Bad Friend 1 ฉุนอะไร
“ไอ้อินยังไม่มาเหรอวะ” เสียงของนักรบผู้ชายที่ขี้ขลาดที่สุด เวลามีเรื่องมักหลบอยู่หลังสุด หมายถึงมีเรื่องกับผู้หญิงนะ นักรบมันชอบคบผู้หญิงหลาย ๆ คนพร้อมกัน จากนั้นก็รถไฟชนกัน
“ยัง” หนูอี๊ดตอบ หนูอี๊ดเป็นผู้หญิงตัวเล็ก สูง 150 เซนติเมตร เป็นคนตัวเล็กแต่ว่าหน้าอกใหญ่มาก ๆ
“มันไปไหนมิวสิค” นักรบหันมาถามฉันที่นั่งดูดอมยิ้มรสมะนาว
“แล้วกูจะรู้ไหม” ตอบไปด้วยสีหน้าราบเรียบ
“มึงไม่รู้ ใครจะรู้”
“ไม่สิ ทำไมกูต้องรู้”
“ก็มึงอยู่ห้องเดียวกัน มึงไม่รู้ใครจะรู้”
“แล้วทำไมกูต้องรู้เรื่องมันด้วย อยู่ห้องเดียวกันเพราะจำเป็น แต่ห้องนั้นก็มีห้องนอนแยกค่ะมึง ต่างคนต่างใช้ชีวิตเนอะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นค่ะ”
“มึงฉุนอะไรมิวสิค กูก็แค่ถามว่ามึงรู้ไหม ยังไม่ได้บอกเลยว่ามึงคิดอะไรมากกว่านั้น แล้วไอ้คิดอะไรมากกว่านั้นเนี่ย คืออะไรวะ เพื่อนแอบชอบกันงี้เหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นแย่เลยนะ”
“ทำไมแย่วะ” หนูจี๊ดถาม หนูจี๊ดคือฝาแฝดของหนูอี๊ด ทั้งสองมีใบหน้าคล้ายกัน ส่วนสูงต่างกันเล็กน้อย หนูจี๊ดจะสูงประมาณ 155 เซนติเมตร ห่างกับหนูอี๊ดนิดหน่อยและมีหน้าอกที่เล็กกว่าหนูอี๊ด ฉันชอบแยกสองคนนี้จากการมองหน้าอก
“เพราะนั่นแปลว่า ไม่มีใครจะเอาแล้วหรือไงถึงได้มาแดกกันเอง” มาร์คยิ้มเหยียด มาร์คเป็นหนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย เขาเติบโตที่ไทยเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน มาร์คก็เลยถูกยายเลี้ยงดู แม่นาน ๆ จะกลับมาที คนที่มาร์คผูกพันจึงมีแค่ยายที่รักและห่วงเขาที่สุด
“ไอ้เรื่องเหยียดคนก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย ปากยิ่งกว่าผู้หญิงอีก” ธัญญ่าส่ายหัว ธัญญ่าเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าสะสวย เธอน่ะไม่ได้เรียนคณะเดียวกันกับพวกฉัน แต่แวะมาที่นี่ก็เพราะเอาของที่ฉันฝากซื้อมาให้ เราเป็นเพื่อนสนิทกัน เพื่อนสนิทที่สนิทกว่าคนอื่น ๆ เนื่องจากเรียนมาด้วยกันตั้งแต่อนุบาล พอเรียนมหาลัยแฟนธัญญ่าเรียนบริหาร ก็เลยไปเรียนบริหารกับแฟน
ที่มาของคำว่า เห็นผู้ดีกว่าเพื่อน
“กูพูดเหยียดเหรอ ถ้าใช่ก็โทษที” มาร์คยิ้มเหยียดอีกแล้ว ไอ้นี่มันเคยรู้สึกผิดที่ไหนกัน อะไรที่พูดออกมาแล้วนั่นแปลว่า คิดมาอย่างดี
มาร์คคนนี้ก็เรียนมาด้วยกันกับฉันตั้งแต่อนุบาล เมื่อก่อนเพื่อนในโรงเรียนชอบล้อมันว่า ไอ้หรั่งขี้นก ไอ้หรั่งไม่มีพ่อ พอโตขึ้นหน่อยมาร์คมันก็ไปซ้อมมวยที่ค่ายมวยแถวบ้าน จากนั้นก็ไม่มีใครกล้าล้อเรื่องพ่อแม่มันอีกเลย ใครล้อมันต่อยเรียบ ใครจะอยากถูกต่อยบ่อย ๆ ล่ะ
ทุกวันนี้มาร์คยังคงไปค่ายมวย บางครั้งก็ลากฉันไปด้วย บอกให้ฉันเรียนรู้ไว้ จะได้เอาไว้ใช้ปกป้องตัวเอง
แต่ฉันไม่ชอบอะไรที่ทำให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวขนาดนั้น ส่วนใหญ่ก็เลยหาข้ออ้างไม่สบายอยู่บ่อย ๆ
ฉันชื่อ มิวสิค เรียนวิศวกรรมไฟฟ้า ปี2 อายุ 20 ปี เพิ่งผ่านวันเกิดมาเมื่อเดือนก่อน เป็นวันเกิดที่ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ครอบครัวฉันน่ะมีฐานะปานกลาง ถ้าเทียบกับเพื่อนในกลุ่ม สถานะทางการเงินของบ้านฉันแย่ที่สุด ครอบครัวฉันมีพี่น้อง 3 คน ฉันเป็นลูกคนที่สาม คนรองคือฝาแฝดของฉัน เป็นผู้ชายที่หน้าตาดี ลูกคนโตสุดเป็นผู้ชาย พี่ชายอายุห่างจากฉัน 7 ปี พี่คนโตน่ะเขาเพิ่งแต่งงานเมื่อต้นปีและแยกออกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามส่งเงินมาให้ที่บ้าน เพราะสงสารแม่แหละ แม่เป็นเสาหลัก เนื่องจากพ่อติดเหล้าขั้นรุนแรง เมื่อก่อนพ่อไม่ได้ติดเหล้า แต่เพราะธุรกิจที่ทำถูกโกง พ่อถูกฟ้องล้มละลาย
พ่อล้มแล้วก็รุกไม่ได้อีกเลย จากที่เคยเป็นพ่อที่น่าเคารพนับถือ ตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับชายขี้เมา ตื่นเช้ามาสิ่งที่สนใจเป็นอย่างแรกก็คือเหล้า
ต้องมีเหล้าไว้ที่บ้านตลอด ไม่มีก็จะอาละวาด ทำลายข้าวของ
แม่จึงแบกทุกอย่างมาเป็นเวลาหลายปี ฉันเป็นลูกคนสุดท้าย เรียนจบม.6 ก็ถูกสั่งห้ามเรียนต่อ แม่บอกว่า ส่งไม่ไหวหรอก ส่งไหวแค่ฝาแฝดที่โดดเรียนเป็นประจำ ต้องขอบคุณพี่ชายคนโตที่เขาไม่เห็นด้วย พี่จึงเป็นคนส่งฉันเรียนต่อ พี่รับฉันไปเป็นภาระของเขาแทน
ฉันเข้าใจแม่นะ เข้าใจว่าแม่ลำบาก
แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นฉันที่ต้องเจอคำพูดแบบนั้น พูดเหมือนฉันไม่ใช่ลูก แค่เพราะฉันเกิดมาเป็นผู้หญิง ฉันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือไง
วิศวกรรมไฟฟ้า ฉันเรียนตามพี่ชาย เห็นว่าพี่ชายมีหน้าที่การงานที่ดี บางทีเรียนเหมือนกันก็เข้าไปทำงานบริษัทที่พี่ชายทำอยู่ได้
“นู่น ไอ้อินอยู่นู่น” หนูจี๊ดชี้ไปยังชายหนุ่มผมสีแดงท่ามกลางนักศึกษาคนอื่นที่มีสีผมปกติ เขาคนนั้นก็เลยดูเด่นที่สุด
“ไอ้เหี้ยนี่ไปอึ๊บสาวไม่เผื่อกูอีกละ” นักรบพูดเมื่อคนที่ถูกพูดถึงเดินมาถึงที่
“มึงรู้ได้ไงอะ” หนูอี๊ดทำหน้าสงสัย
“ที่คอมันมีรอยลิปสติก พวกมึงไม่เห็นหรือไง” มาร์คชี้ที่ลำคอ
“ทิชชู่เปียก” เสียงทุ้มเอ่ยพลางมองมาที่ฉัน ไอ้ฉันก็รู้งานซะด้วย หยิบออกมาให้อย่างรวดเร็ว “เช็ดด้วยดิ กูมองไม่เห็น”
“...” เออ แล้วฉันก็ทำให้ไง
“ไอ้เหี้ยมิว เจ็บสัด เช็ดเหี้ยไรแรงขนาดนี้”
“กูกลัวมันไม่ออก มึงไม่รู้เหรอสมัยนี้เขามีลิปกันน้ำ ต้องเช็ดแรง ๆ” พูดพลางออกแรงหนักกว่าเดิม ถูให้คอมันขาดได้เลยยิ่งดี สำส่อนดีนัก
“กูบอกแล้วว่าอย่าทำรอย อยากแสดงตัวอยู่ได้ น่ารำคาญฉิบหาย ว่าละทำไมเดินมามีแต่คนมอง”
“ที่เขามองเพราะมึงสำส่อนไม่เลือกที่หรือเปล่า” แล้วคนปากดีอย่างมาร์คก็พ่นคำพูดไม่น่าฟังออกมาแล้ว
“ไม่ได้เอากลางสนามบอลปะ”
“ที่จอดรถข้างสนามบอลไม่ใช่หรือไง” มาร์คพูดเสียงเรียบ
“มึงรู้ได้ไงวะไอ้มาร์ค” หนูอี๊ดทำหน้าสงสัย
“มันถ่ายตอนเอากันมาให้กูดู”
“ไหนหลักฐาน”
“นี่ไง” เออ แล้วมาร์คมันก็เปิดให้หนูอี๊ดดูจริง ๆ รวมถึงหนูจี๊ดและนักรบด้วย ส่วนธัญญ่าไปเรียนแล้ว
เพื่อนพากันดูคลิปที่อินดี้ส่งมา ทว่าฉันไม่ดู ไม่อยากเห็น ไม่อยากมอง แล้วตอนนี้ก็ไม่อยากคุยกับคนที่นั่งอยู่ข้างกัน
ไอ้คนที่เพื่อนกำลังให้ความสนใจอยู่ตอนนี้มีนามว่า อินดี้ เป็นผู้ชายที่เหี้ยและเหี้ยมากและเหี้ยที่สุด
สีหน้าที่เหมือนคนไร้ความรู้สึกของมันน่ะเก็บผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ฉันไม่ควรนับให้เปลืองสมองด้วย อินดี้มันชอบผู้หญิงสวย เรียกได้ว่า คนสวย ๆ มันเก็บมาเยอะมาก
แต่ก็ยังไม่เห็นคบใครเป็นตัวเป็นตน เหตุผลที่มันไม่มีแฟนสักทีก็คงเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่อยากถูกจับจองมีเจ้าของแค่คนคนเดียว
คนไม่มีแฟนจะมีใครกี่คนก็ได้เพราะถือว่า โสด
และเพราะอินดี้มันยังเป็นคนโสด ฉันที่แอบรักมันถึงได้ยังมีความหวังเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะมันยังไม่มีเจ้าของ
งงใช่ปะว่าทำไมฉันถึงบอกว่า แอบรักอินดี้ ทั้งที่เพิ่งบอกว่ามันเหี้ยมาก ๆ
สาเหตุที่ฉันชอบอินดี้ก็เพราะเวลาที่ฉันเดือดร้อนมันเป็นคนแรกเสมอที่ยื่นมือมาช่วย ไม่ว่าจะตอนที่ทะเลาะกับที่บ้านแล้วหนีออกจากบ้าน แค่โทรหามัน มันก็มาทันที หรือตอนที่ฉันเดือดร้อนเรื่องเงิน มันก็หยิบยื่นมาให้ฉันยืมทั้งที่ฉันยังไม่ได้เอ่ยปากยืมมันเลย
ฉันกับอินดี้รู้จักกันตอนเรียนม.3 อินดี้ย้ายมากลางเทอม ย้ายจากกรุงเทพมาเรียนต่างจังหวัด เรียนห้องเดียวกันกับฉันและเพื่อน ๆ ตั้งแต่นั้นมาเราก็เรียนด้วยกันมาจนจบม.6 และมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้วยกัน
ถ้าถามว่าชอบอินดี้ตั้งแต่เมื่อไร ก็คงเป็นตอนที่เขาก้าวขาเข้ามาในห้องเรียน ครูประจำชั้นบอกให้แนะนำตัว คงตั้งแต่ตอนนั้นที่ฉันเริ่มสนใจในตัวเขา ฉันไม่เคยใจเต้นแรงกับใครมาก่อน กระทั่งได้เจออินดี้ แล้วจากนั้นเราก็เริ่มสนิทกัน เริ่มกลายเป็นเพื่อน ต่อมาความรู้สึกของฉันก็มีมากกว่าเพื่อน
ทว่าอินดี้ไม่ได้คิดแบบเดียวกับฉัน เขาไม่ได้ชอบฉันแบบที่ฉันชอบเขา ความรู้สึกนี้ฉันจึงเก็บไว้คนเดียว เก็บและกดมันเอาไว้ ห้ามให้มันหลุดออกมา ไม่อย่างนั้นเราคงมองหน้ากันลำบาก