สายตาของหญ้ามองผ่านหน้าไอ้มาร์กจ้องมองที่ใบหน้าผม ในขณะที่ผมกำลังเดินสาวเท้าเข้าใกล้ไอ้เหี้ยมาร์ก น้ำเสีงของผมเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวและไม่พอใจอย่างรุนแรง เปิดเทอมวันแรกไอ้เหี้ยมาร์มันก็เปิดศึกใส่ผมทันที ไอ้นี่มันเล่นกัดไม่ปล่อยหลังจากที่มันมาก่อกวนใจผมในสนามวันนั้น ผมก็ส่งคนตามไปตามสืบแล้วจัดการพังอู่รถของมันที่ใช้ดัดแปลงเครื่องยนต์อย่าง
ผิดกฎมาตรฐานของรถที่ใช้แข่งขันในสนามแข่งทั่วๆไป มันมักจะใช้วิธีใต้ดินโกงเอาชนะคู่แข่งของมันแทบทุกครั้งที่ลงสนามหากไม่มีการตรวจสอบดีๆ ผมให้คนทำลายอุปกรณ์ อะไหล่และเครื่องมือต่างๆของมันเสียหายหนักจนไม่สามารถดัดแปลงเครื่องยนต์ได้อีก ผมคิดว่ามันจะเข็ดและไม่กล้ามายุ่งกับผมและคนของผม แต่ผมคิดผิดไอ้บ้าหมาบ้านี่ไม่ยอมลามือจากหญ้าหวาน ดีที่ผมลูกน้องผมคอยรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆของมันทำให้ผมต้องคอยตามประกบหญ้าหวานไว้ไม่ห่าง ผมเดินมาที่โรงอาหารแค่เห็นหลังผมก็จำมันได้ทันทีแล้วรีบเดินเข้ามาจนได้ยินมันพูดกับหญ้าหวาน ผมจึงต้องสวนกลับมันทันควันไม่ใช่แค่ขู่ผมจะทำทุกทางไม่ให้มันเข้าใกล้หญ้าหวานได้ ผมจะไม่มีวันยอมให้มันได้ใจตัดเส้นทางมันทุกทางเอาให้พังยับถ้ามันยังไม่ลามือจากหญ้าหวานแล้วก็ผมกับเพื่อนๆของผม สำหรับผมมันคือตัวปัญหาที่คอยก่อกวนไม่หยุด ผมคงต้องเอาจริงกับมันไม่ปล่อยให้เป็นปัญหาสร้างความรำคาญได้อีก
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะกูก็กำลังทำให้เห็นอยู่นี่ไง" ผมเดินมาประกบข้างไอ้มาร์กสองสายตาจ้องเขม็งแผ่รังสีอาฆาตใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ไอ้มาร์กมันพูดจากวนตีนจนผมอยากประทับรอยรองเท้าอยู่ที่หน้ามันให้รู้แล้วรู้รอด
"พี่ติวเตอร์มาได้ยังไง" เสียงของข้าวปุ้นดังขึ้นเหมือนกำลังตกใจ ผมหันไปมองหน้าหญ้าที่ยังมีสีหน้าสงบนิ่งแววตาเฉยชาใบหน้าไร้ความรู้สึกหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมละสายตาจากใบหน้าหญ้าสลับไปมองอาการตื่นมองซ้ายมองขวาคงกลัวว่าเพื่อนรักของผมจะตามมาด้วยข้าวปุ้นดูหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด ผมแอบมาคนเดียวโดยไม่บอกให้เพื่อนรู้
"น้องข้าวปุ้นไม่ต้องห่วงไอ้ธีร์ธามมันไม่ได้มาพี่แค่เดินผ่านคณะนี้เฉยๆแค่นั้นเอง" ผมรีบออกตัวกลัวหญ้าหวานเข้าใจผิดว่าผมตามมาเฝ้าและรีบบอกข้าวปุ้นเพื่อไม่ให้น้องกังวลใจจนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะหันมาสบสายตาหญ้าหวานที่กำลังจ้องเขม็งเหมือนกำลังจ้องจับผิดผม ผมแค่เดินผ่านมาจริงๆไหนๆก็ผ่านมาคณะนี้แล้วก็มาดูความเป็นไปต่างๆไปด้วยเลยจะได้ไปบอกไอ้ธีร์ธามถูกว่ามีใครมายุ่งเกี่ยวกับน้องสาวมันหรือเปล่า ผมทำหน้าที่เพื่อนดีคอยสอดส่องให้มันจะได้รีบจัดการกันผู้ชายพวกนั้นได้ทัน ผมหลบสายตาหญ้าหวานหันมาสนใจไอ้มาร์กที่มันยืนแสยะยิ้มกวนตีนใส่ผม
"มึงจะยืนทำเหี้ยอะไรตรงนี้หรือมีปัญหาอะไรจะเคลียร์กับกูก็ว่ามา" ผมเริ่มจะหมดความอดทนกับไอ้เหี้ย
มาร์กมันจงใจหาเรื่องชัดๆ
"มึงกับกูยังต้องเคลียร์กันอีกยาวไม่แน่กูอาจจะจบเรื่องกับมึงได้เร็วกว่าที่คิด" มันขู่ผมกลับมันอยากวัดอำนาจในมือผมแล้วมันจะได้รู้เร็วๆนี้ว่าใครที่ต้องจบที่แน่ๆคนนั้นไม่ใช่ผม
"กูรอรีบหาทางเข้าล่ะเพราะกูชอบทีเดียวจบเกมส์" ผมกับมันยังยืนเผชิญหน้าไม่มีใครถอยหนี
"ข้าวปุ้นหญ้าหวานเรารีบไปกันเถอะใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนแล้วแถวนี้ไม่มีน้ำร้อนด้วย" ไอ้หน้าจืดมันนั่งฟังนิ่งๆแต่บทมันจะพูดขึ้นมาหรือมันจะเป็นตัวปัญหาอีกคนที่ผมจะไม่ปล่อยไป
"นั่นสิหญ้าหวานเราปล่อยให้พี่ขาสองคนคุยกันเองเหอะฉันไม่อยากอยู่แถวนี้นานๆ"
"ก็ดีเหมือนกันฉันรู้สึกกินอะไรไม่ลงมีแต่คนบ้าๆ" ตาผมกระตุกเลยพอได้ยินหญ้าหวานพูด หนอยแน่หญ้าหวานกล้าว่าผมเป็นคนบ้าคนเขาอุตส่าห์เสนอตัวมาช่วยแทนที่จะขอบคุณไม่มีสักคำ
"อ้าวจะไปเรียนแล้วเหรอครับว่าจะมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนน้องหญ้าหวานสักหน่อย แต่ไม่เป็นไรวันหลังเราไปกินกันสองคนดีกว่านะครับ" คำพูดสองแง่สองง่ามพูดกับหญ้าหวานแล้วทำหน้ากวนตีนเวลาที่มันหันกลับมามองหน้าผมสงสัยมันคงอยากนอนหลอดน้ำเกลือที่โรงพยาบาลจริงๆผมกำหมัดแน่นหน้าตาตอนตึงบอกบุญไม่รับ เส้นเลือดปูดโปนนูนเด่นเป็นเส้นบนใบหน้าแสดงออกถึงความโมโหที่มาถึงขีดสุด
"ถ้าไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนสนิทก็ไม่คิดจะไปกินข้าวกับใครหรอกนะ อีกอย่างนายไม่ใช่คนที่ฉันอยากรู้จักด้วยคิดว่าไม่มีความสำคัญพอที่เราจะไปกินข้าวด้วยกัน" ใบหน้านิ่งๆบวกกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกคำพูดเชือดเฉือนดุจก้อนน้ำแข็งแหลมเสียดแทงเข้าทะลุหัวใจ มันใช้ไม่ได้ผลกับไอ้เหี้ยมาร์ก
"พี่ไม่คิดมากรอน้องหญ้าหวานได้เสมอครับ วันนี้พี่กลับก่อนแล้วกันแค่แวะมาทักทาย เพื่อยังเชื่อว่าพี่สามารถทำให้น้องหญ้าหวานไปกินข้าวกับพี่หรืออาจมากกว่านั้นเชื่อสิ" ไอ้เหี้ยที่ขยันสุมไฟใส่เข้าไปในอกผมทนแทบระเบิด มันพูดจบแล้วหันหลังเดินออกไปไม่ปล่อยให้ผมได้เล่นงาน
"หญ้าหวานว่าพี่เตอร์น่าจะกลับคณะตัวเองได้แล้วนะคะ อย่าลืมสิแค่เดินผ่านมาแต่ทำไมถึงได้อยู่นานเหมือนตั้งใจ" อารมณ์ที่ร้อนดั่งไฟถูกยัยเจ้าหญิงน้ำแข็งสาดก้อนน้ำแข็งเย็นๆใส่พูดดักซะจนความร้อน
"ใช่แค่ผ่านมาไม่ได้ตั้งใจอยู่นาน แต่บังเอิญเห็นอะไรที่มันขวางหูขวางตาแล้วอยากจะกวาดทิ้งเลยต้องได้อยู่นานไปหน่อย" เรื่องพูดซ็อตฟิวและเก็บรายละเอียดคำพูดทุกเม็ดของหญ้าหวานมักจะทำให้ผมจนมุมได้ตลอด
"รีบไปกันเถอะเราเสียเวลาไร้สาระมากแล้วเดี๋ยวก็ได้วิ่งหอบเข้าเรียนกันพอดี" ผมว่าไอ้หน้าจืดนี่มันอยากมีเรื่องกับผมอีกคน ผมยังไม่สะสางปัญหาความสัมพันธ์ของสามคนนี้เลยว่ามันเป็นมายังไง จะบอกไอ้ธีร์ธามก่อนหรือรอให้มันเจอด้วยตัวเอง ผมไม่ไว้ใจมันไม่อยากให้มันอยู่ใกล้หญ้าหวานแล้วก็ข้าวปุ้นด้วย ผมคงต้องให้คนตามเรื่องไอ้หน้าจืดเพิ่มคนในลิสผู้ชายที่ไม่ควรเข้าใกล้หญ้าหวาน
"อืมไปกัน" ทำไมหญ้าหวานดูจะฟังไอ้หน้าจืดมากกว่า ทั้งที่ผมกับหญ้าหวานรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กถึงผมจะชอบแกล้งเธอก็เถอะ อย่างน้อยเธอควรจะฟังผมมากกว่าใคร ว่าจะเดินผ่านมากินข้าวแต่ตอนนี้สามคนนั้นเดินออกไปไม่ถามผมสักคำหญ้าหวานไม่สนใจผมด้วย
"ดะ เดี๋ยว.."รอบที่เท่าไหร่ที่ผมต้องเรียกตามหญ้าหวาน ยัยน้ำแข็งนี้ชักจะทำกับผมมากเกินไปแล้วนะ คอยดูเถอะจะป่วนให้อยู่ไม่สุขเหมือนตอนที่ทำกับผมอยากรู้เหมือนกันใครจะปั่นเก่งไปกว่ากัน
"พวกมึงสองคนกำลังจะไปไหนกัน" เสียงไอ้ธีร์ธามตะโกนถามไอ้ไนท์กี้ที่รีบเดินออกจากห้องเรียนเหมือนรีบไปตามควายแล้วมีไอ้ดีเดย์ตามไปติดๆ นอกจากพวกมันสองคนจะไม่ยอมตอบไอ้ธีร์ธามแล้ว พวกมันยังไล่ไอ้ธีร์ธามไปนั่งเฝ้าน้องสาวไม่ให้หนุ่มๆเข้ามาจีบ ใครมันจะกล้ามาจีบไอ้ธีร์ธามมันหวงน้องยังกับหมาส่งคนไปสะกัดดาวร่วงกระจาย มันหวงน้องสาวมากแม้แต่กับเพื่อนยังไมีอยากให้เข้าใกล้ แล้วยังไงใครแคร์ถ้าผมอยากเข้าใกล้มันก็ห้ามไม่ได้หรอกผมหาทางเข้าใกล้ของผมเองได้ ดูเมื่อเช้าสิผมยังขับรถตามมันกับน้องไปส่งที่คณะได้เลย แต่ตอนจะกลับคณะไอ้ธีร์ธามมันก็ได้เจอคนที่มันอยากจะเจอ และดูเหมือนคราวนี้จะถูกน้องมันเมินหนัก เกมส์พลิกจากเคยวิ่งหนีตอนนี้ต้องเป็นฝ่ายวิ่งไล่ตามสมน้ำหน้ามัน ตอนน้องอยู่ดันไม่รู้ใจตัวเองทำกับน้องเขาไว้เยอะมันสมควรโดนเอาคืน เรื่องนี้ผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับมันปล่อยให้มันเคลียร์ปัญหาด้วยตัวเอง ส่วนผมก็มีปัญหาที่ต้องจัดการเพราะมีคนที่ผมอยากเอาชนะละลายก้อนน้ำแข็งออกให้หมด ผมยังไม่ล่าให้เพื่อนฟังว่าตอนเที่ยงผมไปเจออะไรมาและคิดจะจัดการกับไอ้เหี้ยนั่นด้วยมือผมเอง แล้วผมก็เริ่มลงมืออย่างลับๆเพื่อกำจัดตัวปัญหา