ตอนบ่าย
ณ ลานกว้างใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์
นักศึกษาปีหนึ่งของคณะวิศวะทุกสาขามารวมตัวกันแน่นขนัด
เป็นธรรมเนียมของมหาลัย XX ที่ช่วงบ่ายของการปฐมนิเทศ
แต่ละคณะจะต้องมารับฟังรุ่นพี่ชี้แจงกิจกรรมรับน้องที่จะเริ่มในอีกไม่กี่วัน
รุ่นพี่สาวร่างเล็กแต่เสียงดังฟังชัด
เดินขึ้นมายืนหน้าลานด้วยความมั่นใจ
“สวัสดีค่ะน้อง ๆ พี่ชื่อกุ้งนะคะ
วันนี้พี่จะมาอธิบายเรื่องการรับน้องปีนี้กันค่ะ”
เสียงฮือฮาจากน้องปีหนึ่งดังไปทั่ว
ทั้งตื่นเต้น ทั้งอยากรู้
“ทุกปี เราจะพาน้อง ๆ ไปต่างจังหวัดบ้าง
เดินเขา ทะเล ลงน้ำ ลงหนอง ลงไร่ ลงนา…
ตามแต่พี่วางแผนมา”
เสียงหัวเราะดังขึ้นต่อเนื่อง
“แต่ปีนี้…พิเศษค่ะ”
ทันใดนั้นเอง
เสียงซุบซิบก็ดังระงมทันที
“ที่ไหนวะ?”
“หรือจะทะเลปะ?”
“ฮึ่ย ตื่นเต้นฉิบหาย”
พี่กุ้งยกมือห้ามเสียงจ้อกแจ้ก
“เอาล่ะค่ะ เงียบก่อน ฟังพี่ให้จบ”
เมื่อเสียงเริ่มเงียบ เธอก็ประกาศออกมาชัดถ้อยชัดคำ
“ปีนี้…เราจะรับน้อง ‘ที่มหาลัยนี้’ ค่ะ!”
“หาาาาา!?”
เสียงอุทานดังพร้อมกันทั่วลาน
“ธรรมดาไปไหมพี่!?”
“ไม่ไปเที่ยวอะะะ?”
พี่กุ้งเบ้ปากนิด ๆ แล้วพูดเสียงเข้ม
“หยุดดดด! เงียบ แล้วฟังให้จบค่ะ!”
ทุกคนยอมเงียบตามคำสั่งทันที
“ปีนี้เราจะรับน้องสามวันสองคืนตามธรรมเนียมเดิมค่ะ แต่นอนเต็นท์ในมหาลัย ทำกิจกรรมที่นี่เท่านั้น และ ‘ห้ามแอบกลับบ้านเด็ดขาด’ นะคะ ถ้าจับได้ โดนทำโทษแน่ค่ะ โดยไม่มีข้อยกเว้น”
เสียงโอดครวญดังระงม แต่ก็แฝงความตื่นเต้น
“และเซอร์ไพรส์คืนสุดท้าย…
พี่เตรียม ‘บ้านผีสิง’ ไว้ให้ค่ะ”
เท่านั้นแหละ
เสียงกรี๊ดดังสนั่นกว่าเดิมสิบเท่า
“พี่สิงห์เหรอ!”
สาวประเภทสองปีหนึ่งสองคนทำตาเป็นประกาย
เพื่อนสาวอีกคนรีบฟาดแขนเพื่อนทันที
“ผีสิงอีควาย! มึงคลั่งผู้ชายเกินไปแล้ว!”
โต๊ะทั้งแถบหัวเราะกันคิกคัก
ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นหลายเท่า
ฝั่งของอิงอิงกับน้ำขิง
อิงอิงตื่นเต้นจนหันมาจับมือของน้ำขิงเขย่าแรง ๆ
“น่าสนุกอ่ะ! ค้างคืนที่ไม่ใช่กับพ่อแม่ แต่เป็นกับเพื่อน!
หวังว่าเราจะได้นอนเต็นท์ด้วยกันนะน้ำขิง!”
น้ำขิงมองหน้าอิงอิง
เห็นประกายในตาที่จริงใจ ไม่เสแสร้ง
จู่ ๆ หัวใจเธอก็อุ่นขึ้นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
นี่คือครั้งแรก…ที่มี “เพื่อน” ดึงเธอเข้าไปในความสนุกของวัยมหาลัยอย่างเต็มตัว
เธอสูดลมหายใจเบา ๆ
แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“อื้อ…ไม่แย่อย่างที่คิด
นี่ก็ครั้งแรกของฉันเหมือนกัน อิงอิง”
อิงอิงยิ้มกว้างเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่
น้ำขิงเองก็เผลอยิ้มตอบ
แม้จะยังไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้
กำลังจะพาเธอเข้าไปสู่โลกของ “สิงห์” แบบไม่มีวันถอยหลัง
พี่กุ้งยกไมค์ขึ้นอีกครั้ง พร้อมเสียงหัวเราะเบา ๆ
“แต่ก่อนจะไปถึงรายละเอียดอื่น…
พี่จะพาน้อง ๆ รู้จัก ‘พี่ว้าก’ ของปีนี้ก่อนนะคะ
ตามธรรมเนียมแล้ว ปีหนึ่งจะได้เจอสามคนค่ะ”
เพียงแค่คำว่า “พี่ว้าก”
เสียงฮือฮาก็เริ่มขึ้นทันที
“คนแรก… พี่สิงห์ค่ะ!”
กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!
เสียงกรี๊ดของน้องปีหนึ่งดังลั่นจนพี่กุ้งต้องรีบยกมือห้าม
เพราะสิงห์ ด้วยความคมเข้มและบารมีแบบนักล่า เดินออกมาด้วยท่าทางเฉย ๆ
แต่ยิ่งเดินเฉย…ยิ่งหล่อ
และยิ่งทำให้เด็กปีหนึ่งหัวใจสั่นกันระนาว
พี่กุ้งรีบตะโกนแทรก
“พอ ๆ เดี๋ยวหลอดคออักเสบ!”
สิงห์เพียงยักคิ้ว
เหมือนชินกับเสียงกรี๊ดพวกนี้จนเป็นเรื่องประจำวัน
“คนที่สอง… พี่ปั้นค่ะ!”
เสียงกรี๊ดดดดดดดังขึ้นอีกระลอก!!!
ปั้นเดินออกมาแบบมาดเซอร์ทะเล้น
โบกมือให้ทุกคนเหมือนเป็นไอดอล
แถมยังจงใจขยิบตาให้ใครบางคนอย่างโจ่งแจ้ง
คือน้ำขิง
คนที่ถูกเพ่งเล็งสะดุ้งจนมือที่กุมสายกระเป๋าสั่นเล็กน้อย
อิงอิงเห็นเต็มสองตา จึงหันมาถามอย่างงง ๆ
“เอ๊ะ? น้ำขิง เธอรู้จักพี่ปั้นมาก่อนเหรอ?”
น้ำขิงส่ายหัวรัว ๆ
“ไม่นะ… เพิ่งเห็นครั้งแรกเหมือนกัน”
อิงอิงขมวดคิ้ว
เพราะสายตาปั้นชัดเจนแบบไม่ต้องแปล
ด้านพริ้มเพราและแก๊งคุณหนู
พริ้มเพรามองฉากนั้นด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ
เธอกระซิบกับมายด์เสียงเย็น
“ยัยหน้าจืดนี่… ไปอ่อยพี่ปั้นอีกแล้วอ่ะ”
มายด์พยักหน้าแรงขึ้น
“นั่นดิ แต่พี่ปั้นเขาชอบพริ้มไม่ใช่เหรอ
ไม่มีทางหันไปสนใจยัยหน้าจืดนั่นหรอก สู้พริ้มไม่ได้สักนิด”
คำพูดนั้นฟังดูทิ่มแทง และน้ำขิงก็ได้ยินบางส่วน
แต่เธอทำได้แค่ก้มหน้า
เพราะนี่คือสิ่งที่เธอเจอมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว
“อะแฮ่ม ๆ เบาได้เบาค่าาา
คนที่สามนะคะพี่กายค่า!”
กรี๊ดดดดดดดดด!!!
เสียงกรี๊ดรอบที่สามดังขึ้นอีกครั้ง
เพราะกายหนุ่มหล่อคม ผิวแทน หุ่นนักกีฬา เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มมุมปาก
ยิ้มที่ทำเอาหลายคนหน้าแดงไปตาม ๆ กัน
เขายกมือขึ้นสวัสดี
“หวัดดีครับน้อง ๆ”
เสียงทุ้มนุ่มนั่นยิ่งทำคนกรี๊ดหนักกว่าเดิม
อิงอิงยิ้มกว้าง
แต่น้ำขิงกลับรู้สึกเหมือนถูกสายตาหลายคู่จ้องมาที่เธอ…
เหมือนเธอเป็นสิ่งแปลกปลอมในคณะนี้
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้คือ
สามพี่ว้ากที่เดินขึ้นเวทีเมื่อครู่
“พี่สิงห์ – พี่ปั้น – พี่กาย”
ทั้งสามคน
กำลังจะมีบทบาทในชีวิตเธอ…
มากกว่าที่เธอจะจินตนาการได้
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เวลา บ่ายสามโมง
กิจกรรมปฐมนิเทศช่วงบ่ายก็จบลง รุ่นพี่ประกาศเสียงดัง
“วันนี้กลับบ้านได้เลยนะคะ เจอกันอีกทีวันรับน้องอีกสามวันค่ะ!”
เสียงร้อง “เย้!” ดังไปทั่วลาน
นักศึกษาใหม่เริ่มทะยอยเก็บของ
อิงอิงมองโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
มืออีกข้างก็ยังจับข้อมือน้ำขิงแน่น ไม่ยอมปล่อยเหมือนกลัวเพื่อนหาย
บนหน้าจอมีข้อความจากแม่ขึ้นมา
“กลับมาบ้านด้วยนะลูก
ป๊ากับม๊ามีเซอร์ไพรส์ให้
ให้สิงห์กลับมาด้วยนะ”
อิงอิงยิ้มกว้าง ตอบกลับทันที
“ค่ะม๊าาา 👧🏻💗”
ครืดด ครืดด~
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของน้ำขิงก็สั่นขึ้นเช่นกัน
แต่ไม่ใช่แชทแจ้งเตือน…
มันเป็น “เบอร์มหาลัย” โทรเข้า
น้ำขิงชะงัก
รีบบอกอิงอิงเบา ๆ
“เอ่อ อิงอิง…น้ำขิงขอไปรับโทรศัพท์แป๊บนึงนะ”
“ได้จ้ะ เดี๋ยวรีบมานะ จะได้กลับพร้อมกัน”
“อื้อ”
น้ำขิงเดินออกมาที่มุมตึก ก่อนกดรับสาย
มือสั่นเล็กน้อยด้วยความกังวล
“สะ…สวัสดีค่ะ”
เสียงปลายสายเป็นผู้หญิง
ท่าทางจากน้ำเสียงคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของมหาลัย
“นิสิต กานต์ธิดา โสภาพล ใช่ไหมคะ”
หัวใจน้ำขิงหล่นวูบ
“ใช่ค่ะ”
“อ๋อ…โทรจากฝ่ายบัญชีนะคะ
นักศึกษายัง ‘ไม่ได้ชำระค่าเทอม’ เลยค่ะ
ถ้าไม่สะดวกยังไง
รบกวนเข้ามาติดต่อที่ห้องการเงินด้วยนะคะ”
คำว่า “ยังไม่ได้ชำระค่าเทอม”
เหมือนค้อนหนัก ๆ กระแทกหัวใจเธออย่างแรง
แต่เธอก็ตอบเสียงเบาที่สุด
“ได้ค่ะ…เดี๋ยวหนูจะไปค่ะ”
ติ๊ด!
สายนั้นถูกตัดไป
น้ำขิงถอนหายใจยาวเหมือนโลกกำลังถ่วงลงบนบ่าเธออีกครั้ง
ค่าเทอม…
ลุง…
ค่าผ่าตัด…
ค่าครองชีพ…
เธอยังจะหาเงินจากไหนได้อีก?
ความคิดรุมเร้าไม่หยุด
แต่ท่ามกลางความสับสนหนึ่งอย่างชัดเจนขึ้นในหัวเธอ
คืนนี้ เธอต้องไปสมัครงานที่ ไนท์ตี้วันคลับ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม
ไม่นานนักเจ้าของร่างเล็กก็เดินกลับมาหาอิงอิงด้วยใบหน้าเรียบเฉย พยายามไม่ให้ใครรู้ว่าเธอเพิ่งร้องไห้ในใจ
แต่พอเดินถึง อิงอิงก็กำลังยืนคุยกับพี่ชายอยู่
สิงห์ยืนพิงกระเป๋าไหล่ ท่าทางเท่จนคนมองทั้งลาน
แต่พอเห็นน้ำขิง…สายตาเขาก็แข็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
อิงอิงโบกมือเรียก
“ป่ะ! น้ำขิง กลับบ้านกัน เดี๋ยวอิงอิงไปส่ง!”
น้ำขิงรีบส่ายหัวเบา ๆ
ไม่อยากเป็นภาระใครตอนนี้
“อ๋อ…อิงอิง คือว่า…เดี๋ยวฉันมีธุระต่อน่ะ
เธอกลับก่อนเลยจ้ะ”
อิงอิงทำปากยื่นนิด ๆ
“โอเคก็ได้~
งั้นเจอกันวันรับน้องนะน้ำขิง!
บายยย!”
เธอวิ่งไปเกาะแขนสิงห์ทันที
ทิ้งให้น้ำขิงยืนมองแผ่นหลังพี่น้องคู่นั้นที่กำลังเดินออกไป
โลกของเธอต่างกัน
ต่างฐานะ
ต่างชีวิต
น้ำขิงก้มหน้าแน่น
ลมหายใจสั่น
เธอไม่มีสิทธิ์ฝันถึงอะไรที่อบอุ่นแบบนั้นเลย…
แม้แต่วันเดียว
และค่ำคืนนี้
เธอกำลังจะเดินเข้าสู่โลกที่อันตรายกว่านี้มาก
ในฐานะผู้สมัครงานใหม่ของ ไนท์ตี้วันคลับ
โดยไม่รู้เลยว่าใครคือ “เจ้าของคนใหม่” ของที่นั่น…