เสียงถามขรึมดุนั่นทำให้รัชนินท์คลี่ยิ้มกว้าง เดินเข้าเบียดตัวลงนั่งข้างๆ ร่างหนาเท่านั้นไม่พอเธอยังสอดมือเข้าโอบกอดตัวเขาแน่นตาปรายมองบนโต๊ะกระจกใสมีกระป๋องเบียร์ที่เปิดไปแล้วสามกระป๋อง
พี่ชายของเธอ สามสี่เดือนจะแวะมาหาสักครั้ง แต่เชื่อเถอะว่า เธอไม่เคยคลาดสายตาจากเขาหรอกตลอดหกปีมานี้
“ทรายไปฟิตเนสข้างล่างนี่เอง แล้วพี่ล่ะ ดื่มแต่เช้า”
ปฏิพัทธ์กำผมหางม้าเล่น เลื่อนมือขึ้นมาลูบศีรษะเล็กไปมาด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“แค่นิดหน่อยไม่เมาหรอก”
“ขืนเมา ไปหาแม่ แม่คงไม่สบายใจนะคะ”
“พูดมาก ไปอาบน้ำได้แล้ว เหม็นเหงื่อยังจะมานั่งเบียด”
“พูดเหมือนพี่อาบน้ำ ทรายรู้นะว่าพี่ยังไม่อาบ ไม่ใช่ว่าเพิ่งกลับจากไปค้างกับผู้หญิงก่อนมาหาน้องนี่น่ะ”
ปฏิพัทธ์เคาะหัวเล็กไปหนึ่งที ดันคนตัวเปียกเหงื่อออกห่าง
รัชนินท์ยิ้มทะเล้น รีบผละไปก่อนจะถูกเขกหัวอีกรอบ
คนเป็นพี่มองแล้วส่ายหน้า อายุยี่สิบแปดแล้ว น้องสาวของเขาก็ยังขี้อ้อนเหมือนเดิม
วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่ เขากับน้องสาวถือเอาวันนี้ของทุกปีทำบุญให้พ่อและแม่ โดยการเลี้ยงเพลพระ ก่อนกลับก็จะไปไหว้ท่านทั้งสองด้วยกัน
ตาคมทอดจับกระป๋องเบียร์ คำพูดของน้องสะกิดใจ
เขาทำให้แม่ต้องเสียใจก็เพราะเหล้าและคบคนเลวเป็นเพื่อน
ไอ้เพื่อนเฮงซวยนั่น!
เพราะเขาเชื่อใจมัน เห็นมันเป็นเพื่อน แต่มันกลับหักหลังเขา ใส่ร้ายเขาจนหมดอนาคตโดยที่เขาตอบโต้มันไม่ได้ นักศึกษาจนๆ คนธรรมดา มีหรือจะสู้อำนาจและอิทธิพลของนักการเมืองที่กำลังมาแรงตอนนั้นได้
เขาสู้มันไม่ได้ ต้องหมดอนาคต เรียนไม่จบ ถูกสังคมตราหน้า และหมดอิสรภาพแม่เสียใจตรอมใจ ที่สุดก็ป่วยและจากเขาไปโดยที่เขาไม่ได้แม้แต่จะร่วมงานศพด้วยซ้ำ
มือหนากำเข้าหากัน นั่นทำให้กระป๋องเบียร์เย็นเฉียบบุบบี้ น้ำเย็นเฉียบพุ่งล้นรดฝ่ามือ เรียกสติให้กลับคืน ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเนิบนาบไปยังห้องนอนอีกห้อง จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง ทว่า... น้ำเย็นๆ กลับไม่ทำให้เขาหายหงุดหงิด ปากได้รูปเม้ม กรามขบกันดังกรอด
ความเจ็บแค้นนี้ กี่ปีเขาก็ไม่มีวันลืม!
รูปถ่ายที่ติดหน้าเจดีย์บรรจุกระดูกซีดหมองไปตามกาลเวลา หากใบหน้าของทั้งสองยังประทับในความทรงจำของเขาอย่างแจ่มชัด โดยเฉพาะตอนที่ท่านร้องไห้ขณะคุยกับเขาผ่านลูกกรงเหล็ก
ปฏิพัทธ์กดกลั้นก้อนจุกแข็งให้ไหลลงไปแน่นที่กลางโพรงอก
“คิดถึงพ่อกับแม่เนอะพี่”
รัชนินท์เปรยเสียงเศร้า มือใหญ่ยกขึ้นมาโอบไหล่บีบเบาๆ กี่ปีที่มาที่นี่มันก็ทำให้เธอคิดถึงตอนที่พวกท่านยังอยู่เสมอ แม้เมื่อพ่อจากไปก็ยังมีแม่คอยดูแลปลอบใจ ครั้นแม่เสียไป เธอเคว้ง... พี่ชายคนเดียวก็ยังอยู่ในคุก ญาติพี่น้องมีก็เหมือนไม่มีเพราะไม่ติดต่อกันนานแล้ว ครอบครัวเธอจนจึงไม่มีญาติคนไหนอยากคบค้าด้วย ตอนนั้นเธอเรียนปีสี่เทอมสอง และถือเป็นความโชคดีที่ยังมีเพื่อนๆ คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างไม่รังเกียจ
“น้อง...”
มือที่บีบไหล่เบาๆ ทำให้ใจที่เริ่มเศร้าเพราะนึกถึงอดีตคลายออก พี่ชายชอบเรียกเธอแบบนี้
“ตอนนี้พวกท่านคงกำลังมองเราอยู่พี่ว่าไหม”
“อืม”
“พ่อจ๋าแม่จ๋า ไม่ต้องห่วงทรายกับพี่ธามแล้วนะ”
ปฏิพัทธ์นั่งเงียบๆ หากในใจนั้นเขาสัญญากับพ่อแม่อย่างที่บอกพวกท่านทุกปี
‘ผมจะดูแลน้องให้ดี’
หลังเลี้ยงเพลพระ ขากลับปฏิพัทธ์พาน้องสาวแวะร้านอาหารแถวนั้นก่อนกลับ
“อยากไปไหนต่อไหม”
“พี่ธามล่ะ คราวนี้มากี่วัน”
“สองสามวัน”
“ทรายไม่อยากไปไหนหรอก อยากนอนมากกว่า นานๆ จะได้หยุดงานสักที”
เธอตอบพี่ชายยิ้มๆ เธอเป็นผู้ช่วยเชฟในโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง สวัสดิการดี รายได้โอเค
“มาช่วยงานพี่ก็จบ จะทำให้เหนื่อยทำไมมากมาย”
“ไม่เอาหรอก ทรายอยากทำงานธรรมดาๆ ทรายฝันไว้ว่าสักวันจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองแหละ”
น้องปฏิเสธทันที รัชนินท์รู้ว่าเขาทำงานอะไรประเภทไหน แรกๆ เธอขอให้เลิกทำด้วยซ้ำ แต่ด้วยสัญญาใจและอะไรหลายอย่าง เมื่อก้าวเข้ามาจุดนี้แล้ว เขาก็ต้องทำมันต่อไป ผลจากความมุมานะ เขาสามารถพิสูจน์ตัวเองจนก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้ในทุกวันนี้
คำตอบของน้องกลับทำให้นึกถึงสาวน้อยอีกคน คนที่อยากมีชีวิตธรรมดาแต่เข้าไปทำงานที่ที่ไม่ธรรมดา
ช่างย้อนแย้งสวนทางกันสิ้นดี
“พี่จะค้างกับทรายเปล่า”
“ไม่ล่ะ”
ปกติแล้ว เวลามาหาน้อง เขาจะนอนที่คอนโดของเธอ แรกๆ เพื่อนข้างห้องคิดว่าเขาเป็นแฟนเธอด้วยซ้ำ
“ปกติไม่ถาม หรือว่าแอบซุกหนุ่มไว้”
“หึ!” รัชนินท์ตวัดตาค้อน ทำเสียงขึ้นจมูก “อยากซุกเหมือนกัน แต่ยังไม่เคยเห็นมีหนุ่มคนไหนเล็ดลอดสายตาพี่ธามได้สักคน”
ปฏิพัทธ์หัวเราะในลำคอ ยื่นมือไปยีผมของน้องสาวให้เธอโวยวายมาอีก
“พี่อยากให้เราเจอคนดีจริงๆ”
“โอ๊ย แบบนั้นทรายไม่ต้องจองตั้งแต่ตกท้องแม่ออกมาร้องอุแว้ๆ เหรอพี่”
“ปาก”
เอ็ดแล้วส่ายหน้าให้ ใช่ว่าไม่มีหนุ่มๆ มาติดพัน น้องสาวเขาสวย แต่เธอช่างเลือกพอดู และคนที่ไม่ไหวจริงๆ เขาก็ช่วยเขี่ยออกให้แค่นั้น
เขาเชื่อว่า โลกใบนี้ใช่จะมีแต่คนเลว ดูอย่าง...
ปฏิพัทธ์ชะงัก เมื่อหวนคิดไปถึงสาวน้อยคนนั้นอีกแล้ว เพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง เขามั่นใจอะไรนักว่าเธอขาวบริสุทธิ์ ถึงคิดแบบนั้น ตาคมยังเหลือบดูเวลาบนข้อมือ ป่านนี้เธอคงเข้างานแล้ว
ว่าแต่เธอเลือกจะหยุดหรือทำงานนั่นต่อไป