ด้านข้าวตังหลังจากที่ขึ้นขี่หลังผู้ของธีร์แล้วนั้น แขนเรียวเล็กโอบเข้าที่ต้นคอของคนตัวโต
"ผู้กองให้ฉันขี่หลังแบบนี้ ไม่หนักเหรอคะ" เสียงหวานเอ่ยที่ข้างหูของคนตัวโต ด้านธีร์ณัฐที่ถูกเด็กดื้อใบหน้าสวยถามเช่นนั้นถึงกับหลุดยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก
"เมื่อกี้เธอนอนทับตัวฉัน หนักกว่านี้อีก" เสียงเข้มหลุดเอ่ยออกมา ด้านข้าวตังที่ถูกแขวะเช่นนั้นใบหน้าสวยที่ยิ้มกริ่มถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
"ถ้าผู้กองหนักก็เดินสิคะจะได้ถึงรถฉันเร็วๆ" แต่นั้นยิ่งเธอเร่งเขา แต่คนขี้แกล้งกับยิ่งเดินช้า ราวกับว่าเขาไม่ได้หนัก แต่กับอยากให้เธอนั้นขี่หลังแบบนี้นานๆ ซะอีก ทั้งที่ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับใคร แต่มันกับเกิดขึ้นกับเธอ ธีร์ณัฐที่จะหันไปตอบ แต่ในจังหวะนั้นคนที่ต่อปากต่อคำกับโน้มใบหน้าลงมาที่บ่าไหล่ ปากบางจิ้มลิ้ม
!! จุ๊บ !! สัมผัสเข้าที่แก้มของคนตัวโตเข้าอย่างเต็มๆ
!! อุ้ย...!! ทำให้ร่างสูงที่ขาจะก้าวเดินต่อนั้นถึงกับหยุดชะงัก
"วันนี้ฉันโดนเด็กดื้อขโมยทั้งจูบทั้งหอม ถึงสองครั้งติด เธอช่วยตอบฉันหน่อยสิข้าวตังว่าฉันควรจัดการกับเด็กดื้อคนนั้นยังไงดี" ธีร์ณัฐหันมาถามใบหน้าสวยที่อยู่บนหลังของตน ด้านข้าวตังที่ถูกถามเช่นนั้น ถึงกับชะงักไป คนตัวเล็กถึงกับทำหน้าไม่ถูก
"ฉันไม่ได้ตั้งใจ มะ...มันเป็นอุบัติเหตุ" เสียงเล็กหลุดออกมาเสียอาการอย่างหนัก ให้ตายเถอะแค่เธอจะยื่นหน้าไปข้างหน้า ในจังหวะนั้นใครจะคิดว่าเขาจะหันมาพอดีละ วันนี้ฉันเป็นอะไรไป ถึงได้ทำเรื่องน่าอายต่อหน้าเขาถึงสองครั้งติด
"หึ...แน่ใจ๋...ว่าเธอไม่อยากหอมแก้มฉันจริง" ธีร์ณัฐเอ่ยขณะที่พาคนตัวเล็กมาถึงรถมอไซค์เวสป้าสีชมพูคู่ใจของเธอ คนตัวโตไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงกับใช้แขนทั้งสองข้างดักที่คนตัวเล็กเอาไว้ ไม่ให้เธอนั้นหนีตน
"คนบ้าหลงตัวเองที่สุด ใครอยากจะหอมแก้มผู้กองกัน"
"หึ..." เสียงทุ่มเอ่ยออกมาแค่นั้น ใบหน้าอันหล่อเหลายื่นเข้าหาฉันอีกครั้ง และนั้นเธอกับเลือกที่จะหลบสายตาของเขา
"ถ้าไม่คิดอะไรกับฉัน ก็สบตาฉันสิ" เสียงทุ่มตรงหน้าเอ่ยราวกับจับผิดคนปากแข็ง ข้าวตังเสียอาการหนัก
!! ตึก ตึก !! เขารู้ว่าเธอนั้นคิดอะไรกับเขา
ด้านข้าวตังที่ผู้กองใบหน้าหล่อเหลารุกตนหนักเช่นนี้ สายตาดวงเล็กสบตาเข้ากับคนตรงหน้าที่ห่างเธอไม่ถึงคืบ
!! ตึก ตึก !! หัวใจดวงเล็กเต้นสั่นแรงขึ้นมาเป็นจังหวะ จนกระทั่งธีร์ณัฐนั้นรู้สึกได้
!! ฉัน...ไม่ได้คิดอะไรกับผู้กอง"
"เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเป็นตำรวจ สืบสวน"
"อืม...ฉันพอทราบค่ะ"
"รู้ไหมว่าฉันจับคนขี้โกหกเก่ง โดยเฉพาะคำตอบที่เป็นเท็จ ฉันให้เธอตอบอีกครั้ง" ด้านธีร์ณัฐที่เห็นคนตัวเล็กออกอาการหนัก ใบหน้าสวยแดงซ่านขึ้นมาตรงหน้านั้น ผู้กองหนุ่มที่แสนจะเย็นชาถึงกับหลุดรอยยิ้มขึ้นมา
"ฉัน พูดเท็จตรงไหน...ฉันไม่ได้คิดอะไรกับผู้กอง" ข้าวตังเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ ทั้งสองจ้องหน้ากัน
"ฉันถือว่า ฉันถามเธอแล้วนะข้าวตัง อย่าหลงเสน่ห์กับจูบแรกของฉันเชียวนะ"
"ทำไมผู้กองถึงหลงตัวเอง และคิดอะไรแบบนั้นละคะ"
"เพราะเธอทำให้ฉันใจสั่นอีกครั้งไงละ" คนปากหนักอย่างธีร์ณัฐถึงกับเอ่ยออกมาอย่างไม่ปิดกลั้นความรู้สึก ด้านข้าวตังที่ได้ฟังเช่นนั้น ร่างบางถึงกับหัวใจเต้นแรงขึ้นมาไม่เป็นจังหวะ สายตาดวงเล็กสบตาเข้ากับคนตรงหน้า หมายความว่าไง คำตอบแบบนี้ ใครก็ได้ช่วยฉันที คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนี้ เขายังไม่มีใครใช่ไหม สิ่งที่ติดค้างอยู่ที่ปาก แต่นั้นเธอกับไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามเขา ทั้งสองจ้องมองกันอยู่เช่นนั้น แต่ก่อนที่ธีร์ณัฐจะโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาเข้าหาของคนตัวเล็กอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง เสียงสมาร์ตโฟนของเขากับดังขึ้นมา ทำให้ข้าวตังถึงกับเบื้องหน้าหนี ฝ่ามือหนาหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมากับเป็นสายเรียกเข้าของ
Rrrrrrrrr จ่าเข้ม
[ผู้กองจะให้ผมไปรับที่ไหนครับ] จ่าเข้มเอ่ยถามคนปลายสาย
[บ้านคุณย่าของข้าวตัง] ด้านข้าวตังที่ได้ฟังเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก
[เออ ผู้กองจะไปที่นั้นทำไมครับ] คนปลายสายเอ่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าสงสัย
[พอดีมีเด็กแถวนี้ เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะครับ] ธีร์ณัฐเอ่ยจบ ก็วางสายจากจ่าเข้มไปทันที ข้าวตังสบตากับคนตรงหน้า
"ผู้กองจะไปที่บ้านคุณย่าทำไมคะ"
"ไปส่งเด็กดื้อแถวนี้"
"ฉัน ไม่ได้เป็นอะไรมาก ขับรถกลับเองได้ค่ะ" ข้าวตังเอ่ย แต่ในจังหวะที่ร่างบางยืนทรงตัว ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ ที่ข้อเท้านั้น
!! ซี๊ด !!
ร่างสูงยืนมือกอดอกมอง เด็กดื้อที่ขายังเจ็บ และแสนจะพยศแบบนี้ เขาอยากจะรู้นักเธอจะกลับเองยังไง ท่าทีอวดดีอวดเก่งของเธอกับรู้สึกขัดตาเขาชะมัด เมื่อเป็นเช่นนั้น ธีร์ณัฐที่ทนยืนมองเด็กดื้อไม่ไหวถึงกับเดินเข้าไปที่รถเวสป้าของข้าวตังในท่าคนขับ
"ผู้กอง" ด้านข้าวตังที่เห็นท่าทีของเขาถึงกับชะงัก
"อย่าดื้อ ขึ้นมา ฉันจะไปส่งเธอเอง" เสียงเข้มเอ่ยมาอย่างออกคำสั่งกับเธอ
"ผู้กองอย่าเสียเวลาเลยค่ะ ฉันขับกลับเองได้" ข้าวตังเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม
"จะนั่งข้างหน้าหรือข้างหลัง ถ้าฉันเลือกเธอจะได้นั่งข้างหน้าแทนข้างหลังนะข้าวตัง" ด้านข้าวตังที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับขึ้นซ้อนมอไซค์และจับเข้าที่ชายเสื้อของเขาเอาไว้แน่น
"คนบ้า ลามก" เสียงเล็กหลุดออกมาว่าให้กับคนขับ
"ฉันลามกตรงไหน นี้เธอคิดอะไร ฉันแค่จะให้เธอนั่งข้างหน้าเองนะข้าวตัง" ธีร์ณัฐยังตีหน้าซื่อ
"แบบนี้ผู้กองธีร์ก็ขับไปคนเดียวเถอะค่ะ" คนโดนแกล้งเอ่ยเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ แต่ขณะที่ธีร์ณัฐขับรถออกมาจากจุดชมวิวที่มีสาวน้อยใบหน้าสวยนั่งซ้อนท้ายมาด้วยนั้น
"รถเธอมันแรงเกาะฉันแน่นๆ ถ้าไม่อยากตก" ธีร์ณัฐไม่พูดเปล่าแต่กับแกล้งบิดรถโดยใช้ความเร็ว
!! ว้าย กรี๊ด..." แขนเรียวโอบกอดเข้ากับเอวหนาอย่างใกล้ชิด ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งรักษาระยะห่างกับเขานั้น ทั้งสองร่างถึงกับแนบชิดกัน
ด้านธีร์ณัฐผู้ของใบหน้าอันหล่อเหลาที่ถูกคนตัวเล็กโอบเข้าที่เอว หน้าอกสัมผัสที่แผ่นหลังของตนนั้น คนตัวโตถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาด้วยท่าทีพอใจให้กับผลงานตัวเอง
เมื่อเห็นว่าข้าวตังเกาะเอวตนแน่นแล้วนั้น ธีร์ณัฐก็ขับรถเวสป้าซิกแซ็กไปตามริมภูเขา และแกล้งขับเซไปเซมาเหมือนคนเมานั้น
"ผู้กอง นี้ผู้กองขับเป็นไหมเนี้ย" ด้านข้าวตังที่ถูกแกล้งถึงกับเอ่ยถาม
"เป็นสิ นี้ครั้งที่สองแล้วนะที่ฉันขับรถมอไซค์"
"ห๊ะ...ครั้งที่สอง" ข้าวตังเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ เขาเคยขับเพียงสองครั้งนี้นะ ให้ตายเถอะนี้ฉันกล้านั่งกับคนขับเซแบบนี้ได้ยังไง แล้วจะมีชีวิตรอดกลับถึงบ้านไหม และนี้คืออีกเรื่องที่แปลกใหม่ที่ฉันไม่เคยเห็นผู้กองธีร์หน้าหล่อขับรถมอไซค์ไม่แข็งค่ะ เป็นอีกมุมที่ฉันเห็นเขา
พอขับมาได้สักพักและตอนนี้เขาก็ขับทรงตัวได้แล้ว เขาขับมาอีกทาง ที่เป็นตีนภูเขา ทุ่งนาขั้นบันได ที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจีลายล้อม อีกฟากฝั่งถนนเป็นทุ่งดอกทานตะวัน จากที่ขับใช้ความเร็ว ตอนนี้เขาก็ค่อยๆ ลดความเร็วลง ฉันอยากจะหยุดเวลาตรงนี้ไว้นานๆ ที่ตอนนี้เหมือนว่าเรากำลังนั่งมอไซค์ชมธรรมชาติไปด้วยกัน ข้าวตังได้แต่คิดพร้อมกับแขนเล็กโอบเอวเขาโดยรับลมเย็นๆ ใบหน้าสวยหวานและผู้กองวัยยี่สิบสามใบหน้าหล่อเหลาที่แสนจะเย็นชาถึงกับเผยรอยยิ้มไม่หุบ