“วันนี้แฟนแกกับคณะสถาปัตยมีแข่งฟุตบอลกันนิ จะไปดูหรือเปล่า” มินดาเพื่อนสาวคนสนิทเอ่ยถาม ขณะที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าสะพายเตรียมตัวกลับบ้านหลังจากเลิกเรียน
“ไปสิ ฉันรับปากแฟรงก์ไว้แล้ว”
“ฉันหมายถึงพ่อหนุ่มแว่นคนนั้นต่างหากที่เป็นแฟนแก”
“แฟนอะไร เป็นเพื่อนกัน” ดาวเหนือบอกปัดอย่างไม่คิดอะไร
“เพื่อนแน่เหรอ” มินดาหรี่สายตามองอย่างจับผิด ฟรินเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงหรืออยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหน จะมีก็แต่ดาวเหนือที่เขายอมให้เข้าใกล้ได้ถึงขนาดนี้
“แน่สิ แค่เพื่อนกัน”
“ซื่อบื้ออ่ะ”
“อะไร” พอได้ยินในสิ่งที่มินดาพูดยิ่งงงหนักกว่าเดิม
“ไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลยหรือไง แกมันซื่อบื้อยัยเหนือ!” ถ้าไม่ได้คิดเข้าข้างเพื่อนสาวจนเกินไป มันก็อาจจะเป็นไปได้ที่ฟรินจะแอบชอบดาวเหนือ
“เอ้า! อยู่ดีๆ มาหาเรื่องกันทำไม”
“ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าฟรินมันคิดยังไงกับแก”
“แล้วจะให้คิดอะไร?” ฟรินกับเธอมีนิสัยต่างกันสุดขั้วไม่น่าจะมาบรรจบกันได้ แล้วอีกอย่างฟรินก็ไม่ได้แสดงอาการหรือท่าทางที่บ่งบอกว่าชอบเธอเลยสักนิด หรือถ้าบอกว่าเป็นแฟรงก์ยังน่าจะเป็นไปได้มากกว่าอีก
“โอ๊ย! ไม่คุยด้วยแล้ว คุยกับแกแล้วเซ็งอ่ะ หมดสนุกเลย” ไม่พูดเปล่าแต่ยังเดินหนีทิ้งให้ดาวเหนือยื่นงงเต๊กอยู่กลางห้องเพียงคนเดียว
“เดี๋ยวก่อนมินดา จะรีบไปไหนรอฉันด้วยสิ”
-สนามฟุตบอล-
“ดาวเหนือ!”
เจ้าของชื่อรีบหันมองหลังจากได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ร้องเรียก
“ว่าไงองศา มีอะไรหรือเปล่า”
องศาคือเพื่อนชายร่วมคณะที่ค่อนข้างสนิทกัน เวลาเรียนเขามักจะย้ายมานั่งใกล้เธออยู่บ่อยๆ
“ไม่คิดว่าเหนือจะมาดูบอลด้วย”
“เหนือมาให้กำลังใจสองแฝด”
“ขอนั่งด้วยคนสิ”
“นั่งเลย ตรงนี้ว่างพอดี เหนือจะได้มีเพื่อนคุย” ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาวใต้ต้นไม้ใหญ่ มาเกาะขอบสนามรอให้กำลังใจฟรินกับ
แฟรงก์ที่มาแข่งฟุตบอลในวันนี้
“แฟรงก์กับฟรินแม่งเท่ห์ดีนะ สาวๆ ในมหาลัยชอบไอ้แฝดกันเพียบเลย” องศามองไปยังคู่แฝดทั้งสองที่กำลังวิ่งไล่เตะลูกบอลในสนามด้วยท่าทางเอาเป็นเอาตาย
“เพื่อนเหนือหล่อใช่มั้ยล่ะ สาวๆ เลยตามจีบกันให้วุ่นวาย”
“แล้วเหนือไม่ชอบพวกมันบ้างเหรอ?”
“เป็นเพื่อนกันนานแล้ว ไม่ชอบหรอก”
“นึกว่าเหนือชอบไอ้ฟรินซะอีก เห็นชอบไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ”
“สนิทกันไง รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว คนเลยชอบเข้าใจผิดคิดว่าเหนือกับสองแฝดเป็นแฟนกัน” ดาวเหนือบอกอย่างมั่นอกมั่นใจ เพราะ
ฟรินกับแฟรงก์คงไม่ได้คิดอะไรกับเธอเหมือนกัน
“แบบนี้เราก็พอมีหวังอ่ะดิ” องศายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เคลื่อนใบหน้าเข้าหาหญิงสาวโดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังจ้องมองอยู่
“หวังอะไร”
“ก็เราชอบเหนือไง ขอจีบได้…”
พลั่ก! พูดไม่ทันจบวัตถุของแข็งที่เรียกว่าฟุตบอลกระแทกเข้าที่ลำตัวขององศาอย่างแรงจนหงายหลัง ทำเอาดาวเหนือถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“องศา! เจ็บมากมั้ย ละ…เลือดออกจมูกด้วย” ใบหน้าแสนหวานเลิ่กลั่กหันซ้ายมองขวาทำอะไรไม่ถูก หลังจากเห็นเลือดสีแดงสดไหลออกจากจมูกขององศาเป็นจำนวนมาก ตัวต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้มาจากใครแต่มาจากฟริน
“ไม่เป็นไร แค่มึนนิดหน่อย ไอ้ฟรินแม่งตีนหนักฉิบหายเลย”
“ไหวไหมองศา เดี๋ยวเหนือพาไปห้องพยาบาล”
“ก็ดีเหมือนกัน”
ฟรินยืนอยู่ในสนาม กอดอกมองคนทั้งสองที่เดินหายออกไปด้วยกัน
“ไอ้ฟริน! กูรู้ว่าเมื่อกี้มึงตั้งใจอัดบอลใส่ไอ้องศาใช่มั้ย” แฟรงก์รีบวิ่งเข้ามาถามด้วยความเหนื่อยหอบ นึกว่ามันจะเตะบอลเข้าประตู แต่ที่ไหนได้เตะเข้าไอ้องศาแบบเน้นๆ
“แล้วทำไมกูต้องทำแบบนั้น”
“มึงหึงเหนือไง”
“ไร้สาระ!” ฟรินตอบสั้นๆ หยิบมวนบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาจุดสูบอย่างใจเย็น
“กูเป็นพี่มึงนะ ทำไมจะไม่รู้ว่ามึงคิดยังไง”
“แดกอาหารเม็ดเหรอถึงได้แสนรู้ขนาดนั้น” ฟรินยกยิ้มมุมปากประชดประชัน ถุยน้ำลายลงพื้นอย่างหัวเสีย
“มึงว่ากูเป็นหมาเหรอไอ้ฟริน! ถ้ากูหมา มึงก็หมาเหมือนกันนั่นแหละ พ่อกับแม่มึงก็หมาด้วย เพราะเราเป็นแฝดกัน” แฟรงก์ยกแขนเท้าเอวตะโกนโวยวายออกมายกใหญ่ แต่ละคำที่น้องพูดออกมาเล่นเอาจุกเหมือนโดนลากไปต่อยกลางสี่แยก
“มึงมันน่ารำคาญไอ้แฟรงก์!”
“กูก็ชอบเหนือเหมือนกัน”
“อย่ามาเพ้อเจ้อ” ฟรินตอบอย่างนึกเบื่อหน่ายแล้วรีบเดินหันหลังหนีออกมา
“กูไม่ได้เพ้อเจ้อ กูจะจีบดาวเหนือ”
ประโยคถัดมาที่ได้ยิน ทำเอาเจ้าตัวหยุดชะงักก่อนจะหันกลับไปมองหน้าแฝดพี่ที่ยืนอยู่
“อย่ายั่วโมโหไอ้แฟรงก์ จะไปไหนก็ไป”
“กูพี่มึงนะ เสียสละให้กูได้มั้ย”
“ลองตายดูก่อนสิ เดี๋ยวกูเสียสละให้”
“กูจะจีบดาวเหนือ”
“เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ” ฟรินเลิกคิ้วทวนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ จ้องมองใบหน้าพี่ชายฝาแฝดที่เหมือนตัวเองอย่างกับแกะ
“พูดใหม่อีกทีดิ”
“เฮ้! กูแค่พูดเล่น มึงอย่าเข้ามานะไอ้แฝด กูสู้จริงนะเว้ย!” แฟรงก์ขยับถอยหนีหลังจากเห็นท่าทางคุกคามหาเรื่องของน้องชาย เขาตั้งหลักเตรียมสู้ ถึงแม้จะว่าจะสู้ไอ้ฟรินไม่ได้ก็ตามที
“ของใครของมัน ส่วนคนนี้เป็นของกู!”
“…..”
-เวลาต่อมา-
“หายไปไหนกับมันมา?” ฟรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากดาวเหนือเดินกลับเข้ามาพร้อมหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือ
“พาองศาไปทำแผลที่ห้องพยาบาล ขากลับเลยแวะซื้อน้ำมาให้พวกนายสองคนด้วย”
“…..”
“อันนี้ของแฟรงก์ ส่วนอันนี้ของฟริน” ดาวเหนือยื่นน้ำอัดลมเย็นๆ ให้แฟรงก์ ส่วนของฟรินจะเป็นแค่น้ำเปล่าธรรมดา ฟรินไม่ชอบกินน้ำอัดลมทุกชนิดเธอจำได้ดี
“แต้งกิ้วนะที่รัก ไม่มีใครรู้ใจเค้าได้เท่าตัวเองอีกแล้ว” แฟรงก์บีบเข้าที่แก้มของคนตัวเล็กเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะรีบชักมือกลับเมื่อเห็นสายตาอำมหิตของน้องชาย
“เดี๋ยวมานะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”
แฟรงก์เดินออกไปจะเหลือก็เพียงดาวเหนือกับฟรินที่อยู่ด้วยกันสองคน
“ซับเหงื่อให้หน่อย”
“นั่งลงสิ เดี๋ยวเหนือเช็ดให้”
ร่างสูงย่อตัวนั่งลงยองๆ ตรงหน้าตามคำสั่ง ขยับเข้าหาคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ ดาวเหนือถอดแว่นตาออกจากใบหน้าหล่อเหลา หยิบผ้าเย็นขึ้นมาซับเหงื่อให้
“ร้อนมากเลยเหรอ ทำไมเหงื่อออกเยอะขนาดนี้” ไม่ใช่แค่ใบหน้าแต่เส้นผมยังเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เธอจึงใช้มือสางผมให้เขาเบาๆ
“อืม…ร้อน” ฟรินขานรับในลำคอ เขาไม่ชอบให้ใครสัมผัสที่หัวหรือเส้นผม แต่พอเป็นดาวเหนือกลับไม่ได้มีความคิดที่อยากจะผลักไส
“เดี๋ยวเย็นนี้ฉันไปส่ง”
“บ้านเราอยู่คนละทาง ไม่ต้องไปส่งเหนือหรอก มันเสียเวลาแล้วก็เปลืองน้ำมันรถด้วย”
“ฉันมีธุระต้องไปทำแถวนั้นพอดี”
“งั้นเอาแบบนั้นก็ได้”
“ขอได้มั้ย?”
“ฟรินจะเอาอะไร” เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“ที่อยู่ในปากเธอ”
สิ่งที่อยู่ในปากของเธอคืออมยิ้มที่ละลายเกือบจะหมดแล้ว
“แต่เหนือกินไปแล้วนะ”
“รู้…แต่จะเอา”
ดาวเหนืออ้าปากค้างเมื่อฟรินดึงอมยิ้มที่อยู่ในปากเธอเอาไปอมต่ออย่างไม่คิดอะไร