เลขาผีผลัก

1124 คำ
หากมีใครสักคนถามว่าในชีวิตนี้อยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรมากที่สุดล่ะก็ นพรดา ธาราวงศ์ คงไม่ลังเลที่จะตอบว่า... การหลวมตัวยอมมาเป็นเลขาของภาสกฤต คือสิ่งที่เธอทำพลาดที่สุดในชีวิต! แม้ใครๆ จะบอกว่าเธอนั้นเป็นคนที่โชคดีมากที่ได้ทำงานใกล้ชิดกับเจ้านายหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย มากความสามารถอย่างหาตัวจับยาก แถมยังเป็นถึงประธานบริษัทใหญ่โตที่ติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศนี้ เขาเนื้อหอมขั้นเทพถึงกับมีสาวน้อยสาวใหญ่จ้องกันตาเป็นมัน ใครๆ ก็ล้วนอยากโชคดีได้เป็นตัวจริงของเขากันทั้งนั้น หรือไม่ได้เป็นตัวจริงก็ขอเป็นคู่ควงชั่วครั้งชั่วคราวเคียงข้างเขาสักครั้งก็ยังดี เอ้า! คงจะมีแต่เธอนี่แหละมั้งที่อยากหนีห่างผู้ชายแสนเพอร์เฟก อย่างเขาให้ไกลร้อยลี้พันลี้ หากว่างานดีรายได้งามสำหรับเด็กจบใหม่ในเมืองไทยตอนนี้มันหากันง่ายๆ น่ะนะ ถ้าจะถามหาเหตุผลว่าทำไมล่ะก็ นพรดาอยากจะกลอกตามองบน แล้วตะโกนบอกแม่พวกสาวๆ ที่ชอบฝันว่าตัวเองเป็นนางเอกนิยายซึ่งได้พระเอกรูปหล่อพ่อรวยมาเป็นหวานใจในตอนจบของนิยายพาฝันว่า... พวกหล่อนมาเบิกเนตรดูเจ้านายของฉันให้ดีหน่อยไหม แล้วจะได้รู้ว่าเทพบุตรในฝันที่ว่า แท้จริงแล้วแค่แหกตา ภายใต้ภาพลักษณ์หล่อ หรู ดูแพง ไม่ต้องว่าใคร ตอนที่มาใหม่ๆ เธอเองก็เคยหลงรูปจนยอมหลวมตัวมาเป็นเลขาให้เขาเพราะหน้าตาอันหล่อเหลาเฉียบขาด กับมาดเท่ห์ๆ คูลๆ ดูน่าเข้าหา ถ้าได้ทำงานด้วยได้เห็นหน้าหล่อๆ นั่นทั้งวันทุกวันก็คงเหมือนขึ้นสวรรค์มีแต่กำไรไม่มีขาดทุนแน่นอน เอาอะไรกับสาวน้อยช่างฝันในตอนนั้นล่ะ กว่าจะบรรลุสัจธรรมและรู้ว่าโดนจกตาว่าที่แท้เทพบุตรที่ว่าก็เป็นแค่ผู้ชายซังกะบ๊วยห่วยแตก ที่รักใครไม่เป็นนอกจากงานของเขา แถมยังเย็นชา และใจร้ายได้โล่ ไม่สิ! เขาไม่ใช่ใจร้ายธรรมดาแต่ร้ายเข้าขั้นไร้หัวใจเลยต่างหาก กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะดังขึ้น ทำให้คนเป็นเลขาที่กำลังรัวมือพิมพ์งานอย่างบ้าระห่ำถึงกับสะดุ้งโหยงรีบผวากดรับสายนรกนั่นทันที “ค่ะบอส...” “คุณนพรดา! ผมต้องการอ่านรายงานการประชุมชาตินี้นะไม่ใช่ชาติหน้า” เอาแล้วไงท่าน! เสียงเย็นเฉียบกดต่ำเขย่าขวัญที่เรียกชื่อเธอเสียเต็มยศนั่นทำให้เลขาสาวแทบจะประสาทเสีย การประชุมประจำวันเพิ่งเสร็จได้ไม่ถึงนาทีเลย เขาก็ทวงรายงานการประชุมจากเธอเสียแล้ว จะบ้าตาย! “เก้าส่งไฟล์ให้บอสแล้วค่ะเมื่อห้าวินาทีก่อน ส่วนตัวฮาร์ดก็อปปี้พิมพ์เสร็จแล้วกำลังจะ ตู๊ดๆ...” ยังพูดไม่ทันจบประโยค ปลายสายก็กดตัดการติดต่อไปดื้อๆ ให้เธอต้องกัดปากแน่น เริ่มนับหนึ่งถึงสิบในใจอีกรอบ อีตาบ้านี่ ไม่รอให้เธอพูดจบก็วางสายใส่ คำว่ามารยาทน่ะเขาสะกดเป็นบ้างไหมวะ วางสายไม่ถึงห้าวินาที เสียงกระชากวิญญาณนั่นก็ดังอีกรอบ “ค่ะบอส” “กาแฟผมอยู่ไหน” “สักครู่นะคะบอส เก้ากำลังจะ...” ตู๊ดๆ... เหมือนเดิม ไม่รอให้เธอพูดจบก็ตัดสาย ชาติที่แล้วเขาเป็นกรรไกรหรือไงนะ ถึงขยันตัดได้ตัดดี เธอก็ได้แต่นินทาในใจและปากขมุบขมิบท่องคาถาสำหรับมนุษย์เงินเดือนต่อไป ในเมื่อเธอไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนี่นาจะทำไงได้ นอกจากทนก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป หญิงสาวยื่นมือไปรวบกระดาษแผ่นสุดท้ายที่เพิ่งออกจากเครื่องพริ้นเตอร์มาเข้าเล่มอย่างคล่องแคล่วว่องไว ส่วนกาแฟน่ะวางใจได้ หลังจากมาเป็นเลขาให้เขาได้ไม่ถึงเดือน เธอก็สำเร็จเคล็ดวิชาชงไว เพราะใส่แค่กาแฟออแกนิกคั่วบด รสเข้มไปสองช้อนชาครึ่ง ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ครีม ผสมกับน้ำร้อนในอุณหภูมิแปดสิบองศาเซลเซียสเป๊ะ ห้ามร้อนไป ห้ามเย็นไปกว่านี้ ไม่งั้นได้ชงใหม่อีกรอบ เพราะพ่อเจ้าประคุณไม่ยอมดื่ม แต่จัดการเททิ้งลงถังขยะให้เธอเห็นต่อหน้ากันเลยทีเดียว แต่เหตุการณ์แบบนั้นเท่าที่จำได้เธอเคยโดนแค่สองครั้งเท่านั้นตอนมาใหม่ๆ ใครๆ ก็ชมว่าเธอคือเลขาที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่บริษัทเคยมีมา หัวไว เรียนรู้เร็ว ทำงานคล่องแคล่ว แต่ละเอียดรอบคอบเป็นที่สุด และเป็นคนเดียวที่ไม่เคยเป่าปี่เสียน้ำตาหน้าห้องให้ใครเห็น แม้จะโดนเจ้านายโรคจิตขยันโขกสับข่มขวัญกันเช้ากลางวันเย็นบางทีก็แถมรอบค่ำอีกรอบ พอเบื่อหน่ายมากๆ เธอเลยทำเรื่องขอย้ายไปทำงานแผนกอื่นที่ประสาทกินน้อยกว่า เขาก็ดันไม่ยอมอนุมัติให้ย้ายสักที อ้างแต่ว่าจะย้ายได้ก็ต่อเมื่อเขาหาเลขาใหม่มาแทนได้และเธอต้องช่วยเทรนด์งานให้อย่างน้อยก็สามสี่เดือนจนกว่าจะมั่นใจว่าคนมาใหม่จะรู้งานรู้ใจเจ้านายสุดโหด แต่รอไปเถอะว่าเขาจะหา เธอก็รอจริงๆ นั่นแหละ รอจนอดไม่ไหวเลยเข้าไปเสนอหน้าถาม ก็ได้คำตอบสุดกวนประสาทกลับมาว่า... หาแล้ว แต่ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติเข้าตาซักคน เวรของกรรม...กรรมก็เลยมาตกที่กรูนี่ไง ต้องก้มหน้ารับใช้เจ้านายผีบ้าต่อไป แต่อย่านึกเชียวนะว่าเขาจะพิศวาสอะไรเธอจนไม่ยอมหาเลขาคนใหม่มาแทนซักที เหตุผลเดียวที่เธอยังคงรั้งเก้าอี้หน้าห้องของเขาได้เหนียวแน่นนั่นก็คือ...ความอึด ถึก ทน รถสิบล้อวิ่งชนยังไม่ตาย นี่แหละ แน่ล่ะสิ ก็ใครมันจะไปทนมือทนปากทนนิสัยเจ้านายประสาทแดกอย่างเขาได้ล่ะ เลขาคนก่อนหน้าเธอนั่นไงพยานชั้นเยี่ยม ถ้าไม่ชิงป่วยตายไปก่อน ก็ล้วนแล้วแต่โดนไล่ตะเพิดออกไปหางานใหม่ ไม่ก็โดนเด้งไปอยู่แผนกอื่น เพราะทำงานไม่ถูกใจพระเดชพระคุณท่านนี่แหละ ยังไม่นับเลขาคนก่อนหน้าอีกเกือบสิบคนที่ไม่ผ่านด่านอรหันต์เพราะเหตุผลต่างๆ กันไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม