Bad Friend 8 ราวฟ้ากับเหว

1654 คำ
อินดี้นอนอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลาห้าวัน ออกจากโรงพยาบาลเราเดินทางกลับจากจันทบุรีมาที่คอนโดทันที ขาดเรียนยาวเลย เพื่อนพากันถามไถ่ ฉันบอกไปในแชตกลุ่มว่ามีธุระส่วนตัว อินดี้ตอบกลับในกลุ่มว่าขี้เกียจ ข้อความสั้น ๆ แต่ทำให้เพื่อนพูดแซวไม่เลิก หาว่ามันติดผู้หญิงใหม่หนึบหนับจนไม่ยอมมาเรียน ‘รอบนี้คงสวยมากไอ้อินถึงได้ไม่ยอมห่าง’ ‘ก็ต้องสวยอยู่แล้ว มันชอบแต่ผู้หญิงสวย ๆ เห็นมันเคยเอาคนไม่เข้าตามันหรือไง’ ‘ครั้งนี้คงถูกใจถึงได้หยุดเรียนนานขนาดนี้ บ้ากีฉิบหาย’ ‘อยากเห็นหน้าว่ะ เบื่อแล้วขอเล่นต่อ’ เป็นคำพูดของเพื่อน ๆ ที่พากันวิเคราะห์หลังจากอินดี้ตอบว่า ขี้เกียจ แค่ขี้เกียจคำเดียว เพื่อนสามารถเอาไปต่อยอดได้เยอะเลย จะให้พวกนี้รู้เรื่องของฉันกับอินดี้ไม่ได้เด็ดขาด ไม่อยากฟังเสียงก่นด่าและคำแซว โดยเฉพาะคำว่า ‘กูว่าแล้ว’ กลับมาถึงคอนโดเก็บของ เก็บเสื้อผ้าซัก ทำความสะอาดห้องจนเสร็จ ตกเย็นฉันได้รับสายจากที่บ้าน ให้กลับบ้าน มีเรื่องจะพูดด้วย ไม่อยากกลับก็ต้องกลับ เพราะคนที่ติดต่อมาคือพี่ชายคนโต ทั้งบ้านคนที่ฉันยังหลงเหลือความรู้สึกดีด้วยและเกรงอกเกรงใจก็คือพี่ชายคนโต “กลับบ้านเป็นด้วยเหรอ ฉันนึกว่าแกลืมแล้วว่ามีบ้าน มีพ่อมีแม่” เป็นคำทักทายของแม่ฉันเอง ดูไม่เป็นมิตรใช่ไหมล่ะ นี่น่ะเป็นเรื่องปกติ แม่กับฉันทะเลาะกันบ่อย ที่หนักสุดก็บอกไม่ให้ฉันเรียน บังคับห้ามเรียน พี่ชายคนโตจะได้ไม่มีภาระเพิ่ม เรียกว่าพูดทุกครั้งที่เจอหน้า แต่พูดไม่เป็นกิจลักษณะ “พี่ต้าร์มาหรือยัง” “ยังมาไม่ถึง ทำไม ถ้ากีต้าร์มันไม่โทรหา แกไม่คิดจะกลับมาที่นี่เลยหรือไง” “มิวเรียนหนัก บ้านกับมอก็ไกล จะเอาเงินไหนจ่ายค่าโดยสารบ่อย ๆ” “ฉันถึงบอกตั้งแต่แรกว่าไม่ต้องเรียนต่อ ค่าใช้จ่ายพี่แกตั้งเท่าไหร่ ยังต้องมารับผิดชอบแกอีก ยิ่งพี่แกแต่งงานเขาก็ยิ่งต้องรับผิดชอบครอบครัวเขาด้วย” “...” เรื่องที่ฉันดื้อรั้นจะเรียนแล้วฉันตกไปเป็นภาระของพี่ชายคนโตนั้นเป็นเรื่องที่แม่ฉันไม่พอใจมากที่สุด ที่เป็นแบบนี้อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ใช่ลูกที่แม่ต้องการ แม่เพียงแค่อยากได้ลูกชายเพิ่มอีกหนึ่งคน แต่ฉันดันติดสอยห้อยตามมาด้วย ในตอนที่การเงินไม่มีปัญหามันก็ไม่เป็นไร แม่จ้างพี่เลี้ยงดูแลได้ ใช้เงินแก้ปัญหา ทว่าเมื่อการเงินเกิดปัญหา พ่อถูกโกงจนเกิดคดี กลายเป็นบุคคลล้มละลาย การเงินติดขัด ในตอนนั้นเองที่ฉันได้รู้ว่าตัวฉันไม่ได้เป็นที่ต้องการ หากแม่ต้องเลือกก็จะเลือกพี่ชายฝาแฝด เรื่องดี ๆ แม่จะยกให้แฝดพี่ของฉันก่อน ส่วนฉันตามมีตามเกิด ฉันพยายามที่จะเข้าใจความยากลำบากของแม่ แต่ยิ่งนานวันความสัมพันธ์ระหว่างเราสองแม่ลูกก็เริ่มห่างเหิน พูดจาไม่ดีใส่กันขึ้นเรื่อย ๆ “บ่นอะไรนักแม่ มิวสิคก็เรียนได้ดี พี่ต้าร์ก็ไม่ได้ลำบากอะไร” มาแล้วแฝดพี่ของฉัน อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้กลับมาบ้านนาน รอบนี้ร่างกายของแฝดพี่เปลี่ยนแปลงไปมาก มีรอยสักตามร่างกายที่เคยขาวสะอาด เชื่อไหมว่าถ้าฉันสักแบบดนตรีบ้าง แต่สักในร่มผ้า ยังไงซะฉันก็โดนด่า ด่าไปอีกเป็นปีเลยด้วย “เสาหลักของครอบครัวยังไงก็ต้องลำบาก เมื่อก่อนฉันแค่บ่น ๆ แล้วก็ตามใจพวกแก แต่ตอนนี้จะรบกวนพี่แกอีกไม่ได้แล้ว แกเองก็เหมือนกันดนตรี เลิกไปก่อกวนพี่เขา” “ทำไมอะแม่ มีอะไรไม่ได้ พี่ต้าร์ไม่เห็นบ่น พี่สะใภ้ก็ไม่ได้ว่าอะไร” แม่ลูกคุยกันฉันเพียงนั่งฟังเงียบ ๆ บ้านหลังนี้ความคิดเห็นของฉันไม่มีประโยชน์ พูดออกมายังจะทำให้เกิดการทะเลาะกัน “ก็ตอนนี้พี่สะใภ้แกตั้งท้องแล้ว เราจะไปเกาะเขาแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเกิดพวกแกเอาตัวเองไปเป็นภาระเขามาก ๆ แล้วเขาทิ้งพี่ชายแกไปจะทำยังไง พี่ชายแกลำบากมากนะ ทั้งต้องดูแลครอบครัวเขาเอง ทั้งส่งเงินให้แม่ ส่งมิวสิคเรียน ไหนจะแกที่ขยันไปไถพี่ชายพี่สะใภ้แกบ่อย ๆ พวกเขาแต่งงานกันก็อยากเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยกัน พวกเขาไม่ควรจะแบกรับภาระของพ่อแม่ญาติพี่น้อง” “พูดมามากมาย ความหมายก็แค่อยากจะให้มิวเลิกเอาตัวเองไปเป็นภาระพี่ต้าร์กับพี่สะใภ้ถูกไหม” สายตาที่แม่มองมาทางฉันขณะที่พูดทำให้ฉันเข้าใจในสิ่งที่แม่พูด ก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามออกมาตรง ๆ “ใช่ อีกหน่อยค่าใช้จ่ายพี่แกต้องเพิ่มขึ้น มีเรื่องต้องรับผิดชอบมากขึ้น จะมาให้เขาแบกแกจนเรียนจบไม่ได้ไหม อีกตั้งกี่ปีกว่าแกจะจบ” “แม่พูดแบบนี้แม่คิดทางออกไว้ให้มิวยังไงพูดมาเลย ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องพูดเพื่อให้มิวรู้สึกผิด เพราะที่ผ่านมามิวรู้สึกผิดกับพี่ต้าร์มาตลอด” แม่ฉันก็เป็นแบบนี้ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเพื่อกดดันให้ฉันเห็นด้วยเสมอ ต่อให้ไม่พอใจฉันก็ยอมทุกครั้ง พยายามเข้าใจทุกครั้ง “ลาออกจากมหา’ลัยซะ ถ้าอยากเรียนมากก็เรียนเฉพาะวันอาทิตย์ วันที่เหลือก็ไปทำงาน ฉันรู้ว่าการเรียนสำคัญ แต่ถ้าไม่มีเงินแกจะกลายเป็นคนไร้ค่า ไม่ว่าอะไรก็ขับเคลื่อนด้วยเงินทั้งนั้น แกจะมายึดติดกับเรื่องเรียนแล้วเดือดร้อนคนอื่นแบบนี้ไม่ได้” “ไม่ต้องให้มิวลาออกหรอก เดี๋ยวผมออกเอง ผมก็ไม่ได้อยากจะเรียนอยู่แล้ว ออกมาหางานทำก็ดี” “แกจะบ้าเหรอดนตรี แกต้องเรียน การศึกษาจะทำให้แกมีพื้นฐานมีต้นทุนที่ดี