“คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ” ทันทีที่พบรักก้าวเท้าเข้ามาภายในบ้าน เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างอวบของหญิงวัยกลางคนที่รีบโผล่ออกมาจากในครัว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย
“กลับมาแล้วค่ะ” พบรักยิ้มกว้าง รอยยิ้มสดใสนั้นทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจโล่งอก
“นี่… อย่าบอกนะว่าไปที่สวนมาอีกแล้ว นมก็บอกคุณหนูอยู่ทุกวันว่าอย่าไปคนเดียว มันอันตรายนะคะ สวนก็เปลี่ยว ผู้หญิงตัวคนเดียวแบบนี้”
“พอแล้วค่ะนม” พบรักเอ่ยแทรกเสียงหวาน ก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดหญิงตรงหน้าด้วยท่าทางออดอ้อนออเซาะ
“บ่นแบบนี้ทุกวันไม่เบื่อเหรอคะ ยิ่งบ่นยิ่งแก่เร็วนะ รู้ไหม??”
“ตายจริง!! อ้อนนมแบบนี้ไปทำอะไรผิดมาคะ” นมทำท่าจะหยิกแก้มเธอเบา ๆ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูจนปิดไม่มิด พบรักหัวเราะคิกคักในอ้อมกอดนั้น บ้านหลังนี้อาจไม่ใหญ่โตหรูหราเหมือนของใคร แต่แค่ได้กลับมาเจอรอยยิ้มของนมหัวใจของเธอก็อบอุ่นขึ้นทุกครั้ง
ตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่จากไปเพราะอุบัติเหตุ โลกของเธอก็เหลือเพียงแค่นมคนนี้ ผู้หญิงที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ยังเล็กและยังคงอยู่เคียงข้างเหมือนที่พักและยึดเหนี่ยวจิตใจเธอเอาไว้เสมอ
“คุณหนูจะทานข้าวหรืออาบน้ำก่อน”
“กินก่อนดีกว่า กินเสร็จแล้วไปอาบน้ำนอนเลย”
“งั้นไปค่ะ นมเตรียมของที่คุณหนูชอบไว้”
“รักนมที่สุด”
“ปากหวานจริง ๆ”
“ยัยรัก” เสียงเล็กแหลมที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง พร้อมกับเงาร่างที่วิ่งปรี่เข้ามา
“หืม!?” พบรักหันไปมอง ก่อนจะเลิกคิ้วนิด ๆ
“มีหนุ่มหล่อฝากของมาให้” นานาพูดเสียงเจื้อยแจ้ว มือถือถุงขนมแบรนด์ดังมาโบกไปมาอย่างภูมิใจ
“ไม่เอา นานาเอาไปเถอะ” พบรักตอบพลางยิ้มขำ
“อีกแล้ว ทั้งของกินทั้งของฝากเต็มบ้านคนสวยหมดแล้วเนี่ย” นานาทำท่าละเหี่ยใจพลางบ่นไปด้วยท่าทางเว่อร์เกินจริง
“เต็มบ้านใคร บ้านตัวเองหรือบ้านกิ๊กกันแน่ อย่าคิดว่ารักไม่รู้นะ” พบรักยิงมุกสวนกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพื่อนสนิทเธอคนนี้ถึงจะมีกายเป็นชายใจเป็นหญิงแต่ก็เป็นคนที่สวยมาก
“ตาย!!! ปากเหรอนั่น ตบปากเดี๋ยวนี้เลยนะยัยพบรักตัวดี” นานาทำท่าจะฟาดแต่บนใบหน้ากลับมีแต่รอยยิ้มกว้าง
“แหม ๆ พอเถียงไม่ได้ก็โวยวายกลบเกลื่อนเลยนะ”
“ย๊ะ!! ว่าแต่แกไม่คิดจะสนใจหนุ่ม ๆ บ้างเหรอ” แต่ถึงแบบนั้นนานาก็อดจะสงสัยไม่ได้ ทำไมเพื่อนเธอถึงไม่สนใจผู้ชายคนไหนเลย ทั้งที่พบรักจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยสะดุดตาจนคนเดินผ่านต้องหันมามอง เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ทั้งมหาลัย
“ไม่!!”
“โอ้ย!! แม่คนสวยเลือกได้ ฉันละเสียดายความเป็นผู้หญิงของแกจริง ถ้าเป็นฉันนะฉันจะเก็บให้หมดทุกคนเลย” นานาทำท่าจิกหัวตัวเองเบา ๆ
“แกก็สวย ก็เก็บให้หมดเลยสิ”
“ฮึ่ยย ถ้าฉันมีมดลูกเหมือนแกนะ… ป่านนี้ไม่เหลือสักคนแล้วเว้ย!!” นานาพูดพร้อมทำท่าภูมิใจสุดชีวิต ทำเอาพบรักหลุดหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“หรือว่า… แกยังคิดถึงพี่ชายคนนั้นของแกอยู่อีก” นานาเอ่ยเสียงเบา สายตาเปลี่ยนจากล้อเล่นเป็นจริงจังในทันที
“...” พบรักชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มที่เคยมีเมื่อครู่เลือนหายชั่วขณะ
“เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวเองนะ แถมตอนนั้นก็ยังเด็กมาก หน้าตาก็จำกันแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ...” นานาพูดต่อเสียงเบาลงเพราะเธอรู้ว่าเพื่อนรักไม่เคยลืมผู้ชายคนนั้นเลย
“แต่รักจำเขาได้ ถึงมันจะรางเลือนไปบ้างแล้วก็ตาม” เสียงของพบรักเบาราวกระซิบ รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏบนใบหน้า ยิ่งนึกถึงตอนที่มีเขาพูดปลอบใจในวันที่เธอจะเพิ่งสูญเสียพ่อกับแม่และปัญหาที่เข้ามาถาโถมใส่ ตอนนั้นเธอแค่เด็กแถมอายุแค่สิบขวบเอง แม้จะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่มือใหญ่ที่ลูบหัวเธอกับคำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น
“อาจจะจำหน้าเขาไม่ได้ชัด... แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันชัดเจนมาก” เธอพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงตาเป็นประกายแปลก ๆ
นานาเงียบไป ไม่พูดอะไรอีก รู้ดีว่าความทรงจำบางอย่างของเพื่อน ไม่ใช่แค่เรื่อง ‘ความชอบ’ แต่เป็นเหมือน ‘แรงยึดเหนี่ยวหรือไม่ก็รัก’
“แกนี่มัน” นานาเบะปากแต่ก็ยิ้มออกมา “โรแมนติกเกินไปแล้ว ยัยคุณหนูโลกสวย”
“ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน แต่... รักแค่อยากเจอเขาอีกครั้ง” พบรักหัวเราะเบา ๆ พร้อมผลักแขนเพื่อนเล่นอย่างอ่อนโยน
“โลกมันกว้างนะแก การที่จะเจอกับเขาอีกครั้งมันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเลยนะ แต่ถ้าได้เจออีกครั้งคงเป็นพรหมลิขิตแล้วละ” นานาพูดปนขำ แต่แววตากลับแฝงความเข้าใจ
“งั้นรักก็จะภาวนาให้เขายังจำรักได้เหมือนกัน” เสียงของพบรักแผ่วเบา สายตามองออกไปไกลแสนไกลเหมือนฝันกลางวัน นานาไม่ตอบอะไร เพียงยิ้มแล้วเดินไปลูบหัวเพื่อนเบา ๆ
“ถ้าแกเชื่อว่าพรหมลิขิตมีอยู่จริง ก็อย่าหยุดเชื่อ จนกว่าจะเจอกันอีกครั้งนะ”
“รักนานาที่สุดเลย” พบรักยิ้มแล้วโผเข้ากอดเพื่อนทันที
“อร๊ายยย อย่ามากอดฉันนะ ฉันชอบผู้ชายไม่ชอบชะนีแบบแก” นานาร้องเสียงหลงพลางผลักร่างบางของเพื่อนออกอย่างลน ๆ ด้วยท่าทางขยาดแบบเล่นใหญ่
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ โอเค ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้” พบรักหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นบ่า “รักว่าเรารีบขึ้นห้องเรียนกันเถอะ ก่อนจะที่โดนอาจารย์แม่ดุ”
“งั้นก็รีบ ๆ เลยเดี๋ยวฉันโดนอาจารย์แม่ด่าทางสายตาอีก แค่นึกก็ขนลุกแล้วเนี่ย” นานาทำหน้าสยองปนขำ ก่อนทั้งสองจะพากันเดินออกไปพร้อมเสียงหัวเราะที่ดังกลบความกังวลในหัวใจไปชั่วขณะ