ตอนนี้กลับยืนประกาศต่อหน้าใคร ๆ
ว่าผู้หญิงที่มีนามสกุลที่ทุกคนรังเกียจ…คือเพื่อนของเธอ
น้ำขิงก้มหน้า
แต่ในดวงตาสั่นระริกเต็มไปด้วยความรู้สึกใหม่
ทั้งประหม่า ทั้งกลัว ทั้งดีใจปนกันไปหมด
ขณะนั้นเอง
เสียงประกาศจากพิธีกรดังขึ้นก้องทั่วโถงอาคาร
“ขอให้นักศึกษาใหม่แต่ละคณะ ไปนั่งประจำที่นะคะ เราจะเริ่มพิธีปฐมนิเทศแล้วค่ะ”
ผู้คนรอบตัวเริ่มเคลื่อนที่เป็นระเบียบ
อิงอิงจับมือน้ำขิงลากไปหาโซนคณะวิศวะอย่างคึกคัก
ในขณะที่พริ้มเพราและเพื่อน ๆ เดินตามไปอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
แต่สำหรับน้ำขิง
นี่คือครั้งแรกที่เธอได้ “นั่งร่วมกับใครสักคน”
จึงทำเพียงก้มหน้าเงียบ ๆ และซ่อนความประหม่าไว้ในอก
ระหว่างปฐมนิเทศ
พิธีดำเนินไปด้วยเสียงบรรยายเกี่ยวกับคณะ กิจกรรม และกฎระเบียบ
แต่สายตาของน้ำขิงกลับจับจ้องหน้าจอโทรศัพท์แทบตลอดเวลา
เธอเปิดแอปหางานที่ใช้อยู่เป็นประจำ
เลื่อนดูงานพิเศษต่าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
เพราะเธอรู้ดีว่า ถึงจะเรียนมหาลัย แต่เธอก็ไม่มีสิทธิ์หยุดทำงาน
ลุงต้องใช้เงินผ่าตัด
ค่าเทอมกำลังมา
ชีวิตไม่รอเธอเลยแม้แต่นาทีเดียว
นิ้วเรียวเลื่อนผ่านงานมากมาย
ร้านกาแฟ
โกดังแพ็กของ
เดลิเวอรี
แต่ค่าจ้างล้วนไม่เพียงพอสำหรับภาระตอนนี้
จนกระทั่ง
ภาพประกาศหนึ่งสะดุดตาเธอ
**“ไนท์ตี้วันคลับ เปิดรับพนักงานจำนวนมาก
ใกล้มหาวิทยาลัย เดินทางสะดวก
ค่าจ้างสูงกว่าที่อื่น”**
บนประกาศยังเขียนว่า
“อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผู้บริหาร ปรับปรุงร้านใหม่ เพิ่มพื้นที่กว่าเดิมสามเท่า”
น้ำขิงนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนก้มหน้าพึมพำเบา ๆ
“ที่นี่แหละ… ตอนเย็นจะไปสมัคร”
เพราะในตอนนี้
เธอไม่สนใจว่าที่ไหนจะเป็นคลับ
ที่ไหนจะเสี่ยง
หรือคนภายนอกจะมองเธออย่างไร
เธอต้องการแค่เงิน
เพื่อให้ลุงเธอรอด
เพื่อให้ได้เรียน
เพื่อให้มีชีวิตต่อ
และไม่รู้เลยว่า
ไนท์ตี้วันคลับ…
คือสถานที่ที่เธอกำลังจะเจอ “ปีศาจตัวจริง”
โดยไม่ทันตั้งตัว
หลายชั่วโมงผ่านไป
เสียงบรรยายอันยาวนานของพิธีปฐมนิเทศก็สิ้นสุดลงในที่สุด
พิธีกรสาวบนเวทีหยิบไมค์ขึ้นประกาศด้วยน้ำเสียงสดใส
“การปฐมนิเทศช่วงเช้าสิ้นสุดแล้วนะคะ
ตอนนี้นักศึกษาสามารถไปพักทานข้าวได้เลยค่ะ
ส่วนช่วงบ่าย…ให้แยกไปยังคณะของตัวเองนะคะ รุ่นพี่จะมาชี้แจงกิจกรรมวันรับน้องค่ะ”
เสียงตอบรับดังพร้อมกันทั่วหอประชุม
“ค่าาาา! / ครับบบ!”
นักศึกษาใหม่หลายพันคนเริ่มลุกจากเก้าอี้
เสียงเก้าอี้ขยับ ผสมกับเสียงหัวเราะ จอแจ และสีหน้าโล่งอกของทุกคน
สำหรับหลายคน
มันคือการเริ่มต้นชีวิตมหาลัย
แต่สำหรับน้ำขิง
มันคือ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความกดดันและสายตาตัดสิน
ทว่า
อิงอิงหันมากระตุกแขนเธอเบา ๆ
“ไปกินข้าวกันเถอะน้ำขิง! หิวตายแล้วเนี่ย”
น้ำขิงยิ้มอ่อน ๆ
“อะ…อื้อ”
แต่ในใจของเธอ
กลับคิดถึง…ประกาศรับสมัครงานของ ไนท์ตี้วันคลับ
ที่เธอตั้งใจว่าจะไปสมัครตอนเย็น
ส่วนสิงห์ที่ยืนอยู่ไกล ๆ กับเพื่อนปีสาม
เหลือบหางตาเห็นน้องสาวเดินคู่กับเด็กผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงที่เขา “ไม่ชอบหน้า” ตั้งแต่ยังไม่รู้จักชื่อ
อีกทั้งบ่ายวันนี้
คณะวิศวะจะเริ่มอธิบายเรื่องรับน้อง
และโชคชะตา…
กำลังจะพาทั้งสามคน
สิงห์, อิงอิง และน้ำขิง
เข้ามาอยู่ในเรื่องเดียวกันโดยที่ไม่มีใครหนีได้อีกต่อไป