อนาคตแกจะมีงานทำ” หึ ฉันยิ้มให้กับคำตอบของแม่ที่รีบพูดสวนทันทีที่ดนตรีออกความคิดเห็น พูดกับฉันกับพูดกับดนตรีแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว พูดเหมือนฉันไม่ใช่ลูกเลย “เอาเถอะ ที่เรียกมิวมาวันนี้ก็เพื่ออยากพูดเรื่องนี้ใช่ไหม งั้นต่อไปมิวจะไม่รับเงินจากพี่ต้าร์อีก ชีวิตของมิวมิวจะจัดการเอง จะไม่ไปเป็นภาระของพี่ต้าร์” “แกพูดแบบนี้ถ้าพี่มาได้ยินเดี๋ยวก็หาว่าฉันกดดันแก เดี๋ยวก็มาต่อว่าฉัน หาว่าฉันลำเอียง” แม่กำลังจะบอกให้ฉันไม่รับเงินจากพี่ต้าร์ แล้วก็ให้ฉันหาเหตุผลอะไรก็ได้ แต่ห้ามบอกว่าแม่เป็นคนบอกให้ทำเด็ดขาด “หึ ไม่ต้องห่วงแม่ มิวมีวิธีพูดกับพี่ต้าร์ มิวไม่ทำให้พี่ต้าร์ทะเลาะกับแม่เพราะมิวอีกหรอก” “ดี แค่นี้บ้านเราก็วุ่นวายมากพอแล้ว” สีหน้าแม่ดูพอใจในคำตอบของฉัน แม่น่ะไม่สนใจหรอกว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร “เรื่องนี้ผมไม่เห็นด้วย แม่...” “แกเงียบไปซะดนตรี แกไม่มีสิทธิ์มาออกความคิดเห็นเรื่องนี้” “ช่างเถอะดนตรี แกก็ตั้งใจเรียนไป ฉันมีชีวิตของฉัน” ฉันตัดบทแล้วเดินออกมานอกบ้าน รอให้พี่ชายกับพี่สะใภ้มาถึงเราก็จะทานข้าวมื้อเย็นด้วยกัน จากนั้นฉันก็จะกลับห้อง เวลานี้พ่อไม่อยู่บ้าน ออกไปกินเหล้ากับเพื่อน มื้อเย็นวันนี้ก็จะไม่มีพ่อร่วมโต๊ะอาหารเพราะกว่าจะกลับก็เช้า บางวันก็ไม่กลับ บ้านเรามันไม่เป็นครอบครัวนานแล้ว ตริ๊ง ตริ๊ง! (อินดี้: เย็นนี้กินอะไรดี) (อินดี้: กลับมาตอนไหน) (มิวสิค: มากินข้าวที่บ้านแล้วไง มึงหากินไปเลย) (อินดี้: อยากกินหมาล่า รอมึงที่ห้องนะ) (มิวสิค: ได้สิ เดี๋ยวรีบกลับ) หมาล่าเป็นเมนูที่กินแล้วทำให้ฉันรู้สึกดีเวลาที่รู้สึกแย่มาก ๆ อินดี้ไม่ชอบกิน ไม่ชอบมาก ๆ เลยล่ะ แต่เหมือนมันรู้ว่าเป็นของที่ฉันชอบกินเวลาที่รู้สึกแย่ หลายครั้งอินดี้จึงมักชวนไปกิน เหมือนอินดี้คอยสังเกต คอยใส่ใจฉันอยู่เสมอ เพราะแบบนี้ฉันถึงรู้สึกดีกับอินดี้ อินดี้เป็นที่พึ่งพิงทางใจของฉันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเวลาที่ทุกข์ใจมันก็อยู่ข้างฉันเสมอ ไม่เคยทอดทิ้งฉันสักครั้ง เคยมีครั้งหนึ่งฉันทะเลาะกับแม่ หนีออกจากบ้าน อินดี้ที่ไปเดตกับผู้หญิงรู้เรื่องก็รีบมาหาฉันทันที โผล่มาไม่พูดอะไร เพียงแค่มาอยู่ข้าง ๆ แค่หันมองก็เจอ พร้อมเป็นไหล่ให้ฉันเอนซบ แม้จะปากหมาไปบ้าง แต่ฉันชอบที่มีอินดี้อยู่ด้วย ยิ่งตอนนี้ที่เราใกล้กันมากขึ้นฉันยิ่งชอบ และก็อยากให้อินดี้พูดว่า รักฉัน ออกมาสักครั้ง การที่อินดี้ไม่เริ่มพูดก่อน ฉันก็กลัวที่จะพูดออกไปก่อนเหมือนกัน เพราะว่าฉันไม่อยากเสียอินดี้ไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม