สายฝนโปรยลงบนฟุตบาทเบาบางราวกับละอองหมอก ผู้คนเดินผ่านไปอย่างรีบเร่ง มีเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่ยังคงก้าวอย่างช้า ๆ ร่มคันเล็กในมือเอียงไปตามแรงลม
ลินาที่เพิ่งถ่ายแบบเสร็จ เธอสวมเสื้อยืดตัวเก่า เสื้อคลุมสีซีด และหน้าที่แต่งให้โทรมจนแทบเห็นรอยคล้ำใต้ตา แต่ไม่ว่าจะแต่งยังไงความละมุนในแววตาของเธอก็ยังกลบไม่มิด
ระหว่างเดินผ่านหน้าโรงเรียนอนุบาล เธอเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งนั่งอยู่บนม้าหินหน้าโรงเรียน เสื้อกันฝนลายจรวดของเขาเปียกจนแนบลำตัว กระเป๋าเป้สีฟ้ากอดไว้แน่นราวกับโล่ ดวงตากลมโตกำลังมองซ้ายขวาอย่างหวาดกลัว ลินาชะงักทันที
เด็กคนนี้ต้องหนาวมากแน่ ๆ เธอก้าวเข้าไปช้า ๆ นั่งย่อตัวให้สูงเท่าเขา เสียงฝนเป็นเพียงฉากหลังของความอ่อนโยนที่กำลังเกิดขึ้น
“หนูรอใครอยู่หรือเปล่าจ๊ะ??” เธอถามเสียงเบาและอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เด็กชายเม้มปากสั่น ๆ ก้มหน้าเล็กน้อย ก่อนเงยตาขึ้น ดวงตานั้นเหมือนลูกกวางที่หวาดกลัวแต่ยังกล้าขอความช่วยเหลือ
“ลุงให้รอในรถครับ… แต่มีคนมาล้อมไว้ ผมกลัวเลยหนีออกมา” เสียงเล็ก ๆ นั้นสั่นจนเธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบ ลินาไม่ได้ถามอะไรมากกว่านั้น
สัญชาตญาณของคนที่เคยตัวคนเดียวมาตลอดบอกเธอว่า เด็กคนนี้กำลังขอความปลอดภัย… จากคนแปลกหน้าอย่างเธอ ลินาเอื้อมมือไปค่อย ๆ แตะหัวเขาเบา ๆ
“ไม่เป็นไรนะคะ พี่อยู่ตรงนี้ หนูชื่ออะไรคะ??”
“นีโอครับ” ชื่อที่หลุดจากปากเด็กทำให้หัวใจเธออุ่นขึ้นอย่างประหลาด ราวกับชื่อนั้นเข้ากันกับเด็กน้อยคนนี้เหลือเกิน
ทันใดนั้นเอง เสียงเครื่องยนต์รถตู้ดังขึ้น ไฟหน้ารถสาดเข้ามาในสายฝนราวกับกำลังค้นหาเหยื่อ ลินาหันไปมองเห็นรถสีดำคันหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างไม่ปิดบังเจตนา ประตูเลื่อนเปิดออก มีชายสองคนก้าวลงมา สายตาคมดุจงมองมาที่เด็กน้อยอย่างจงใจ
“นที!!” หนึ่งในนั้นตะโกนขึ้น ลินาตกใจ แม้ชื่อจะผิด แต่สัญชาตญาณของเธอตะโกนว่า นีโอไม่ควรอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอคว้ามือนีโอวิ่งออกไปโดยไม่คิดชีวิต
“มานี่เร็ว!!” เสียงฝีเท้าคนไล่ดังตามหลังพร้อมกับเสียงตะโกนให้ไล่ล่าแทบกลบเสียงฝน
“ไปทางนั้น อย่าให้หนีไปได้!!”
นีโอหอบหายใจ น้ำตาคลอ ฝนซัดเข้าหน้าเด็กน้อยจนเขาสั่นไปทั้งตัว ลินาบีบมือนีโอแน่นขึ้น
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่ตรงนี้ พี่จะไม่ให้ใครจับหนู เดี๋ยวเราหลบกัน” ลินาพานีโอวิ่งลัดตรอก เลี้ยวเข้าบ้านไม้เก่าที่เธอเคยใช้ถ่ายแบบ เป็นพื้นที่ร้างที่ไม่มีคนเข้า เธอผลักประตูไม้เสียงดัง แอ๊ด แล้วปิดทันที ภายในมืดและอบอ้าว ฝุ่นจับบาง ๆ แต่ปลอดภัยกว่าอยู่ข้างนอก
ลินาดึงนีโอเข้าไปหลบหลังตู้ไม้ เธอกอดเขาไว้แน่นร่มคันเล็กหล่นอยู่ไม่ไกล นีโอซบหน้ากับหน้าอกเธอ ตัวเล็กสั่นเงียบ ๆ
“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะ… เก่งมากเลยลูก” เป็นครั้งแรกที่คำว่า ‘ลูก’ หลุดออกจากปากลินาเองโดยไม่ตั้งใจ นีโอจับเสื้อเธอแน่นขึ้น ราวกับไว้วางใจเธอเป็นคนแรกในโลกใบนี้
เสียงฝนดังขึ้น เสียงฝีเท้าไล่ล่าค่อย ๆ หายไป ทั้งคู่เงียบอยู่ในบ้านร้างจนเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านนอก เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ… ปนความหวาดกลัว
“นีโอ!!!” เสียงของผู้ชายคนหนึ่ง ลินาชะงัก นีโอเงยหน้า สีหน้าเปลี่ยนทันที
“ลุง!!” และนั่นคือวินาทีที่โชคชะตาบอกว่าชีวิตของลินาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นซีเมนต์แฉะน้ำดัง กึก…กึก…กึก ใกล้ขึ้นทุกวินาที ลินากอดนีโอไว้แน่นขึ้นโดยอัตโนมัติ ประตูไม้เก่าถูกผลักเปิดออกอย่างแรง แสงจากด้านนอกสาดเข้ามาในบ้านร้าง เผยร่างชายคนหนึ่งในชุดสูทสีดำสนิท
ตัวสูง ไหล่กว้าง สายตาคมกริบใต้ผมเปียกชื้นจากฝน
เขาไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่แค่พ่อของเด็ก… แต่เหมือน ‘พายุลูกหนึ่ง’ ที่พร้อมพัดทำลายทุกอย่างที่ขวาง สายตาของเขาไล่มองรอบห้องอย่างคมกริบ จนมาหยุดที่ลินา… และนีโอในอ้อมแขนเธอ
วินาทีนั้นทุกเสียงหายไปเหลือเพียงแรงเต้นของหัวใจสองดวงที่ไม่ควรเกี่ยวข้องกัน นีโอกระโดดลงจากอ้อมแขนลินา
“แด๊ด!!” เขาวิ่งไปกอดชายคนนั้นด้วยความโล่งอกจริง ๆ เอเดนทรุดตัวลงเล็กน้อย ประคองศีรษะเด็กพลางจับเขาหันซ้ายหันขวาเพื่อสำรวจหาบาดแผล
“เป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า??” น้ำเสียงยังคงทุ้มเย็น แต่ความร้อนรนในแววตาแสดงให้เห็นทุกอย่าง นีโอส่ายหน้า
“พี่สาวช่วยผมไว้ฮะ”
เพียงประโยคเดียวจากปากนีโอสายตาเย็นเฉียบของเอเดนก็หันมาที่ลินา ดวงตาคมคู่นั้น… ลึกล้ำจนลินารู้สึกเหมือนยืนนิ่งไม่ได้
เขามองเธอจากหัวจรดเท้า หยุดที่มือของเธอที่ยังสั่นเล็กน้อยหยุดที่รอยเปื้อนฝนบนแก้ม หยุดที่แววตามุ่งมั่นทั้งที่กลัวจนตัวสั่น
เธอกำลังปกป้องลูกของเขาด้วยร่างเล็ก ๆ ของเธอเอง เอเดนขยับลุกขึ้นเต็มความสูง ยืนมองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกว่าโกรธ หวาดกลัว หรือขอบคุณกันแน่
“คุณช่วยเขาไว้??” น้ำเสียงทุ้มต่ำกว่าที่เธอคิด
“ค่ะ เด็กกำลังถูกตามล่า ฉันก็เลย...” ลินาเม้มปากพยักหน้า
“พาหนี??” เขาพูดแทรก มองลินาจนเธอต้องเบือนสายตาหนี เธอนึกว่าเขาจะดุแต่กลับมีเพียงลมหายใจหนัก ๆ ราวกับระงับอารมณ์บางอย่างอยู่
“ขอบใจ” คำ ๆ นี้หลุดจากปากผู้ชายที่ดูไม่ใช่ประเภทพูดง่าย ทว่ามันจริงจนลินาเผลอชะงัก แต่ความอุ่นนั้นอยู่ได้ไม่นาน เอเดนมองนอกประตู สายตากลับมาแข็งขึ้นทันที
“พวกมันยังไม่ไปไกลนัก” เขาหันกลับมามองเธออีกครั้ง
“จากนี้คุณต้องไปกับผม”
“ปะ... ไปไหนคะ??” ลินาเบิกตากว้าง
“ที่ปลอดภัย” น้ำเสียงนั้นไม่มีช่องให้ปฏิเสธ ไม่ใช่คำสั่งผู้ชายทั่วไปแต่เป็นคำสั่งของคนที่ชินกับการควบคุมทุกอย่างรวมถึงชีวิตคนตรงหน้า
“แต่ฉัน...”
“พวกนั้นอาจจะเห็นหน้าคุณแล้ว” เขาเฉือนสายตาเย็นเฉียบ ลินากลืนน้ำลาย ฝืนยืนให้มั่น
“ฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณนะคะ”
“คุณเกี่ยว… ตั้งแต่วินาทีที่คุณจับมือลูกชายผมหนี” เอเดนก้าวเข้ามาใกล้จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นกลิ่นฝนบนตัวเขาให้ความอบอุ่นอย่างประหลาด
“ถ้าคุณยังต้องการมีชีวิตอยู่… ไปกับผม” เขายื่นมือไปจับแขนลินาเบา ๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำลงจนใจเธอสะดุด นีโอเงยหน้ามองเธอด้วยแววตาอ้อน ๆ จับชายเสื้อเธอแน่นราวกับไม่อยากให้ปล่อย
ลินามองเด็กมองมือเล็ก ๆ ที่อุ่นจนหัวใจเธออ่อนลงแล้วกลับไปสบตาชายที่อันตรายแต่กำลังปกป้องเธอในเวลาเดียวกัน สุดท้ายเธอก็พยักหน้าเบา ๆ
“ค่ะ”
เอเดนผ่อนลมหายใจราวกับเขาเพิ่งปล่อยความตึงเครียดออกไป เขาอุ้มนีโอด้วยมือข้างหนึ่งและจับข้อมือลินาอีกข้างหนึ่งพาออกจากบ้านร้าง ไม่มีใครพูดอะไรแต่ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความผูกพันล่องหนที่เพิ่งเริ่มต้น