=>(ต่อ)
คนพวกนั้นเริ่มล้อมจับแขนเธอแนบกับผนังไว้แน่นทั้งสองข้าง เธอพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล
“พี่ว่าอย่าทำแบบนี้เลย มันจะเจ็บตัวเอานะ!” เธอตะโกนสุดเสียง
ทันใดนั้น.. เสียงกระแทก ปัง! ดังจากมุมทางเดิน ชายคนหนึ่งถูกเตะล้มกระแทกผนัง คนที่เหลือหันขวับรวมทั้งแพรวา
เพลิงเดินออกมาจากห้องน้ำ ในเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขน ท่าทางนิ่งแต่โคตรอันตราย
“พวกมึง..” เขาเอียงคอ หัวเราะเย็น ๆ
“มีปัญหากับแฟนกูเหรอ?”
สามคนนั้นชะงัก “แฟน..?”
“เออ มึงหูหนวกเหรอ หรืออยากให้พูดย้ำใกล้ ๆ หู” เพลิงพูดเสียงต่ำ ดวงตาเย็นเฉียบ
ชายหนึ่งคนในสามคนนั้นเริ่มโมโห
“โธ่เว้ย พูดดี ๆ ก็ได้ มึงไม่ต้องทำกร่างขนาดนี้ก็ได้มั้ง!”
“งั้นมึงปล่อย” เพลิงพูดยังไม่ทันขาดคำ
พวกนั้นยอมปล่อยแพรวา แต่ยังไม่วายจะพูดดูถูกเธอ “แต่งตัวแบบนี้ ใครจะไม่คิดว่าขายวะ ระวังไว้ละกันสาวน้อย 😏”
เพลิงหันขวับ เสียงหมัดกระแทกดังสนั่นจนผู้คนในบาร์เงียบ พลั่ก! ร่างผู้ชายที่ปากดีใส่เธอถูกซัดจนกระเด็นชนโต๊ะด้านข้าง ก่อนจะทรุดลงอย่างหมดสภาพ
เพลิงยืนเหนือร่างนั้น เหมือนเงาสีดำคิ้วเขาเรียวคมดั่งคมมีด น้ำเสียงต่ำตัดลมหายใจทุกคน
“จำไว้ … กูชื่อเพลิง อยู่ ม.เทวากร”
ชื่อที่หลุดออกจากปากเขาเหมือนคำเตือนมากกว่าการแนะนำ ไฟในดวงตาเขาลุกจนเธอรู้สึกได้ถึงไอร้อนจากผิวหนังตัวเอง
สองคนที่เหลือหน้าเสีย รีบประคองเพื่อนลากออกไปแทบไม่เหลียวกลับมา
เธอพยายามตั้งลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ
“ขอ…ขอบคุณนะคะ”
เพลิงปรายตามามอง
“ฉันไม่ได้ช่วยเธอ”
เสียงเขานิ่งเรียบเย็นชา อารมณ์ยังคงค้าง
“แค่ขี้เกียจฟังเสียงคนโวยวายมันน่ารำคาญ”
คำพูดนั้นควรทำให้เธอโมโห ทำให้หน้าอกเธอร้อนขึ้นมา ร้อนแบบไม่รู้เพราะความกลัว หรือเพราะเขา
เพลิงมองหน้าเธอหนึ่งวินาที แววตาเขาไม่ได้ถามว่าเธอโอเคไหม แต่ถามว่าใครกล้าแตะตัวเธอ คำถามที่ดูเหมือนเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอตอบด้วยซ้ำ
เขาคว้าข้อมือเธอทันที อย่างแรง แน่นพอที่ไม่ทำให้เจ็บมาก ร้อนจนผิวเธอสะท้าน
“ไป”
เธอยังไม่ทันเอ่ยถาม เขาก็ลากเธอออกจากบาร์ไปทางหลังร้าน เธอได้แต่ตามแรงเขาไป กลิ่นตัวเขาทำให้ใจเธอเต้นแรงจนขาแทบก้าวไม่ออก
ประตูเหล็กด้านหลังปิดดัง ปัง!
เพลิงยังจับข้อมือเธอแน่นกว่าเดิม
เหมือนความโกรธที่ยังเดือดจนปล่อยไม่ได้
เธอพยายามดึงกลับ
“เพลิง… ฉันเจ็บ”
เขาชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงเธอสั่น
แรงมือเขาคลายลง แต่ไม่ปล่อย
เพลิงหันมามองตรง ๆ สายตาเขาแหลมคม
“ใครบอกให้เดินคนเดียวแบบนั้น”
เสียงเขาต่ำจนเหมือนกระซิบที่ยังคุมแรงอยู่
แพรวาตั้งสติ
“ฉันต้องรายงานใครหรือนายทุกที่ด้วยเหรอ?”
เพลิงขยับเข้ามาแค่ก้าวเดียว แต่เป็นก้าวที่หลังเธอกระแทกผนังไปพร้อมกัน
เขายืนใกล้เธอจนรู้สึกถึงความร้อนที่ไหลออกจากตัวเขา
“ไม่ต้องรายงาน” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอ
“แต่ฉันไม่ยอมให้ใครแตะเธออีก แม้เสี้ยววินาทีเดียว”
หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นร่างกายเธอสั่น ทั้งเพราะอารมณ์และเพราะสายตาเขาที่เหมือนจะกลืนกินเธอทั้งตัว
“แล้วนายเป็นอะไรกับฉัน?”
คำถามที่หลุดออกมาจากปากเธอทั้งที่ไม่ควรพูด
คำถามที่แทงเข้าไปถึงจุดลึกที่สุดในตัวเขา
เพลิงยกมือขึ้นช้า ๆ ฝ่ามือเขาสัมผัสท้ายทอยเธอ
สัมผัสนั้นร้อน ไม่ใช่บังคับ แต่เป็นการจับที่เธอจะหนีไม่ได้
ปลายนิ้วเขาไล้ผ่านหลังหูเธอสัมผัสนิดเดียว ทำให้ลมหายใจเธอสะดุด
เพลิงก้มลงปลายจมูกเฉียดแก้มเธอ
ลมหายใจเขาเป่าร้อนจนต้นคอเธอขนลุก
“อยากให้บอกตรง ๆ” เสียงเขาหอบและคุมไม่อยู่
“หรืออยากให้ รู้สึก เอาเอง”
หัวใจเธอเต้นแรงจนเธอเผลอเอียงหน้าเล็กน้อยเข้าหาเขา เธอกระซิบ
“งั้นก็ทำให้ฉันรู้สักทีสิ”
เพลิงไม่รอแม้ครึ่งวินาที
ริมฝีปากเขาประกบเธอเข้าอย่างจัง ดูดดื่ม อย่างกับคนหิวกระหาย เขาพลักหลังเธอกระแทกกำแพง แรงพอแต่ไม่เจ็บ มีแค่ไฟร้อนที่พุ่งขึ้นมาตามแนวสันหลัง
จูบของเขา มันเหมือนเขากำลังยืนยันอะไรบางอย่างที่เขาไม่ได้พูดและเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ
มือเขาสไลด์ลงจากหลังเธอ ไล้ผ่านเอวในจังหวะช้า ๆ
ช้าแบบตั้งใจให้เธอรู้สึกทุกเส้นประสาท
เขาหยุดตรงจุดที่ต้นขาด้านล่างลูบไล้ไปยังก้น จับกำบีบคั่นจนเธอสั่นและกดนิ้วลงเบา ๆ แรงพอให้เธอหายใจกระเซาแรง และหลุดเสียงคางออกมา อื้ม อย่านะพูดพรางกัดริมฝีปากแน่น
เพลิงก้มลงซุกซอกคอเธอ เขากัดเบา ๆ เหมือนคุมแรงสุดชีวิต
“แพรวา…” เสียงเขาขาดห้วงไม่ใช่เพราะเหนื่อย
แต่ความอยากที่เพิ่มมากขึ้นควบคุมไม่ได้
“อย่าให้ฉันเห็นใครแตะเธออีก…ฉันจะไม่ทน”
เสียงเธอกระหืดกระหอบ มือเธอกำเสื้อเขาแน่น
เขาเงยหน้าขึ้นสายตาที่มองมาไม่ใช่โกรธ แต่เป็นความต้องการอยากได้เธอมากๆ
“นายกำลังทำอะไร…”
เพลิงแตะหน้าผากเขากับเธอ
ราวกับประคองสติของเขาเอง
“…กำลังบอกว่าเธอเป็นของฉัน”
เสียงเขาชิดริมฝีปากเธอ
“และฉันจะไม่ให้ใครแตะได้อีก”
ปลายนิ้วเขาลูบหลังมือเธอ ช้า ๆ อ่อนโยน ทำให้ไฟในอกเธอลามแรงกว่าเดิม
เธอกระซิบ
“แล้วถ้าฉันอยากให้ใครแตะได้…แค่คนเดียวล่ะ?”
เพลิงหลับตา
เหมือนคำนี้กระแทกเข้าไปถึงจุดที่เขาไม่เคยให้ใครแตะ
เขาเปิดตาช้า ๆ ในดวงตาเขามีทั้งความหึง ความหวง ความโหยหา
เธอหายใจไม่ทั่วท้อง
เขายกมือประคองแก้มเธอ นิ้วโป้งลูบผิวเธอเบา ๆ
“งั้น…” เสียงเขาแผ่วลึก
“คืนนี้ฉันจะทำให้เธอไม่กล้าให้ใครแตะได้อีกเลยนอกจากฉัน”
คำพูดนั้นแทรกเข้าไปในอกเธอและร้อนจนเธอแทบยืนไม่ไหว
คืนที่ควรจะเป็นงานวันเกิดของเพื่อน.. ..
กลับกลายเป็นคืนที่ หัวใจของแพรวา เต้นแรงที่สุดในชีวิต ❤️🔥
เสียงเพลงในผับยังคงดังสนั่น
เธอพยายามพยุงตัวเอง แต่ขาอ่อนแรงจนแทบยืนไม่อยู่ เพราะเธอหน้าจะโดนชายแปลกหน้าสามคนนั้นเอายาอะไรป้ายตรงปลายจมูกเธอก่อนหน้า
เพลิงชะงักมือสาก ๆ คว้าแขนเธอแน่น มือเธอสั่นและมันก็สั่นไปทั้งตัวเพราะเกิดจากฤทธิ์ยา
“เฮ้.. อย่าพึ่งหลับตา เธอได้ยินมั้ย” เพลิงเอื้อมมือจับไหล่เธอเบา ๆ แต่เธอเหมือนจะหมดแรง ดวงตาพร่ามัว
“อย่ามาแตะนะ.. ฉัน..”
“ใจเย็น ฉันไม่ได้จะทำอะไร” เสียงเขาต่ำและนุ่มกว่าที่คิด
เธอล้มเอนตัวลง แต่เพลิงประคองทัน เขารับร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนโดยสัญชาตญาณ เขาอุ้มเธอขึ้นแล้วพาไปด้านหลังสุดของผับ
เพลิงวางเธอลงบนโซฟา เธอหายใจหอบแรง ใบหน้าแดงจัดเพราะฤทธิ์ยา
“เฮ้.. ฟังฉันนะ เธอโดนมอมยาแน่ ๆ” เพลิงพยายามปลุกให้เธอมีสติ แต่เธอส่ายหน้าเบา ๆ เหมือนไม่รับรู้
เธอจับมือเขาแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน
“อย่า.. ไป..” เธอจับมือเขาแล้วดึงเข้ามากอดไว้ เพลิงนิ่งไปครู่หนึ่ง หัวใจเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ มือเล็กของเธอรั้งคอเขาไว้
“ฉันจะไม่ไหวแล้วช่วยฉันด้วย ฉันร้อน”
แพรวาดึงเพลิงเข้ามาใกล้อีกครั้ง ริมฝีปากทั้งสองสัมผัสกันอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นการจูบแบบร้อนแรง ดูดดื่ม ลิ้นพันกันระรัว อย่างบ้าคลั่ง
แต่ทันใดนั้น เสียงเพื่อนตะโกนจากด้านนอกดังขึ้น..!
“เฮ้! เพลิง! มึงอยู่ไหนวะ!?”
เสียงภาคินและกันเองดังลั่น เพลิงสะดุ้ง สติกลับมาในทันที เขาถอนริมฝีปากออก หายใจแรง มือยังจับไหล่เธอไว้แน่น
“ชิบหาย..” เขาพึมพำ ก่อนหันไปมองหญิงสาวตรงหน้า แพรวาแทบจะหมดสติ
“ยัยนี่..” เขากัดฟันแน่น ตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขน เดินออกไปทางประตูด้านหลังผับ พาเธอขึ้นรถหรูสีดำเงาที่จอดรออยู่ตรงนั้น โดยไม่หันกลับ
เพลิงหันมองเธอ พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “ ไปคอนโดฉัน”
เพลิงเปิดประตูรถแรงจนเสียง ปัง ‼️
แพรวาไม่ทันได้โต้ทันทีที่เธอนั่งลง เขาก็ปิดประตูฝั่งเธอ
ประตูฝั่งคนขับเปิด เพลิงนั่งลง เขาหันมาช้า ๆ คางเขาขยับขึ้นน้อย ๆ
“คาดเข็มขัด”
แพรวายกมือไปจับเข็มขัด แต่ยังไม่ทันดึง เพลิงก็คว้ามือเธอไว้ก่อนความร้อนจากฝ่ามือเขาจนใจเธอสะท้าน
เขาก้มหน้าเข้าใกล้ จนลมหายใจเขาแตะริมฝีปากเธอ
ใกล้จนเธอรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะช่วยคาดเข็มขัดจริง ๆ
มือเพลิงเลื่อนไปจับสายเข็มขัดแทน
แต่นิ้วเขากลับไล้ผ่านเอวเธอก่อน ช้า ๆ เหมือนกำลังทำให้เธอตื่นขึ้น และขนลุกขนชันอีกครั้ง
แพรวาสะท้าน
หัวใจเต้นแรงจนเบาะสะเทือน
“เพลิง…”
เสียงเธอเบา แต่เขาได้ยินชัดกว่าทุกเสียง
เขายกสายตาขึ้น
“อย่าเรียกชื่อฉันแบบนั้น…” เสียงเขาต่ำเหมือนคุมอารมณ์สุดขีด
“ฉันคุมตัวเองไม่อยู่”
เขากดล็อกเข็มขัดดัง คลิก เพลิงวางมือไว้ตรงเอวเธอ
น้ำหนักฝ่ามือทาบลงช้า ๆ แรงพอให้เธอรู้ว่าเขากำลังสั่นขนาดไหน
“แพรวา”
เขาเรียกชื่อเธอในน้ำเสียงอยากได้ แบบหิวกระหาย
เขาขยับตัวเข้ามาใกล้ เพลิงยกมืออีกข้างขึ้น
ปลายนิ้วเขาแตะคางเธอไล่ขึ้นช้า ๆ ไปจนถึงกรอบหน้า
สัมผัสแน่นแต่สั่นเบา ๆ ทำให้เธอเจ็บและเสี้ยวนิด
เขาก้มลง
เสียงลมหายใจเขาครูดผ่านริมฝีปากเธอ
แพรวาหลุดเสียงหอบ เสียวซ่านไปทั้งตัวอีกครั้ง
เพลิงพิงหน้าผากกับหน้าผากเธอ
“ถ้าเธอยังมองฉันแบบนี้…” เขากระซิบจนเธอใจสั่น
“ฉันจะจูบเธอจนลืมชื่อมันทั้งหมด”
เธอไม่หลบไม่ถอยสักมิลเดียว
สายตาของแพรวาดึงเขาเข้ามาแทบจะชนกัน
เพลิงหลุดหัวเราะในลำคอ แบบที่บอกว่าเขา ขาดความอดทนแล้วจริง ๆ
ในเสี้ยววินาที เขาก็จับที่ท้ายทอยเธอดึงเข้าหาตัว ริมฝีปากเขาแตะลงตรงมุมปากเธอ เถื่อนพอให้เธอหายใจไม่ทั่วท้อง
เขาเลื่อนปากลงมาใกล้อีก
“ขยับอีกนิด ฉันไม่รับผิดชอบนะ”
แพรวากัดริมฝีปาก ไม่รู้ว่าเพราะความกลัว หรือเพราะอยากให้เขาขยับเข้ามาอีก
เพลิงเห็นเขาหลุดเสียงต่ำในลำคอ แล้วเอียงหน้าเข้ามา
ช้า ๆ จนเธอแทบลืมวิธีหายใจ
ริมฝีปากเขาแตะริมฝีปากเธอ ดูดดื่ม จวบจ้าบ ลิ้นพันกันระรัว เร้าร้อนจนทั้งสองคนกระหืดกระหอบจนเธอเกร็งไปทั้งตัว
เขาเลื่อนมือจากแก้มเธอลงมา ผ่านต้นคอไปยังไหปลาร้า
สัมผัสนั้นร้อนเหมือนปล่อยไฟลงบนผิวเธอทีละจุด
รถทั้งคันเหมือนหดเหลือพื้นที่แค่สองคน เสียงหัวใจ เสียงลมหายใจ ทุกอย่างกลายเป็นเชื้อไฟเดียวกัน
เพลิงกระซิบชิดปากเธอ
“บอกฉันที ว่าห้ามทำ อย่าทำ”
เธอหลับตา
หายใจเข้าแรงหนึ่งครั้ง
แล้วส่ายหัวเบา ๆ
เพลิงหายใจขาดห้วง
เหมือนคำตอบนั้นบอกให้เขาอย่าหยุดทำ เขาขยับตัวเข้ามาอีก ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน นัวเนียกันอย่างร้อนแรง รถสั่นสะเทือน เขาเลื่อนมือเข้าไปในเสื้อเธอ จับกำไปตรงหน้าอกเธอ 2 ข้าง ขยำอย่างบรรจงและค่อยๆ ใช้มือค่อยๆ ลูบลงมาเรื่อยๆ ตามแนวหน้าท้องไล่ระดับลงมาจนมาหยุดที่ท้องน้อยของเธอ
จนแพรวาเสียงกระเซาแรงร้อนไปทั้งตัว แล้วแพรวาคว้ามือเขาไว้ พูดออกมาด้วยเสียงกระเซาพรางกัดริมฝีปากแน่
“ฉันวาตรงนี้คงไม่สะดวกนะ มันเจ็บหลังและเปลี่ยนท่าลำบาก”
เพลิง 🔥 ชะงักหยุดมือของเขาแล้วดึงตัวขึ้นมา หันหน้าจับพวงมาลัยแล้วรีบขับรถออกไปอย่างเร็ว
โลกก็ลุกเป็นไฟในรถคันสีดำเงานั้นรถสปอร์ตสีดำเงาแล่นฝ่าความมืดด้วยความเร็ว เสียงเครื่องคำรามต่ำราวสัตว์ร้ายกลางรัตติกาล ร่างของแพรวาที่หมดเรี่ยวแรงเพราะฤทธิ์ยา และเพลีย ถูกพาเข้าสู่คอนโดหรูของ “คุณชายหัวหน้าแก๊งเสื้อแห่งเทวากร”
โดยที่เธอไม่รู้เลยว่า..?
สิ่งที่รออยู่หลังประตูนั่น อาจเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล.. .. 😏✨