ดวงใจนที ตอนที่ 6

1368 คำ
ธิดาภัสสลึมสลือ ลืมตาขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ในบ้านสไตล์คาวบอยหลังเดิม รู้สึกถึงความหนักอึ้งและเจ็บไปทั้งเนื้อตัว เธอมองไปรอบห้องเห็นอาลูเด็กสาวชาวเขานั่งสัปหงกอยู่ และตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ได้ เธอทบทวนความทรงจำ จำได้ว่าเธอกำลังวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตจากนั้นก็ไปเจออสรพิษยักษ์ และความทรงจำก็ดับลงแค่นั้น เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวมันเจ็บมันปวดไปหมด หันไปมองเห็นเสาน้ำเกลือต่อกับข้อมือ ยิ่งทำให้ฉงนใจยิ่งขึ้นไปอีก ในป่าในดงแบบนี้เอาเครื่องมือแพทย์เหล่านี้มาจากไหน หรือเขาคนนั้นจะเป็นหมอจริงๆ !! อาลูหลับอยู่คงเพลียจากการดูแลเธอ ธิดาภัสรวบรวมกำลังที่มี ค่อยๆ ยันตัวขึ้นมาจากที่นอน มันปวดมันร้าวไปหมด เธอค่อยๆ หย่อนเท้าเหยียบพื้น พอจะยันตัวขึ้นยืน จู่ๆ ขาก็อ่อนแรงหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมในทันใด เซจะล้มลง แต่ก่อนที่ร่างเธอจะถึงพื้นก็มีอ้อมแขนแข็งแรงคว้าไว้ได้ทัน เธอเกาะแขนเขาซบหน้ากับแผ่นอก หมดเรี่ยวแรงจะขัดขืน เขาค่อยๆ ประคองเธอนอนบนเตียงอย่างนุ่มนวล สายตาต่างสบกัน แม้จะเป็นในความสลัว ธิดาภัสก็รู้สึกคุ้นว่าเธอเคยเห็บใบหน้านี้ที่ไหน ในมโนสำนึก "ใช่แล้ว" เขาคือชายที่ไปหาคุณพ่อพูดคุยเรื่องมูลนิธิในคืนนั้น ... เขาคือใคร... จับเรามาทำไม ... แต่ด้วยฤทธิ์ยาทำให้ธิดาภัสทำได้เพียงคิดคล้ายฝันเท่านั้น และฤทธิ์ยาก็นำเธอเข้าสู่นิทราอีกครั้ง อาลูดูแลเธออย่างดี เช็ดตัว ป้อนข้าว พาเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย ธิดาภัสอยู่ในห้องนี้ต่ออีกหลายวัน นพ.สาริศคอยเวียนเข้าออก เพื่อให้ยาและสอบถามอาการ รวมถึงดูแลบาดแผลตามร่างกาย ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา ทำให้ธิดาภัสเชื่อแล้วว่าเขาคือหมอจริง ๆ เธอพยายามถามเขาทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ นพ.สาริศปิดปากสนิท ไม่ได้ให้คำตอบใดแก่เธอทั้งสิ้น ได้แต่บอกว่าเมื่อเธอแข็งแรงดีแล้ว ทุกคนจะเป็นคนให้คำตอบแก่เธอเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ธิดาภัสสัมผัสได้ คือที่นี่ไม่ใช่สถานที่อันตราย ทั้งหมอและอาลูปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี แต่อย่างไรเสียคำถามเรื่อง 'จับเธอมาทำไม' ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว และยังไม่ได้รับคำตอบ ป่านนี้คุณพ่อคงเป็นทุกข์มากหนังสือพิมพ์ทุกฉบับคงประโคมข่าวการหายตัวไปของเธอ ติณณ์ว่าที่สามีคงเป็นทุกข์ กระวนกระวายใจถึงที่สุด และทุกคนกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อค้นหาตัวเธอ ธิดาภัสคิดเช่นนั้น เกือบสัปดาห์ที่ธิดาภัสใช้ชวิตอยู่ในห้องนี้กับเด็กสาวอาลูที่ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะตอบ เสมือนฟังภาษาไทยไม่แตกฉาน ตอนนี้อาการเธอดีขึ้นมาก แผลเย็บที่ขาเริ่มหายสนิทแล้ว แต่ยังมีเจ็บบ้างตอนเดิน ส่วนแผลตามร่างกายก็เริ่มทุเลา ไข้ลด ทานอาหารได้เยอะขึ้น และขณะที่เธอกำลังนอนทอดอาลัยอยู่บนเตียงนั้น เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น นทีชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตเธอพญามัจจุราชไร้ตีนตัวนั้น เดินเข้ามา ธิดาภัสมองเขาแวบหนึ่งและเบือนหน้าหนี นทีแอบยิ้มกับอากัปกิริยานี้ของเธอ "อาการดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ" ธิดาภัสไม่ตอบ และยังไม่มองหน้าเขา "อ้าว ... นึกว่าจะเป็นไข้อย่างเดียว เป็นใบ้ด้วยเหรอเนี่ย" เขาพูดยิ้ม ๆ ธิดาภัสหันค้อนควับตาเขียว "คุณจับฉันมาทำไม ต้องเป็นคุณแน่ ๆ ที่จับฉันมา อย่าคิดว่าฉันจะจำคุณไม่ได้นะ คุณคือนายกสมาคมบ้าบออะไรนั่นที่มาหลอกคุณพ่อ ... จะบอกให้เอาบุญนะ คุณพ่อฉันรวยมาก มีลูกน้องเยอะมาก ท่านไม่ปล่อยคุณไว้แน่ และแฟนฉันตอนนี้เขาก็กำลังหาตัวฉันอยู่ เขาจะเอาคนมากระทืบคุณแน่ ... ไม่สิ ไม่ใช่แค่กระทืบ แต่จะเอาปืนมายิงเสกหน้าคุณต่างหาก และอย่าคิดว่าจะหนีพ้น ต่อให้ฉันตายที่นี่ ยังไงคุณก็ไม่รอด คุณคิดผิดมากที่มาจับคนอย่างฉัน ฉันจะให้โอกาสคุณ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง ฉันคนจริง พูดจริงทำจริง ถ้าคุณยอมปล่อย ฉันก็จะไม่เอาเรื่องคุณ" นทีเบ้ปาก ขบขันกับสิ่งที่เธอพูดซะจริง ๆ "ด่าซะขนาดนี้แสดงว่าหายแล้ว" "นี่คุณไม่เข้าใจที่ฉันพูดเลยเหรอไง ออลืมไป ฉันกำลังพูดกับโจรป่าอย่างคุณ มันคงยากเกินไปใช่ไหมสำหรับคนอย่างคุณ" "โหววว โจรป่าซะด้วย" พูดจบนทีก็หลุดหัวเราะออกมา นั่นยิ่งทำให้ธิดาภัสเดือดดาลมากขึ้นไปอีก "อีตาบ้า หัวเราะอะไร ฉันไม่ขำนะ ปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้" "ปล่อยน่ะปล่อยแน่ ผมก็ไม่อยากเก็บยัยแก่ขี้บ่นอย่างคุณไว้ในบ้านผมหรอก แต่ก่อนจะปล่อย คุณไม่อยากรู้เหรอว่าคุณถูกจับมาที่นี่ทำไม" ปลายเสียงเขาเริ่มจริงจังขึ้น ธิดาภัสไม่พูด แต่กลับจ้องตาเขา เหมือนจะค้นหาคำตลบแตลงโกหก แต่เธอกลับต้องแปลกใจเพราะดวงตาของเขาที่มองกลับมา กลับซื่อสัตย์ และจริงใจ จนธิดาภัสต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา "ถ้าคุณหายดีแล้ว ... คุณพร้อมเจอกับความจริงหรือยัง ถึงต่อให้คุณไม่พร้อม แต่นี่ก็คือความจริงที่คุณต้องเจอ" นทีน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาในทันที ธิดาภัสหันมามองหน้าเขา จ้องลึกไปในดวงตา และก่อนที่จะเอ่ยคำใด "เชิญทุกคนเข้ามาได้เลยครับ" หญิงสูงวัยสองคนและ นพ.สาริศ ก้าวเข้ามาในห้อง แต่มีหนึ่งคนที่ธิดาภัสรู้จักเป็นอย่างดี "ป้าสายใจ" ธิดาภัสรีบลุกจากเตียงโผเข้ากอดป้าสายใจ "ป้าขาหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และป้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ป้าโดนจับมาเหมือนกันเหรอคะ อะไรกันคะเนี่ย นี่หนูงงไปหมดแล้ว" ธิดาภัสละล่ำละลัก "คุณหนู" น้ำเสียงป้าสายใจยังคงอ่อนโยนและมีเมตตา "คุณหนูใจเย็น ๆ และฟังป้าเล่านะคะ ก่อนอื่นเลยป้าต้องบอกว่าพวกเราพาคุณหนูมาที่นี่ เพื่อจุดประสงค์ดีไม่ใช่จุดประสงค์ร้าย" "หมายความว่ายังไงคะ คำว่าพวกเรา" ธิดาภัสจ้องป้าสายใจเขม็งความหวาดระแวงก่อตัวขึ้นมา ป้าสายใจหันไปมองหน้านที เหมือนจะขอให้เขาช่วย นทีเข้าใจดีว่าป้าสายใจไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า "ก่อนที่คุณจะรู้ความจริงทุกอย่าง ผมอยากให้คุณได้ทราบว่าสุภาพสตรีที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณ คือแม่แท้ๆ ของคุณ !! " เป็นธรรมดาของนทีที่เขามักจะพูดตรง ๆ ขวานผ่าซาก ไม่เคยอ้อมค้อมให้เสียเวลา และไม่สนใจว่าคำพูดของเขาจะทำร้ายจิตใจใคร เพราะเขาถือความจริงเป็นสำคัญ นทีบอกความจริงให้ธิดาภัสทราบอย่างตรงไปตรงมา ตรงเสียจนสาริศต้องเข้ามาสะกิด "หาทางบอกแบบอ้อมๆ ก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวช็อคตายห่ากันพอดี" นพ.สาริศกระซิบ ธิดาภัสตกตะลึง "บ้า ... นี่มันบ้าไปแล้ว แม่ฉันตายตั้งแต่ฉันยังจำความไม่ได้ นี่เล่นตลกอะไรกัน ... ป้าสายใจคะช่วยบอกสิคะว่ามันไม่จริง" เธอหันไปทางป้าสายใจ สีหน้าและแววตาบ่งบอกถึงการขอความช่วยเหลือ ป้าสายใจที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเดียวกับธิดาภัส กุมมือเธอเบา ๆ พร้อมกล่าวว่า "คุณหนู... ฟังป้านะคะ ป้าจะเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟัง" ทุกคนในห้องเงียบกริบ ตั้งใจฟังป้าสายใจเล่าอย่างใจจดจ่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม