ตอนที่ 3

2220 คำ
ตอนที่ 3 “แน่ใจนะว่าอยากรู้” เขากระดกน้ำเปล่าในขวดเล็กจนหมดขวด สายตาก็คอยเอาแต่จ้องมองชมพู่ “ก็นะ....พูดมาเถอะ” อีกใจก็อยากรู้แต่พอได้เห็นสายตาที่จริงจังของพอลแล้วอีกใจก็ไม่อยากรู้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “เมื่อคืนตอนเดินกลับที่หาด” เขาเดินมานั่งที่โซฟา “แน่ใจนะว่าอยากรู้” เขาถามย้ำอีกครั้ง “รีบ ๆ พูดมาลีลาอยู่ได้” คนใจร้อนเอ่ยแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ “นี่ก็จ้องอยู่ได้ กูไปเตะหมาเขาหรือไง หรือกูไปฉี่หน้าบ้านใคร” “มึงสารภาพรักกับกู” พอลยกยิ้มมุมปาก แล้วเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของชมพู่จะดัง “เอาข้าวใช่ไหม” เขาลุกขึ้นยืนเดินกลับเข้าไปในห้องนอนหยิบกุญแจรถและกระเป๋าเงิน “มันจริงใช่ไหม มึงอำกูเล่นไม่มีทางจะสารภาพรักกับมึงแน่นอน มองตากูสิพอล” เธอเดินไปดักด้านหน้า “มึงอำกูเล่นใช่ไหม” “มึงบอกว่าอยากโดนด้วยนะ เอามือกูไปจับนมมึง” เขามองหน้าอกของชมพู่ที่ตอนนี้เธออยู่ในเสื้อสายเดี่ยวสีขาวพร้อมกับกางเกงขาสั้น “ไม่ใช่ กูไม่เชื่อ กู...” “บอกแล้วไงว่าแน่ใจเหรอที่จะฟัง พูดแล้วทำเป็นรับไม่ได้ ตอนนี้มึงมีสติครบแล้วจะให้กูตอบรับคำสารภาพมึงไหม” เขายังคงพูดด้วยรอยยิ้มมุมปาก พอเห็นสีหน้าของเธอก็ยิ่งนึกสนุก “จะเอาอะไรกับคนเมา ว่าไหม” เธอหัวเราะกลบเกลื่อน “ลืม ๆ มันไปเถอะนะ อย่าถือสาคนเมาเลย ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ” “กูบอกแล้วเหรอว่าลำบากใจ ไม่อยากฟังคำตอบกูหน่อยเหรอ” สายตาที่จริงจังมองมา “ช่างเถอะมึงว่ายังไงก็ยังงั้นแหละ กูไปเอาข้าวก่อน” เขาตัดบทแล้วเดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้มมุมปาก ชมพู่ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาในหัวกำลังขบคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกคำพูดของพอลเชื่อได้แค่ไหน เขาไม่เคยทำเรื่องไร้สาระสักครั้งยิ่งเรื่องที่เธอสารภาพรักนั้นยิ่งไม่มีเหตุผลที่ทำให้พอลต้องมาโกหกเธอ จิตใจตอนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันนะถึงได้สารภาพรักกับเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ชอบเหรอ! ก็ไม่ใช่ถึงพอลจะเป็นผู้ชายที่ตรงสเปคของเธอมากกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์แต่นั้นก็คือเพื่อนสนิท ไม่สามารถกลายมาเป็นคนรักได้หรอกอีกอย่างพอลก็คงคิดเหมือนกันกับเธอ ที่เขาบอกให้เธอฟังคำตอบคงเป็นคำปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยฟังไปก็มีแต่จะทำให้เธอไม่พอใจ เวลาผ่านไปยี่สิบนาทีเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นชมพู่ที่นั่งอยู่บนโซฟารีบเด้งตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปช่วยเขาถือของ แต่พอลกลับไม่ยอมเดินเข้ามาในครัวด้วยความเงียบเช่นเดิม ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจคงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนระหว่างคนสองคนถึงได้มีความไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ “พอล กูขอโทษอย่าคิดมากเลยนะ กูไม่ดีเอง” เธอยอมรับผิดเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา “จะให้กูทำอะไรไถ่บาปเมื่อคืน พูดมาเลยจะทำทุกอย่างที่มึงขอเลย” “ทุกอย่างจริงเหรอ” เขายกยิ้มมุมปากต่างจากสีหน้านิ่งเรียบเมื่อครู่ ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ได้กลิ่นแชมพูของเขาลอยมาแตะจมูกความรู้สึกจักจี้หัวใจทำให้ชมพูมีอาการใบหน้าร้อนผ่าว “อืม” เธอขยับออกมาห่าง “อยากให้ทำอะไรว่ามา” ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ในห้องครัว ก่อนมองอาหารที่อยู่บนโต๊ะใช้มือเปิดออกดูทีละถุงอย่างใจเย็น “ตอนนี้ยังคิดไม่ออก คิดออกแล้วจะบอก แน่ใจว่าจะทำทุกอย่าง” พอลเดินมาหยิบจานชามเพื่อใส่อาหาร “รับปากไปแล้ว มึงเห็นกูเป็นคนที่ไม่รักษาคำพูดหรือไง” เธอเริ่มแกะอาหารเทใส่จาน “อย่ามาโวยทีหลังแล้วกัน เรื่องเมื่อคืนกูจะทำเป็นลืมไปก่อน แต่กูคิดบัญชีกลับแน่นอนไม่ต้องห่วง” เขาพูดเหมือนจะแก้แค้นเธอคืนทำให้ชมพู่จ้องตาเขม่นอย่างเอาเรื่อง “ก็จะไถ่บาปให้แล้วไง ทำไมจะต้องคิดบัญชีคืนด้วย แค่สารภาพรักนะ อีกอย่างกูก็เมาด้วยมึงควรเข้าใจคนเมานะพอล เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน” เธอย่นจมูกใส่เขาไปทีก่อนได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ “ก็ใช่ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน มึงเคยคิดไหมว่ากูก็เบื่อ” เขาเลิกคิ้วถามสายตาสบประสานกัน เป็นเพียงแค่ไม่ถึงหนึ่งนาทีพอลก็หันมองที่อาหารตรงหน้า “มึงไม่อยากเป็นเพื่อนกับกูแล้วว่างั้น ใช่สินะ ผู้ชายเมื่อโตเป็นหนุ่มมีสาว ๆ คงเบื่อที่จะเป็นเพื่อนกับกูแล้ว เอาตามที่มึงสบายใจเลย ถือว่ากูไถ่บาปด้วยการที่มึงเลิกคบกูเป็นเพื่อนแล้วกัน” คำพูดที่ปนเอาความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ทำให้พอลหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง “ดูละครมากเกินไปหรือเปล่า การที่เพื่อนสนิทเลิกเป็นเพื่อนกันมีตั้งหลายสาเหตุ ไม่เกี่ยวว่ากูจะมีสาว ๆ หรือใครคนอื่น กินข้าวได้แล้วคิดอะไรมาก” เขาตักอาหารใส่จานให้เธอ “ก็ใครเป็นคนพูดว่าเบื่อที่จะเพื่อนกับกูก่อนล่ะ ก็ต้องคิดไหมกูแค่ทำผิดต่อมิตรภาพแค่ครั้งเดียวโดยไม่รู้ตัว แต่มึงกลับบอกว่าเบื่อ” “โยงได้ทุกเรื่องเลยนะ” เขามองอาหารที่ตัวเองตักให้ ก่อนใช้สายตาจ้องให้เธอตักอาหารเข้าปาก “โอเค กูแค่ล้อเล่น” “ล้อเล่น?” เธอเอียงคอถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “รีบ ๆ กินข้าวเถอะกูง่วงนอน” เขาตัดบทแล้วรีบทานอาหารตรงหน้าด้วยความเงียบ พอลรู้ว่าตอนนี้ชมพู่กำลังสับสนหากยังฝืนพูดเรื่องเมื่อวานกับเธอมีแต่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปกันใหญ่ “อะไร? กูรู้สึกว่ามึงสองคนแปลก ๆ” ปิ่นโตมองพอลและชมพู่สลับกันไปมา เมื่อเข้าเรียนในเช้าวันจันทร์บรรยากาศที่ไม่เคยเงียบกลับดูแปลกไปจากเมื่อก่อน “ทะเลาะกันเหรอ?” “น่าจะใช่” น้ำปิงเองก็คาดเดาไม่ต่างจากปิ่นโตที่เป็นเพื่อนสนิทอีกคน “ทิมลองถามพู่หน่อยสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น” “ถามแล้ว” เธอไหวไหล่เมื่อทำอะไรไม่ได้ บรรยากาศก็คงตึงเครียดมากกว่าเดิมหลายเท่า “พอลมึงทะเลาะกับพู่เหรอ” เป็นปิ่นโตที่ขยับเข้ามาถาม “ตอบดิพวกกูเริ่มเป็นห่วงพวกมึงสองคนแล้วนะ” “เปล่า” เขาตอบสั้น ๆ หันมองไปทางชมพู่ ตั้งแต่ตื่นนอนเธอก็ไม่ยอมพูดคุยกับเขาเลย หรือว่าเธอนึกเรื่องของวันนั้นออกแล้วจึงโกรธที่เขาโกหก “อาจารย์มาแล้ว” น้ำปิงเอ่ยขึ้นเพื่อนเตือนเพื่อนให้เลิกคุยกัน นั่งเรียนไปจนกระทั่งตอนเที่ยงพวกเขาจึงชวนกันมาเที่ยวเล่นที่คาเฟ่แมวแห่งหนึ่ง เพราะวันนี้มีเรียนแค่ช่วงเช้าส่วนวิชาตอนบ่ายนั้นอาจารย์ลาป่วยจึงให้การบ้านมาทำแทน “มึงนี่ก็ลงทุนขับรถออกมาจากตัวเมืองจริง ๆ” ปิ่นโตที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าพร้อมกับน้ำปิงเอ่ยขึ้น รู้ว่าน้ำปิงกำลังตามใจแฟนสาวที่นั่งอยู่ตรงเบาะด้านหลัง “มึงเชื่อไหมว่าสองคนนั้นไม่ได้ทะเลาะกัน” “ก็เห็นนั่งรถไปด้วยกัน คงไม่ได้ทะเลาะกันหรอกมั้ง ไอ้พอลมันบอกว่าอยากคุยกับพู่ เดี๋ยวตามมา” “ขอให้คืนดีกันเถอะ กูนี้อึดอัดแทนจริง ๆ” ปิ่นโตหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบข้อความก่อนที่ภายในรถยนต์จะเงียบสงบ “วันนี้เป็นอะไร โกรธเหรอ” พอลเป็นคนเอ่ยถามเมื่อรถยนต์ขับเคลื่อนตามรถยนต์ของน้ำปิงออกนอกเมือง “ใครกันแน่ที่โกรธ มึงไม่คุยกับกูก่อนเอง” เธอรู้สึกน้อยใจตั้งแต่ทานข้าวเสร็จเมื่อวานพอลก็ไม่คุยกับเธอเลย เป็นเธอที่ต้องคิดว่าเขาโกรธมากกว่าไม่ใช่เขาคิดว่าเธอโกรธ “ไม่ได้โกรธ ปกติกูเป็นคนพูดมากหรือไง” “ก็ใช่ แต่ใครให้มึงเงียบใส่กูก่อน ถ้าเป็นมึงจะคิดยังไง” ชมพู่รีบหันมองใบหน้าด้านข้างของพอล เขากำลังตั้งใจขับรถรอยยิ้มบาง ๆ ที่นาน ๆ ครั้งจะได้มองเห็นทำให้เธอเองก็ยิ้มตามเขาออกมา “มึงไม่ได้เบื่อที่จะเป็นเพื่อนกูจริง ๆ หรอกใช่ไหม” “ไม่รู้สิ” “เห็นไหม ตอบแบบนี้จะให้กูคิดยังไง พอล....พอลจ๋า” เธอเปลี่ยนน้ำเสียงแล้วสวมกอดที่ลำแขนของเขา “หายโกรธเถอะนะ อย่าเบื่อกูเลยถ้าในโลกนี้กูไม่มีมึงเป็นเพื่อนชีวิตของกูคงอยู่ไม่ได้” “มีผัวก็ลืมกูแล้ว” “แต่ตอนนี้กูยังไม่มี แต่กูสัญญาว่ามีผัวก็จะไม่ลืมมึงจริง ๆ นะ” เธอยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้า “สัญญาเลย มาสิมาเกี่ยวก้อยกัน” “เลิกเอานมมาเบียดแขนกูได้แล้ว” “ทำไมมีอารมณ์หรือไง” ชมพู่ไม่พูดเปล่าจ้องมองไปที่เป้ากางเกงสีดำของพอล “อืมหืม มีอารมณ์จริงดิ” เธอรีบปล่อยมือออกจากแขนของเขาทันที “ลืมอะไรไปหรือเปล่า” พอลหันมามองเมื่อรถยนต์หยุดนิ่งที่ไฟแดง “กูเป็นผู้ชาย และยังสามารถเป็นผัวมึงได้ด้วย” “ห๊ะ!” ชมพู่อุทานออกมาด้วยความตกใจ “ผัวเหรอ? บ้าบอใครจะเอามึงเป็นผัวไม่เอาด้วยหรอก” เธอส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ก็ต้องมาดูว่าจะเป็นยังไง” เขายิ้มมุมปากอีกครั้ง อยากให้เธอได้มองเห็นสีหน้าของตัวเองตอนนี้จริง ๆ “ใช่ อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่แน่กูอาจได้อุ้มหลานก่อนมึงก็ได้นะ สาว ๆ เยอะเหมือนมึงกูว่ากูต้องได้อุ้มหลานแน่ ๆ ในอีกไม่กี่ปี” “ถ้าบอกว่าอุ้มลูกจะมีความเป็นไปได้มากกว่า” พอลยังพูดต่อตอนนี้เขากำลังตั้งใจขับรถสายตามองไปที่ถนนอยู่เช่นเดิม “ใครจะอุ้มลูกกูเหรอ แต่ก็ไม่แน่กูอาจได้อุ้มลูกกูกับผัวก่อนมึงก็ได้เนอะ แต่ตอนนี้กูต้องหาแฟนให้ได้ก่อน ว่าแต่...ในฐานะที่มึงเป็นผู้ชายมึงคิดว่าหน้าตากูได้กี่คะแนน” เธอหันไปมองพอลอีกครั้ง “หนึ่ง” เขาตอบสั้น ๆ “มาตรฐานหน้าตาของมึงสูงขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมกูได้แค่หนึ่งคะแนน กูคิดว่าตัวเองสวยเอาเรื่องอยู่นะ” “แล้วทำไมถึงไม่มีแฟนสักทีล่ะ” คำพูดเหมือนตอกย้ำเข้าใจดำของชมพู่ ภายในรถเงียบเสียงไปทำให้พอลเหลือบมองเล็กน้อย “ความสวยใช้ไม่ได้กับผู้ชายทุกคนหรอก มันอาจเป็นความประทับใจแรกที่เจอก็จริง แต่พอได้รู้จักแล้วมันอาจไม่ใช่ก็ได้” “ที่พูดมาก็มีเหตุผลนะ แต่กูยังเคืองคะแนนที่มึงให้กูอยู่เลยนะ คนบ้าอะไรสวยขนาดนี้ให้หนึ่งคะแนน” เธอบ่นและยังได้ยินเสียงหัวเราะของเขา “ก็หนึ่งในใจกูไง” พอลยังทำหน้านิ่ง แต่คนที่ฟังกลับหัวใจเต้นแรงหันมองไปทางเขา “รู้ว่าหล่อไม่ต้องมองนานก็ได้” “หลงตัวเอง ไม่คุยด้วยแล้ว ทุกวันนี้กูปวดหัวกับคำพูดมึงมากเลย ไม่รู้เรื่องไหนเรื่องจริงหรือล้อเล่นกันแน่” ความรู้สึกเขินอายเธอปิดมันไม่มิดหรอก เพราะพอลยิ้มมุมปากเมื่อมองเห็นว่าชมพู่เขินกับคำพูดของเขา มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะเอ่ยคำพูดแบบนี้ เพราะตอนนี้เส้นที่เคยขีดเอาไว้เขาก้าวขาข้ามมันมาข้างหนึ่งแล้ว พอลได้แต่เตือนใจตัวเองว่าอย่าทำให้เธอตื่นตูมเขาจะค่อย ๆ ทำให้เธอเปลี่ยนไปไม่ต่างจากตัวเอง ถึงจะมีความเสี่ยงอยู่มากแต่ก็อยากลองเสี่ยงสักครั้งพอถึงตอนจบ เขาจะยอมรับทุกเรื่องด้วยความเต็มใจ “ทำแบบไหนถึงจะเรียกว่าจริงจัง” เขาไม่เข้าใจผู้หญิงมากนัก “ให้แม่ไปขอเลยไหม” “นี่จริงจังใช่ไหม? อย่ามาอำเรื่องแบบนี้นะ ถึงกูจะหาผัวไม่ได้ก็เถอะ แต่จะให้แต่งกับมึงกูไม่เอาด้วยหรอกนึกภาพไม่ออกตอนอยู่บนเตียงกูต้องครางยังไง ต้องครางผัวขา หรือเพื่อนขาดีละ” เธอหัวเราะ ++++++++++++ ที่หนึ่งในใจ มีความเขิน555 ต่อไปน้องจะครางผัวขา หรือเพื่อนขาดี5555
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม