ตอนที่ 8

4028 คำ
“เพราะข่าวนั่นเหรอพีบี” “ใช่” ลูกครึ่งสาวยอมรับ “ผมก็แค่เล่นๆไม่ได้จริงจังสักหน่อย พีบีอย่าคิดมากสิมันเป็นเรื่องธรรมดานะครับ” “ฉันไม่ได้คิดมากนะเอ็ดดี้ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่นายพูดและฉันรับไม่ได้เราก็เป็นเพื่อนกันดีกว่านายอยากทำอะไรก็ไรก็ได้เหมือนที่ผ่านมาไง” “พีบีก็ยอมให้ผมมีเซ็กส์ด้วยสิแล้วผมจะหยุด” ปกติเขาก็ไม่เคยอดอยากเรื่อเซ็กส์อยู่แล้วเพียงแต่เบลินดาไม่รู้เท่านั้นแต่ครั้งนี้เขาดันพลาดเป็นข่าวกับโรลิต้าลูกสาวนักธุระกิจที่เขาไปติดต่องานด้วย “เอ็ดดี้..” เบลินดามองเอ็ดดี้อย่างผิดหวังที่เขาคบกับเธอก็หวังมีเซ็กส์กับเธอนั่นเองไม่ได้คิดจะจริงจังด้วยเหมือนที่พูด ดีนะที่เธอไม่ปล่อยตัวให้เขาเชยชมก่อนไม่งั้นคงช้ำใจอย่างที่พี่ชายพูดแน่ “ถ้าพีบียอมมีเซ็กส์กับผม ผมยอมทุกอย่างเลยครับ”เอ็ดดี้พูดแล้วยิ้มเขาคิดพีบีน่าจะยอมเพราะหลงรักเขามานานแล้ว “ถ้าเอ็ดดี้ยอมแต่งงาน ฉันจะยอมทุกอย่างเหมือนกัน” เบลินดาตอบทันควันเธอคิดว่าเอ็ดดี้ไม่ยอมแต่งงานแน่ๆ “พีบี พวกเรายังอายุน้อยกันอยู่เลยนะทำไมจะต้องรีบแต่งงานด้วยล่ะ เอาไว้สี่สิบก็ค่อยแต่งงานก็ได้” เอ็ดดี้หาข้ออ้างทำให้เบลินดายิ้มอย่างสมเพชตัวเองที่คิดไปเองแต่ยังดีที่ไม่ได้หลงเขาเหมือนสมัยเรียน “ฉันรู้แล้วล่ะเอ็ดดี้ เราเป็นเหมือนเดิมดีที่สุดต่อไปนี้นายจะทำอะไรก็ตามสบายไม่ต้องมาคอยกังวลว่าฉันจะรู้เพราะเราจะเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ขอตัวไปทำงานก่อนนะ” เบลินดาพูดจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับและคุยกับพนักงานสาวสองคนที่ประจำอยู่ “โธ่เอ้ย,ทำเป็นเล่นตัวไม่เห็นจะสนใจเลย” เอ็ดดี้พูดตามหลังเบลินดาอย่างไม่พอใจที่ถูกบอกเลิกและเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาคบแล้วได้แค่จูบไม่กี่ครั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครรอดมือเขาสักคนจึงหัวเสียแล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว ที่ซานดิเอโก้ พิตต์กลับมาร่วมงานกับเพื่อนอีกครั้งหลังจากที่หยุดไปสิบกว่าวันและทุกคนก็ทำงานกันอย่างไม่รู้จักหลับจักนอนพวกเขายังหาแกะรอยตามพวกก่อการร้ายไม่ได้เลยหลังจากที่อีลอนโดนเรียกตัวไปสอบและถูกกักขังพวกมันก็ทำการอย่างเงียบๆแต่ก็ไม่สามารถเล็ดรอดสายตาของพิตต์ไปได้ “นายทำได้ยังไงวะพิตต์” อาเธอร์ถามเพื่อนเขากับอลันและริกเกอร์ตามเส้นทางพวกมันขึ้นจากเรือแฮกซ์กล้องวงจรปิดที่อยู่ใกลท่าเรือก็ยังไม่เห็นภาพพวกมันสักคน “นายย้อนกลับไปดูผู้ชายสามคนที่มันแบกของเพื่อปิดบังหน้าตาขึ้นมาจากเรือดูสิ” พิตต์พูดแค่นี้ทั้งสามก็รีบทำตามทันทีก็เห็นอย่างที่เพื่อนพูดก่อนจะตามพวกมันไปจนถึงตรอกเก่าๆแออัดแล้วเขาก็ตามไม่ได้เพราะมันไม่มีกล้องวงจรปิดก่อนจะค้นหาระยะใกล้ที่สุดแล้วจับจ้องพวกมันไว้ ดีที่ทางการแม็ซิโกให้ความร่วมมือไม่งั้นคงไม่ทำงานกันง่ายแบบนี้หรอก “นายสุดยอดมากเพื่อน” ริกเกอร์ยกนิ้วให้พิตต์ที่กลับมาทำงานได้สองวันก็สามารถแกะรอยกลุ่มผู้ก่อการร้ายไปกบดานได้แต่ต้องรอให้แน่ใจก่อนถึงจะแจ้งให้หน่วยเหนือทราบ “พวกนายกเก่งเพียงแต่อาจจะลืมสังเกตจุดเล็กๆไปนเท่านั้น ฉันขอพักสักงีบก่อนนะไม่ไหวแล้วว่ะ” พิตต์บอกเพื่อหลังจากจ้องจอโน๊ตบุ๊คของเขามาเป็นเวลานานเพราะเขาก็ตามรอยที่เพื่อนทำทิ้งไว้ “ตามสบายเพื่อที่เหลือเดี๋ยวพวกฉันจัดการต่อ” อลันตบไหล่เพื่อนเบาๆ พิตต์ลุกขึ้นเดินไปทิ้งตัวบนเตียงเล็กที่พวกเขาได้มาเปิดห้องที่โรงแรมเพื่อทำงานและพยายามไม่ทำให้เป็นที่ผิดสังเกตเขากับเพื่อนๆจะลงไปกินข้าวและดื่มทำตัวเหมือนคู่เกย์ที่ดื่มกินแล้วหมกตัวอยู่ในห้องบางครั้งก็ลงไปที่ชายหาดเพื่อว่ายน้ำแต่จะเช็คภาพจากกล้องวงจรปิดที่ดึงข้อมูลมาติดตั้งในโทรศัพท์ไม่งั้นจะถูกสงสัย พิตต์นอนคิดเรื่องที่เมืองไทยก่อนจะหลับตาลงและเขาก็หาคำตอบให้ตัวเองได้ว่า จะไปบริหารโรงแรมตามที่คุณตาต้องการเพื่อให้แม่ได้มรดกชิ้นสุดท้ายที่คุณตามอบให้ส่วนเรื่องแต่งงานกับมีลูกนั้นเอาไว้ค่อยคิดทีหลังแต่เรื่องงานเขาคงต้องไปปรึกษากับลุงก่อนว่าจะทำยังไงดีมีงานอะไรให้เขาทำแถบเอเชียหรือเปล่าแต่ประเทศแถบนี้ไม่ได้มีศัตรูเยอะเหมือนอเมริกายิ่งตอนนี้กำลังมีข้อพิพาทกับอิหร่านจึงทำให้เขาต้องมาอยู่ซานดิเอโก้นี่ไง ชายหนุ่มคิดแล้วก็ผล่อยหลับไปด้วยความง่วงและเมื่อยล้าสายตา ที่เมืองไทย หลังจากผ่านงานพิธีพระราชทานเพลิงศพของคุณบุริศไปสามวันวันนี้เป็นวันหยุดบัวชมพูจึงนัดเพื่อนๆไปทำอาหารกินที่คอนโดของเหมือนแพรที่ตอนนี้ท้องได้ห้าเดือนแล้วแต่ยังไปทำงานเหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุเพราะพีมศวัจน์ยอมรับลูกในท้องของเธอและยังให้เสกสันต์ลูกน้องคนสนิทคอยดูแลตารับตามส่งตอนเย็นก็จ้างแม่บ้านของคอนโดมานอนเป็นเพื่อนทำให้บัวชมพู อุไร ลินนาหายห่วงเพื่อน “ก๊อกๆๆ..” “มาแล้วค่า” เจ้าของห้องเดินอุ้ยอ้ายมมาเปิดประตูห้องให้เพื่อนๆ “นี่คะนิ้งแกเดินให้มันระวังหน่อยเดี๋ยวก็ล้มหรอก” อุไรสาวร่างอวบอิ่มเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆในติดถนนแถวพระรามสองเอ็ดเพื่อนที่เดินเร็วกลัวจะล้ม “ขอบใจจ้ะป้าอุ๊ คะนิ้งจะไม่เดินเร็วอีกแล้วค่ะ” “หยุดนะคะนิ้ง อุ๊บอกแล้วไงว่าไม่เป็นป้า” อุไรก้มพูดกับเพื่อนแล้วลูบหน้าท้องที่นูนออกมาเบาๆเธอไม่ได้เห็นด้วยที่เพื่อนยอมเป็นเมียเก็บและเด็กไม่ได้รู้เรื่องด้วยแต่ความเป็นเพื่อนมันก็มีข้อจำกัดความเป็นส่วนตัวของแต่ละคน “จ้าพี่อุ๊ แล้วใยบัวกับหลินล่ะจะให้ลูกของคะนิ้งเรียกพี่เหมือนอุ๊มั้ย” ว่าที่คุณแม่ถามเพื่อนยิ้มๆเธอมีความสุขและสบายใจพ่อแม่ของเธอก็รู้แล้วแค่ด่าจนหูชาเท่านั้นและยินดีจะช่วยเลี้ยงหลานอีกด้วยแต่ก็อยากให้เธอพาลูกเขยไปอวดชาวบ้านแค่นั้น “ใยบัวเป็นอะไรหรือเปล่าแก” ลินนาถามเพื่อนเธอรู้สึกว่าพักหลังบัวชมพูไม่แฮปปี้เลยไม่รู้มีปัญหากับคีตะหรือเปล่า “เปล่าจ้ะหลิน บัวปกติดี” บัวชมพูยิ้มให้เพื่อนยืนยันว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรแต่ทุกครั้งที่เจอเหมือนแพรเธอจะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวซึ่งเหมือนกันเลยทำให้เธอรู้สึกโอเคทั้งที่จะไม่คิดแต่มันก็อดไม่ได้ “งั้นใยบัวทำไข่เจียวน้ำรสเด็ดให้หลานกินหน่อยสิจ้ะ” เหมือนแพรบอกเพื่อนที่ยิ้มให้เธอ “ได้สิคะนิ้ง แต่พวกแกเป็นคนทำให้บัวกินนะ” บัวชมพูบอกเพื่อนทั้งสอง “ไม่มีปัญหา, แกไม่ชวนพี่ต้ามากินข้าวด้วยกันเหรอบัว” อุไรถามเพื่อนช่วงนี้เธอไม่เจอคีตะเลย “เค้าไปทำงานที่ภูเก็ตน่ะแก บัวไม่ได้เจอนานแล้วเห็นว่าช่วงนี้งานยุ่งน่ะ” เธอไม่ได้เจอคีตะตั้งแต่ก่อนงานศพของคุณบุริศแล้วเขาบอกว่าไปทำงานที่ภูเก็ต “ระวังเถอะใยบัว อยู่ไกลกันแบบนี้เขาอาจจะเผลอมองผู้หญิงอื่นเข้าสักวันหรอกแก” ลินนาพูดกับเพื่อนคนเป็นแฟนกันอยู่ห่างกันนานๆก็มักจะแพ้ความใกล้ชิด “บัวไม่กลัวนะหลินถ้าพี่ต้าเขาจะมีคนอื่นแต่ขอให้บอกบัวก็พอแล้วถ้าเขารักบัวจริงเขาต้องทนกับสิ่งยั่วยุทั้งหลายได้ เมื่อถึงวันนั้นมาบัวอาจจะรักเขาก็ได้” “อย่าบอกนะว่าแกไม่ได้รักพี่ต้า” เหมือนแพรถามเพื่อนเบาๆ “แกจะบ้าเหรอบัวเพิ่งคบกับพี่ต้า แต่อนาคตบัวไม่รู้นะตอนนี้ก็ศึกษานิสัยกันไปเรื่อยก่อนบัวไม่รีบ” เธอกับคีตะเริ่มต้นจากพี่น้องแล้วมาคบกันเธอก็ไม่แน่ใจว่าจะทำใจให้รักเขาได้หรือเปล่าหากถึงวันหนึ่งไม่ไหวจริงๆก็จะหยุด “ย่ะ,แม่คนสวยเลือกได้” อุไรพูดประชดเพื่อนแล้วยิ้มต่างก็รู้ว่าบัวชมพูนั้นหวงความโสดมากแค่ไหนไม่เหมือนเธอที่คบกับแฟนมาสามคนก็มีความสัมพันธ์กันทุกคนและจักรินแฟนคนล่าสุดก็เข้ากันได้ดีรวมทั้งครอบครัวของเขากับเธอจึงวางแผนถึงขั้นแต่งงาน “บัวไปทำไข่เจียวน้ำดีกว่า” บัวชมพูพูดแล้วเดินไปทางห้องครัวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะเธอประนามเมียน้อยของพ่อว่าเป็นมือที่สามมาแย่งพ่อไปจากแม่ แต่เธอไม่กล้าประณามเพื่อนที่เป็นมือที่สามเหมือนกัน เมื่อทุกคนกินอาหารกลางวันอิ่มแล้วก็คุยกันต่อจนบ่ายโมงก็แยกย้ายกันกลับแต่บัวชมพูจะแวะไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าที่ลินนาทำงานเป็นพนักงานเครื่องสำอางค์แบรนด์ดังทำงานอยู่ลินนาจึงขอไปด้วยเพราะอยากคุยกับเพื่อนเป็นการส่วนตัว “แกเป็นอะไรบัว พอแกเห็นคะนิ้งแล้วแกก็แปลกไป” ลินนาถามเพื่อนเธอสังเกตเห็นเพื่อเป็นครั้งที่สองแล้ว “ไม่..” “หยุดเลยบัว แกอย่าพูดว่าไม่มีอะไรหลินรู้ว่าต้องมีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับคะนิ้งใช่มั้ย แกก็รู้ว่าแกพูดกับหลินได้ทุกเรื่อง” ลินนาถามเพื่อนช่วงหลังก็ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะเธอก็ทำงานทุกวันและตอนนี้ก็มีดาราสาวคนดังที่เป็นลูกค้าประจำของเธอมาชวนเธอไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเธอก็ไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงดีแต่โอกาสมันไม่ได้มีง่ายๆและเป็นดาราคนโปรดของเธออีกด้วยจึงขอคิดก่อน “ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะหลิน มันเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัวบัวไม่เกี่ยวกับคะนิ้งแค่เรื่องมันเหมือนกันเท่านั้น” “เรื่องเหมือนกันเหรอ” ลินนาถามเพื่อนถ้าเป็นเรื่องเหมือนกันก็พ่อของบัวชมพูมีเมียน้อยน่ะสิ “ใช่” “แกอย่าบอกนะว่าพ่อเกริก..” ลินนาไม่กล้าพูดต่อเธอก็รู้จักพ่อของเพื่อนรักดีเพราะไปมาหาสู่กันบ่อยตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมบ้านของลินนาห่างจากบ้านของบัวชมพูไปแค่สองกิโลเมตรทั้งสองเรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่มัธยมหนึ่งจนจบมหาลัยจึงสนิทมากกว่าใคร “ใช่พ่อมีเมียน้อยและไม่ใช่พึ่งมีพวกเขามีลูกด้วยกันจนโตแล้วด้วย” “จริงหรือบัว” ลินนาถามเพื่อนอย่างไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อของบัวชมพูจะมีเมียน้อยเพราะท่านไม่ได้มีท่าทีเจ้าชู้เลยสักนิด “บัวจับได้เมื่อสามเดือนก่อนแต่ไม่กล้าบอกแม่จนแม่จับได้เองเมื่อสองเดือนที่ผ่านมาตอนนี้พ่อแม่ของบัวพวกท่านหย่ากันแล้ว” “หย่ากันแล้ว” ลินนาหันไปมองเพื่อนอย่างตกใจเพราะไม่ระแคะระคายเลยมิน่าล่ะเพื่อนของเธอถึงมีท่าทางแปลกกับเหมือนแพร “ใช่,พอแม่รู้ก็หย่าเลย ตอนนี้พ่อคงไปอยู่บ้านเมียเขาโน่นมั้ง” บัวชมพูเล่าให้เพื่อนฟังทั้งหมดคร่าวๆและลินนาก็เข้าใจ “แกอย่าไปพูดให้คะนิ้งฟังนะหลิน” “หลินไม่พูดหรอกบัว คะนิ้งมันก็รู้ว่าจะทำให้ครอบครัวของเขามีปัญหาแต่มันก็ไม่หยุดแล้วดูสิมันปล่อยให้ท้องอีก หลินล่ะปวดหัวกับมันจริงๆทำไมมันโง่ปล่อยให้ท้องก็ไม่รู้” ลินนาว่าเหมือนแพรมีเธอกับอุไรที่ว่าเพื่อนและบอกให้เลิกและหาสามีเป็นตัวเป็นตนแต่เหมือนแพรเสพเงินมากกว่าความรักจึงบอกว่าเธอทำเพื่อเงินหากรอแต่เงินเดือนคงไม่มีเงินสร้างบ้านให้พ่อแม่และส่งเงินให้พวกท่านทำให้เธอกับอุไรไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเหมือนแพรอีกแต่ก็ยังคบหากันตามปกติ “เฮ้อ,เราอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะบัว แกว่าหลินจะเปลี่ยนงานดีมั้ย” “งานแกก็ดีอยู่แล้วนี่หรือว่ามันดีกว่างานที่แกทำล่ะ” บัวชมพูถามเพื่อนเธอรู้ว่างานที่ลินนาทำอยู่รายได้ก็ดีพอสมควรเพราะมีค่าคอมมิชชั่นให้ “ไม่รู้สิพอดีคุณริชชี่เธอมาชวนหลินไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวน่ะ” “คุณริชชี่ ดาราดังน่ะเหรอ” “ใช่” “ก็ลองดูสิแกหลิน บัวว่าแกทำได้นะ” บัวชมพูบอกเพื่อนจะได้เรียนรู้งานใหม่ไม่จำเจที่สำคัญรายได้ดีไม่แน่ต่อไปเพื่อนของเธออาจดังได้เป็นดาราก็ได้เพราะลินนาก็สวยน่ารัก “หลินก็คิดแบบนั้นแหละ” สองสาวไปถึงห้างสรรพินค้าก็คุยกันไปซื้อของไปด้วยจนเสร็จก็พากันกลับบ้านแต่บัวชมพูต้องไปที่บ้านคุณหญิงมณีจันทร์ก่อนเพราะท่านโทรมากบอกเธอให้ไปพบ “ขอบใจนะบัว” “จ้าแล้วเจอกันคุณผู้จัดการดารา” บัวชมพูกระเซ้าเพื่อนแล้วยิ้มก่อนจะขับรถออกไป “เฮ้อ, ใบบัวเอ้ยแกนี่มันสุดยอดจริงๆเพื่อน” ลินนามองตามหลังรถของเพื่อนที่ขับออกไปแล้วบ่นเบาๆสงสารเพื่อน “บ่นอะไรยัยหลิน” “อุ้ยอีบ้า” ลินนาอุทานออกมาเสียงดังเมื่อแม่ของเธอมาพูดเสียงดังเข้าหู “แกนั่นแหละบ้า ใยบัวขับรถออกไปตั้งนานแล้วแกยังยืนตากแดดอยู่ข้างถนนนึกว่ากำลังถ่ายเอ็มวีอยู่หรือไงยะ” นางผิวว่าลูกสาวแล้วยิ้มอย่างชอบใจที่ทำให้ลูกสาวตกใจได้ “ก็แม่พูดเสียงดังทำไมล่ะ หลินตกใจก็พูดอะไรออกไปก็มีรู้ตัวน่ะสิ” ลินนาเดินตามแม่เข้าไปในร้านขายอาหารตามสั่งที่ต่อเติมออกมาหน้าบ้านที่แม่ทำมาตั้งแต่เธอจำความได้แจนตอนนี้ก็ปรับปรุงร้านใหม่สะอาดสะอ้านและคนแถวนี้ก็รู้จักร้านยายผิวดีเพราะทำอาหารอร่อยเธอจึงช่วยงานแม่ต่อ บัวชมพูก็ขับรถเลยไปบ้านของคุณหญิงมณีจันทร์เธอไม่รู้ว่าท่านมีเรื่องอะไรถึงเรียกเธอไปคุยทั้งที่วันนี้เป็นหยุดเมื่อไปถึงจอดรถเสร็จป้าสีนวลคนสนิทของคุณหญิงก็เดินมาหาเธอพอดี “สวัสดีค่ะป้าสีนวล” “เชิญจ้ะหนูใยบัว คุณหญิงท่านรอที่ห้องพักผ่อนค่ะ” สีนวลบอกหญิงสาวที่เจ้านายเรียกมาคุยเรื่องโรงแรมของคุณหนูฝรั่งเพราะตอนนี้ขาดหัวเรือใหญ่ที่บุกเบิกและท่านก็แก่แล้วจะให้เดินทางไปมาคงไม่ไหวก็มีแต่บัวชมพูที่ท่านไว้ใจให้ช่วยงานนี้ ท่านไม่อยากให้ทัศนัยเข้าไปยุ่งเกี่ยวที่โรงแรม “ป้าสีนวลรู้มั้ยคะว่าคุณหญิงท่านเรียกบัวมาทำไม” หญิงสาวถามคนสนิทของคุณหญิงมณีจันทร์ด้วยความอยากรู้ “ป้าก็ไม่รู้เหมือนจ้ะหนูใยบัว แต่ป้าเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องโรงแรมที่เชียงใหม่นะ” สีนวลบอกเป็นนัยๆ “จริงสิคะ พอดียุ่งๆเรื่องงานที่บริษัทบัวก็ลืมไปเลยค่ะ คิดว่าหลานชายหลานสาวของท่านบุริศกับคุณหญิงท่านเข้าไปดูแล้วแล้วเสียอีกค่ะ” เธอก็คิดว่าตัวเองหมดหน้าที่หลังจากไปลอยอังคารท่านบุริศแล้ววันถัดมาก็เปิดพินัยกรรมแล้วหลานๆของพวกท่านจะจัดการเรื่องงานต่อ “คุณพิตต์กับคุณพีบีกลับอเมริกาไปกันหมดแล้วเหลือแต่คุณมณีกับคุณเลน่อนจ้ะ” สีนวลพาหยิงสาวเดินไปถึงห้องพักผ่อนของคุณหญิงแล้วก็เดินกลับไปที่ครัวเพื่อจัดเตรียมน้ำท่ามารับแขก “สวัสดีค่ะคุณหญิง” บัวชมพูยกมือไหว้คุณหญิงคุณเพชรรัตน์ คุณเพชรมณี และสามีของพวกเธอทั้งสอง “สวัสดีหนูใยบัว ยายขอโทษด้วยนะลูกที่รบกวนเวลาวันหยุดของหนู” คุณหญิงมณีจันทร์รับไหว้หญิงสาวที่ท่านรักและเอ็นดูและขอโทษที่รบกวนเวลาของบัวชมพู “คุณหญิงโทรหาบัวได้ตลอดเวลาบัวยินดีรับใช้ค่ะ” เธอยินดีรับใช้คุณหญิงและคุณเพชรรัตน์ตลอดเวลาขอแค่พวกท่านบอกหากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเธอยินดีทำให้ทุกอย่าง “ยายรู้ว่าจะรบกวนหนูใยบัวมากแต่ไม่มีใครที่ยายจะไว้ใจได้เท่าหนูใยบัว ยายจะขอให้หนูยัยบัวไปช่วยดูแลงานที่โรงแรมเชียงใหม่สักระยะหนึ่งจนกว่าจะถึงวันเปิดตัวโรงแรมน่ะลูก” คุณหญิงมณีจันทร์พูดกับบัวชมพูเพราะท่านไว้จหญิงสาว “แล้วงานที่บริษัทล่ะคะ” “เดี๋ยวฉันจะให้ยัยยุ้ยมาช่วยงานคุณเกยูรแทนไปก่อน หากมีปัญหาอะไรก็ให้เขาโทรปรึกษาใยบัวดีมั้ย” คุณเพชรรัตน์ตอบบัวชมพูเพราะเรื่องงานไม่มีปัญหาอยู่แล้ว “ถ้าคุณหญิงกับคุณเพชรคิดว่าบัวทำได้ บัวก็ยินดีไปดูแลงานที่เชียงใหม่ให้ค่ะ” “ขอบใจมากลูก ขอบใจจริงๆ” คุณหญิงยิ้มให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยนบัวชมพูไม่เคยทำให้ท่านผิดหวังหญิงสาวทำงานทุกอย่างเรียบร้อยอันไหนไม่เข้าใจก็ถามขอคำชี้แนะแล้วจดจำจากท่านกับสามีและท่านก็สอนทุกอย่างในเรื่องงาน “ใยบัวจะต้องไปอยู่ประจำที่เชียงใหม่จนกว่างานปรับปรุงรีโนเวทโรงแรมจะเสร็จพร้อมเปิดตัวให้ทันเวลาตามที่คุณพ่อกำหนดไว้นะจ้ะ” คุณเพชรัตน์แจ้งบัวชมพู “ได้ค่ะคุณเพชร” “ยายจะให้อุดมตามไปเป็นเพื่อนหนูใยบัวนะลูก คุณตาท่านไว้ใจคนของท่านจะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้นะลูก” คุณหญิงบอกบัวชมพูเพราะท่านไว้ใจนายอุดมเช่นเดียวกับสามีเดิมทีนายอุดมเป็นจ่าทหารแต่ทำผิดวินัยจึงถูกให้ออกจากราชการและช่วยเหลือคุณบุริศตอนถูกดักทำร้ายเมื่อสิบกว่าปีก่อนท่านจึงให้มาเป็นคนขับรถและติดตามมาจนถึงทุกวันนี้ทำให้ความเป็นอยู่ครอบครัวของนายอุดมดีขึ้นจึงรักและเคารพคุณบุริศกับคุณหญิงมาก “ค่ะคุณหญิง” “ใยบัวพร้อมจะไปเชียงใหม่ได้เมื่อไหร่ล่ะ” คุณเพชรรัตน์ถามหญิงสาวที่ทำงานทุกอย่างไม่มีปริปากบ่นและเธอก็ชดเชยด้วยน้ำใจเป็นโบนัสเลขงามๆและตัวเครื่องบินไปเที่ยวพักผ่อนอยู่เสมอ “ตอนนี้งานชิ้นล่าสุดกำลังจะออนแอร์ ยังไม่มีโปรเจ็คใหม่นอกจากจะเช็ดตลาดสินค้าของเราตามห้างตามงานออกบูทต่างๆบัวขอเวลาเคลียงานหนึ่งวันค่ะ” “งั้นเอาตามที่ใบบัวสะดวกเลยนะ ฉันจะฝากมณีกับเลน่อนไปดูโรงแรมด้วย” “ค่ะคุณเพชร” บัวชมพูยิ้มให้คุณเพชรมณีกับคุณเลน่อน “ขอบใจมากนะจ้ะหนูใยบัว” เพชรมณีขอบใจหญิงสาวสวยน่ารักที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วยิ้มเธอชอบอัธยาศัยของบัวชมพู “เย็นนี้ก็อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันนะหนูใยบัว” คุณหญิงบอกบัวชมพูเมื่อคุยเรื่องธุระเสร็จนี่ก็สิบเจ็ดนาฬิกากว่านิดหน่อยแล้ว “เอ่อ, บัวต้องขอโทษด้วยค่ะคุณหญิง พอดีแม่บอกว่าจะทำอาหารเย็นรอบัวค่ะ” บัวชมพูตอบคุณหญิงเพราะเธอไม่อยากให้แม่กินข้าวคนเดียว “อ้าว, งั้นตามสบายลูก” คุณหญิงก็ไม่เซ้าซี้ “งั้นบัวขอตัวกลับบ้าก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” บัวชมพูยกมือไหว้ทุกคนแล้วเดินออกไปจากห้องพักผ่อนมีสีนวลเดินตามไปส่งพร้อมกับตะกร้าขนมที่เธอกับคุณหญิงทำเมื่อตอนบ่ายให้หญิงสาวเอากลับไปกินที่บ้าน “หนูใยบัวนี่สวยน่ารักนะคะ” เพชรมณีพูดขึ้นลอยๆ “ใครได้หนูใยบัวไปเป็นภรรยาก็โชคดีมากเลยแหละนิสัยดีน่ารักขยันทำงานเก่งและสวยอีกด้วย” คุณหญิงพูดถึงบัวชมพูอย่างชื่นชม “พี่ไม่อยากบอกว่าตาชยายังกินแห้วเลยจ้ะมณี” เพชรรัตน์กระซิบน้องสาวเพราะไม่อยากให้ลูกสะใภ้ได้ยิน “ถ้าคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกจริงมั้ยครับคุณเลน่อน” ชัยพลพูดกับคู่เขยแล้วยิ้มให้กัน “ใช่ครับ” เลน่อนตอบแล้วยิ้มให้ภรรยาเขารู้ว่าชัยพลเป็นคู่หมายของภรรยาแต่ทั้งคู่ไม่ได้รักใคร่ชอบพอกันกลับกลายเป็นเพชรรัตน์กับชัยพลที่ปิ้งปั้งกันจึงผิดฝาผิดตัวและเพชรมณีก็เลือกแต่งงานกับเขาทำให้ชัยพลได้แต่งงานกับเพชรรัตน์สมใจและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้วทุกคนก็ย้ายไปที่ห้องอาหารเพื่อกินอาหารค่ำ บัวชมพูกลับถึงบ้านแม่ก็ทำอาหารเสร็จพอดีและเธอไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณหญิงและทุกคนเพราะยังไม่มีใครรู้เรื่องที่แม่เลิกกับพ่อนอกจากลินนาคนเดียว “ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมากินข้านะลูก” เครือวัลย์บอกลูกสาวและรับตะกร้าขนมหวานและคุ้กกี้จากมือของบัวชมพูที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงสายและกลับบ้านในเวลาโพล้เพล้ “แม่ไม่อยากรู้เหรอคะว่าคุณหญิงท่านโทรมาตามบัวไปพบทำไม” หญิงสาวถามแม่เบาๆ “เดี๋ยวบัวต้องคุยให้แม่ฟังอยู่ดีแหละ รีบไปอาบน้ำเลยเร็วๆด้วยแม่หิวแล้ว” เครือวัลย์บอกลูกสาวและชินที่อยู่กันสองคนแม่ลูก “ค่ะแม่” บัวชมพูพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปชั้นสองเพื่ออาบน้ำและลงมากินข้าวเย็น เครือวันมองตาลูกสาวแล้วยิ้มปกติอดีตสามีจะไปทำงานครั้งละเป็นอาทิตย์มากสุดก็สิบวันทำให้เธอไม่รู้ว่าเขาไปทำงานจริงหรือไปอยู่กับเมียน้อยแล้วเอาเรื่องงานมาอ้างแต่ตอนนี้เธอสบายใจไม้ต้องคอยกังวลเป็นห่วงสามีขับรถหรือการกินอยู่อีกต่อไป แต่กว่าเธอจะรู้ก็ปาเข้าสิบกว่าปีถือว่านานมากที่เธอถูกสวมเขารู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่น แม้แต่ครอบครัวของเธอก็ไม่บอกแต่ยังไงทุกคนก็ต้องรู้ไม่วันใดก็วันหนึ่งและไม่มีอีกแล้วที่จะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันสามคนพ่อแม่ลูก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม