ปาลินตื่นขึ้นมาหลังจากที่หลับไปโดยไม่รู้ตัว เธอมองไปยังเตียงด้านข้าง ไร้ร่องรอยของคนเย็นชาที่นอนอยู่เมื่อคืนนี้
คณิณออกจากห้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่เธอไม่รู้ และเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะปลุกเธอ เธอไม่แปลกใจ ในเมื่อเขาไม่เคยต้องการให้เธอเป็นเจ้าสาวของเขาอยู่แล้ว
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่พนักงานโรงแรมจะเข้ามาเสิร์ฟอาหารเช้า ปาลินพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ แต่เมื่อเธอเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร เพิ่งสังเกตว่ามีเพียงชุดเดียวที่ถูกจัดเตรียมไว้ ราวกับว่ามีแค่เธอเพียงคนเดียวที่ต้องกินอาหารเช้านี้ตามลำพัง
ปาลินนั่งลงช้า ๆ หัวใจเธอบีบแน่นแต่ยังคงฝืนยิ้มให้ตัวเอง
เธอแอบรักเขามาก่อนหน้านี้ การได้แต่งงานกับเขาแม้จะไม่ใช่เพราะความเต็มใจ แต่เธอก็ไม่ได้เสียใจ และหวังว่าชีวิตอาจจะสมหวังเหมือนนิยาย ที่ตอนสุดท้ายพระเอกจะเห็นความดีแล้วรักนางเอก
แล้วเธอจะเป็นนางเอกในนิยายของเขาหรือไม่... ความเป็นไปได้มันช่างแทบจะไม่มีเลย
คณิณกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งตอนสาย สีหน้าเขายังคงเรียบเฉย ท่าทีของเขาไม่ต่างอะไรกับเจ้านายที่มองลูกน้องมากกว่าผู้ชายที่เพิ่งแต่งงานกับผู้หญิงตรงหน้า
“เก็บของให้เรียบร้อย ฉันจะให้คนไปส่งเธอที่บ้าน”
ปาลินเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ
“บ้านเหรอคะ” เธอไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงบ้านของเขาหรือบ้านของเธอ
“บ้านของเธอ” คณิณเอ่ยเสียงนิ่ง
“เธอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บ้านฉันหรอก แค่สังคมรับรู้ว่างานแต่งฉันไม่ล่ม รู้ว่าเธอเป็นภรรยาฉันก็พอแล้ว ต้องการใช้งานเมื่อไหร่จะเรียกก็แล้วกัน”
ปาลินนิ่งไปชั่วขณะ เธอรู้ว่าคณิณไม่ต้องการเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะรีบผลักไสกันถึงขนาดนี้
“ฉันคิดว่า ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ฉันควรทำหน้าที่ภรรยา ไม่ใช่แค่ในนาม”
คณิณหรี่ตาลง จ้องเธอเหมือนกำลังพิจารณาว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังคิดจะเล่นตลกอะไรกับเขา เขาพูดขนาดนี้เธอก็ยังใจเย็นและพยายามที่จะทำในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ
“เธอจะอยู่ทำไม ในเมื่อฉันไม่ได้ต้องการเธอ” เขาตอกย้ำความรู้สึกที่มีต่อเธออย่างเปิดเผย
“ค่ะ” เธอคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะทำดีให้เขาใจอ่อนแล้ว แต่ก็ดีที่มารดาและพี่ชายจะได้ไม่เป็นห่วงเธอ เพราะป่านนี้ปิลันธรคงจะเห็นข่าวงานแต่งงานของเธอแล้ว
“ก็ดี ว่านอนสอนง่าย ฉันจะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์กับเธอ” เขาพูดเสียงเรียบ หากจำไม่ผิดเธอเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย หนึ่งในคนที่เคยไล่ตามเขาจนถูกเขาต่อว่าจนหายหน้าไปช่วงหนึ่ง
แค่เห็นหน้าเธอเขาก็รู้สึกหงุดหงิดแล้ว หากจำเธอได้ไวกว่านี้ก็คงไม่ผลีผลามแต่งงานกับเธอเพราะต้องการเอาคืนปิลันธร เพราะเขาเกลียดที่สุดคือผู้หญิงที่เอาแต่วิ่งไล่ตามผู้ชาย
ปาลินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเล
“เราไม่ต้องจดทะเบียนสมรสกันใช่ไหมคะ”
คณิณเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แต่ในดวงตาไร้แววขบขัน
“เธอสำคัญตัวเองว่าฉันต้องผูกมัดเธอด้วยทะเบียนสมรสงั้นเหรอ เธอมีอะไรให้ฉันต้องเอานามสกุลของฉันให้เธอใช้”
“ฉันแค่ถามค่ะ ไม่ได้จะขอให้คุณทำ” ปาลินยิ้มเยาะตัวเองบาง ๆ เธอพูดอะไรไปก็ผิดทั้งนั้น ไม่ว่าตอนที่เธอชื่นชอบเขาเหมือนเด็กสาวทั่วไป หรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่เป็นภรรยาของเขา
คณิณนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนี แล้วเร่งให้เธอรีบเก็บกระเป๋า
“รีบเก็บของเถอะ อีกเดี๋ยวจะให้คนมารับ” พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งปาลินไว้กับหัวใจที่หนักอึ้ง
แม้เธอจะเตรียมใจไว้อยู่แล้วว่ามันจะยาก แต่เธอไม่คิดว่าความเย็นชาของคณิณจะมากมายจนแทบไม่เหลือที่ว่างให้เธอเลย
************************
คณิณให้คนไปส่งภรรยาตัวแทนของเขาที่บ้านของเธอ แล้วให้คนจับตาดูว่าปิลันธรจะแอบติดต่อมาหรือไม่ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับข่าวคราวของอีกฝ่ายและอดีตคู่หมั้นที่หนีงานแต่งงาน
เขาไม่ได้รักยิหวา แต่การที่เธอหนีงานแต่งงานมันทำให้เขาเสียหน้า และธุรกิจที่สองตระกูลทำร่วมกันก็ต้องสะดุดลงเพราะการตัดสินใจของเธอ
เขาต้องการให้ยิหวากลับมาเพื่อที่จะให้เธอคืนหุ้นส่วนในนามของเธอคืนให้แก่เขาตามข้อตกลงที่เธอผิดสัญญา ส่วนปิลันธร คู่แข่งทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องของผู้หญิง เขาจะต้องเอาคืนศักดิ์ศรีลูกผู้ชายที่ถูกเหยียบย่ำ
“ไม่ได้ข่าวคุณยิหวาเลยครับ เธอไม่ได้ติดต่อครอบครัวเธอไปเหมือนกัน ทางนั้นก็กำลังตามหาอยู่” อนันต์ผู้ช่วยของเขามารายงานถึงสิ่งที่มอบหมาย
“แล้วปิลันธรล่ะ”
“ตั้งแต่ส่งคุณปาลินกลับไปก็ไม่มีวี่แววของเขาเช่นกันครับ”
คณิณพ่นลมหายใจด้วยความโมโห เขาส่งปาลินกลับบ้านก็เพื่อล่อให้อีกฝ่ายออกมา เห็นทีว่าแผนนี้คงไม่ได้ผล
“ฉันจะออกไปข้างนอก” เขาพูดเสียงเรียบ เดินออกไปจากห้องทำงานท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงานที่แอบมองตามด้วยความสงสัย เจ้านายแต่งงานเมื่อวาน วันนี้ก็มาทำงานเสียแล้ว และรีบร้อนออกไปทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน
ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดจอดรถที่หน้าบ้านของภรรยาตัวแทนของตน เขาเปิดรั้วเข้าไปโดยไม่สนใจอะไร แล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างหน้าตาเฉย
“คุณคณิณ” ปาลินเรียกชื่อเขาด้วยความตกใจ
เขามองเธอในชุดเสื้อกล้ามสีขาวบางและกางเกงขาสั้นสีเทาเข้ม หญิงสาวหายใจติดขัดด้วยความประหม่า เขาเพิ่งให้คนมาส่งเธอเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว และตอนนี้เขาก็มายืนต่อหน้าเธอโดยไม่บอกกล่าว
“ไปเก็บกระเป๋าและเปลี่ยนชุดให้ดูสุภาพกว่านี้ ฉันจะพาเธอกลับบ้าน” เขาพูดแล้วเบือนหน้าหนีไม่มองการแต่งกายน้อยชิ้นของเธอ
“แต่ฉันเพิ่งมาถึงนะคะ”
“ฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำ มันเข้าใจยากเหรอ” เขาพูดเสียงดุ
เธอไม่อยากจะโต้เถียงกับเขา รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดและเก็บเสื้อผ้าบางส่วนของตนออกมา
แวววรรณที่เพิ่งกลับมาจากตลาดเห็นรถของลูกเขยก็รีบเดินเข้ามาทันตอนที่ทั้งคู่กำลังจะออกไปพอดี
“คุณจะเอาเธอไปไหน” เธอถามอย่างงุนงง เขาเพิ่งจะให้คนมาส่งลูกสาวของเธอเมื่อตอนสายนี้เอง ตอนนี้ก็จะพาตัวไปแล้ว
“ผมจะพาเมียผมกลับบ้าน” เขาพูดเสียงห้วน
“ไม่เป็นไรค่ะแม่” เธอบอกให้มารดาสบายใจ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางขนาดกลางของเธอเดินตามเขาไปขึ้นรถ
ไม่เข้าใจอาการผีเข้าผีออกของเขาเลยสักนิด
************************