Bad Friend 2 โมโหทำไม

1553 คำ
คอนโด ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูห้องนอนถูกเคาะรัว ๆ เคาะเหมือนมีเรื่องคอขาดบาดตาย มันยังคงดังขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าฉันยังไม่ได้ไปเปิด ก็จะเปิดได้ไง ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ ให้ไปเปิดทั้งอย่างนี้ ไม่ถูกมองว่า อ่อยเหรอ “เคาะเหมือนมีใครตาย อะไรของมึง” เจ้าของห้องยืนหน้าบึ้ง “จะออกมาคุยหรือจะคุยในห้องมึง” สีหน้าของอินดี้ยังคงตึงเครียด “ข้างนอกก็ได้ มีเรื่องไร” พูดพลางก้าวขาเดินออกมาจากห้องนอน เรื่องอะไรที่ทำให้อินดี้มันดูหงุดหงิดได้ขนาดนี้ ฉันทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวยาวหน้าทีวีจอใหญ่ 60 นิ้วได้ “ไหนพูดมาใครไปกระตุกหางมึง มึงถึงได้อารมณ์บูด” “นี่คือเหี้ยไร” เสียงดังตุ้บ! อินดี้โยนไอแพดลงที่ตักฉัน ฉันหยิบมากด เลื่อนดู ก็ไม่มีอะไรนอกจากรูปฉัน เป็นรูปที่เพิ่งถูกปล่อยออกมา ก็เลยถูกพูดถึงค่อนข้างมากจากการแชร์เป็นทอด ๆ เริ่มจากฉันแชร์โพสต์เจ้าของแบรนด์มาที่หน้าโพสต์พร้อมแคปชัน ยินดีที่ได้ร่วมงาน จากนั้นเพื่อน ๆ ในโซเชียลก็เริ่มแชร์ออกไปด้วยแคปชันต่าง ๆ ตามมาคำแซวในไลน์กลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่แปลกใจในรูปร่าง ไม่คิดว่าฉันจะซ่อนรูป “ก็รูปกูไง ทำไมอะ” เงยหน้ามองคนถาม “มึงแต่งตัวเหี้ยไร” เหมือนว่ามันจะไม่จบ “มึงไม่รู้จักชุดว่ายน้ำเหรออิน ถามอะไรโง่ ๆ วะ” “กูรู้จักชุดว่ายน้ำ แต่กูไม่เข้าใจว่ามึงใส่ทำเหี้ยไร” “เขาหาคนไม่ได้ ก็เลยให้กูไปถ่ายให้ ให้เงินดีกูก็ตอบตกลง” “มึงขาดเงินทำไมไม่บอกกู จำเป็นต้องไปแก้ผ้าเพื่อ?” “แก้ผ้าอะไรอิน นี่ชุดว่ายน้ำ แล้วแม่งเป็นงานที่ได้เงิน กูไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมมึงพูดเหมือนกูแก้ผ้าโชว์ พูดอย่างกับกูไม่ได้ใส่อะไร” “กูก็บอกอยู่นี่ไงว่า ถ้าขาดเงินทำไมไม่มาบอกกู” “อินดี้ นั่นงานที่ทำได้เงิน ได้เงินแบบไม่ต้องใช้คืน ไม่ต้องหยิบยืม ในเมื่อมีโอกาสทำไมกูต้องปฏิเสธ” “เงินที่กูให้มึง กูเคยทวงมึงเหรอมิว” “กูรู้มึงไม่เคยทวง แต่มันคนละความรู้สึก มึงเข้าใจปะมันเป็นเงินที่กูหามาได้ด้วยตัวเอง” “กูไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเหี้ยอะไรทั้งนั้น” อินดี้ทิ้งตัวลงนั่งข้างฉัน “เออ กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไมมึงต้องหงุดหงิดอะไรขนาดนี้ กูแค่ทำงาน” “แม่ง ไม่ถามกูสักคำ” “ทำไมกูต้องถามมึง” “แล้วทำไมมึงไม่ถามกู” “อิน มึงเป็นเพื่อนกูนะ และถึงจะเป็นเพื่อนกัน แต่บางเรื่องไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้ กูไม่ได้อยากรบกวนมึงไปซะทุกอย่าง เพื่อนกันก็ต้องเกรงใจไหมมึง” “เออ ก็เป็นเพื่อนไง แต่กูไม่ได้อยากมีเพื่อนเป็นกระหรี่ปะ” “ไอ้อิน” “ทำไม กูพูดผิดตรงไหน ตอนนี้มึงกำลังเริ่มแล้วมิว” “กูเริ่มอะไร” “ก็เริ่มแก้ผ้าเรียกแขกไง” “ถึงกูจะมาอาศัยห้องมึงอยู่เพราะไอ้ญ่ามันมีแฟน ถึงกูจะยืมเงินมึง แต่มึงก็ไม่มีสิทธิมาพูดกับกูแบบนี้นะอิน ถ้ามึงไม่เต็มใจให้กูอยู่ด้วยก็บอกกูตามตรง” “ทำไม มึงไม่อยู่กับกู มึงจะไปอยู่กับใคร” “กูไม่ได้มีมึงเป็นเพื่อนคนเดียว หรือถ้าไม่มีทางไปจริง ๆ กูไปเช่าห้องแถวอยู่ก็ได้” เออ ไม่ได้มีมันเป็นเพื่อนคนเดียวก็จริง แต่เพื่อนคนอื่นมันก็มีแฟนกันหมด จะไปอาศัยอยู่ด้วยได้ไง แล้วจะกลับไปนอนบ้านก็ไม่ได้เพราะบ้านกับมอไกลกันมาก ไกลแบบไม่คุ้มที่จะเดินทางไปกลับ “เหอะ มีเงินขึ้นมาหน่อยก็ตั้งท่าจะหนีจากกู” “กูไม่ได้จะหนีจากมึง แค่บอกว่า ถ้ามึงไม่สบายใจที่กูอยู่ด้วย กูย้ายไปอยู่ที่อื่นได้นะ แค่นั้นเอง” “กูพูดสักคำยังว่าไม่ให้มึงอยู่ด้วย” “ยัง แต่มึงมาโมโหใส่กู หาว่ากูเป็นอย่างว่า” “ไม่เป็นจะเดือดร้อนทำเหี้ยไร” “กูก็โกรธเป็นปะ” “มึงก็รู้ว่ากูพูดไม่คิด โมโหกูก็พูด จะถือสาอะไร ทำอย่างกับเพิ่งรู้จักกัน” “แล้วกูน้อยใจไม่ได้หรือไง” “ขอโทษ” “ก็แค่นี้” “แล้วมึงอะ” “กูอะไร” “ขอโทษกูยัง” “เรื่องไร” “ที่ไปแก้ผ้าไม่บอกกูไง” “ใส่ชุดว่ายน้ำ ไม่ใช่แก้ผ้า” “จะอะไรก็ช่าง กูไม่ชอบ รับปากกูว่าต่อไปจะไม่ทำอีก” “คนทำกันเยอะแยะ เด็กมึงกูก็เห็นใส่ชุดว่ายน้ำ แต่งตัวโป๊ ไม่เห็นมึงจะโวยวาย” “คนอื่นจะทำมันก็เรื่องของคนอื่น แต่มึงจะทำไม่ได้ กูไม่ชอบ” “มึงไม่ชอบแค่เป็นกูทำอะนะ” “เออ มึงไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้นมิว ถ้ามีปัญหาเรื่องเงินก็บอกกู ค่อยไปหักล้างกับรายงานกับงานบ้านที่มึงรับผิดชอบ” “...” “มึงเข้าใจที่กูพูดหรือเปล่ามิวสิค” “อือ” “เออ ไม่มีไรละ” “อือ” ฉันพยักหน้าเบา ๆ แล้วลุกเดินกลับเข้าห้องนอน ก่อนหน้านี้ฉันอยู่หอกับธัญญ่า ค่าห้องธัญญ่าออกทั้งหมด เพื่อนรู้สถานการณ์การเงินของฉันดี จึงพยายามช่วยฉันประหยัด ฉันจึงตอบแทนด้วยการทำความสะอาดห้อง ซักเสื้อผ้าให้เพื่อนด้วย ทุกอย่างที่เป็นงานบ้านฉันรับผิดชอบทั้งหมด แต่เมื่อหกเดือนก่อนฉันย้ายออกมาเพราะธัญญ่ามีแฟนใช่ปะ พวกเขาก็มีปัญหากัน คนมีแฟนก็ต้องอยากอยู่กับแฟนเป็นเรื่องปกติ ฉันที่ไม่ได้ช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายอะไรเลยจึงรู้สึกเกรงใจ ก็เลยย้ายออกมาอยู่ข้างนอก โดยที่อินดี้บอกว่า ‘ไปอยู่กับกูดิ มีห้องว่าง จะได้จ้างมึงทำงานบ้านด้วย กูขี้เกียจจ้างแม่บ้าน’ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ฉันมาอยู่คอนโดของอินดี้ ได้เงินและได้อยู่ใกล้คนที่แอบรัก มีอะไรไม่ดีกัน ทว่าอยู่ใกล้คนที่แอบรักมันดีก็จริง แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน ข้อเสียก็คือเราจะเห็นเขาควงใครก็ไม่สามารถโวยวายได้ เพราะเราไม่มีสิทธิ์ อยู่ใกล้ก็เหมือนไกล อินดี้มันชอบทำเหมือนห่วงใย ชอบโผล่เข้ามาทุกครั้งที่ฉันมีปัญหา ทำเหมือนมองฉันอยู่ตลอดเวลา ถึงได้โผล่มาทุกครั้งที่ปัญหารุมเร้าแล้วมันก็ช่วยฉันแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง มันชอบทำให้ฉันคิดว่า มันชอบฉัน แต่มันก็จะพูดเสมอว่า สงสาร เพื่อนกันอะไรช่วยได้ก็ต้องช่วย สุดท้ายก็จบตรงที่ สงสารเท่านั้น ก็แค่สงสาร แต่ลึก ๆ แล้วฉันแม่งก็ยังมีความหวัง อินดี้อาจจะรู้สึกเหมือนฉันก็ได้ ก็แค่รอโอกาสหรือเปล่า โอกาสที่จะสารภาพความในใจ พอคิดแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกมีความหวังใช่ปะ แล้วก็ถูกดับฝันด้วยคำว่า ก็เพื่อนกัน เพื่อนลำบากต้องช่วยดิ เพื่อนกันบางครั้งก็ไม่ต้องหวงกันขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่เห็นมันจะหวงจะห่วงธัญญ่า หนูอี๊ด หนูจี๊ดแบบที่ห่วงฉันเลย ละพอฉันถามไปแบบนี้อินมันก็ย้อนกลับมาเลยว่า พวกนั้นมันไม่ได้มีปัญหาเหมือนมึง เออ จบปะ จบเหอะ จบที่มันไม่ได้รู้สึกกับฉันแบบนั้น แต่แม่งก็ขยันให้ความหวังคนแอบรักอยู่ได้ ไม่รู้หรือไงว่าการถูกเล่นกับใจมันไม่ได้สนุกเว้ย ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีเสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ลุกจากเก้าอี้ทำงานเดินมาเปิดประตู ทั้งห้องมีกันสองคน นอกจากเจ้าของห้องจะเป็นใครได้อีก “มีไรอีก” เปิดประตูห้องนอนพร้อมถามด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย “แต่งตัวด้วย สองทุ่มออก” “ไปไหน” “ร้านเหล้า ไอ้รบมันชวน” “กูไม่ไป” “ไป” “กูบอกในกลุ่มแล้วว่าไม่ไป” “กูบอกอยู่นี่ไงว่ามึงต้องไป” “ทำไมกูต้องไป กูจะทำงาน” “สามพันออกไปเป็นเพื่อนกู” “เดี๋ยวขากลับก็ทิ้งกูไปกับสาวอีก” “วันนี้ไม่ทิ้ง” “มึงพูดแบบนี้ทุกรอบ” “รอบนี้กูจริงจัง จะไปปะ อย่าเล่นตัว สามพันเลยนะมึง” “ไหนเงิน” “เออ อีงก” แล้วอินดี้ก็ควักแบงค์พันออกจากกระเป๋ายื่นมาให้ฉันสามใบ “สองทุ่มออก อย่าแต่งโป๊นะ” “อือ” พยักหน้ารับ ปิดประตู มานั่งทำงานต่ออีกสักพัก หนึ่งทุ่มค่อยแต่งตัวก็ไม่สาย ฉันไม่ได้แต่งอะไรมากอยู่แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม