“ทางนี้ ๆ อีพิ้งค์” เสียงแหวนดึงความสนใจของฉัน ฉันกวาดสายตามองหาต้นเสียง ก่อนจะเห็นมันนั่งโบกไม้โบกมือไปมาให้ฉันมองเห็นมัน
พอฉันเห็นแหวนก็รีบสาวเท้าเดินไปหามันทันที แต่ฉันก็อดที่จะรู้สึกสงสัยและแปลกใจไม่ได้ที่ผู้หญิงในห้องส่วนใหญ่มองมาที่ฉันแล้วพากันป้องปากพูดซุบซิบกันไม่หยุด
ฉันเดินมานั่งลงข้างแหวนโดยทำเป็นเมินสายตาคนพวกนั้น แล้วเอ่ยถามแหวนขึ้น “มึงมานานหรือยัง?”
“มาก่อนมึงแค่สิบห้านาทีเองมั้ง” แหวนตอบก่อนจะกวาดตามองไปรอบห้องคล้ายกำลังประหม่าและหวั่นเกรงต่อสายตาคนที่มองมาที่เรา “แต่ตอนกูมาคนไม่มองขนาดนี้นะเว้ย”
พอได้ยินแหวนพูดออกมาด้วยสีหน้าแบบนั้น ฉันก็มองไปรอบ ๆ ห้องอีกครั้งและเห็นว่าคนพวกนั้นยังคงเอาแต่จ้องมองมาทางฉันไม่หยุด
“เออว่ะ มองกูไม่หยุดเลยเนี่ย” ฉันพูดกับแหวนอย่างหวาดหวั่นใจ กวาดสายตามองไปรอบห้องอีกครั้ง ก่อนสายตาจะไปสะดุดเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออย่างเมามันอยู่ ฉันว่าฉันรู้จักเขานะ เพราะเขาดูคุ้นมาก
“เฮ้ยอีแหวน กูว่ากูรู้จักผู้ชายคนนั้น” ฉันบอกแหวนพลางชี้นิ้วไปยังเพื่อนผู้ชายคนนั้น โดยไม่แคร์สายตาคนที่กำลังจับจ้องมาที่ฉัน
แหวนมองตามนิ้วชี้ของฉันก่อนจะทำหน้าอึ้ง และวินาทีถัดมาก็ทำสีหน้าเหมือนนึกออก
“อ้อ คนนั้นเรียนอยู่ห้องห้านี่หว่า”
ห้อง 5 ที่มันหมายถึงน่าจะเป็นที่โรงเรียนเก่าของฉันที่ชลบุรีค่ะ
“ใช่มะ กูรู้สึกหน้าคุ้น ๆ ว่าแต่ชื่ออะไรอะ?” ฉันถามแหวนไปด้วยความอยากรู้ คุ้นหน้าแต่จำชื่อเขาไม่ได้เพราะไม่ได้เจอมานาน
“ถ้ากูจำไม่ผิดน่าจะชื่อเจมั้ง”
เออใช่ เขาชื่อเจ ฉันจำได้แล้วว่าตอนนั้นเขาฮอตมาก มีแต่สาวกรี๊ดเวลาเดินผ่าน แถมยังมีคนไปสารภาพรักกับเขาเป็นว่าเล่น
“อ้อ กูจำได้แล้ว”
ฉันนั่งคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อยกับแหวนจนกระทั่งตอนนี้เวลาเก้าโมงยี่สิบนาทีแล้ว แต่ทว่าอาจารย์ก็ยังไม่มาเข้าสอน
อะไรหว่า?
“เพื่อน ๆ คะ พอดีว่าเราโทรไปหาอาจารย์เมื่อกี้ อาจารย์บอกติดธุระด่วน สรุปว่าวันนี้ยกคลาสน้า~”
เพื่อนผู้หญิงใส่แว่นคนหนึ่งในห้องตะโกนบอกขึ้น ทำให้หลายคนต่างร้องเฮด้วยความดีใจและเศร้าใจไปพร้อมกัน เพราะอุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นมาเรียนแต่เช้า รวมทั้งฉันด้วยที่โคตรจะเซ็ง ทั้งต้องตื่นแต่เช้า ทั้งลนลานเพราะไม่รู้จักห้อง เฮ้อ~ แล้วยังมาโดนอาจารย์เทแบบนี้อีก
“เราไม่มีเรียนบ่าย มึงไปเดินเล่นที่ห้างกับกูไหม?” แหวนชวนฉัน
“ได้ดิ กูกำลังเซ็ง อุตส่าห์ตื่นแต่เช้า”
ความจริงก็ไม่น่าเซ็งเท่าไหร่ เพราะถ้าฉันไม่ได้ตื่นเช้ามาเรียนฉันคงไม่มีโอกาสได้เห็นมุมที่แสนจะใจดีของพี่เอ็กซ์คิวแบบนั้น ทั้งให้ฉันติดรถมาเรียนด้วย ทั้งให้ขนมปังหมูหย็องที่ฉันชอบ แถมยังพาฉันมาส่งถึงห้องเรียนด้วย อ้ายยยย ฟินกว่านี้ไม่มีแล้วววว
“จัดไปค่า” แหวนดูตื่นเต้นมากเพราะมันน่ะสายช็อปปิ้งตัวแม่เลย ส่วนฉันนั้นเฉย ๆ ไม่ได้ชอบช็อปปิ้งสักเท่าไหร่
“จ้า แต่ขอไปหาข้าวเช้ากินก่อนละกันกูหิว”
ตอนนี้ฉันรู้สึกหิวนะ แต่ยังไม่หิวถึงขั้นท้องร้องโครกครากเหมือนตอนที่อยู่กับพี่เอ็กซ์คิว แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมจะต้องไปท้องร้องน่าอับอายแบบนั้นให้เขาได้ยินด้วย
“เออ ๆ ได้ ๆ” แหวนตอบฉัน จากนั้นเราสองคนก็เดินออกมาจากห้องเรียน แล้วมุ่งตรงไปที่โรงอาหารของคณะทันที
จะว่าไปฉันยังไม่ได้กินขนมปังที่พี่เอ็กซ์คิวให้มาเลยนี่นา แต่ยังไม่อยากกินตอนนี้อ่ะ เก็บไว้กินทีหลังก็แล้วกันเนอะเจ้าขนมปังหมูหย็องที่รัก
หลังจากที่ฉันกับแหวนกินข้าวเช้าที่โรงอาหารของคณะเสร็จ เราก็พากันมาเดินห้างต่อค่ะ
และแน่นอนว่าแหวนก็พาฉันเดินเข้าร้านนู้นร้านนี้ไปเรื่อยจนเกือบจะครบทุกร้าน ของที่ได้ก็จะเป็นพวกข้าวของเครื่องใช้จุกจิกสำหรับผู้หญิง เครื่องสำอาง และเสื้อผ้าสวย ๆ ติดมือเราสองคนมาไม่น้อย
“มึงพอก่อนไหมอีแหวน มือกูจะหักแล้วเนี่ย!” ฉันรีบพูดปรามแหวนขึ้นทันที เมื่อเห็นว่ามันกำลังตั้งท่าจะพาฉันเดินเลี้ยวเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง แค่นี้ก็หอบถุงจนเต็มไม้เต็มมือไปหมดแล้ว
เราช็อปปิ้งด้วยกันมาเกือบจะสามชั่วโมงได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าแหวนยังไม่มีท่าทีว่าจะพอใจกับข้าวของที่ได้ซื้อมาแล้วเลย
“ร้านนี้ร้านสุดท้ายกูสัญญา” แหวนพูดออกมาแบบขอร้องอ้อนวอนพลางทำตาปริบ ๆ ให้ฉัน และฉันก็ต้องยอมเพราะแพ้ให้กับลูกอ้อนของมัน
“เออ ๆ มึงพูดแล้วนะ” ฉันทำหน้าเหนื่อยหน่ายปนยิ้มแบบเอ็นดูให้แหวน แล้วดันตัวมันให้เดินนำฉันเข้าไปในร้าน
“ขอบใจจ้ะ” แหวนทำหน้าตาดีอกดีใจให้ฉันอย่างระริกกระรี้ แล้วรีบพุ่งตัวเข้าไปในร้านและมุ่งตรงไปยังเสื้อผ้าที่ฉันคิดว่ามันน่าจะถูกใจมากอย่างรวดเร็ว
ฉันทำได้แค่ยืนส่ายหน้าอย่างเอือมระอาให้กับความขี้ช็อปปิ้งของเพื่อนรักอย่างไม่กล้าขัดความสุข ก่อนจะเดินตามมันเข้าไปในร้าน
แหวนเดินเลือกเสื้อผ้าได้สองสามชุดโดนผ่านการอนุมัติเห็นชอบจากฉัน แล้วมันก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
“นี่ค่ะ” แหวนยื่นชุดส่งให้พนักงานคิดเงิน แล้วหยิบบัตรเครดิตส่งให้ตามไป
“กลับได้ยัง กูหิวข้าวเย็นแล้วนะ” ฉันพูดบอกมันขึ้น
“หิวบ่อยจังอ่ะ” มันสวนฉันกลับทันควันเพราะเห็นว่าฉันเพิ่งกินไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้วเอง
“จะไม่ให้หิวได้ไง มึงพากูเดินย่อยตลอดขนาดนี้ พลังงานหมดแล้ว”
“ฮ่า ๆๆ” แหวนหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วหันไปรับถุงเสื้อผ้ามาจากพนักงาน ก่อนจะหันกลับมาพูดกับฉัน ซึ่งคำพูดของมันก็ทำให้ฉันรู้สึกพอใจไม่น้อย “ได้ เดี๋ยวมื้อนี้กูเลี้ยงมึงเอง”
“จัดไปค่า” ฉันรีบตอบมันไปแบบดี๊ด๊าและอารมณ์ดี มีคนเลี้ยงทั้งทีใครบ้างล่ะจะไม่ดีใจ ใช่ไหม?
หลังตกลงกันได้แล้ว เราสองคนก็เดินออกมาจากเสื้อผ้าร้านนั้นแล้วมุ่งตรงมายังร้านอาหารทันที
ฉันตกลงกับแหวนว่าจะกินอาหารญี่ปุ่นกัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นอาหารที่ฉันโปรดปรานอย่างหนึ่งเลยล่ะ
เราสองคนเดินเข้ามาในร้านและเมื่อหย่อนก้นนั่งลงบนโต๊ะก็รีบสั่งอาหารมาทานกันจนเต็มโต๊ะ
“พิ้งค์ กูถามจริง ๆ นะ มึงไม่สนใจคนอื่นนอกจากพี่เอ็กซ์คิวบ้างเหรอ?” แหวนเปิดประโยคคำถามขึ้นขณะที่ฉันกำลังจะคีบปลาแซลมอนเข้าปาก ฉันก็เลยต้องรีบยัดเข้าปากและเคี้ยวตุ่ย ๆ ให้หมดเพื่อที่จะได้ปากว่างไปตอบคำถามของมัน
“ไม่อ่ะ” ฉันตอบมันไปแบบไม่ต้องคิด เรื่องแบบนี้สำหรับฉันไม่ต้องใช้สมอง ใช้แค่หัวใจก็พอ
“แล้วถ้าพี่เขาไม่ชอบมึงล่ะ?”
“กูก็จะทำให้เขาชอบให้ได้”
“แล้วถ้าวันหนึ่งเขาไม่ชอบมึงแต่ไปชอบคนอื่นมึงจะทำยังไง?” คำถามที่แหวนถามต่อทำให้ฉันหยุดชะงักมือที่กำลังจะคีบซูชิอย่างทันทีทันใด รู้สึกว่าช่างเป็นคำถามที่ไม่รื่นหูเอาซะเลย
“เขาไม่มีทางชอบคนอื่นนอกจากกูหรอก เพราะกูไม่มีทางยอมแน่ ๆ” ฉันตอบไปแบบแน่วแน่และมาดมั่น ทั้ง ๆ ที่ความจริงไม่ได้มีความมั่นใจมากขนาดนั้นหรอก อาศัยความมั่นหน้าและหน้าด้านเอา
“ใครจะไปรู้ เพราะพี่เขาดูนิ่ง ๆ ดูเข้าใจยากอ่ะ” แหวนพูดด้วยสีหน้าดูเป็นกังวลและคำพูดของมันก็ทำให้ฉันต้องฉุกคิดตาม
“แต่พี่เอ็กซ์คิวเขาดูเอาใจใส่กูอยู่นะ ตั้งแต่เมื่อวานแล้วอ่ะ”
ฉันคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะการที่เขาทำอะไรดี ๆ ให้ฉันตั้งหลายอย่าง มันอาจจะหมายความว่าเขามีความรู้สึกดี ๆ เพิ่มให้ฉันบ้างแล้วก็ได้หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันมานาน ไม่อย่างนั้นเขาจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะ เมื่อก่อนเขาเมินฉันอย่างกับอะไรดีเวลาเจอหน้ากัน
“กูรู้ แต่มึงก็ลองให้โอกาสคนอื่นเข้ามาคุยบ้าง ไม่ใช่ปิดกั้นทุกคนที่พยายามเข้าหา”
“ก็กูไม่ได้ชอบและไม่ได้สนใจอยู่แล้วอ่ะ”
“แล้วมึงจะรอแค่พี่เอ็กซ์คิวคนเดียวว่างั้น?”
“ใช่ ยังไงก็คือพี่เอ็กซ์คิว”
“เพราะเขาคือรักแรกงั้นเหรอวะ”
“ใช่”
“แต่มึงลืมไปหรือเปล่าว่ารักแรกไม่ได้สมหวังเสมอไป”
“......”
“กูรู้ว่ามึงชอบพี่เขามาก เเต่ถ้าตื๊อพี่เขาไปมาก ๆ แล้วเขายังไม่มีท่าทีว่าสนใจมึงอยู่ กูแนะนำให้มึงลองเปิดใจให้กับคนอื่นดูบ้างนะ อย่ายึดติดกับพี่เขามากนักเลย”
“เออ ๆ ทำไมมึงพูดเยอะจังวะวันนี้” ฉันพูดตอบแหวนไปแบบทีเล่นทีจริง พยายามเปลี่ยนมู้ดอารมณ์และบรรยากาศที่แหวนกำลังจริงจังให้ผ่อนคลายขึ้น เพราะฉันรู้ดีว่ามันอยากให้ฉันมีความสุข ได้ลองเรียนรู้กับผู้ชายคนอื่นบ้าง ไม่ใช่คอยเอาแต่สนใจผู้ชายด้านชาหน้านิ่งอย่างพี่เอ็กซ์คิวอยู่คนเดียว
“กูหวังดีไง” แหวนพูดแบบทำเสียงเล็กเสียงน้อยคล้ายดัดจริตตอบฉัน
“จร้าาาา” ฉันจีบปากจีบคอตอบมันกลับไป แล้วเราสองคนก็นั่งทานอาหารบนโต๊ะต่อจนหมด เช็กบิลเสร็จก็เดินออกมาจากร้าน
“เอาไงมึง ให้กูไปส่งที่ไหน?” แหวนหันมาถามฉันเพราะตอนขามาฉันมากับมันไม่ได้ขับรถมาเอง
“งั้นไปส่งกูที่คณะละกัน กูจะไปเอารถ”
วันนี้ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกรักต้องเดียวดายอยู่ที่โรงจอดรถคณะอีกแล้ว จะพากลับไปจอดสวย ๆ ที่คอนโดเหมือนทุกวัน
“ได้ ๆ” แหวนตอบรับฉันก่อนที่เราจะพากันเดินมาที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า