ความเดิม- "คุณนายของนายเปรมมนัสไม่จำเป็นต้องทำครัวเอง ไม่จำเป็นต้องลำบาก แค่อยู่ข้าง ๆ ก็พอครับ" ชายหนุ่มเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปสบตาให้คนตัวบางอย่างลึกซึ้ง
………………………………….
ด้านกานต์ธิดาได้แต่งง แอบหงุดหงิด ไม่เข้าใจ อะไรกัน อยู่ ๆ ตื่นมาก็มีคนที่ไม่สนิทด้วยมาทำกับข้าวให้กิน แล้วก็พูดจามีลับลมคมใน
"พูดอะไรกัน ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ถามอะไรก็ไม่ตอบ หนูไปคอลหายัยน้องเอ๋ยเองก็ได้" คนตัวบางเดินสับเท้าออกไปอย่างกระฟัดกระเฟียด
"น้องเอ๋ยไปบ้านอากรน่ะ อย่าไปรบกวนเค้าเลย ป่านนี้คงวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหนสักแห่งแล้วก็มือเปื้อนปุ๋ยหรือดินหรือกำลังขยายพันธุ์กุหลาบอยู่มั๊ง" เปรมมนัสเปรย ๆ ออกไปแต่ตั้งใจให้อีกคนหยุดการกระทำมากกว่าซึ่งนั้นได้ผลชะงักงัน คนตัวบางเก็บโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากครัวซึ่งเขาเดาว่าน่าจะไปนั่งที่มุมโปรดก็คือห้องนั่งเล่นนั่นเอง
"อดทนหน่อยนะครับ ยัยบีหงุดหงิดง่ายน่ะครับ ตั้งแต่โตเป็นสาวมาแล้วครับ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" เป็นกานต์บุรุษที่เอ่ยขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัว
"ฮอร์โมนน่ะครับ ผมเป็นหมอพอจะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง ผมเข้าใจครับ แล้วก็ไม่ถอดใจอะไรง่าย ๆ ด้วยครับคุณเอสบายใจได้ครับ" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ
"ได้ยินคุณนัทพูดแบบนี้ผมก็คลายกังวลครับ แต่ถ้าวันนึงที่คุณนัทไม่ไหว ท้อ หรือคิดจะเปลี่ยนใจ ขอให้บอกผะ.." กานต์บุรุษเอ่ยขึ้นยังไม่ทันจะจบคำดีก็ได้ยินอีกฝ่ายพูดแทรกขึ้นมาทันควัน
"ท้อครับ แต่ไหว และก็ไม่เปลี่ยนใจครับ"
"เพราะอะไรหรือครับ ทำไมถึงยอมขนาดนี้ คุณคิดดีแล้วใช่มั๊ยครับ ถ้าน้องเป็นถึงขั้นนั้นก็หมายความว่าน้องไม่สามารถมีลูกได้นะครับ" กานต์บุรุษพูดสิ่งที่ค้างคาอยู่ในออกมาจนหมดเช่นกัน
"เพราะรักครับ ไม่ใช่เพราะสงสารหรือเห็นใจน้องที่ป่วยแล้วมันเข้าทางตัวเองเพราะตัวเองเป็นหมอด้านนี้นะครับ ผมไม่ใช่สุภาพบุรุษ หรือเทพบุตรที่จะมาเสียสละอะไรขนาดนั้น แต่เพราะคำว่ารักคำเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะดูแลน้องทุกอย่าง ถ้าก้อนนั้นมันจะโตขึ้น ผมจะเป็นคนผ่าให้น้องเอง ไม่ว่าผลมันจะเป็นยังไงผมจะอยู่เคียงข้างน้องเสมอครับ ไม่มีลูกก็ไม่เป็นไร ผมมีน้องเอ๋ยเป็นทั้งหลานและลูกในคราวเดียวกันเลยก็ได้ อีกหน่อยผมก็ได้เลี้ยงหลานที่เป็นลูกของน้องเอ๋ย ดีจะตายไป" เปรมมนัสพูดออกมาจากส่วนลึกจนหมดเปลือก
"หมดแล้วครับ หมดแล้ว ผมไม่สงสัยอะไรในตัวคุณนัทอีกแล้วครับ ที่เหลือก็ให้เป็นเรื่องของโชคชะตาเถอะครับ อีกอย่างผมไม่ทิ้งน้องอยู่แล้วครับถ้าน้องจะโชคร้ายแบบนั้น อึ่ก.." กานต์บุรุษพูดมันออกมาจากส่วนลึก ชายหนุ่มกลืนก้อนสะอื้นอยู่พักใหญ่แล้วจึงช่วยเปรมมนัสหยิบนั่นจับนี่เพื่อเตรียมอาหารเช้าสำหรับทุกคน โดยทั้งสองไม่ทันสังเกตเลยว่ามีอีกสองคนที่บังเอิญมาได้ยิน
อีกด้านของบ้าน
"เราได้ยินแบบนี้แล้วคิดยังไงเหรอ" กวินเอ่ยถามคนตัวบางหลังจากชั่งใจอยู่นาน
"เราจะไปเหนี่ยวรั้งเค้าไว้ทำไมล่ะคะ ปล่อยให้เค้าไปเจอคนที่ดีที่สนับสนุนเค้าได้ไม่ดีกว่าเหรอ ดีกว่ามาอยู่กับผู้หญิงที่ไม่รู้อนาคตอย่างหนู"
"แล้วถ้าเป็นอย่างหลังจริงหนูจะทำไง" คนตัวโตหยั่งถาม
"ก็คงต้องอยู่ต่อให้ได้ ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ให้มีความสุข อีกหน่อยหนูก็เรียนจบก็ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง ยัยน้องเอ๋ยก็แต่งงานกับอากร อีกหน่อยเพื่อนหนูก็จะมีลูก หนูก็เป็นแม่อีกคนของลูกยัยน้องเอ๋ยดีจะตายไปไม่ต้องเบ่งเอง จะเป็นทุกข์ไปทำไมละคะ" คนตัวเล็กแค่นหัวเราะเพื่อให้อีกคนคลายใจ
"สรุปว่าถ้าถึงวันนั้นจริง พี่จะอยู่กับเอและช่วยกันดูแลน้องสาวคนนี้ให้ดีที่สุดเองนะ ไม่ต้องกังวลว่าพี่จะพาเอหนีไปไหน สบายใจได้ เราคือครอบครัวเดียวกัน" กวินเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงเปลี่ยนใจง่ายนัก ทั้งที่ตอนแรกคิดจะชวนแฟนหนุ่มไปอยู่ด้วยกันเพียงสองคนแล้วแท้ ๆ
"ขอบคุณนะคะพี่กาย ขอบคุณนะคะพี่ชายอีกคนของหนู ฮึ่ก.."
"ไม่เป็นไร เราคือครอบครัวเดียวกันนะ” ชายหนุ่มพูดจบก็อ้าแขนรอคนตัวบางเพื่อเข้าไปรับความอบอุ่นจากเขา
พรึ่บ!! สองพี่น้องไม่แท้ต่างอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน คนตัวโตลูบหลังคนตัวบางไปมาอยู่อย่างนั้นอย่างให้กำลังใจและปลอบประโลมในคราวเดียวกัน และเป็นจังหวะที่เปรมมนัสและกานต์บุรุษเดินออกมาจากครัวเพื่อจะมาตามคนของใจไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกันและมาได้ยินพอดี
ฟื่ด…เฮ๊อ…. กานต์บุรุษสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกมาแรง ๆ อย่างต้องการจะปลดปล่อยอะไรบางอย่างที่อัดอั้นอยู่ข้างใน
ปึ่บ… (เสียงตบไหล่จากคนข้าง ๆ)
"อย่าคิดอะไรไปไกลไว้ล่วงหน้าเลยครับ แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ผมเองก็จะคิดแบบนั้นเหมือนกัน" เปรมมนัสเอ่ยขึ้นเพื่อกระตุกเตือนพี่ชายของคนรัก และเตือนตัวเองด้วยเช่นกัน
"ครับ คุณนัท ผมจะเข้มแข็งครับ ถ้าวันนั้นเกิดขึ้นจริงผมจะเป็นที่พึ่งให้น้องเอง และจะอยู่เคียงข้างน้องเสมอ นี่ผมก็ศึกษาเรื่องการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ในเสิร์ชเอนจินไว้บ้างแล้วครับ"
"ครับ อย่าลืมว่าคุณยังมีผมอีกคนนะครับที่จะอยู่เคียงข้างน้องเสมอ ไปตามสองคนนั้นมาทานข้าวกันเถอะครับ เดี๋ยวผมจัดโต๊ะรอ" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ อย่างให้กำลังใจ
"ครับ ได้ครับ"