สู่ขอ

1315 คำ
หลิวฮูหยินยิ้มค้างกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับ ห่อผ้ามงคลสีแดงของหมั้นเพื่อนำมาเจรจาสู่ขอลูกสาวเพียงคนเดียวของจวน หญิงวัยกลางคนเหลือบมองป้ายหยกสีเขียวอ่อนแกะสลักรูปนกเหยี่ยวกางปีกอย่างดุดันแล้วได้แต่เพียงลอบกลืนน้ำลาย นับยศฐาบรรดาศักดิ์ให้ดีแล้ว ฐานันดรของเซียนอ๋องห่างชั้นกับ องค์หญิงลี่อินนัก แม้จะรับปากองค์หญิงเป็นแม่สื่อระหว่างคุณหนูลู่และเซียนอ๋องไว้ แต่หากปฏิเสธของหมั้นไม่เข้าหูชายสูงศักดิ์ไปเพียงนิด เห็นทีจะวุ่นวายไม่ใช่น้อย " เหตุใดเซียนอ๋องจึงคิดจะสู่ขอลูกสาวของพวกเรากันนะเจ้าคะ ข้าไม่เห็นว่านางจะงดงามที่ตรงไหน อีกทั้งยังซุกซนเกินไปเสียอีก " สตรีแห่งจวนเจ้ากรมโยธากระแอมไอ เมื่อเห็นอู๋กงกงยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง สายตากดดันจากข้าหลวงชั้นสูงของเซียนอ๋องนั้นไม่ธรรมดา เพียงปรายสายตาเพียงนิดก็ทำให้นางขนลุกซู่ " ทรงประทับใจความฉลาดหลักแหลมของคุณหนูหลิว เชิญหลิวฮูหยินตรวจสอบของหมั้นดูเถิด " " เห็นทีเวลานี้จะยังไม่เหมาะ เจ้ากรมโยธาสามีของข้ามีงานควบคุมการสร้างเขื่อนที่เมืองหน้าด่าน อีกนับเดือนจึงจะเดินทางกลับ " "..." " ขออู๋กงกงโปรดเข้าใจ เรื่องนี้ข้าไม่อาจตัดสินใจได้โดยลำพัง ภรรยาย่อมต้องว่าตามสามี " ชายในชุดข้าหลวงสีน้ำเงินเข้ม ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะเบา ๆ หนึ่งครั้ง นับว่าหัวไวฉลาดเฉลียวทั้งแม่และลูก ! รู้จักหาทางออกให้ตนเอง พลิกลิ้นได้เก่งกาจทีเดียว ไม่แปลกใจหากหลิวซูมี่จะได้ต้นแบบมาจากมารดา ของนาง " เช่นนั้นขอลา หลังจากเจ้ากรมโยธากลับมาจากเมืองหน้าด่าน ข้าหวังอย่างยิ่งว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพึ่งพอใจไปกราบทูลเซียนอ๋อง " " ใจเย็นเถิดเจ้าค่ะ คู่ชีวิตที่ดีไม่ใช่เพียงชาติกำเนิดคู่ควร ดวงชะตาและความชอบพอต่อกันย่อมมีส่วน " เป็นจริงเช่นนั้น การเป็นหงเหนียนจับคู่ให้ผู้คนมามากมายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มิใช่ว่าถูกใจใครก็เที่ยวสู่ขอเข้าตระกูลได้ หากสามีภรรยามีดวงไม่สมพงศ์ไร้ซึ่งวาสนาต่อกัน นอกจากอยู่กินไม่ยืดยาวจะพาลเจ็บไข้ได้ป่วยทุกข์ยากเหลือคณา นางเห็นมานักต่อนักและจะไม่ยอมให้บุตรสาวเพียงคนเดียวต้องพบกับชีวิตตกระกำลำบากแน่นอน ยิ่งเซียนอ๋องอยู่ในฐานะเหอซั่วชินหวังที่อาจจะถูกโค่นตำแหน่งลงได้ตลอดเวลาเช่นนี้ " เช่นนั้นหลิวฮูหยินก็อย่าลืมตรวจสอบให้ดีเชียวล่ะ เซียนอ๋องนั้นประสูติสิบเก้าค่ำ เดือนสาม ปีมะโรง " อู๋กงกงทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก็ขอตัวจากไปพร้อมห่อของหมั้นมงคล หลิวฮูหยินถอนหายใจ เหลือบมองสบตากับบุตรสาวที่หลบซ่อนตัวอยู่หลังม่าน หลิวซูมี่เองก็ถอนใจอย่างโล่งอกเช่นกัน เด็กสาวเกิดปีมะเมีย แม้ไม่ได้เป็นปีสมพงศ์กับเซียนอ๋องเท่าปีหญิงปีระกา แต่กลับเป็นคู่ตกสมบัติเทวดา หยิบจับสิ่งใดเป็นเงินเป็นทอง ทำสิ่งใดร่วมกันก็ก้าวหน้ามีแต่ผลกำไร " หลิวซูมี่ เจ้าได้ตรวจสอบดวงชะตาคู่ของเซียนอ๋องและคุณหนูลู่หรือไม่ ? " " อ่ะ...เอ่อ..." ริมฝีปากเล็กยิ้มแห้ง ฝ่ามือที่กำแน่นอยู่กับผ้าม่านสีอ่อนชื้นเหงื่อ หลิว ซูมี่เคยกลัวแม่ในโลกก่อนยังไง ก็ยังกลัวแม่ในโลกนี้อย่างนั้น ทั้งสองคนมีใบหน้าและรูปร่างที่เหมือนกันไม่มีผิด แต่แม่ในโลกนี้ออกจะใจดีกว่าหลายขุม แต่นึกไม่ถึงว่าเวลาไล่ต้อนเธอกลับให้ความรู้สึกกดดันเหมือนกันไม่มีผิด ! " ลูก...ตื่นขึ้นมาจากอาการป่วยก็หลง ๆ ลืม ๆ ท่านแม่ช่วยสอนอีกครั้งได้หรือไม่เจ้าคะ " หลิวซูมี่แย้มยิ้มใจดีสู้เสือ เธอจะไปรู้เรื่องดวงชะตาฤกษ์ยามได้ยังไง ! เธอรู้แค่ตัวเลขกราฟผลกำไรที่สวยงามเท่านั้นแหละ ! ใครจะเปิดร้านฤกษ์งามยามดีเพียงใด สุดท้ายพอขายไม่ออกก็ต้องมาพึ่งการทำการตลาดทั้งนั้น ลูกค้าเธอเคยให้ซินแสมาดูกระทั่งฤกษ์วางขายสินค้าใหม่แต่เธอกลับเถียงขาดใจ ในเมื่อสินค้าเป็นของใช้ในบ้าน ฤกษ์ดีก็คือสิ้นเดือนที่คนทำงานเงินเดือนออกและกรูกันไปจับจ่ายใช้สอยในห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ! แถมที่นี่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตให้เธอเรียนรู้ด้วยตนเองเสียด้วย... " ลูกคนนี้ ! ช่างเถอะ ไปสืบหาวันเวลาเกิดของคุณหนูลู่มาตรวจสอบ หากดวงสมพงศ์กับเซียนอ๋องจงเร่งเจรจากับทั้งสองฝ่าย มีเวลาเพียงหนึ่งเดือนก่อนท่านพ่อของเจ้าจะกลับมา ! " " ล้ำลึกนัก รู้จักพูดจาต่อรองสมกับเป็นหงเหนียน " " เช่นนั้นจะทำอย่างไรต่อไปพะย่ะค่ะ " ชายหนุ่มที่กำลังนั่งพักผ่อนสบายอารมณ์อยู่ในห้องรับรองของตำหนัก พร้อมใช้ปลายนิ้วเขี่ยเจ้าลูกเหยี่ยวขาวสามตัวที่เพิ่งจะฟักออกมาจากไข่อย่างทะนุถนอม ร่างก้อนขนเล็กนอนซุกกันอย่างเป็นสุขหลังจากได้รับไส้เดือนดินจนอิ่มท้อง " ไม่ต้องทำอะไร เพียงรอเวลาให้หลิวซูมี่เข้าวังมาเอง " "..." " มีเวลาเพียงหนึ่งเดือนที่นางจะต้องเร่งให้ข้าและลู่หลานเฟินพึงพอใจซึ่งกันและกัน จากนั้นก็เจรจากับกุ้ยเฟยยกแม่น้ำทั้งห้าให้นางยอมยกลู่หลานเฟินให้ข้า " อู๋กงกงพยักใบหน้าช้า ๆ เห็นจริงตามนั้น แม่สื่อเองก็ใช่ว่าจะเจรจาสู่ ขอใครสุ่มสี่สุมห้าได้ ล้วนต้องหาทางให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจก่อนจึงจะราบรื่น หลังจากนี้หลิวซูมี่คงต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้เซียนอ๋องถูกใจคุณหนูลู่ และยังต้องรับหน้ากับพระสนมเอกกุ้ยเฟยที่หวงหลานสาวเยี่ยงจงอางหวงไข่ " อย่างไรก็ตาม...ข้าจะไม่ปล่อยให้นางได้ทำงานสะดวกง่ายดายนัก " "..." " ยิ่งนางอยากให้ข้าตกลงปลงใจกับลู่หลานเฟิน ข้ากลับจะยิ่งพุ่งความสนใจตรงไปที่นาง " “…” " ทั่วเมืองหลวงและในวังหลังจะต้องรับรู้โดยทั่วกันว่าข้ามีใจให้เพียงหลิวซูมี่ " อู๋กงกงใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวเล็กน้อย ยามได้ยินว่าเหอซั่วชินหวังผู้นี้จะ มีความรัก แม้จะเป็นแผนการจอมปลอมแต่เพียงนึกภาพตามก็รู้สึกคันตามเนื้อตัวโดยไม่ทราบสาเหตุ ชายหนุ่มที่วัน ๆ หมกหมุ่นอยู่กับการฝึกเหยี่ยว อีกทั้งยังไร้เยื่อใยกับสรรพสิ่งอื่นในโลกเนี่ยหรือจะเกี้ยวสตรี ! เห็นทีฟ้าฝนจะตกไม่เป็นฤดู ! เดือดร้อนชาวบ้านชาวช่องเป็นแน่ ! " ยืนเหม่ออะไรอยู่อีก ? ยังไม่รีบไปเตรียมข้าวของ จัดหาพวกเครื่องประดับของใช้ที่พวกสตรีชอบมาเตรียมไว้ " " ทรงเป็นใครกันพะย่ะค่ะ ? กระหม่อมชักไม่แน่ใจเสียแล้ว " ชายหนุ่มสูงศักดิ์ขมวดคิ้ว แปลกประหลาดมากหรือหากเขาจะเอาอกเอาใจสตรีด้วยข้าวของเครื่องใช้ แม้จะเป็นแผนการที่คิดขึ้นไม่ได้รู้สึก พิศสวาทอะไรในตัวหลิวซูมี่ปานนั้น แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปไม่ใช่หรือ ? หากบุรุษจะเริ่มความสัมพันธ์กับหญิงสาวด้วยเครื่องประดับสักชิ้น " ต้าเหนิงเซียนซือ " "...." " บุรุษที่ภายภาคหน้าจะเหยียบเท้าลงบนบัลลังค์มังกรแทนที่องค์ชายรัชทายาท ขยี้จนแปดเปื้อนไม่มีชิ้นดี ดังนั้นข้าต้องการคู่ครองที่ไหวพริบยอดเยี่ยม รวมทั้งมีอำนาจเงียบของบิดาหนุนหลัง " "..." " เช่นหลิวซูมี่ "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม