ตอนที่ 9 ข่าวดีและข่าวร้าย

1455 คำ
ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงพาข้าวตังขับรถกินลมชมวิวไปได้สักพักแล้วนั้น ร่างสูงก็มาส่งเธอที่บ้าน สร้างความตกอกตกใจให้กับคุณย่าและคุณป้า ที่ผู้กองใบหน้าอันหล่อเหลาขับรถมาส่งหลานสาวสุดที่รัก คำตอบที่ได้ข้าวตังลื่นล้มที่ลำห้วย ธีร์ณัฐบังเอิญเจอเข้าพอดี "ขอบคุณผู้กองมากนะคะ ที่มาส่งข้าวตัง" คุณป้าหญิงวัยห้าสิบปลายๆ เอ่ยกับผู้กองธีร์ณัฐ "ไม่เป็นไรครับ พอดีผมบังเอิญเจอเธอลื่นล้ม เลยพามาส่งนะครับ" ธีร์ณัฐเอ่ยกับป้าของข้าวตัง "ข้าวเดินยังไง ถึงได้เจ็บหนักแบบนี้ลูก" เสียงของคุณย่าเอ่ยกับหลานสาว "ก็ทางมันลื่นนี้คะคุณย่าใครจะไปรู้ว่าตรงนั้นมันลื่น" ข้าวตังเอ่ยตอบขณะที่คุณย่านั้นนวดฝ่าเท้าให้กับเธอ "งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ" แต่ขณะที่ธีร์ณัฐจะเดินไปขึ้นรถที่จ่าเข้มมารับนั้น "ผู้กองธีร์ ของคุณนะคะที่มาส่งฉัน" ข้าวตังเอ่ยกับเขา ธีร์ณัฐกับไม่ตอบร่างสูงกับพยักหน้าให้กับเธอ ด้านข้าวตังที่เห็นเช่นนั้น ใบหน้าสวยถึงกับชะงัก เชอะ ต่อหน้าคนอื่น ต่อหน้าลูกน้องไม่รู้จะเก๊กไปถึงไหน แค่ตอบฉันมันยากนักหรือไง ข้าวตังที่ธีร์ณัฐไม่ตอบเมินเฉยต่อเธอ จู่ๆ ฉันกับรู้สึกหงุดหงิดที่เขาไม่ตอบทั้งที่ก่อนหน้านี่เขายังต่อปากต่อคำ และยิ้มกับเธออยู่แท้ๆ "ผู้กองขี้เก๊ก" ข้าวตังได้แต่ต่อว่าในใจ จนกระทั่งรถจ่าเข้มนั้นขับออกไป ร่างบางได้แต่มองตาม ด้านธีร์ณัฐหลังจากที่ร่างสูงไปส่งข้าวตัง และกลับมาถึงบ้านพักตำรวจแล้วนั้น จริงๆ วันนี้ผมก็ไม่คิดหรอกครับว่าจะบังเอิญเจอกับข้าวตังที่นั้น ทุกครั้งที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจ เหนื่อยกับเรื่องงาน การที่ไปมองดูธรรมชาติตรงจุดนั้น จุดชมวิวตรงสวนทานตะวันและแอ่งลำห้วยนั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผมชอบไปนั่งมองวิว มองสายหมอกในช่วงเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลง ที่นั้นจึงกลายเป็นสถานที่โปรดของผม แต่ใครจะคิดว่ามีคนที่คิดตรงกันกับผม ทำให้วันนี้ผมเจอกับเธอที่นั้น ขณะที่นั่งอยู่บนเตียงนอนเพียงลำพัง ฝ่ามือหนากับจับเข้าที่ริมฝีปากหนาของตน ให้ตายเถอะ ทำไมเขามารู้สึกและคิดถึงจูบริมฝีปากบางจิ้มลิ้มของเด็กแสบอย่างข้าวตังด้วย ธีร์ณัฐได้แต่นั่งคุ้นคิดเพียงลำพัง "รสจูบที่หอมหวานแสนยั่วยวน ที่คนอย่างเขานั้นห่างหายมานานนับหลายปี แต่วันนี้ข้าวตังกับรู้สึกทำให้เขาใจเต้นแรงอีกครั้ง" จู่ๆ คำพูดของเธอก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา "ฉัน...ไม่ได้คิดอะไรกับผู้กอง" นั้นคือคำพูดที่ออกจากปากของข้าวตัง เธอยังเด็กมากอาจจะไม่ใช่สำหรับเขา ธีร์ณัฐพยายามจะสลัดภาพที่เธอและเขาจูบกันนั้นออกจากหัว แต่ยิ่งคิดอะไรเงียบๆ เพียงลำพังเขานั้นกับยิ่งฟุ้งซ่าน ให้ตายเถอะหลายวันมานี้ทำไมเขาชอบนึกถึงใบหน้าหวานๆ ของเด็กข้าวตังนั้น ตั้งแต่วันที่เขาเผลอกอดกับเธอที่น้ำตกแล้ว ยิ่งวันนี้เธอรุกจูบเขาหนักแบบนี้อีก ยิ่งพยายามจะลืมแต่ภาพในหัวของเขากับเต็มไปด้วยใบหน้าสวยหวานและรอยยิ้มอันสดใสของเธอ "หึ...จูบแค่ครั้งเดียว นี้เธอร่ายมนต์อะไรใส่ฉันกัน" ธีร์ณัฐพยายามสลัดภาพคนตัวเล็กนั้นออกจากหัว แต่นั่นก็ไม่เป็นผล การที่จะลืมช่วงเวลาสั้นๆ กับข้าวตังมันกับกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาไปแล้ว !! หึ...เด็กดื้อ!! ธีร์ณัฐเอ่ยพร้อมกับเดินไปหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้เย็นขึ้นมากระดกลงคอ เพื่อให้อาการฟุ้งซ่านของตนที่มีต่อเธอนั้นค่อยๆ ทุเลาลง ด้านข้าวตังหลังจากที่ธีร์ณัฐกลับไปแล้วไม่นานบิดาและมารดาพอทราบข่าว พวกท่านทั้งสองถึงกับรีบมารับข้าวตังนั้นไปที่โรงพยาบาล ด้านข้าวตังที่ไม่ชอบโรงพยาบาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น "คุณแม่ขา นี้ข้าวไม่ได้เป็นอะไรมากนะคะ ทำไมถึงต้องพาข้าวมาให้คุณหมอตรวจด้วย" ข้าวตังเอ่ยกับมารดา เพราะเธอนั้นไม่ได้เป็นอะไรนักหนา แค่ขาแพลงนิดหน่อยทำไมถึงทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ "แม่ก็กำชับเราแล้ว นี้ถ้าผู้กองธีร์ไม่เจอหนู ลูกจะเป็นยังไง" คุณนายสายสุรีย์เอ่ยเสียงดุ "ข้าวก็ขับรถกลับบ้านคุณย่าเองไงคะ" ข้าวตังเอ่ยขณะที่มีพยาบาลนั้นเข็นเธอเข้าห้องตรวจ "ลูกสาวคุณนี้จริงๆ เลย เถียงคำไม่ตกฟาก" คุณนายสายสุรีย์เอ่ยกับสามีของตน แต่นั้นบิดาก็ได้แต่ส่ายหัวให้กับภรรยาและลูกสาว 3 วันต่อมา ด้านธีร์ณัฐขณะที่ร่างสูงนั่งอยู่ในห้องทำงานของตนอยู่นั้นแต่จู่ๆ จ่าเข้มกับเดินเข้ามาพร้อมกับถือกระเช้าผลไม้เดินมาในห้องทำงานของเขา "ผู้กองครับ ท่านดิเรกฝากกระเช้ามาขอบคุณที่ ผู้กองช่วยข้าวตังนะครับ" จ่าเข้มเอ่ยกับธีร์ณัฐ "ครับ" "ท่านชวนผู้กองร่วมทานมื้อเย็น เพื่อขอบคุณสักมื้อนะครับ" "ผมยังไม่ว่าง" ธีร์ณัฐเอ่ยแค่นั้นจากนั้นก็ก้มเซ็นแฟ้มงานตรงหน้าต่อ ด้านจ่าเข้มที่เห็นท่าทีของธีร์ณัฐที่ปฏิเสธคำชวนของท่านดิเรกนั้น "เออ ผู้กองครับ ท่านดิเรกรอคำตอบจากผู้กองอยู่นะครับ" "ตอบเขาไปว่าผมไม่ว่าง" เสียงเข้มเอ่ยมาเช่นนั้นทำเอาจ่าเข้มถึงกับออกจากห้องทำงานธีร์ณัฐทันที 2 3 วันมานี้เป็นไรของผู้กองวะ จ่าเข้มได้แต่สบถออกมา ตั้งแต่คำสั่งโยกย้ายออกมาไม่มีใครเข้าหน้าเขาติดเลยสักคน แม้กระทั่งมือซ้ายอย่างโยธินและมือขวาอย่างเขา จ่าเข้มได้แต่คิด ด้านข้าวตังนี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วที่ฉันไม่ได้ไปที่น้ำตก ลำธารเพราะตั้งแต่ฉันเจ็บขาคุณดิเรกคุณพ่อสุดที่รักของฉันก็สั่งห้าม ไม่ให้ไปสร้างเรื่องที่นั้น ที่ขาเจ็บแบบนี้ไม่ได้สร้างเรื่องมันเป็นอุบัติเหตุ แต่พวกท่านก็ไม่เข้าใจฉัน เรื่องไปที่นั้นไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนนี้สายของฉันยัยน้ำผึ้งที่มีญาติเป็นนายตำรวจสังกัดเดียวกับผู้กองธีร์นั้น รายงานฉันว่า ผู้กองธีร์สุดหล่อของฉันตอนนี้เขาโสดสนิท เรื่องนี้ทำเอาฉันใจฟูสุดๆ ไปเลยแหละ ใบหน้าสวยที่ได้ทราบเรื่องถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมา แต่นั้นรอยยิ้มสดใสฉีกยิ้มได้ไม่นานใบหน้าสวยก็ต้องหุบยิ้มลง "ข่าวดีฉันบอกแกไปแล้ว ส่วนข่าวร้ายนั้นแกตั้งใจฟังฉันให้ดี" น้ำผึ้งได้แต่จ้องมองใบหน้าของเพื่อนสนิท ขณะที่ทั้งสองสาวนั่งทานขนมในโรงอาหารของโรงเรียน "ข่าวดีผู้กองธีร์โสด ข่าวร้ายนิแกอย่าบอกนะ ว่าเขาทำสาวท้อง" ด้านข้าวตังที่ฟังน้ำผึ้งเอ่ยยังไม่ทันจบ ข้าวตังถึงกับทำสีหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมา "แบบนั้นมันจะต่างจากอะไรกับการมีแฟน" ข้าวตังยังเอ่ยขึ้นมาอีก "ไอ้ข้าว เพื่อนรักแกฟังฉันพูดให้จบก่อนสิ อย่าพึ่งตีโพยตีพายไปก่อน" น้ำผึ้งเอ่ยด้วยสีหน้าเอือมๆ ให้กับคนคิดเองเออเอง "ที่ฉันจะบอกแก คือเดือนหน้าผู้กองธีร์ณัฐของแกเขาจะย้ายไปประจำการที่กรุงเทพแล้ว" สิ่งที่น้ำผึ่งเอ่ยมาทำเอาใบหน้าสวยที่จะร้องไห้นั้นถึงกับชะงัก นั้นหมายความว่าอีกไม่กี่วัน เธอก็จะไม่เจอเขาแล้ว ด้านข้าวตังที่ได้ฟังเช่นนั้นใบหน้าสวยถึงกับชะงักซีดเผือกลงทันที "เหอะไหนแกบอกว่า ไม่ได้ชอบเขาไง" น้ำผึ้งที่สังเกตเห็นนัยตาที่เศร้าลงของข้าวตังถึงกับเอ่ยถามด้วยสีหน้าสงสัย "ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกกับเขาในตอนนี้ มันเรียกว่า จุดเริ่มต้นของความรักได้หรือเปล่า" ข้าวตังเอ่ยกับเพื่อนของเธอด้วยเสียงเศร้า และรู้สึกสับสน "ไหนๆ เขาก็จะย้ายแล้ว ฉันอยากจะเจอหน้าเขาอีกสักครั้ง" ข้าวตังเอ่ยกับเพื่อนสนิทของเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม