ตอนที่ 2

2083 คำ
ตอนที่ 2 “กูกลับก่อนนะ พู่เมามากแล้ว” พอลเอ่ยกับเพื่อน เมื่อมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้ก็พึ่งสี่ทุ่ม เพื่อน ๆ ยังอยากนั่งดื่มกันต่อเพราะติดลม “ให้ไปด้วยไหม” ทับทิมมองชมพู่ด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้อง ดื่มกันต่อเถอะ” พอลคว้าเอาแขนของชมพู่ขึ้นพาดบ่า ประคองออกมาจากร้านเดินตามถนนเลียบหาดเพื่อกลับที่พัก “เดินดี ๆ หน่อย” เขาเริ่มหัวเสียเมื่อชมพู่เดินเซไปเซมา “ฉันไม่อยากกลับ เอาเหล้ามาดื่มอีก” เธอหยุดนิ่งก่อนแหงนมองพอล “ยุ่งอะไรด้วยเนี่ย กูจะดื่มมึงชอบขัดตลอดเลย” “เมาจะตายห่าอยู่แล้วยังจะดื่มอีกเหรอ ดูสภาพตัวเองซะบ้างกลับได้แล้ว” เขาพูดอย่างใจเย็นไม่ถือสาคนที่กำลังเมา “อย่าเรื่องมากนะพู่” “ทำไม กูไม่อยากกลับมึงตามใจกูตลอดไม่ใช่เหรอ ตามใจกูอีกสิ” “มึงไม่ใช่เด็กสามขวบที่จะให้กูเอาใจ” เขาจ้องมองหน้าอกอวบอิ่มแน่นอนว่าผู้ชายคนไหนเห็นก็ต้องกลืนน้ำลาย “ถ้าเป็นแบบนี้ครั้งหน้ามึงไม่ต้องดื่ม รีบกลับ” เขาออกแรงยกเธอขึ้นพาดบ่าเดินกลับที่พัก “ไม่เอา ! ปล่อยกูไอ้พอลบ้า ปล่อยกู!” มือทั้งสองข้างตีลงที่หลังของเขา ศีรษะที่ห้อยทิ้งลงไปทำให้เกิดอาการวิงเวียน “กูจะอ้วกปล่อยกูลง” สุดท้ายพอลก็ต้องยอมปล่อยให้ชมพู่ยืนที่พื้น อาการสะอึกจึงเกิดขึ้นนั้นก็หมายความว่าเธอเมามาก ถึงพอจะมีสติแต่ก็คงประคับประคองร่างกายให้เดินกลับที่พักด้วยตัวเองไม่ได้ในตอนนี้ “เมื่อไหร่จะเลิกใส่ชุดแบบนี้สักที พอไม่มีสติมันจะหลุดจนเห็นหัวนมมึงหมดแล้ว” เขาคอยแต่จะดึงเกาะอกขึ้นให้เธอ ผ้าคลุมไหล่ที่สวมให้ตอนแรกตอนนี้มันร่วงไปไหนแล้วไม่รู้ “ไปคาราโอเกะกันเถอะ ฉันอยากร้องเพลง เพลงจ๋าพี่มาแล้วจ้ะ” แล้วเสียงร้องเพลงก็ดังขึ้น เธอร้องแหกปากได้ยินไปสามบ้านใครที่เดินผ่านไปมาต้องหันมอง ถึงถนนเส้นนี้จะไม่ได้เงียบสงบแต่เสียงของชมพู่ก็ดึงดูดสายตาของผู้คน ไม่ใช่ว่าเธอร้องเพลงไพเราะแต่เป็นเสียงที่เพี้ยนจนหมาได้ยินต้องวิ่งหนี พอลถอนหายใจที่เพื่อนสนิทแหกปากไม่ยอมหยุด เขาได้แต่พยุงเดินอย่างรวดเร็วตรงกลับห้องพัก “หยุดก่อน” เสียงของชมพู่ดังขึ้นอีกครั้ง “ฉันอยากเล่นน้ำ” “เป็นบ้าหรือไง เวลาไหนจะมาเล่นน้ำ เมาก็ควรกลับห้องนอน” “ไม่เอากูไม่กลับกูจะเล่นน้ำ” หญิงสาวสะบัดตัวออกแล้ววิ่งตรงมาที่ชายหาด พอลเห็นถึงกับต้องกัดฟันวิ่งตามคนขี้เมา กว่าจะคว้าตัวเอาไว้ได้ก็ทำให้ล้มลงไปบนพื้นทรายพร้อม ๆ กัน “เป็นอะไรไหม!” พอลรู้สึกตกใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงของเพื่อน “มึงกำลังบีบนมกูอยู่” เธอจ้องมองที่หน้าอกของตัวเอง มือของพอลวางทับเต็มมือ “เป็นไง นิ่มดีใช่ไหม เหมือนผู้หญิงที่มึงนอนด้วยปะ” “มึงพูดบ้าอะไร” เขารีบขยับตัวออกห่างก่อนลุกนั่งปัดทรายออกจากตัว “กลับได้แล้วมันดึกแล้ว” “กูถามไม่ได้ยินเหรอ” ชมพู่ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ “ตอบสิแล้วกูจะกลับ” “ทำไมกูต้องตอบ” พอลมองใบหน้าที่ยิ้มด้วยสายตาหวานเยิ้ม แก้มทั้งสองข้างของชมพู่แดงเหมือนลูกท้อ ก่อนที่จะเอื้อมมือไปปัดทรายที่ตัวของเธอออกให้อย่างเบามือ “ก็กูเป็นเพื่อนมึงไง” ใบหน้ายังคงยิ้มจ้องมองพอล “ถ้ายังไม่รู้คำตอบจับอีกทีก็ได้” เธอดึงมือของพอลวางทับลงไปที่หน้าอกของตัวเอง “มึงกำลังยั่วกูอยู่เหรอ” สายตาคมจ้องมองสบตา “กูเตือนมึงก่อนนะพู่ กูเป็นผู้ชาย ต่อให้กูเป็นเพื่อนมึงกูก็คือผู้ชาย” พอลอดไม่ได้ที่จะใช้มือบีบหน้าอกที่ล้นมือของชมพู่ “อื้อ...” เธอครางเสียงหวาน “อีกหน่อย” “มึงนี่มัน! ทำหน้าแล้วครางแบบนี้มึงอยากโดนใช่ไหม” เขากลืนน้ำลายลงคอ จ้องมองริมฝีปากอวบอิ่ม “กลับเถอะ” สุดท้ายก็เป็นเขาที่ต้องดึงมือกลับ ดึงให้ชมพู่ลุกขึ้นจากพื้นทราย “กูอยากโดน” คำพูดของเธอทำให้เขาหันมาสบสายตา “กูอยากโดนมึงหูหนวกเหรอ” “ถ้ามึงมีสติครบถ้วนกูจะสนองให้ แต่วันนี้คงไม่ได้” พอลรีบอุ้มชมพู่ขึ้นแล้วเดินตรงกลับห้องพัก “ทำไม? มองกูทำไม” “ก็แค่มองว่ามึงหล่อ” เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำพูดแบบนี้จากปากของเธอ “มึงว่ากูสวยไหม” “สวย” “แล้วทำไมกูถึงไม่มีแฟนสักที” พูดจบ พอลก็หยุดเดินทันที ก่อนที่ทั้งสองจะจ้องตากัน “หรือเป็นเพราะกูแรดไม่พอ” “ประสาท” เขาออกเดินอีกครั้ง “เก็บซิงมึงเอาไว้ชิงโชคหาผัวดี ๆ เถอะ มึงมันหัวอ่อนดูผู้ชายไม่เป็น เอาไว้กูหาผัวให้ไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นโสดตาย” “มึงพูดจริงนะ สัญญามาก่อน” เธอชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าของเขา “เร็วสิ สัญญาก่อน” เขายอมเกี่ยวก้อยกับเธอ ทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจก่อนที่ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้มจะซุกเข้ามาตรงลำคอของพอล “ถ้าดื่มแล้วเมา ครั้งหน้ากูจะฟ้องแม่” “ไม่เอา ถ้าฟ้องแม่ แม่ก็ต้องบ่น มึงจะฟังแม่บ่นด้วยกันกับกูไหม เพื่อนกันเขาต้องเก็บความลับกันได้สิ เพื่อนกันก็ต้องรักกันสิ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเชื่องช้า “อืม ต้องรักกัน” เสียงที่ดังอยู่ในลำคอแต่คนในอ้อมแขนกลับไม่ได้ยิน พอลได้แต่ถอนหายใจรู้ว่าเส้นที่ขีดเอาไว้ระหว่างเขาและเธอมีสถานะเช่นไร “พู่ ตื่นได้แล้วไปกินข้าวจะรวมตัวกันแล้วนะ” ทับทิมที่แต่งตัวเก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเดินมาเขย่าตัวเพื่อนให้ตื่นนอน “ได้ยินไหม เดี๋ยวก็สายหรอก” “อือ ขออีกห้านาที” เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง “ห้านาทีก็นอนไปเถอะ กูไม่รอมึงแล้วนะ เขาเรียกรวมตัวกันแล้ว” เธอดึงผ้าห่มออกทำให้คนที่นอนหลับอยู่ค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง “ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว” มือคว้าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาก่อนที่จะรีบลนลานวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว พอออกมาในห้องก็ไม่มีใครแล้ว ชมพู่รีบแต่งตัวเก็บกระเป๋าอย่างรวดเร็วก่อนเสียงเคาะประตูห้องจะดังขึ้น พอลยืนกอดอกอยู่หน้าประตูก่อนเดินเข้าห้องมาเมื่อเธอเปิดออกให้ เขาไม่พูดอะไรเดินมานั่งที่ปลายเตียงนอน จ้องเขม่นมาที่ร่างบางที่กำลังเร่งรีบให้ทันเวลารวมตัว “เขากลับกันหมดแล้ว” “อะไรนะ!!” เธอหันขวับมามองพอลอย่างรวดเร็ว “กลับกันหมดแล้ว? ตายแน่ ! อาจารย์ให้ฉันไปเช็กชื่อน้องด้วยสิ” “ทิมบอกอาจารย์ว่ามึงไม่สบาย กูเลยทำหน้าที่ของมึงไปแล้ว เห็นบอกว่าปวดหัวดีขึ้นหรือยังนี่ยา” เขาวางถุงยาลงบนเตียงนอน “ไปกินข้าวก่อนค่อยกินยา” “ไม่อยากกินอะไรเลย” เธอเดินมาทิ้งตัวลงนอนที่เตียง “แล้วทิมกับปิงล่ะ” “กลับไปพร้อมเพื่อนคนอื่น ๆ แล้ว ทิมบอกว่าให้มึงนอนพักอีกหน่อยท่าจะไม่ไหว” เขากวาดตามองคนตรงหน้า ก่อนเอามือมาอังที่หน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิของร่างกาย “เหมือนจะมีไข้นะ” “ก็เมื่อวานตากแดดทั้งวัน” เธอปัดมือของเขาออก “มองหน้าแบบนี้มีอะไร” “จำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เหรอ?” เขาไม่น่าคาดหวังอะไรจากคนเมาเลยจริง ๆ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ? กูคงไม่ได้ก่อเรื่องหรอกใช่ไหม พอลบอกกูทีว่ากูไม่ได้ก่อเรื่อง” สีหน้าของชมพู่ดูเป็นกังวล “ทำไมเงียบแบบนี้ กูสร้างเรื่องร้ายแรงเลยเหรอ” “อืม ร้ายแรงมาก กลับกันได้หรือยัง หรือว่าอยากนอนพักต่ออีกหน่อย” “บอกกูมาว่ากูไปสร้างเรื่องอะไร เร็วสิพอล กูใจหายเลยนะ” แขนของพอลถูกเขย่ารบเร้าจากคนร่างเล็กให้บอกว่าตนเองนั้นทำอะไรผิดพลาดไป “นึกให้ออก กลับเถอะเก็บของเสร็จหมดแล้วใช่ไหม” เขาตัดบทเดินมาถือกระเป๋าให้กับเธอ “อย่าลืมโทรบอกแม่ด้วย แม่โทรหาตั้งหลายครั้ง” เขาไม่ลืมบอกให้ชมพู่โทรกลับหากคนในครอบครัว “พอล บอกกูมาเถอะรู้ไหมว่ากูร้อนใจ เมื่อคืนกูสร้างเรื่องอะไรเอาไว้กูคิดยังไงก็คิดไม่ออกจำได้แค่ตอนนั่งดื่มที่ร้าน” คนที่เดินตามหลังมายังคงถามไม่เลิก “นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก รีบ ๆ ไปขึ้นรถจะได้รีบกลับไปพักผ่อน” เขาเดินเอากระเป๋ามาเก็บที่ท้ายรถยนต์ แล้วตรงไปนั่งประจำที่คนขับ “เป็นอะไร โดนแม่บ่นมาเหรอ” ชมพู่มองพอลที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง “เป็นอะไรก็พูดสิ เราไม่มีอะไรปิดบังกันไม่ใช่เหรอ” “นอนไปเถอะ ถึงแล้วจะปลุก” เขาจ้องมองถนนโดยไม่หันไปมองคนนั่งข้าง ขับรถกลับมาที่คอนโดเกือบสามชั่วโมงพอลปลุกให้ชมพู่ตื่นเมื่อถึงห้องพักแล้ว พวกเขาทั้งสองคนพักอยู่ที่ห้องเดียวกัน โดยมีพ่อกับแม่ทั้งสองช่วยหาห้องพักนี้ให้ คอนโดหรูใกล้กับมหาลัยที่เรียนหากต้องเดินทางไปกลับบ้านก็เกือบสองชั่วโมงต่อวัน “หิวแล้ว” เธอลูบมือลงที่ท้องก่อนหันมองไปทางพอลเมื่อเข้ามาอยู่ภายในลิฟต์ แต่ชายหนุ่มกลับเอาแต่เงียบ “กูทำผิดร้ายแรงกับมึงใช่ไหมเมื่อคืนถึงได้เงียบใส่กูแบบนี้” “อยากกินอะไร” “ต้มยำทะเลน้ำข้น พวกของเผ็ด ๆ” เธอรีบยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเสียงของเขา “บอกมาเถอะว่ากูทำอะไรเมื่อคืน ถ้ากูทำผิดกูก็ต้องขอโทษ” “กูไม่ได้คาดหวังกับคนเมา” เขาพูดตัดบทและทันทีที่ลิฟต์เปิดออก พอลก็ลากกระเป๋าสองใบไปที่ห้องทันที “ถ้ามึงดื่มจนเมาต้องทำแค่ตอนที่อยู่กับกูเท่านั้นเข้าใจไหม” “อืม ขอโทษนะ” ชมพู่เดินตามพอลเข้ามาในห้องก่อนที่กระเป๋าของเธอจะถูกส่งมาตรงหน้า แล้วแยกกันเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง คอนโดหรูมีห้องนอนแยกสองห้องมีห้องน้ำในตัวห้องครัวห้องนั่งเล่นและระเบียงที่เป็นสัดส่วน ทุกอย่างครบครันด้วยฝีมือของพ่อแม่ที่ไม่อยากให้ลูกทั้งสองคนลำบาก การพักรวมกันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เพราะพอลและชมพู่นอนห้องด้วยกันบ่อยครั้ง ทั้งยังเป็นความเชื่อใจของทั้งสองครอบครัว “สั่งอาหารแล้วนะ” ชมพู่ที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดินมาเคาะประตูห้องนอนของพอล ก่อนที่จะเปิดเข้าไปด้านในมองเห็นเขาที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยการพันผ้าขนหนูผืนเดียวไว้ที่เอว “อืม” เขาขานรับแล้วเดินไปเลือกเสื้อผ้าในตู้ “จะลงไปเอาข้าว จะซื้ออะไรไหม” “อยากกินเป๊ปซี่” เธอพูดแล้วเดินออกมาจากห้องนั่งลงที่โซฟา ไม่นานพอลก็เดินตามออกมาตรงไปที่ห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่ม “เป็นอะไร” เขาหันมามองเมื่อเห็นชมพู่ยืนอยู่ด้านหลัง ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนที่เธอเข้ามาในห้องครัว สีหน้าดูไม่ดีมากนักจนทำให้พอลรู้สึกเป็นกังวลว่าเธอไม่สบายหรือเปล่า “โกรธใช่ไหม กูต้องทำอะไรผิดมากแน่ ๆ ปกติมึงไม่เป็นแบบนี้ พอล...กูทำอะไรกันแน่มึงถึงได้เป็นแบบนี้ บอกกูมาเถอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม